Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3085 ปราศจากผู้ต่อกร

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3085 ปราศจากผู้ต่อกร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3085 ปราศจากผู้ต่อกร

การลงมือของปราชญ์กระบี่และบรรพบุรุษดาบไคเทียน หลังจากหนึ่งกระบวนท่าผ่านไปต่างไม่ประสบผลสำเร็จ ไม่สามารถทำอะไรปฐมบรรพบุรุษอัคคีได้แม้แต่น้อย

ปราชญ์กระบี่และบรรพบุรุษดาบไคเทียนต่างไม่รู้สึกตระหนกระคนกับความแปลกใจอะไร ต่างสงบนิ่งอย่างยิ่งเมื่อหนึ่งกระบวนท่าพลาดเป้า มันหาใช่การประมือเป็นครั้งแรกของพวกเขาแล้ว จึงมีความชัดเจนในกำลังความสามารถของปฐมบรรพบุรุษอัคคีอย่างยิ่ง

เสียงตึง…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในเวลานี้ปราชญ์กระบี่ยังคงกระบี่ยาวออกจากฝัก

กระบี่ ยังคงเป็นกระบี่ยาวที่ธรรมดาอย่างยิ่งเล่มหนึ่ง ไม่มีปณิธานกระบี่ที่สะเทือนเลื่อนลั่น และไม่มีประกายกระบี่ที่ละลานตา เป็นเพียงกระบี่ยาวที่ธรรมดาๆ เล่มหนึ่งเท่านั้นเอง

แต่ ขณะที่กระบี่ยาวธรรมดาๆ เล่มหนึ่งเช่นนี้แหละ เมื่อปราชญ์กระบี่กำอยู่ในมือ เหมือนว่าร่องรอยวิถีกระบี่อันเกิดจากการร่ายรำกระบี่ที่ยังคงอยู่ในฟ้าดินทั้งหมดล้วนถูกกำอยู่ในมือ ไม่ว่าจะเป็นร่องรอยวิถีกระบี่อันเกิดจากการร่ายรำกระบี่ที่ยังคงอยู่ของกระบี่หนัก กระบี่ไว หมื่นกระบี่… ขอเพียงเป็นร่องรอยวิถีกระบี่อันเกิดจากการร่ายรำกระบี่ที่ยังคงอยู่ซึ่งเคยปรากฏบนโลกมาแล้ว เวลานี้นาทีนี้ล้วนแล้วแต่อยู่ในกำมือของเขาทั้งสิ้น

แม้ว่ากระบี่ยาวเล่มนี้จะธรรมดาจนไม่รู้จะธรรมดาอย่างไร มันก็สามารถสำแดงวิวัฒนาการของร่องรอยวิถีกระบี่อันเกิดจากการร่ายรำกระบี่ที่ยังคงอยู่ให้มีความลึกซึ้งยอดเยี่ยมที่สุดขึ้นมา มันสามารถโจมตีด้วยกระบวนท่ากระบี่ที่ปราศจากผู้ต่อกรได้มากที่สุด

กระบี่ยาวที่อยู่ในมือขณะนี้ไม่มีความสำคัญอีกแล้ว ขณะที่ปราชญ์กระบี่กำกระบี่อยู่ในมือนั้น เขาก็คือตัวแทนของทุกสิ่งทุกอย่าง เขาก็คือกระบี่ยากที่ปราศจากผู้ต่อกรเล่มหนึ่ง เขาก็คือกระบี่ยาวที่แหลมคมที่สุดในโลกเล่มหนึ่ง และตัวเขาก็คือร่องรอยวิถีกระบี่อันเกิดจากการร่ายรำกระบี่ที่ยังคงอยู่ที่ลึกซึ้งยอดเยี่ยมที่สุดในโลก

ดังนั้น ยามเมื่อกระบี่อยู่ในมือ ปราชญ์กระบี่ก็คือกระบี่ ตัวเขาก็คือโลกของกระบี่ ในเวลานี้ หาใช่กระบี่มอบหมายสิ่งใดๆ ให้กับปราชญ์กระบี่ แต่เป็นตัวเขาที่มอบหมายลักษณะพิเศษใดๆ ให้กับกระบี่ เมื่อมีปราชญ์กระบี่จึงมีทุกสิ่งทุกอย่างของร่องรอยวิถีกระบี่อันเกิดจากการร่ายรำกระบี่ที่ยังคงอยู่

ปราชญ์กระบี่ยังคงเหมือนเดิม หนึ่งกระบี่อยู่ในมือ ใต้หล้ามีข้า นี่แหละคือปราชญ์กระบี่ ความลึกซึ้งด้านร่องรอยวิถีกระบี่อันเกิดจากการร่ายรำกระบี่ที่ยังคงอยู่ ยากจะมีผู้ใดสามารถเทียบเคียงได้นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน

เสียงดาบคำรามเสียงยาวดังแกร๊งค์…ขึ้นมาเสียงหนึ่ง ดาบยาวของบรรพบุรุษดาบไคเทียนได้ออกจากฝักแล้ว ยามที่ดาบยาวของเขาออกจากฝัก ความเย็นของดาบเย็นไปเก้าทวีป ทั่วฟ้าดินล้วนถูกประกายดาบของเขาเข้าแทรกซึม ทุกๆ อณูของสรรพสิ่งบนโลกล้วนอาบเอิบอยู่ภายใต้ประกายกระบี่ของเขา

หนึ่งดาบขวางฟ้าพลันสะบั้นอดีตปัจจุบัน เขาคือปราชญ์ดาบเบิกฟ้า ไม่ว่าผู้ใดต่างทราบดีว่า ดาบยาวในมือของเขาสามารถฟันและผ่าสวรรค์อดีตและปัจจุบันให้แยกออก ขณะหนึ่งดาบฟาดฟันลงมา สามารถฟันทุกสิ่งบนโลกให้แยกออก ไม่ว่าจะมีแนวป้องกันที่แข็งแกร่งเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นสัจธรรมที่ยิ่งใหญ่ไพศาลเพียงใดก็ตาม

ขณะที่บรรพบุรุษดาบไคเทียนดาบยาวอยู่ในมือ ความขมุกขมัวล้อมรอบ ดาบยาวลักษณะเช่นนี้เสมือนดั่งเพิ่งถูกชักออกมาโลกแห่งความขมุกขมัว เหมือนว่าพริบตาเดียวนี้เองดาบยาวเพิ่งจะผ่าเอาโลกทั้งโลกนี้ออกมาจนได้พบความขมุกขมัว

ดาบยาวของบรรพบุรุษดาบไคเทียนตรงกันข้ามกับปราชญ์กระบี่ กระบี่ยาวของปราชญ์กระบี่นั้นธรรมดายิ่งนัก แต่ทว่า ปณิธานดาบของดาบยาวบรรพบุรุษดาบไคเทียนนั้นปราศจากผู้เทียบเทียม สิ่งที่เขาคิดก็คือปณิธานของดาบ ปณิธานดาบที่ยิ่งใหญ่ไพศาลไม่มีสิ้นสุดสามารถผ่าฟ้าดินให้แยกออกได้อย่างสบายๆ

ภายใต้ปณิธานดาบที่ยิ่งใหญ่ไพศาลปราศจากผู้ต่อกร อาณาประชาราษฎร์ทั่วหล้าล้วนสั่นเทากับสิ่งนี้ ไม่ว่าใครก็สมารถรับรู้ได้ว่า ขณะปณิธานดาบกระทบร่างกายในพริบตาเดียวนั้น ก็คล้ายเป็นดาบยาวที่คมกริบเล่มหนึ่งที่แทงทะลุเข้าไปยังหัวใจของตนโดยพลัน ทำให้ผู้คนรับรู้ถึงอาการเจ็บแปลบนั้นได้ ทำเอาตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อขึ้นมา

ดาบยาวของบรรพบุรุษดาบไคเทียนนั้นหลอมสร้างขึ้นโดยอาศัยแร่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีคุณภาพชั้นสูงสุด มันคือดาบศักดิ์สิทธิ์ที่คมกริบยิ่งซึ่งผ่านพันทุบตีร้อยหลอมมาอย่างโชกโชน ขณะที่ประกายดาบแวบผ่านในพริบตาเดียวนั้น มันสามารถดัดขาดกาลเวลาได้ มีความคมกริบอย่างยิ่ง

ด้วยดาบยาวที่คมกริบเช่นนี้ ต่อให้เป่าลมออกมาเบาๆ มันก็สามารถผ่าลมนั้นออกเป็นสองท่อนได้

ด้วยดาบยาวที่คมกริบเช่นนี้อยู่ในมือ ขอเพียงสะบัดมือเบาๆ ก็สามารถตัดกาลเวลาให้ขาดได้ ทำให้ข้างหน้ารู้สึกมืดลง เหมือนมองไม่เห็นอนาคต

ปราชญ์กระบี่กำกระบี่ในมือ ขณะที่บรรพบุรุษดาบไคเทียนดาบยาวผงาดฟ้า หนึ่งกระบี่หนึ่งดาบได้กลายเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งและน่ากลัวมากที่สุดในโลกชั่วพริบตาเดียว

ภายในใจของพวกราชันแท้จริงเซิ่นซวงต่างรู้สึกสะท้าน ขณะมองเห็นอาวุธของปราชญ์กระบี่และบรรพบุรุษดาบไคเทียนต่างออกจากฝัก พวกของปราชญ์กระบี่ล้วนเสียชีวิตมานานนับไม่ถ้วนแล้ว แต่ว่า ยามที่ดาบและกระบี่ของพวกเขาออกจากฝักยังคงน่ากลัวอะไรอย่างนั้น ลองจินตนาการดู ขณะที่พวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ช่างปราศจากผู้ต่อกรเพียงใด

“ถึงตาข้าแล้ว…” ในเวลานี้ ปฐมบรรพบุรุษอัคคีคำรามออกมา พลันที่ขาดคำได้ลงมือทันที

พลันที่ปฐมบรรพบุรุษอัคคีลงมือ เห็นเพียงนิ้วทั้งห้าของเขากางออก ได้ยินเสียงตูมดังขึ้นเสียงหนึ่ง ฝ่ามือของเขากลับกลายเป็นหงส์ พริบตาเดียวนั่นเอง เพลิงหงส์ที่เผาผลาญสรรพสิ่งพลันลิงโลดขึ้นมาทันที

ได้ยินเสียงหงส์ร้องอิ๊ววขึ้นมาเสียงหนึ่ง หงส์ร่อนสภา บินโฉบเข้าโจมตีปราชญ์กระบี่

สิ่งนี้หาใช่เพียงหงส์ที่จำแลงแปลงกายขึ้นมาง่ายๆ เท่านั้น หงส์ที่บินออกไปตัวนี้มีเพลิงหงส์ที่น่ากลัวที่สุดอยู่ในครอบครอง แม้จะเป็นเพียงสะเก็ดไฟเล็กน้อยก็สามารถหลอมละลายกฎเกณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้นในพริบตาเดียว รวมทั้งกฎเกณฑ์ของปฐมบรรพบุรุษ

หงส์ร่อนนภา ท่ามกลางเสียงแค่วกกกเสียงหนึ่ง ขอเพียงมันโบกสะบัดปีกของมันเบาๆ ก็สามารถเผาผลาญผลกรรมได้ทันที และในพริบตาเดียวนั่นเอง หงส์ได้อาศัยความเร็วที่ปราศจากผู้เทียบเทียมพุ่งเข้าหาปราชญ์กระบี่

ขณะหงส์บุกโจมตีเข้ามา เมื่อใดที่ถูกมันโจมตีเข้าให้ อย่าว่าแต่ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนอื่นๆ เลย ต่อให้เป็นปฐมบรรพบุรุษที่น่ากลัวอย่างปราชญ์กระบี่ ก็จะถูกเผาไหม้จนกลายเป็นเถ้าธุลีในทันที ต่อให้ถูกเฉี่ยวเพียงเบาๆ ก็ทำให้ร่างกายถูกเผาไหม้ไปได้

ด้วยเพลิงหงส์ลักษณะเช่นนี้หาใช่ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนสามารถรองรับได้อยู่แล้ว แม้แต่ระดับปฐมบรรพบุรุษก็ไม่สามารถรองรับได้

เสียงกระบี่คำรามดังตึงขึ้นมาเสียงหนึ่ง จังหวะที่หงส์บุกโจมตีเข้ามาในพริบตาเดียวนั่นเอง หนึ่งกระบี่ของปราชญ์กระบี่โจมตีฟ้า ทันใดนั้นเอง ประกายกระบี่เจิดจ้า ประกายกระบี่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่รวมตัวกันในพริบตา และกลับกลายเป็นประกายกระบี่ที่คล้ายเข็มเงินสายหนึ่ง อาศัยความเร็วที่สุดยอดปราศจากผู้เทียบเทียมรับมือกับหงส์ที่โจมตีเข้ามา

พริบตาเดียวกันกับจังหวะที่ปราชญ์กระบี่ลงมือรับการโจมตี บรรพบุรุษดาบไคเทียนก็ลงมือเช่นกัน เขาคำรามเสียงยาวคำหนึ่ง ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงที่ดังขึ้น แค่เพียงเขายกดาบขึ้นมาก็ก่อเกิดเป็นคลื่นดาบที่สูงนับล้านล้านจ้าง คลื่นดาบเป็นลูกๆ พลันซัดลงมาทันที

“ดาบพันเล่ม…” คลื่นกระบี่มาเป็นระลอก ทุกๆ ดาบล้วนนำมาซึ่งความขมุกขมัวที่ดั่งคลื่นยักษ์ เนื่องจากทุกๆ ดาบที่ฟาดฟันลงมานั้น ล้วนผ่าฟ้าดินออกมาทั้งสิ้น ฟันช่องว่าง กาลเวลากลับสู่จุดเริ่มต้น หนึ่งดาบฟาดฟันกลับไปยังความขมุกขมัว เสมือนดั่งแรกเริ่มฟ้าดินอย่างนั้น

ทุกๆ ดาบที่ฟาดฟันลงมาสามารถสังหารราชันแท้จริงผู้หนึ่งได้อย่างง่ายดาย คลื่นดาบที่สูงล้านล้านจ้างที่ลงมาเป็นระลอก ไหนเลยแค่เพียงทำลายระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสักแห่งจนพังพินาศย่อยยับเท่านั้น มันกระทั่งสามารถทำให้โลกทั้งโลกถูกแบ่งออกเป็นเศษชิ้นส่วนนับไม่ถ้วน!

ปฐมบรรพบุรุษอัคคีเพ่งสายออกไป เมื่อเผชิญกับกระบวนท่า ‘ดาบพันเล่ม’ ของบรรพบุรุษดาบไคเทียน หักข้อมือ กำหมัด หมัดยกขึ้นเล็กน้อย ได้ยินเสียงกรรจที่เป็นเสียงคำรามของมังกรดังขึ้น

หนึ่งหมัดที่สำแดงขึ้นมาก็คือมังกรยักษ์ไฟสมาธิที่กระโจนขึ้นไป ได้ยินเสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่งก็ทำลายท้องฟ้าในฉับพลัน ขณะที่ได้ยินเสียงปังดังขึ้นมานั้น หางมังกรก็ได้ฟาดงวงเข้ามา

มังกรฟาดหาง ขณะที่หางมังกรฟาดงวงเข้ามานั้น ได้กวาดหมื่นยุคจนราบเรียบ กวาดผลกรรมจนราบเป็นหน้ากลอง ลบเลือนวัฏสงสาร ภายใต้การฟาดหางในครั้งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกพลันถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น ไม่ว่าจะเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษที่แข็งแกร่ง หรือหลักกฎเกณฑ์ฟ้าดินก็ตาม ล้วนแล้วแต่ถูกกวาดเรียบเป็นหน้ากลอง

เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหวสะเทือนฟ้าดิน ในพริบตาเดียวนั่นเอง หนึ่งกระบี่ของปราชญ์กระบี่ได้ฟันถูกตัวของหงส์ ขณะที่หนึ่งดาบของบรรพบุรุษดาบไคเทียนก็ฟันเข้าให้ที่หางมังกรยักษ์ไฟสมาธิอย่างแรง

ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหว พลังระเบิดที่รุนแรงปราศจากผู้เทียบเทียมพลันจัดการระเบิดฟ้าดินกลับไปยังจุดเริ่มต้น ทั่วฟ้าดินพลันกลายเป็นความขมุกขมัว ไม่ว่าจะเป็นช่องว่าง กาลเวลา ท้องฟ้า ปฐพีล้วนแล้วแต่ถูกยิงถล่มจนกลายเป็นความขมุกขมัว เสมือนดั่งเป็นวันสิ้นโลกอย่างนั้น

ท่ามกลางความขมุกขมัวสามารถมองเห็นบรรพบุรุษดาบไคเทียนกับปราชญ์กระบี่ทั้งสองหงายหลังกระเด็นออกไป ท่ามกลางเสียงระเบิดดังตูม พวกเขาทั้งสองล้วนถูกกระแทกจนกระเด็นออกไป

ขณะที่ความขมุกขมัวตกลงพื้น สามารถมองเห็นบรรพบุรุษดาบไคเทียนและปราชญ์กระบี่ทั้งสองคนบนตัวเต็มไปด้วยรอยเลือด พลันที่มองเห็นก็รู้ได้ว่าภายใต้การโจมตีพวกเขาได้พ่ายแพ้ให้กับปฐมบรรพบุรุษอัคคีเสียแล้ว

แม้ว่าบรรพบุรุษดาบไคเทียนและปราชญ์กระบี่ล้วนเป็นคนที่ตายไปแล้ว ภายในศพของพวกเขายังคงมีเลือดวัฒนะหลงเหลืออยู่ และด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ร่างกายของพวกเขาสามารถยืนหยัดมาได้จนถึงทุกวันนี้

พวกราชันแท้จริงเซิ่นซวงต่างรู้สึกสะท้านภายในใจขณะมองดูบรรพบุรุษดาบไคเทียนและปราชญ์กระบี่ที่พ่ายแพ้ภายในหนึ่งกระบวนท่า พวกเขาต่างก็รุ้ว่า ศึกระหว่างปฐมบรรพบุรุษมักจะชี้ขาดแพ้ชะภายในสามถึงห้ากระบวนท่าเสมอ แต่ละกระบวนท่าของพวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นกระบวนท่าสังหารที่อยู่ในขั้นสูงสุดทั้งสิ้น ไม่มีกระบวนท่าที่ดูดีแต่ใช้การไม่ได้จริง

แต่ว่า ปราชญ์กระบี่ร่วมมือกับบรรพบุรุษดาบไคเทียนยังคงสู้ปฐมบรรพบุรุษอัคคีไม่ได้ ทำให้ภายในใจของราชันแท้จริงเซิ่นซวงพวกเขาต้องหวั่นไหวทีหนึ่ง

การที่ปฐมบรรพบุรุษอัคคีได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสิบสุดยอดปฐมบรรพบุรุษ ความแข็งแกร่งของเขาใช่จะไร้เหตุผล จะอย่างไรเสียแดนสามเซียนได้ให้กำเนิดระดับปฐมบรรพบุรุษจำนวนไม่น้อยในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา ขณะที่ปฐมบรรพบุรุษอัคคีสามารถรั้งอยู่ในสิบอันดับแรก ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าปฐมบรรพบุรุษอัคคีในครั้งนั้นมีความแข็งแกร่งเพียงใดแล้ว

“เผาเซียน…” จังหวะที่ปราชญ์กระบี่และบรรพบุรุษดาบไคเทียนทั้งสองคนถูกกระแทกจนกระเด็นลอยออกไปนั้น ดวงตาทั้งสองของปฐมบรรพบุรุษอัคคีพลันลุกวาว เสมือนดั่งดวงดาวมารวมตัวกันอย่างนั้น

ในพริบตาเดียวนั้นเอง ได้ยินเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหว ทั่วร่างของปฐมบรรพบุรุษอัคคีปรากฎเปลวเพลิงที่โหมลุกไหม้รุนแรงขึ้นมา แต่ว่า นาทีต่อมาเปลวเพลิงรุนแรงบนตัวของปฐมบรรพบุรุษอัคคีพลันตกลง ไฟสมาธิที่สามารถเผาผลาญเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินพลันหดตัวลง และหายไปในพริบตาเดียว

ร่างกายของปฐมบรรพบุรุษอัคคีพลันมืดลงในพริบตาเดียว และขณะที่ร่างกายของเขามืดลงนั้น โลกทั้งโลกก็พลันมืดลงเช่นกัน

ฉับพลันจังหวะที่มืดลงนั้น เหมือนว่าเชื้อไฟทั้งหมด แสงสว่างในโลกทั้งหมดล้วนถูกปฐมบรรพบุรุษอัคคีกลืนกินไปโดยพลันอย่างนั้น ทำให้โลกทั้งโลกสูญสิ้นแสงสว่างไปทันที

พริบตาเดียวนั่นเอง ปรากฏสะเก็ดไฟสองลูกถูกดีดออกมาจากระหว่างนิ้วของปฐมบรรพบุรุษอัคคี

ถูกต้อง มันเป็นเพียงสะเก็ดไฟสองลูกที่ดีดออกมาจากระหว่างนิ้วของปฐมบรรพบุรุษอัคคี ทั้งยังเป็นสะเก็ดไฟที่เล็กมากอย่างยิ่ง

แต่ว่า เมื่อสะเก็ดไฟสองลูกถูกดีดออกมานั้น โลกทั้งโลกเสมือนดั่งเดือดพล่านขึ้นมาทันที เหมือนโลกทั้งโลกพลันถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าธุลีทันที แม้แต้พวกของราชันแท้จริงเซิ่นซวงก็รู้สึกว่าสัจธรรมของตนพลันถูกเผาจนแห้งเหือดไปแล้ว

นี่คือสะเก็ดไฟที่น่าสยองขวัญอย่างยิ่ง ขณะที่มันถูกดีดออกไปเบาๆ นั้น เสมือนดั่งเป็นมอดอย่างนั้น ทิ้งร่องรอยเล็กๆ ที่รุนแรงไว้กับกาลเวลา มันคือกาลเวลาส่วนหนึ่งที่ถูกเผาไหม้ไป และจะไม่สามารถฟื้นคืนสภาพเป็นปรกติได้ตลอดไป มันจะกลายเป็นส่วนที่ขาดแหว่งไปตลอดกาล

ปราชญ์กระบี่และบรรพบุรุษดาบไคเทียนต่างเสมือนดั่งพบกับศัตรูที่แข็งแกร่งเมื่อต้องเผชิญกับสะเก็ดระเบิดเช่นนี้

ปราชญ์กระบี่คำรามเสียงยาว กระบี่ยาวในมือพุ่งขึ้น เพียงพริบตาเดียวร่องรอย…ทางของกระบี่…ดุจดั่งน้ำตกที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ตัดขาดเก้าชั้นฟ้าสินแดนดินในทันที ตัดขาดอดีต ตัดขาดอนาคต ยิ่งกว่านั้นยังตัดขาดปัจจุบัน

ภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ ปราชญ์กระบี่ได้หลุดพ้นไปจากโลกใบนี้ ตัวเขาไม่อยู่ในปัจจุบัน ไม่อยู่ในอดีต และไม่อยู่ในอนาคต ตัวเขาอยู่เป็นเอกเทศนอกผลกรรม หลุดพ้นจากทุกสิ่งทุกอย่าง

กล่าวได้ว่า ปราชญ์กระบี่ได้ก้าวถึงระดับสูงสุดแล้วในพริบตาเดียวนั่นเอง

………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด