Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3087 กระบี่ปราชญ์นิรนาม

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3087 กระบี่ปราชญ์นิรนาม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3087 กระบี่ปราชญ์นิรนาม

“ไม่จำเป็นต้องกล่าวมากความ” ปฐมบรรพบุรุษเสินเยว่มีท่าทีเย็นชาและกล่าวน่าเกรงขามว่า “มาวันนี้ พวกเราจะชำราะล้างคนทรยศให้กับแดนสามเซียน!”

“ก็ดี” ปฐมบรรพบุรุษอัคคีก็ไม่แสดงอาการโกรธ พยักหน้าและกล่าวว่า “หากท่านทั้งหลายสามารถสังหารข้าได้ ก็จะจัดการจิตที่ยึดติดของข้าให้จบสิ้น จะได้ไม่ต้องยึดติดอยู่กับการวนเวียนเสียเวลาโดยไร้ประโยชน์ไม่มีสิ้นสุด ท่านทั้งหลาย มาวันนี้ก็จัดการจิตที่ยึดติดของข้าให้จบสิ้นก็แล้วกัน จะแพ้หรือชนะล้วนไม่มีปัญหา อย่างน้อยก็ดีว่าคนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิงมากกว่า”

เวลานี้ ปราชญ์กระบี่ บรรพบุรุษดาบไคเทียน และปฐมบรรพบุรุษเสินเยว่พวกเขาทั้งสามคนต่างจ้องมองตากันและกัน พวกเขาทั้งสามคนต่างยึดกันคนละมุม และเขยิบเข้าไปใกล้ปฐมบรรพบุรุษอัคคีมากขึ้น

พวกเขาทั้งสามคนจะต้องร่วมมือกัน มีเพียงทำเช่นนี้เท่านั้นจึงจะสยบปฐมบรรพบุรุษอัคคีได้ หากสู้กันตัวต่อตัว ในบรรดาพวกเขาคนใดคนหนึ่งล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปฐมบรรพบุรุษอัคคี

เมื่อศึกใหญ่กำลังจะระเบิดขึ้น พวกของราชันแท้จริงหวงจุนพวกเขาต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ การต่อสู่ของปฐมบรรพบุรุษทั้งสี่ แม้ว่าจะไม่สามารถฟื้นคืนการต่อสู้ขั้นสูงสุดในครั้งนั้นได้ แต่ว่า ยังคงสะเทือนเลื่อนลั่นเหมือนเดิม ยังคงสร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนอะไรอย่างนั้น

โดยเฉพาะกับปฐมบรรพบุรุษอัคคีต่อสู้กับปฐมบรรพบุรุษสามคนโดยลำพังคนเดียว กำลังความสามารถลักษณะเช่นนี้ก็นับว่าสร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนได้จริงๆ มิน่าเล่าปฐมบรรพบุรุษอัคคีจึงได้ถูกจัดให้เข้าไปอยู่ในหนึ่งในสิบสุดยอดปฐมบรรพบุรุษ

เสียงกระบี่คำรณดังตึง…ขึ้นมาเสียงหนึ่ง เวลานี้กระบี่ยาวของปราชญ์กระบี่ส่งเสียงคำรณขึ้นเองโดยไม่ได้ขยับ และปล่อยปณิธานกระบี่ออกมา

นาทีนี้ปณิธานกระบี่ของปราชญ์กระบี่ยังคงไม่ใช่พลังยิ่งใหญ่ไพศาลที่เหนือผู้คนแบบนั้น ปณิธานกระบี่ที่ถูกปล่อยออกมานั้นมีความเก็บงำยิ่งนัก แต่ว่า ขณะที่ปณิธานกระบี่ลักษณะเช่นนี้ถูกปล่อยออกได้ในพริบตาเดียว เกรงว่าแม้สิ่งนี้จะเป็นเพียงปณิธานกระบี่สายหนึ่งเท่านั้น ก็ได้แทงทะลุวัฏสงสารของโลกและตรึงผลกรรมเอาไว้ตรงนั้น

ตึง…เสียงดาบคำรณดังไม่ขาดสาย เทียบกับปณิธานกระบี่ที่เก็บงำของปราชญ์กระบี่แล้ว ปณิธานดาบของบรรพบุรุษดาบไคเทียนดูจะดุดันยิ่งใหญ่ไพศาลกว่า ในพริบตาเดียวนั่นเอง ปณิธานดาบของบรรพบุรุษดาบไคเทียนดุจดั่งน้ำหลากสัตว์ร้ายอย่างนั้น พริบตาเดียวกับปณิธานดาบที่ดั่งคลื่นยักษ์เข้ามาปะทะใบหน้านั้น จัดการกลืนกินโลกทั้งโลกเข้าไป จัดการฟาดฟันจนโลกทั้งโลกแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดีในพริบตาเดียว

แม้ว่าเวลานี้บรรพบุรุษดาบไคเทียนเพียงแค่กำดาบอยู่ในมือเฉยๆ เท่านั้น ยังไม่ทันได้ลงมือ แต่ว่า ปณิธานดาบที่ยิ่งใหญ่ไพศาลได้พุ่งเข้าปะทะโดยตรง มันเสมือนดั่งเข้าสังหารทุกสิ่งทุกอย่างในพริบตา ภายใต้ปณิธานดาบ สังหารสิ้นจนนรกอสูรนับล้านล้านราบเป็นหน้ากลอง

เสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในพริบตาเดียวนั่นเอง พระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์เต็มดวงที่ห้อยอยู่บนศีรษะของปฐมบรรพบุรุษเสินเยว่ได้ส่งประกายขึ้นมาอีกครั้ง

พระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์เต็มดวงที่ห้อยอยู่สูงขึ้นไปเหนือศีรษะของปฐมบรรพบุรุษเสินเยว่นั้น ดูไปแล้วพระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์เต็มดวงดวงนี้ก็คล้ายเป็นพระจันทร์เต็มดวงที่อยู่ท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างนั้น ช่างส่องแสงสุกสกาว ช่างเต็มดวงโดยไม่มีการขาดแหว่งไปอะไรอย่างนั้น พระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์เต็มดวงลักษณะเช่นนี้ เหมือนเป็นตัวแทนของสัจธรรมสูงสุดขั้นสมบูรณ์ โดยที่พระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์สมบูรณ์แบบจนถึงขั้นไร้ที่ติ

เมื่อพระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์เต็มดวงลักษณะเช่นนี้เริ่มสว่างขึ้นมา เหมือนสาดส่องเหล่าชั้นฟ้าสรรพเหตุการณ์ เหมือนว่าทุกสิ่งของเหล่าชั้นฟ้าล้วนเข้าไปอยู่ในนั้น ณ ที่ตรงนั้นมีโลกทั้งโลกที่ลอยล่อง มีเหล่าเทพที่เกิดและดับ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีวัฏสงสารของผลกรรม หมื่นวิถีสลับสับเปลี่ยน

เหมือนว่าพระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์เต็มดวงลักษณะเช่นนี้มันก็คือทุกสิ่งทุกอย่าง มันกระทั่งนำเอาโลกทั้งโลกเข้าไปอยู่ในนั้น ดำเนินการสลับสับเปลี่ยนครั้งแล้วครั้งเล่า วัฏสงสารครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่ เมื่อไปดูให้ละเอียดอีกครั้งก็จะพบอีกว่า ท่ามกลางพระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นเหล่าชั้นฟ้าสรรพเหตุการณ์ยังคงเป็นวัฏสงสารของผลกรรม และหรือเทพที่เกิดและดับ ล้วนเสมือนดั่งหยุดลงอย่างนั้น

เหมือนว่าทุกสิ่งเพียงแค่ถูกผนึกอยู่ท่ามกลางพระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์ ทุกอย่างล้วนหยุดอยู่ตรงนั้น และไม่มีสิ่งใดจะมาสลับสับเปลี่ยนอยู่แล้ว ไม่มีอะไรจะมาวัฏสงสาร

เสียงตูมดังสนั่นขึ้น ในเวลานี้ไฟชั่วร้ายบนตัวของปฐมบรรพบุรุษอัคคีได้สว่างไสวขึ้นอีกครั้ง เมื่อไฟชั่วร้ายได้สว่างไสวขึ้นอีกครั้งนั้น เมื่อเปรียบกับเมื่อครู่แล้วดูจะสว่างไสวขึ้นไม่น้อยทีเดียว

ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า ปฐมบรรพบุรุษอัคคีได้ฟื้นฟูพลังขึ้นมาไม่น้อย หนึ่งกระบวนท่า ‘เผาเซียน’ เมื่อครู่ได้ทำให้เขาต้องสูญเสียพลังไฟชั่วร้ายไปเป็นจำนวนมาก แต่ว่า จากการเดินลมปราณภายในระยะเวลาอันสั้น ทำให้พลังไฟชั่วร้ายได้ฟื้นฟูกลับมาเจ็ดแปดส่วนแล้ว

“ข้าล่วงเกินแล้ว ทุกท่านโปรดให้อภัย” เวลานี้ปฐมบรรพบุรุษอัคคีแฝงรอยยิ้มบนใบหน้า และมีไฟชั่วร้ายรุนแรง แม้ว่าต่างฝ่ายต้องการเข่นฆ่าชนิดไม่เจ้าตายก็คือข้าม้วย แม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่าปฐมบรรพบุรุษอัคคีนั้นได้เสียทีให้กับฝ่ายตรงข้าม และตกต่ำสู่ความชั่วร้ายไปแล้ว

แต่ทว่า การแสดงออกทางท่าทางและวาจาของปฐมบรรพบุรุษอัคคีในเวลานี้กลับดูจะไม่สะทกสะท้าน และเปิดเผยตรงไปตรงมาอะไรอย่างนั้น ภาพรวมเปี่ยมด้วยบุคลิกลักษณะของวิญญูชน ด้วยบุคลิกลักษณะเช่นนี้นับว่าทำให้ผู้คนยากที่จะอาศัยปากกาและหมึกไปเปรียบเปรย

ลองนึกภาพดู หากเป็นปฐมบรรพบุรุษอัคคีขณะมีชีวิตก่อนเดินทางปราบปรามไกลยังทะเลปุ๊ตู้ไห่นั้น ช่างเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษที่ยอดเยี่ยมเพียงใด คือปฐมบรรพบุรุษที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์อะไรอย่างนั้น

สามารถจินตนาการได้อย่างสิ้นเชิงถึงบุคลิกลักษณะอันมีเสน่ห์ของปฐมบรรพบุรุษอัคคีในครั้งนั้น มิน่าเล่าที่เขาเดินทางปราบปรามไกลยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ในครั้งนั้นจึงมีราชันแท้จริง คงความอมตะตลอดกาล และระดับปฐมบรรพบุรุษอุดมการณ์เดียวกันจำนวนมากร่วมเดินทางกับเขา ปราบปรามไกลยังทะเลปุ๊ตู้ไห่เพื่อเขา

เสียงตูม…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในพริบตาเดียวนั่นเอง ปฐมบรรพบุรุษอัคคียื่นฝ่ามือออกไป ฝ่ามือของเขาพลันปรากฏไฟชั่วร้ายปะทุขึ้นมา พริบตาเดียวนั่นเองเหมือนได้ยินเสียงตึงดังขึ้นเสียงหนึ่ง พลันที่ฝ่ามือของเขายื่นออกไปนั้น ถึงกับกลายเป็นกรงเล็บของหงส์ และฝ่ามือดังกล่าวมีไฟชั่วร้ายวูบวาบ

ขณะที่กรงเล็บหงส์ที่พกพาเอาเปลวไฟมาด้วยกางออก ปรากฏเหมือนเสียงของโลหะที่กระทบกันดังขึ้น เสียงใสกังวานนั้นดูเหมือนจะมีความคมกริบปราศจากผู้เทียบเทียม

ในพริบตาเดียวนี้เอง กรงเล็บของหงส์ได้ยื่นเข้าหาปราชญ์กระบี่ โดยวมุ่งไปที่หัวใจของปราชญ์กระบี่ ต้องการควักเอาหัวใจของปราชญ์กระบี่ออกมา และถึงแก่ชีวิตในการจิกครั้งเดียว

แค่กรงเล็บหงส์หนึ่งกระบวนท่าที่ยื่นเข้าไปตรงๆ เท่านั้น ปราศจากช่วงห่างใดๆ ของช่องว่าง ไม่เกี่ยวกับเรื่องของความเร็ว ขณะที่กรงเล็บหงส์ยื่นไปนั้น แม้เพียงแค่เริ่มลงมือ แต่กรงเล็บหงส์ก็ปรากฎอยู่ตรงหน้าบริเวณอกของปราชญ์กระบี่แล้ว

แค่คิดเท่านั้นเองก็สามารถควักเอาหัวใจของปราชญ์กระบี่ได้แล้ว

กรงเล็บของหงส์แหลมคมปราศจากผู้เทียบเทียม ภายใต้กรงเล็บปราศจากสิ่งใดต้านทาน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องของความเร็ว และช่องว่าง ด้วยหนึ่งกรงเล็บที่คว้ามานั้นไม่สามารถหลบหลีกได้อยู่แล้ว

หนึ่งกรงเล็บที่คว้าลงมานั้น ต่อให้เป็นปราชญ์กระบี่ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ยังคงต้านรับกรงเล็บหงส์ลักษณะเช่นนี้เอาไว้ไม่ได้ มีเพียงถูกควักเอาหัวใจออกมาเท่านั้น ยิ่งไม่สามารถหลบหลีกหนึ่งกรงเล็บของหงส์เช่นนี้

ด้วยกรงเล็บหงส์ลักษณะเช่นนี้ที่คว้าเข้ามา ไม่ว่าหนึ่งกระบี่ของปราชญ์กระบี่จะทำลายเช่นใด หัวใจของเขาก็จะต้องถูกควักออกมาจนได้

หนึ่งกรงเล็บที่ยื่นเข้ามา ทำให้พวกของราชันแท้จริงหวงจุนต่างรู้สึกว่าหัวใจของตนเจ็บแปลบ พริบตาเดียวนั่นเอง พวกเขาต่างรู้สึกว่าหัวใจของตนนั้นได้ถูกควักออกไป เลือดไหลหยดเป็นทาง ไม่สามารถต้านเอาไว้ได้อยู่แล้ว

ภายใต้กรงเล็บของหงส์ลักษณะเช่นนี้ที่ยื่นเข้ามาฉับพลัน พวกของราชันแท้จริงหวงจุนสามารถรับรู้ได้โดยตรงว่า ตนเองนั้นเสมือนหนึ่งเป็นเนื้อที่อยู่บนเขียง ไม่ว่าจะมีกำลังความสามารถที่แข็งแกร่งปานใด ไม่ว่าจะมีของวิเศษที่ยอดเยี่ยมเช่นใด และหรือมีเคล็ดวิชาที่สุดยอดในหล่าอย่างใดก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ภายใต้กรงเล็บหงส์เช่นนี้ทุกสิ่งล้วนไร้ประโยชน์ ขอเพียงกรงเล็บหงส์ของปฐมบรรพบุรุษอัคคียื่นเข้ามา หัวใจของเจ้าต้องถูกควักออกมาอย่างแน่นอน ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ยกเว้น ไม่ว่าผู้ใดก็ทำลายกรงเล็บหงส์เช่นนี้ได้

เสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง จังหวะที่กรงเล็บหงส์กำลังจะควักเอาหัวใจของปราชญ์กระบี่ออกมา กรงเล็บหงส์ได้จิกผ่านผิวหนังของปราชญ์กระบี่แล้ว แต่ ในพริบตาเดียวนั่นเอง ประกายแสงพลังครอบคลุมปฐมบรรพบุรุษอัคคีเอาไว้แล้ว

ประกายแสงที่ครอบคลุมปฐมบรรพบุรุษอัคคีเอาไว้นั้นเป็นแสงที่แผ่กระจายออกมาจากพระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เหนือศีรษะของปฐมบรรพบุรุษพระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์ เวลานี้ประกายที่แผ่กระจายออกมาจากพระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์นั้นช่างพราวพร่างอะไรอย่างนั้น ประกายทุกๆ สายเสมือนดั่งเป็นเสาน้ำอย่างนั้น ประกายแสงแต่ละสายล้วนส่งประกายแวบวับในตัวของมันเอง คล้ายเป็นเพชรที่ส่งประกายแวบวับเป็นที่ละลานตาอย่างยิ่ง

เมื่อประกายแสงลักษณะเช่นนี้สาดส่องลงมา พลันปิดกั้นกาลเวลาเอาไว้ทันที ทุกสิ่งล้วนกลับกลายเป็นยืดยาวไร้ขอบเขตจำกัด ทุกสิ่งล้วนถูกขยายออไปอย่างไร้ขีดจำกัดภายในรัศมีที่ประกายแสงนี้ได้ครอบคลุมเอาไว้

ท่ามกลางประกายแสงนี้ แม้จะเป็นหนึ่งในสิบล้านส่วนก็จะถูกขยายออกไปอย่างไร้ขีดจำกัด ในพริบตาเดียวของหนึ่งในสิบล้านส่วนก็ยืดยาวมากกว่าสิบล้านปีเสียอีก

ขณะที่กรงเล็บของหงส์ได้สัมผัสกับบริเวณอกของปราชญ์กระบี่แล้ว แต่ว่า ภายใต้ขอบเขตที่สัมผัสนี้ก็พลันถูกขยายออกไร้ขอบเขตจำกัด แม้จะเป็นเพียงหนึ่งในสิบล้านส่วนก็ตาม ภายใต้การขยายอย่างไร้ขอบเขตจำกัด ก็เหมือนห่างไกลกันเป็นล้านล้านช่องว่าง

ภายใต้ช่องว่างและกาลเวลาที่ยาวไกลเช่นนี้ ต่อให้เป็นปฐมบรรพบุรุษอัคคีที่แข็งแกร่งเช่นนี้ก็ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ภายในระยะเวลาอันสั้น และไม่สามารถทำลายมันได้

“สรรพสิ่งในพริบตา…” นางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานฮุ่ยชิงเสวียนก็รู้สึกหวั่นไหว เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว

สรรพสิ่งในพริบตาคือเคล็ดวิชาที่ไม่มีการถ่ายทอดของปฐมบรรพบุรุษเสินเยว่ และคือเคล็ดวิชาสังหารเด็ดขาดที่ยอดเยี่ยมที่สุดของปฐมบรรพบุรุษเสินเยว่

ปฐมบรรพบุรุษเสินเยว่และปฐมบรรพบุรุษอัคคีได้ร่วมเดินทางปราบปรามไกลยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ด้วยกัน เขาเคยอยู่กับปฐมบรรพบุรุษอัคคีมาไม่น้อย จึงมีความเข้าใจใจกำลังความสามารถของปฐมบรรพบุรุษอัคคีอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น ทันใดที่ม่การลงมือก็ได้สำแดงกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของตน ‘สรรพสิ่งในพริบตา’!

ทว่า ขณะที่ปฐมบรรพบุรุษเสินเยว่สำแดงท่าไม้ตายของตนขึ้นมานั้น เขาก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนที่สูงมาก

พริบตาเดียวที่เขาสำแดงเคล็ดวิชาสังหารเด็ดขาด ‘สรรพสิ่งในพริบตา’ ขึ้นมา ผมของเขาพลันกลายเป็นสีขาวไปมากทีเดียว และผิวหนังของเขาพลันแห้งและปรากฏเป็นรอยเหี่ยวย่น

แม้ว่าปฐมบรรพบุรุษเสินเยว่จะเป็นเพียงศพๆ หนึ่ง และจิตยึดติดที่ไม่เสื่อมสลาย แต่ว่า การที่เขายังคงแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ นั่นเป็นเพราะภายในร่างกายของเขายังคงเก็บรักษาเลือดวัฒนะปฐมบรรพบุรุษไว้ส่วนหนึ่ง

เพื่อสำแดง ‘สรรพสิ่งในพริบตา’ ที่เป็นกระบวนท่าสังหารเด็ดขาดให้มีอานุภาพสูงสุด ปฐมบรรพบุรุษเสินเยว่ถึงกับสิ้นเปลืองเลือดวัฒนะของตนอย่างไม่สายดาย

สมควรทราบว่า พวกเขาที่อยู่ในสภาพของซากศพเช่นนี้ไม่สามารถให้กำเนิดเลือดวัฒนะได้อีกแล้ว เมื่อใดที่ถูกใช้จนหมด ศพของพวกเขาก็ต้องตายไปอย่างสิ้นเชิง

ดังนั้น เมื่อปฐมบรรพบุรุษเสินเยว่สิ้นเปลืองเลือดวัฒนะของตนอยู่นั้น ร่างกายของเขาก็ได้แห้งลงอย่างรวดเร็ว

“กระบี่ปราชญ์นิรนาม…” พริบตาเดียวที่ปฐมบรรพบุรุษอัคคียื่นเล็บหงส์ของตนออกมานั้น ปราชญ์กระบี่ก็ได้ลงมือแล้วเช่นกัน กระบี่ที่ยกขึ้น ร่องรอยวิถีกรบี่ที่คงอยู่อันเกิดจากการร่ายรำกระบี่กวักแกว่ง หนึ่งกระบี่ที่ไร้ชื่อ

ได้ยินเสียงปุ…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง หนึ่งกระบี่ของปราชญ์กระบี่ได้แทงทลุทุกสิ่งทุกอย่างในหล้าในพริบตาเดียว ไม่ว่าจะห่างไกลกันด้วยช่องว่างที่ไกลโพ้นเช่นใด ไม่ว่าจะห่างไกลด้วยกาลเวลาเท่าใด หนึ่งกระบี่ที่แทงโจมตีออกไป ต้องแทงทะลุทุกสิ่งทุกอย่างแน่นอน

ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีชีวิตอยู่หลังจากพันล้านปีไปแล้ว หรือว่ายืนอยู่ด้านนอกแดนสามเซียนที่ห่างไกลไร้ขอบเขต ขอเพียงถูกหนึ่งกระบี่ของปราชญ์กระบี่ล็อกเป้าเอาไว้แล้ว มันต้องทะลุผ่านร่างกายของผู้นั้นในพริบตาเดียวแน่นอน

หนึ่งกระบี่ที่โจมตีออกไปไร้เงาไร้รูป จึงไม่สามารถหลบหลีกได้อยู่แล้ว นั่นคือการแทงทะลุทุกสิ่งทุกอย่างในพริบตาเดียวนั่นเอง

หนึ่งกระบี่ที่โจมตีออกมาพริบตาเดียวในลักษณะเช่นนี้ พวกของราชันแท้จริงหวงจุนล้วนบังเกิดมโนภาพอย่างหนึ่งขึ้นมา หนึ่งกระบี่ที่โจมตีออกมานั้นคือแทงทะลุแดนสามเซียนทั้งหมดในทันที พลันจัดการตรึงแดนสามเซียนเอาไว้ในนาทีนี้ ภาพเช่นนี้เรียกได้ว่าอลังการอย่างยิ่ง และสร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คนยิ่งนัก

………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด