ตอนที่ 3057 สามตากำหนดโลกา

เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ในเวลานี้เอง คันฉ่องเหวยเต้าจิ้งที่เด็กมหัศจรรย์สามตากอดแนบอกอยู่ได้ระเบิดพลังขึ้นโดยสิ้นเชิงแล้ว นาทีนี้ อานุภาพปฐมบรรพบุรุษพลันพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

จากการที่อานุภาพปฐมบรรพบุรุษได้พุ่งขึ้นนั้น เสื้อผ้าของเด็กมหัศจรรย์สามตาปลิวไสวไปตามลม ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหว ด้านหลังของเขาปรากฏเป็นความขมุกขมัวไปทั่ว เสมือนดั่งเป็นแรกเริ่มฟ้าดินอย่างนั้น เหล่าชั้นฟ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ล้วนกำเนิดจากที่ตรงนี้

ตามติดด้วยความขมุกขมัวได้สั่นไหวเป็นระลอก ท่ามกลางเสียงตูม ตูม ตูมที่ดังตูมตาม ความขมุกขมัวเริ่มมีการม้วนตัวกันขึ้น และท่ามกลางความขมุกขมัวได้ปรากฏร่างเงาขึ้นมาร่างหนึ่งอย่างช้าๆ เป็นร่างเงาที่สูงใหญ่ร่างหนึ่ง

เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว อานุภาพปฐมบรรพบุรุษเสมือนดั่งกลับกลายเป็นของจริง ปฐมบรรพบุรุษมาอยู่เหนือหมื่นอาณาจักร เหล่าสวรรค์เทพมารล้วนหมอบกราบกับพื้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง อานุภาพปฐมบรรพบุรุษที่สยบลงมา ฟ้าดินสรรพสายทางล้วนส่งเสียงร้องอันเศร้าโศก

“ปฐมบรรพบุรุษเทียนถง…” ผู้คนจำนวนมากต่างรู้ได้ทันทีว่าผู้นี้ดำรงอยู่ในฐานะเช่นใด เมื่อมองเห็นร่างเงาที่สูงใหญ่ยากจะหาใดเทียมผู้นี้ นั่นคือร่างเงาของปฐมบรรพบุรุษเทียนถงผู้ปราศจากผู้ต่อกร

แม้ว่าร่างเงาปราศจากผู้ต่อกรร่างนี้จะแลดูเหมือนเป็นภาพลวงตายิ่ง มีเพียงเค้าโครงเท่านั้น แต่ว่าอานุภาพปฐมบรรพบุรุษที่เปล่งออกมานั้นดูช่างเหมือนจริงอะไรอย่างนั้น ผู้ที่มีทักษะยุทธอ่อนนักนิดก็จะต้องถูกอานุภาพปฐมบรรพบุรุษเช่นนี้สยบโดยตรง ได้ยินเสียงตุบเสียงหนึ่ง ถูกสยบลงกับพื้นไม่สามารถกระดิกตัวได้

ในพริบตาเดียวนั่นเอง ได้ยินเสียงดังแค่วกกกเสียงหนึ่ง เสียงดังแค่วกกกเสียงนี้ไม่ได้ดังกังวานเป็นพิเศษ แต่มันกลับเหมือนเป็นการเคลื่อนไหว่ของแรกเริ่มกำเนิดฟ้าดินอย่างนั้น นาทีที่ฟ้าดินกำเนิดขึ้น และมีสิ่งมีชีวิตได้ลืมตาขึ้นมองดูโลกที่ขมุกขมัวใบนี้

นาทีนี้ เสียงตูมเสียงหนึ่งสะเทือนหมื่นอาณาจักร ไม่มีเสียงดังสนั่นใดในโลกที่ดังก้องกังวานกว่านี้อีกแล้ว ไม่มีเสียงใดที่ดังสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนได้มากกว่านี้อีกแล้ว

พริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นร่างเงาเลือนรางของปฐมบรรพบุรุษเทียนถงได้เปิดดวงตาดวงที่สามขึ้นมา ขณะที่ดวงตาดวงนี้เปิดออกมานั้น ทุกสิ่งล้วนสลดและอับแสง ไม่ว่าจะเป็นลำแสงที่สว่างไสวเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นลำแสงที่ละลานตาเช่นใดก็ตาม ยามที่ดวงตาดวงนี้ลืมตามขึ้นมา ทุกสิ่งล้วนแลดูมืดสลัวขึ้นทันที

ในเสี้ยววินาทีนี้เอง เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ลำแสงสามสายพลันถูกยิงโจมตีออกมาพร้อมกัน ด้วยท่าทีที่ทำลายฟ้าดินจนพินาศย่อยยับ ขณะที่ลำแสงสามสายยิงออกมาพร้อมกันนั้น ได้หยุดทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกเอาไว้

ลำแสงทั้งสามสายพวยพุ่งออกมาจากดวงตาทองคำของเด็กมหัศจรรย์สามตา คันฉ่องเหวยเต้าจิ้งและร่างเงาเลือนรางของปฐมบรรพบุรุษเทียนถง ขณะที่ลำแสงทั้งสามสายยิงออกมานั้นได้ล็อคฟ้าดิน ล็อคสรรพสิ่งเอาไว้

ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหว ทุกคนต่างรู้สึกว่าโลกทั้งโลกล้วนถูกลำแสงสามสายนี้ยิงทะลุพร้อมกัน ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ จังหวะที่ลำแสงทั้งสามสายยิงออกมาพร้อมๆ กันนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในหล้าล้วนเหมือนถูกพันธนาการเอาไว้อย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตเช่นใด ไม่ว่าจะเป็นพลังอะไร ไม่ว่าจะเป็นกฎเกณฑ์อย่างไร นาทีนี้ล้วนถูกตรึงอยู่ภายใต้ลำแสงสามสายนี้จนไม่สามารถกระดิกตัวได้อยู่แล้ว พลันถูกยิงทะลุไปทันที

“สามตากำหนดโลกา…” จากการที่ลำแสงสามสายยิงออกไปอย่างรุนแรงนั้น เด็กมหัศจรรย์สามตาคำรามเสียงดังขึ้นมา และตัวของเขาก็เสมือนดั่งร่ายรำอย่างบ้าคลั่ง เส้นผมตั้งขึ้น พลังลมปราณถูกปลดปล่อยออกมาอย่างบ้าระห่ำ กลายเป็นพายุที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ลำแสงทั้งสามแสงที่ยิงมาพร้อมกันสามารถยิ่งทะลุระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ ใดลัทธิหนึ่งอย่างแน่นอน

“แม่จ๋า…” ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่หวาดหวั่นพรั่นพรึง เมื่อต้องเผชิญกับการยิงโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ ต่างอดที่จะร้องเสียงแหลมดังขึ้นมา ลำแสงทั้งสามแสงที่ยิงมาพร้อมกันสามารถยิ่งทะลุระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ ใดลัทธิหนึ่งอย่างแน่นอน

เสียงปัง…ดังสนั่นหวั่นไหว ลำแสงทั้งสามสายได้ยิงโจมตีใส่โล่ยักษ์ของเทพสงครามจินเปี่ยนอย่างหนักหน่วง

ภายใต้เสียงปังที่ดังขึ้น โล่ยักษ์ที่อยู่ในมือเทพสงครามจินเปี่ยนพลันถูกยิงจนแตกละเอียด สมควรทราบว่าโล่ยักษ์ในมือก็เป็นอาวุธราชันแท้จริงที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียม

“ทำลาย…” เทพสงครามจินเปี่ยนคำรามเสียงดัง ปรากฏประกายที่พวยพุ่งออกมาทั้งตัว ค้อนยักษ์ในมือของเทพสงครามจินเปี่ยนได้โจมตีออกไปอย่ารุนแรง ขณะเดียวกัน ร่างกายที่มีขนาดใหญ่ยิ่งได้กลายเป็นสว่านทองคำที่แหลมคม และมีขนาดใหญ่โตอย่างยิ่ง ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหว สว่านทองคำนี้ได้หมุนอย่างบ้าคลั่งและทำการโจมตีเข้าไป

ตูม ตูม ตูมเสียงดังตูมตามดังสนั่นหวั่นไหวจนแก้วหูแทบแตก ท่ามกลางสว่านทองคำที่หมุนอย่างรวดเร็วซึ่งสามารถยิงทะลุผืนแผ่นดิน ความแหลมคมและแกร่งของมันนั้นไร้สิ่งต้านทาน ต่อให้โลกทั้งโลกขวางอยู่ด้านหน้าของมัน มันก็สามารถเจาะทะลุได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

ท่ามกลางเสียงปังเสียงหนึ่งที่ดังขึ้น ค้อนยักษ์ของเทพสงครามจินเปี่ยนพลันถูกยิงจนแหลกละเอียด ตามติด้วยลำแสงทั้งสามสายที่ยิงโจมตีจนถึงสว่านที่กำลังหมุนด้วยความเร็วสูง

ตูม ตูม ตูมเสียงพุ่งเข้าโจมตีสะเทือนหวั่นไหวดังก้องท้องฟ้า มองเห็นสว่านทองคำที่หมุนอย่างบ้าคลั่ง และเข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่ง แต่ว่าลำแสงสามสายได้โจมตีใส่สว่านทองคำอย่างแรง สว่านทองคำไม่เพียงแต่ไม่สามารถรุกคืบไปแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับถูกลำแสงสามสายพุ่งโจมตีจนต้องถอยร่นไปเรื่อยๆ

“ฆ่า…” เด็กมหัศจรรย์สามตาร้องคำรามเสียงดัง สุดท้าย ในพริบตาเดียวนั่นเอง ลำแสงทั้งสามสายล้วนระเบิดขึ้นมาพร้อมๆ กัน และเบ่งบานลำแสงที่พาลและไร้ขีดจำกัดที่สุด โลกทั้งโลกล้วนถูกส่งมันส่องสว่างจนตกอยู่ในความมืด

ภายใต้เสียงตูมที่ดังสนั่น สะเก็ดไฟแตกกระจาย พลังอานุภาพสามารถทำลายฟ้าดินจนพังพินาศย่อยยับ ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทั่งโลกเหมือนถูกระเบิดขึ้นมาอย่างนั้น

ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหว เห็นเพียงสว่านทองคำยักษ์พลันถูกยิงโจมตีจนลอยออกไป ถูกยิงจนลอยไปไกลถึงเส้นขอบฟ้า และตกกระแทกลงกับพื้นอย่างแรง

เมื่อทุกคนได้สติกลับมาแล้ว ลำแสงทั้งสามสายก็ได้สลายหายไป การส่องสว่างของฟ้าดินก็กลับคืนสู่ปรกติ เวลานี้ชุดคลุมตัวใหญ่ของเด็กมหัศจรรย์สามตาส่งเสียงดังพรึบๆ แต่ว่า ก็ต้องหอบหายใจอย่างหนัก การโจมตีเมื่อครู่ได้สูญเสียลมปราณเป็นจำนวนมาก

“เทพสงครามจินเปี่ยนแพ้แล้ว?” เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว ทุกคนล้วนไม่อยากจะเชื่อ อดใจหายใจคว่ำไม่ได้ และหวาดหวั่นพรั่นพรึง

นับว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกเหนือความคาดคิดเมื่อได้เห็นภาพนี้ และนับเป็นเรื่องที่สะเทือนหวั่นไหวจิตใจผู้คนเหลือเกิน แต่ใครจะไปคาดคิดว่า เทพสงครามจินเปี่ยนที่เหนือกว่าเด็กมหัศจรรย์สามตาชัดเจน จะถูกเด็กมหัศจรรย์สามตายิงถล่มจนร่างลอยออกไป

“อย่างไรเสียราชันแท้จริงย่อมเป็นราชันแท้จริง” มีผู้กล่าวเสียงแผ่วเบาว่า “หากไม่มีวิธีการพิเศษยากจะสั่นคลอนฐานะของปฐมบรรพบุรุษได้ ของล้ำค่าปฐมบรรพบุรุษใช่จะรับเอาไว้ได้ง่ายดาย มิฉะนั้นแล้ว ปฐมบรรพบุรุษคงไม่ปราศจากผู้ต่อกรหมื่นยุคแล้ว”

“ดุดันมากเหลือเกิน” มีผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องใจหายใจคว่ำเมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว และบรรพบุรุษก็เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “หากเด็กคนนี้ไม่ตาย อนาคตจะต้องพิชิตระดับหย่วนเต้าแน่”

ผู้คนจำนวนมากไม่มีความเห็นกับคำพูดเช่นนี้ จะอย่างไรเสียเด็กมหัศจรรย์สามตาคืออัจฉริยะบุคคลที่มีพรสวรรค์สูงสุดในยุคปัจจุบัน ขอเพียงให้เวลาเขาเพียงพอ เขาสามารถพิชิตระดับหย่วนเต้าได้ นั่นก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

เสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในขณะที่ทุกคนกำลังคาดเดาว่าเทพสงครามจินเปี่ยนตายหรือเป็นอยู่นั้น ปรากฏพื้นแผ่นดินสะเทือนหวั่นไหวทีหนึ่ง เหมือนถูกคนเหยียบลงมาอย่างแรงจนยุบตัวลงไป

ในพริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นเทพสงครามจินเปี่ยนที่พุ่งขึ้นท้องฟ้าเสมือนดั่งประกายเคลื่อนไหวที่ยิงขึ้นมาโดยพลันด้วยท่าทีที่สยบผู้คน เมื่อทุกคนจ้องมองดูออกไป เขาก็ได้ไปยืนอยู่บนท้องฟ้าสูงแล้ว

บนตัวของเทพสงครามจินเปี่ยนในเวลานี้เรียกว่าเต็มไปด้วยรอยเลือด เลือดสดๆ ได้ไหลย้อมบริเวณหน้าอกของเขาจนเป็นสีแดง บริเวณหน้าอกของเขาปรากฏเป็นรูเลือดรูหนึ่งที่ดูแล้วสยดสยองยิ่ง สามารถมองออกได้ว่า การโจมตีเมื่อครู่นั้นเกือบจะยิงทะลุหน้าอกของเขาไป

ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกเสียวสันหลังวาบ และสั่นเทาในใจเมื่อมองเห็นบาดแผลที่น่าสยดสยองเช่นนี้ หากเปลี่ยนเป็นตนเองไม่สามารถต้านรับการโจมตีเช่นนี้ได้แน่ และจะต้องหายวับไปกับตาในพริบตาอย่างแน่นอนภายใต้การโจมตีเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม เทพสงครามจินเปี้ยนมีความน่าสยองขวัญ มีความแข็งแกร่งเป็นความจริง เมื่อถูกโจมตีด้วยพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้แล้วยังคงไม่ตาย ทั้งยังมีความฮึกเหิมดุจดังกรและเสือที่ผาดโผน สิ่งนี้ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่ากำลังความสามารถของเขาจะน่ากลัวเพียงใด

แววตาของเด็กมหัศจรรย์สามตาถึงกับดูน่าเกรงขาม เมื่อมองเห็นเทพสงครามจินเปี้ยนยังคงมีความฮึกเหิมดุจดังกรและเสือที่ผาดโผน การที่เทพสงครามจินเปี้ยนฆ่าไม่ตายเป็นสิ่งที่อยู่ในความคาดหมายอยู่แล้ว แต่ว่า พลังความแข็งแกร่งในการรองรับของเทพสงครามจินเปี้ยนยังคงเหนือความคาดคิดของเขา

ได้ยินเสียงจี๊ดดังขึ้น เวลานี้รูเลือดบริเวณหน้าอกของเทพสงครามจินเปี้ยนได้สมานกลับเป็นปรกติอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตาเดียว ร่างกายของเขาได้กลับกลายเป็นทั้งเรียบและแวววาว โดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ เอาไว้

“คนของเผ่าจินเปี้ยนแข็งแกร่งมาก คิดจะฆ่าให้ตายเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย” มีผู้ที่รู้สึกหวาดเสียว เมื่อมองเห็นบาดแผลของเทพสงครามจินเปี้ยนสมานแผลได้รวดเร็วถึงเพียงนี้

ทุกคนต่างรู้ดีว่า เมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ แล้ว คนของเผ่าจินเปี้ยนฆ่าให้ตายได้ยากยิ่งกว่า มักจะมีคนของเผ่าจินเปี้ยนถูกหั่นจนกลายเป็นแปดชิ้น กระทั่งถูกสับเป็นหมื่นๆ ชิ้น ร่างกายของพวกเขายังคงสามารถประติดปะต่อกลับไปเหมือนเดิมอยู่เสมอๆ สิ่งนี้เป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

กล่าวได้ว่า เมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ แล้ว กายเนื้อของเผ่าจินเปี้ยนมีความแข็งแกร่งมาก ได้เกินเลยกว่าขอบเขตของเผ่าพันธุ์อื่นๆ ไปมากทีเดียว สิ่งนี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งว่าเพราะอะไรเทพสงครามจินเปี้ยนจึงสามารถกลายเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ใหญ่ของแดนลัทธิเซียน

“นับว่ามีฝีมืออยู่บ้าง” แววตาของเทพสงครามจินเปี้ยนดูน่าเกรงขาม ปณิธานการฆ่าที่ดั่งคลื่นยักษ์ กล่าวน่าครั่นคร้ามว่า “เสียดาย มาวันนี้เจ้าเจอกับข้า เจ้าต้องตาย!”

พลันที่เทพสงครามจินเปี้ยนพูดเช่นนี้ออกมา เสมือนดั่งทวนที่ปักตรึงอยู่บนพื้น เป็นคำพูดที่มีพลังมาก เหมือนได้มองเห็นเด็กมหัศจรรย์สามตาถูกตรึงสังหารอยู่กับพื้นอย่างนั้น ทำให้ผู้คนจำนวนมากร่างสั่นเทา

“เสื้อเกราะมา!” นาทีนี้เทพสงครามจินเปี้ยนคำรามเสียงดังขึ้น ตามติดด้วยเสียงตึง ตึง ตึงที่เป็นเสียงประติดปะต่อดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นชิ้นส่วนเสื้อเกราะนับไม่ถ้วนได้รวมตัวเข้าด้วยกัน พริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นชิ้นส่วนเสื้อเกราะนับไม่ถ้วนที่รวมตัวเข้าด้วยกัน และปิดลงบนตัวของเทพสงครามจินเปี้ยน

สุดท้าย เสียงตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น มองเห็นบนตัวของเทพสงครามจินเปี้ยนได้สวมชุดเกราะเอาไว้แล้ว เสื้อเกราะบนตัวของเทพสงครามจินเปี้ยนปรากฎกลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษลอยขึ้นมา

ภายใต้การรองรับกลิ่นอายของปฐมบรรพบุรุษ ร่างของเทพสงครามจินเปี้ยนพลันกลับกลายเป็นสูงใหญ่ยิ่งนัก ยากจะมีผู้ต่อกรในหล้า

เสียงตูมดังขึ้นเสียงหนึ่ง นาทีนี้ เสื้อเกราะบนตัวของเทพสงครามจินเปี้ยนพลันพวยพุ่งอานุภาพปฐมบรรพบุรุษออกมา เสมือนดั่งเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมา มองเห็นเสื้อเกราะตัวนี้พลันปรากฏเป็นปรากฎการณ์ประหลาดลอยขึ้นมาเป็นชั้นๆ

เหตุการณ์ประหลาดที่หลากหลาย มีเหล่าเทพกราบไหว้ มีการสลับสับเปลี่ยนของสุริยันจันทรา มีหมื่นสัจธรรมคอยบ่มฟัก มีการอธิฐานของโลกทั้งโลก…ขณะที่ปรากฎการณ์ประหลาดที่ผุดขึ้นมาปรากฎการณ์แล้วปรากฎการณ์เล่านั้น เสื้อเกราะชุดนี้ให้ความรู้สึกผู้คนถึงพลังที่ไม่มีสิ้นสุด เหมือนว่าสิ่งนี้ก็คือเสื้อเกราะที่แข็งแกร่งที่สุด หนาและหนักที่สุดในโลก

ขณะที่เสื้อเกราะชุดนี้สวมอยู่บนตัว เหมือนเป็นการสวมโลกทั้งโลกเอาไว้บนตัว มีเหล่าเทพหนับพันนับหมื่นคอยปกป้อง คอยขวางทางให้…

ชุดเกราะลักษณะเช่นนี้ได้ทิ้งกฎเกณฑ์ปฐมบรรพบุรุษลงมา กลิ่นอายที่ขมุกขมัวตลบอบอวล นาทีนี้เทพสงครามจินเปี้ยนเหมือนเป็นเทพสงครามที่ปราศจากผู้ต่อกรก้าวออกมาจากความขมุกขมัว ระหว่างที่เขาเคลื่อนไหวล้วนแล้วแต่สามารถเปิดฟ้าเบิกดินได้ กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากบนตัวของเขานั้น เรียกได้ว่าปราศจากผู้ต่อกรเป็นนิรันดร์!

……………………………………………………..