Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3055 ศึกสงครามที่ดุเดือด

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3055 ศึกสงครามที่ดุเดือด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3055 ศึกสงครามที่ดุเดือด

บนท้องฟ้า มองเห็นดวงตาดวงที่สามของเหล่าจวินนัยน์ตาเทพพลันลืมตาขึ้นมา ยามที่ดวงตาดวงที่สามที่ตั้งขึ้นนั้นลืมตาขึ้นมานั้น ปรากฏเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหว บนโลกเหมือนมีดวงตาขนาดยักษ์ที่ลืมตาขึ้นมาอย่างนั้น ภายใต้ดวงตาขนาดยักษ์ดวงนี้ ทุกสิ่งล้วนเสมือนดั่งฝุ่นผง ทุกสิ่งล้วนถูกแววตาของดวงตาขนาดยักษ์ดวงนี้ครอบคลุมเอาไว้อย่างนั้น

ได้ยินเสียงปังดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง มองเห็นดวงตาทองคำของเหล่าจวินนัยน์ตาเทพที่มีการวิวัฒนาการ สรรพสิ่งพลันบินออกมา มีมังกรแท้จริงที่ทยานขึ้นบนท้องฟ้า ร้องคำรามไม่หยุด มีหงส์ศักดิ์สิทธิ์ที่บินโฉบบนท้องฟ้า ปีกคู่นั้นยองมันเสมือนดั่งดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ฟันฉับเข้ามา มีเต่านิลที่ยึดครองพื้นที่ตรงนั้น พลันมีร่างกายที่ทอดข้ามฟ้าดินและบดบังทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้…

พริบตาเดียวนั่นเอง เสมือนหนึ่งเหล่าจวินนัยน์ตาเทพเป็นผู้ควบคุมสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ดึกดำบรรพ์ ยามที่มังกรแท้จริง หงส์ศักดิ์สิทธิ์เป็นต้นบุกโจมตีสังหารเข้ามา พลังที่น่ากลัวได้ฉีกทำลายทุกสิ่งทุกอย่างจนพินาศ

เทพสุริยันผยองมิได้หวั่นเกรงแม้แต่น้อยเมื่อต้องเผชิญกับดวงตาของเหล่าจวินนัยน์ตาเทพที่มีการวิวัฒนาการ สิ่งเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง ปรากฏประกายที่ละลานตาขึ้นมารอบๆ ตัว เพลิงสมาธิสุริยันที่ดั่งคลื่นยักษ์ม้วนตัวเขามา เพียงพริบตาเดียวก็จัดการหลอมละลายดวงดาวจำนวนมากจนกลายเป็นลาวา

ได้ยินเสียงนกขับขานดังกา… มองเห็นนกกาสีทองสามขาขนาดยักษ์บินออกมาจากลาวา ขณะที่นกกาสีทองสามขาตัวนี้สยายปีกกางออกไปนั้น เพลิงสมาธิที่น่ากลัวได้ม้วนปกคลุมไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ขณะที่ปีกของมันโฉบผ่านได้ทิ่มแทงทะละท้องฟ้า ตัดขาดกาลเวลา ภายใต้การโจมตีครั้งเดียวสามารถทำลายโลกทั้งโลกจนพังพินาศย่อยยับได้

ตูม ตูม ตูม…ภายใต้การปะทะซึ่งหน้าของทั้งสองฝ่าย พลันปรากฏประกายที่เจิดจ้ายิ่งบนท้องฟ้า เหมือนดวงตะวันหนึ่งแสนดวงที่ระเบิดขึ้นพร้อมๆ กันอย่างนั้น ประกายที่ละลานตายิ่งสามารถทำให้ตาบอดได้

ขณะที่ระดับคงความอมตะตลอดกาล ชั้นสูงสุดทั้งสองลงมือสุดกำลังนั้น เป็นการต่อสู้อย่างดุเดือดที่น่ากลังเพียงใด เรียกได้ว่าสามารถอาศัยคำว่าทำลายฟ้าดินจนพินาศย่อยยับมาเปรียบเปรย และโชคดีที่พวกเขาต่อสู้กันจนฟ้าถล่มดินทลายบนท้องฟ้า หาไม่แล้ว คงมีไม่กี่คนที่สามารถรองรับกับพลังทำลายพินาศย่อยยับที่น่ากลัวเช่นนี้ได้

“ฆ่า…” นาทีนี้ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเทียนถง และศิษย์ยอดฝีมือทั้งหมดของตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนต่างร้องคำรามเสียงดังขึ้นมา และต่างฝ่ายต่างบุกเข้าสังหารซึ่งกันและกัน นาทีนี้ อาวุธนับพันนับหมื่นเล่มได้ออกจากฝัก และของวิเศษนับพันนับหมื่นชิ้นที่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า มีทั้งเปลวเพลิงร้อนแรงที่เทราดลงมาเป็นลูกๆ และมีน้ำแข็งเย็นยะเยือกดั่งคลื่นยักษ์ที่ปกคลุมไปทั่ว ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีสัตว์ยักษ์ที่ร้องคำรามพุ่งเข้ามาจากด้านซ้ายและขวา

เสียงบดขยี้ท้องฟ้าจนแหลกละเอียดดังขึ้นเป็นระลอก รถศึกนับหมื่นนับพันของตำหนักจินเปี้ยนได้พุ่งโจมตีเข้ามา เสมือนหนึ่งเป็นน้ำหลากเหล็กกล้าที่พุ่งเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว ล้อรถทำการบดขยี้ท้องฟ้าจนแหลกละเอียดไปในพริบตา

ขณะที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเทียนถงก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้แม้แต่น้อย เรือจำนวนมากได้บุกโจมตีไปถึงด้านหน้าหน่วยรบของตำหนักจินเปี้ยน พลันยิงถล่มด้วยของวิเศษอาวุธราชันนับร้อยนับพันชิ้นที่พุ่งโจมตี เสมือนหนึ่งน้ำตกสวรรค์ที่พุ่งลงมาจากฟ้าอย่างนั้น พลันยิงถล่มกองทัพหมื่นพันจนแหลกลาญไป

อ๊ากก อ๊ากก อ๊ากก…ในเวลานี้เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้นไม่ขาดสาย ปรากฏฝนเลือดตกลงมาจากท้องฟ้าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใหญ่ทั้งสองต่อสู้กันเอาเป็นเอาตาย ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนหมื่นพันต่อสู้กันชุลมุน ช่างเป็นศึกสงครามที่น่าเวทนาเหลือเกิน ในขณะนี้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิทั้งสองต่างก็มีศิษย์เป็นหมื่นพันที่สังเวยชีวิต เลือดสดๆ แตกกระจาย ศพแล้วศพเล่าที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า

บนท้องฟ้า กองทัพหมื่นพันของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิทั้งสองได้บดบังท้องฟ้าเอาไว้ทั้งหมด เห็นแต่ดำทะมึนไปสิ้น เมื่อของวิเศษนับหมื่นนับพันชิ้นที่ทยานขึ้นท้องฟ้า แสงสีหลากสีพลันส่องสว่างไปทั่วโลก ในขณะเดียวกัน ตูม ตูม ตูมเสียงกระทบกัน เสียงฆ่าฟัน เสียงร้องน่าเวทนาดังก้องไปทั่วฟ้าดิน ถักทอเป็นบทเพลงแห่งการฆ่าฟันขึ้นมาบทหนึ่ง

ภายใต้การต่อสู้กันอย่างดุเดือดของทั้งสองฝ่าย บนท้องฟ้าเสมือนหนึ่งฝนห่าใหญ่ที่สาดลงมา ท่ามกลางเสียงร้องที่น่าเวทนา ปรากฏศพแล้วศพเล่าที่ร่วงหล่นลงมา

ทั่วทั้งโลกคล้ายกลับกลายเป็นนรกอสูรภายในระยะเวลาอันสั้น เลือดสดๆ ไหลย้อมผืนแผ่นดินจนกลายเป็นสีแดง ศพที่ร่วงหล่นจากฟ้ากองพะเนินดั่งภูเขา

สมรภูมิรบที่สยองขวัญลักษณะเช่นนี้ สร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนเหลือเกิน ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ไม่เคยพานพบสงครามที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้มาก่อน มองดูภาพเหตุการณ์จนเข่าอ่อนทั้งสองข้างและสั่นเทาตลอดเวลา ได้ยินเสียงร้องน่าเวทนาที่ดังขึ้นลงสลับไม่หยุดแล้ว ไม่ทราบว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรต้องมีสีหน้าที่ขาวซีดเล่า

การต่อสู้ที่ดุเดือดเช่นนี้เรียกได้ว่าโหดร้ายยิ่งนัก ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าได้ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดได้ตระหนักถึงสงครามระหว่างระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิว่าน่ากลัวเพียงใด เมื่อใดที่มันระเบิดขึ้นก็คือชีวิตที่ต้องดับสูญ ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือ ผู้บำเพ็ญตน และผู้ยิ่งใหญ่จำนวนเท่าใดที่ต้องเสียชีวิต

นี่เป็นการฆ่าฟันที่เลือดไหลหยดเป็นธาร สงครามลักษณะเช่นนี้ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่ได้เห็นต่างรุ้สึกเคารพยำเกรง ไม่ว่าเป็นใครหลังจากได้เห็นสงครามลักษณะเช่นนี้แล้ว ก็จะไม่ให้สงครามระหว่างระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเกิดขึ้นโดยง่ายดาย

“ฆ่า…” นาทีนี้ เทพสงครามจินเปี้ยนได้คำรามเสียงดังขึ้น ร่างกายที่เป็นโลหะขนาดใหญ่โตปราศจากผู้เทียบเทียมได้เหินฟ้าขึ้นไป มือข้างหนึ่งถือโล่ มืออีกข้างเป็นค้อนยักษ์ ฟาดใส่เรือทองคำอย่างแรง

ปัง ปัง ปังเสียงแต่ละเสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมา ในชั่วพริบตาเดียวนี้เอง โล่ยักษ์และค้อนยักษ์ของเทพสงครามจินเปี้ยนได้ฟาดโจมตีลงมาเสมือนดั่งฝนฟ้าคะนอง ทำเอาเรือทองคำสั่นไหวโคลงแคลงไม่หยุด เสมือนดั่งฟ้าถล่มดินทลายอย่างนั้น แม้ว่าเรือทองคำจะได้รับการป้องกันด้วยระดับปฐมบรรพบุรุษ แต่ว่า ภายใต้การโจมตีอย่างบ้าคลั่งของเทพสงครามจินเปี้ยนเช่นนี้ เกรงว่าในระยะยาวก็ต้องถูกโจมตีจนแหลกละเอียด

เสียงปุ…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในพริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นอานุภาพจากปฐมบรรพบุรุษพลันระเบิดขึ้นมา ลำแสงมหาประลัยสายหนึ่งพลันยิงออกมา

ลำแสงปฐมบรรพบุรุษทะลุผ่านอดีตถึงปัจจุบัน อานุภาพสุดต้านทาน ขณะที่ลำแสงมหาประลัยปฐมบรรพบุรุษเช่นนี้ยิ่งถล่มเข้ามานั้นน่าสยองขวัญอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นกองทัพหมื่นพันก็ต้านเอาไว้ไม่ได้

“เปิด…” เทพสงครามจินเปี้ยนคำรามเสียงดังขึ้น ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง สิบสองลัคนาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ประกายละลานตายิ่งนัก สาดส่องทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน

ในพริบตาเดียวนั่นเอง อานุภาพราชันแท้จริงของเทพสงครามจินเปี้ยนพุ่งขึ้นไปยังเก้าชั้นฟ้า ด้วยท่าทีข้าเท่านั้นที่ปราศจากผู้ต่อกร โล่ยักษ์ในมือของเขาปรากฏคล้ายดั่งป้อมปราการแต่ละชั้น มีปรากฎการณ์ประหลาดภาพของเทพดึกดำบรรพ์สัตว์ดุร้ายขึ้นมา ต้านลำแสงมหาประลัยที่ยิงโจมตีเข้ามา

แม้ว่าเทพสงครามจินเปี้ยนในเวลานี้เสมือนดั่งเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกหนึ่งที่ยากจะสั่นคลอน แต่ว่า เมื่อลำแสงมหาประลัยปฐมบรรพบุรุษยิงโจมตีเข้าใส่โล่ยักษ์อย่างหนัก เทพสงครามจินเปี้ยนยังคงยากที่จะต้านเอาไว้ได้ ได้ยินเสียงตูม ตูม ตูมที่ดังสนั่นไม่ขาดสาย ฟ้าดินสั่นไหวโคลงแคลงภายใต้การยิงโจมตีของลำแสงมหาประลัยปฐมบรรพบุรุษ

มองเห็นป้อมปราการที่กั้นขวางโล่ยักษ์ของเทพสงครามจินเปี้ยนถูกลำแสงมหาประลัยปฐมบรรพบุรุษยิงจนแตกละเอียดไปทีละชั้นๆ ร่างกายที่สูงใหญ่ของเทพสงครามจินเปี้ยนก็ถูกยิงโจมตีจนถอยหลังไปเรื่อยๆ

ปฐมบรรพบุรุษย่อมเป็นปฐมบรรพบุรุษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปฐมบรรพบุรุษเทียนถงคือปฐมบรรพบุรุษชั้นแดนลัทธิเซียน และเรือลำนี้คือเรือรบที่ปราบปรามไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินในครั้งนั้น ธาตุแท้ภายในลึกล้ำยากจะหยั่งถึง

ต่อให้ราชันแท้จริงมีฝีมือแข็งแกร่งมากกว่านี้ ก็ยากที่จะต้านกับฝีมือของปฐมบรรพบุรุษโดยอาศัยเพียงกำลังความสามารถของตนเพียงลำพัง

ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง เสียงโลหะดังกังวานทั่วฟ้าดิน ในพริบตาเดียวมองเห็นปีกโลหะคู่หนึ่งที่หย่อนลงมา และขวางอยู่ลำแสงมหาประลัยที่ยากจะต้านทานของเรือทองคำนั้นเอาไว้

เมื่อทุกคนมองออกไป ในเวลานี้ด้านหน้าของเทพสงครามจินเปี้ยนปรากฎอาชาสวรรค์ตัวหนึ่งยืนอยู่ อาชาสวรรค์ตัวนี้มีร่างทองคำทั้งตัว ร่างกายของมันคล้ายหลอมสร้างขึ้นมาจากทองคำอย่างนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีกคู่นั้นของมันเรียกได้ว่าวิจิตรตระการตางดงามอย่างยิ่ง เสมือนเป็นงานศิลปะที่สร้างด้วยทองคำ ด้วยปีกทองคำคู่หนึ่งที่ประณีตละเอียดอ่อนเช่นนี้ เหมือนมาจากฝีมือของระดับปรมาจารย์

เมื่อปีกทองคำคู่ของอาชาสวรรค์ทองคำหุบเข้ามา ก็ต้านลำแสงมหาประลัยของเรือทองคำเอาไว้ และม้าศึกทองคำตัวนี้ก็แผ่อานุภาพปฐมบรรพบุรุษขึ้นมาเช่นกัน แม้ว่าจะปราศจากปฐมบรรพบุรุษอยู่ตรงนั้น ทันใดนั้น ได้ทำให้ผู้คนคล้ายมองเห็นปรากฎการณ์ประหลาดปฐมบรรพบุรุษควบม้าออกศึก อานุภาพสยบฟ้าดิน อยู่เหนือหมื่นอาณาจักร

“อาชาสวรรค์จินเปี้ยน…” ระดับบรรพบุรุษถึงกับร้องเสียงดังขึ้น และรู้สึกใจหายใจคว่ำ เมื่อมองเห็นอาชาสวรรค์ตัวนี้ และกล่าวว่า “นี่คือม้าศึกที่ปฐมบรรพบุรุษตำหนักจินเปี้ยนในครั้งนั้น!”

“เป็นม้าศึกที่ยอดเยี่ยมมาก!” ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่น้ำลายไหลยืด เมื่อมองเห็นม้าทองคำลักษณะเช่นนี้

กล่าวสำหรับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตน และผู้ปราศจากผู้ต่อกรจำนวนเท่าไรแล้ว ชั่วชีวิตนี้สามารถมีม้าศึกลักษณะเช่นนี้ในครอบครองก็ไม่อะไรต้องเสียดายอีกแล้ว

นาทีนี้เป็นการต่อสู้ชี้ขาดระหว่างม้าศึกของปฐมบรรพบุรุษกับเรือรบของปฐมบรรพบุรุษ ทั่งสองฝ่ายต่างสำแดงอภินิหารของตน

“ฆ่า…” เทพสงครามจินเปี้ยนคำรามเสียงยาวละทิ้งเรือทองคำ บุกเข้าไปท่ามกลางกองเรือรบของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเทียนถง ค้อนยักษ์ในมือที่ทุบลงไป พร้อมกับโล่ยักษ์ในมือที่กวาดออกไป

เมื่อค้อนยักษ์ทุบลงไป แผ่นดินหมื่นลี้พลันถูกทุบจนแตกละเอียด ขณะที่โล่ยักษ์ที่กวาดออกไปด้วยท่าทีที่ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้า

เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมา พลันที่เทพสงครามจินเปี้ยนลงมือ ปรากฏกองเรือที่ยาวเป็นหมื่นลี้ถูกทำให้พลิกคว่ำ เรือรบนับพันนับหมื่นพลันถูกทำลายจนแตกละเอียด เศษชิ้นส่วนนับไม่ถ้วนแตกกระจาย

อ๊ากก…เสียงร้องน่าเวทนาดังก้องท้องฟ้า พร้อมกับเศษชิ้นส่วนนับไม่ถ้วนที่ร่วงหล่นลงมา ศพแต่ละศพร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า

เทพสงครามจินเปี้ยนในฐานะราชันแท้จริงสิบสองลัคนา พลันที่เขาลงมือจะมีสักกี่คนที่สามารถต้านเอาไว้ได้เล่า ตัวเขาที่คำรามเสียงดังเรียกได้ว่าก้าวหนึ่งต่อสู้หมื่นลี้ พลันลงมือก็เข่นฆ่านับแสน เลือดสดๆพุ่งกระจายอย่างรุนแรง ด้วยท่าทีกระหายเลือดที่ปราศจากผู้ต่อกร ทำให้ผู้พบเห็นต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึง

“รุนแรงอันธพาล ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ทารุณโหดร้าย” ทุกคนที่มองเห็นท่าทีเช่นนี้ของเทพสงครามจินเปี้ยนแล้ว ได้แต่อาศัยคำพูดเช่นนี้มาเปรียบเปรย

“เทพสงครามจินเปี้ยนอย่าได้ผยองนัก…” เสียงคำรามบ้าคลั่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง บนท้องฟ้าพลันสว่างไสว ตูม ตูม ตูมลำแสงนับพันนับหมื่นสายพลันคล้ายดั่งหอกศักดิ์สิทธิ์ที่ขว้างโจมตีลงมา ทุกๆ ลำแสงล้วนยิงทะลุฟ้าดิน หลอมละลายสรรพสิ่ง อานุภาพร้ายแรงยิ่งนัก และดุร้ายอย่างยิ่ง

เทพสงครามจินเปี้ยนก็คำรามบ้าคลั่งขึ้นมาเช่นกัน เมื่อเผชิญกับลำแสงมหาประลัยนับพันนับหมื่นสายที่โจมตีเข้ามา ยกโล่ยักษ์ขึ้นสูงต้านลำแสงทั้งหมดเอาไว้ ท่ามกลางเสียงปัง ปัง ปังที่ดังขึ้น ต้านลำแสงที่โจมตีลงมาได้ทั้งหมด

เวลานี้ บนท้องฟ้าปรากฏคนผู้หนึ่งขวางทางเทพสงครามจินเปี้ยนเอาไว้ เป็นเด็กมหัศจรรย์สามตานั่นเอง เวลานี้ดวงตาดวงที่สามของเด็กมหัศจรรย์สามตาตั่งขึ้น โดยที่ดวงตาทองคำดวงนี้สุกสกาวอย่างยิ่ง ลูกตาดูลึกล้ำยิ่งนัก เหมือนว่าในนั้นมีโลกทองคำโลกหนึ่งอย่างนั้น

“เป็นเจ้าเอง…” ดวงตาทั้งสองของเทพสงครามจินเปี้ยนดูน่าเกรงขาม และพวยพุ่งปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวออกมา เมื่อมองเห็นเด็กมหัศจรรย์สามตาขวางทางของตนเอาไว้

“ข้าเอง…” เด็กมหัศจรรย์สามตายืนอยู่ตรงนั้น และร้องกล่าวเสียงเย็นชาขึ้นมา เส้นผมปลิวกระจายไปตามลม และเสื้อที่สวมใส่ส่งเสียงดังพรึบพรึบ

ในเวลานี้ พวกเขาทั้งสองประจันหน้าอยู่บนท้องฟ้า และบรรยากาศในพริบตาก็ดูตึงเครียดยิ่งขึ้น

เวลานี้เด็กมหัศจรรย์สามตากับเทพสงครามจินเปี้ยนที่ประจันหน้ากันพลันดึงดูดสายตาของทุกคนเอาไว้

…………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด