Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3093 ที่พึ่งพิงสุดท้ายของปฐมบรรพบุรุษอัคคี

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3093 ที่พึ่งพิงสุดท้ายของปฐมบรรพบุรุษอัคคี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3093 ที่พึ่งพิงสุดท้ายของปฐมบรรพบุรุษอัคคี

ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น เห็นเพียงโซ่เหล็กที่รัดปฐมบรรพบุรุษอัคคีไว้แน่นหนา และปลายทั้งสองข้างที่พันธนาการตรึงเอาไว้กับบันไดก็ตรึงเอาไว้เสียแน่นมาก

แม้ปฐมบรรพบุรุษอัคคีในเวลานี้คิดจะดิ้นรน แต่ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้ โซ่เหล็กเส้นนี้เหมือนถูกสร้างขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อตัวเขาอย่างนั้น ทำการพันธนาการตัวเขาจนถูกล็อกตายอยู่ตรงนั้นอย่างสิ้นเชิง ทำการบีบรัดตัวเขาเอาไว้อย่างแน่นหนา ไม่สามารถดิ้นหลุดจากโซ่เหล็กนี้ได้อยู่แล้ว

พริบตาเดียวนั้นเองเสียงแว้งค์เสียงหนึ่งได้ดังขึ้น วิหารโบราณถึงกับปรากฏประกายขึ้นมาโดยพลัน ประกายแต่ละสายได้พวยพุ่งออกมาจากวิหารโบราณ ส่องประกายจนท้องฟ้าสว่างไสว ในพริบตาเดียวนั้นเอง วิหารโบราณทั้งหลังก็เหมือนหนึ่งเป็นวิหารศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์กาลอย่างนั้น

ขณะที่ประกายพวยพุ่งและมีเสียงแว้งค์ที่ดังขึ้น ท่ามกลางประกายถึงกับปรากฎร่างเงาขึ้นมาร่างหนึ่ง ร่างเงาดังกล่าวไม่ได้สูงใหญ่นัก แต่ว่า พลันที่เขาปรากฏตัวขึ้นมาก็กดทับเหล่าชั้นฟ้าจนฟังลงทันที สยบทุกสิ่งทุกอย่างที่ดำรงอยู่บนโลก

ร่างเงาดังกล่าวนั่งอยู่ที่ตรงนั้น พลันที่นั่งก็เป็นนิรันดร์ ไม่ว่ากาลเวลาจะไหลรินเคลื่อนไปกี่ศรรตวัต ไม่ว่ากาลเวลาจะชำระล้างเช่นนี้อย่างไร เขาก็จะนั่งอยู่ตรงนั้น เสมือนดั่งไม่เสื่อมสลายเป็นนิรันดร์

การดำรงอยู่ของเขาทุกสิ่งล้วนมีความเป็นไปได้ เหมือนว่าเขาคือผู้ที่นำพาความเป็นไปได้ที่ไม่มีขอบเขตจำกัดให้กับโลกทั้งโลก และเสมือนว่าเขาคือผู้ที่สรรคสร้างโลกทั้งโลก ประดุจเขาคือผู้ที่กำหนดกฎเกณฑ์ทุกสิ่งทุกอย่างของแดนสามเซียนทั้งหมด

การนั่งอยู่ตรงนั้นของเขา มีประกายแสงวูบวาบ มีความเป็นนิรันดร์ดั่งเซียน เหมือนว่าตัวเขาก็คือเซียนแท้จริงองค์หนึ่ง คือเซียนที่อยู่ในตำนาน มีเพียงเซียนเท่านั้นจึงจะไม่เสื่อมสลายเป็นนิรันดร์เช่นนี้

เมื่อร่างเงาลักษณะเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นมานั้น แม้แต่ผู้ดำรงอยู่เช่นปฐมบรรพบุรุษก็ถึงกับต้องก้มหัวลง แม้แต่ปราชญ์กระบี่ บรรพบุรุษดาบไคเทียน ปฐมบรรพบุรุษเสินเยว่พวกเขาอดไม่ได้ที่จะก้มหัวของตนลง

แม้ว่าร่างเงาสายนี้ไม่ได้สำแดงอานุภาพที่สะเทือนเลื่อนลั่น และไม่ได้ปะทุกลิ่นอายออกมาสยบคนใดคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ เขาเป็นเพียงร่างเงาสายหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงนั้นเท่านั้นเอง

แต่ว่า ด้วยร่างเงาสายนี้ที่นั่งอยู่ตรงนั้น ก็ได้ส่งผลให้พวกราชันแท้จริงเซิ่นซวงรู้สึกถึงแตกต่างกันลิบลับ ความรู้สึกเช่นนี้ก็เสมือนหนึ่งมดตัวหนึ่งที่แหงนหน้ามองดูช้างอย่างนั้น ขณะที่แหงนหน้ามองดูทำให้รู้สึกว่าตนเองช่างเล็กจิ๋ว ทำให้รู้สึกว่าตนเองไร้ค่าคู่ควรจะกล่าวถึง

ความจริงแล้ว ร่างเงานี้ที่นั่งอบยู่ตรงนั้นไม่ได้สูงใหญ่อะไร แต่กลับทำให้ผู้คนบังเกิดความเกรงกลัวโดยสัญชาตญาณ ในพริบตาเดียวนั่นเอง พวกราชันแท้จริงหวงจุนต่างเกิดมโนภาพขึ้นมาอย่างหนึ่งว่า ตนเองได้มองเห็นเซียนแล้ว เป็นเซียนแท้จริงที่อยู่ในตำนาน

มโนภาพลักษณะเช่นนี้มันช่างเหมือนจริงอะไรอย่างนั้น บางที กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วสิ่งนี้หาใช่เป็นมโนภาพแต่เป็นเรื่องจริง ที่พวกเขามองเห็นในเวลานี้ก็คือเซียน อย่างน้อยที่สุดพวกเขามองว่านี่แหละคือเซียน

มันทำให้พวกของราชันแท้จริงหวงจุนรู้สึกว่า ความรู้สึกเช่นนี้ ความทรงจำเช่นนี้ช่างลึกซึ้งอย่างยิ่ง เกรงว่าพวกเขาจะไม่สามารถลบเลือนความรู้สึกเช่นนี้ไปชั่วชีวิต

จี๊ด จี๊ด จี๊ด…ในเวลานี้ ร่างกายของปฐมบรรพบุรุษอัคคีถึงกับลุกไหม้ขึ้นมา ปรากฎอักขระยันต์แต่ละตัวที่เก่าแก่โบราณขึ้นมา โดยอักขระยันต์ที่เก่าแก่โบราณลักษณะเช่นนี้เหมือนจะออกมาจากส่วนที่ลึกที่สุดภายในร่างกายของเขา จากนั้นได้ประทับสลักลงบนกล้ามเนื้อทุกๆ ตารางนิ้ว ลงบนทุกๆ ตารางนิ้วของเส้นเอ็นอย่างรุนแรง

ภาพเช่นนี้สร้างความสะเทือนหวั่นไหวอย่างยิ่ง ภายในร่างกายของปฐมบรรพบุรุษอัคคีเต็มไปด้วยไฟชั่วร้าย เวลานี้ร่างกายของเขากลับลุกไหม้ขึ้นมา อักขระยันต์ที่ทรงพลังได้ประทับสลักภายในร่างกายของเขาอย่างรุนแรง ภาพเช่นนี้นับว่าแปลกประหลาดมากเหลือเกิน

อ๊ากก…เวลานี้ ปฐมบรรพบุรุษอัคคีถึงกับร้องออกมาอย่างน่าเวทนา

เสียงร้องน่าเวทนาของปฐมบรรพบุรุษอัคคีพลันทำให้ทุกคนถึงกับหวาดหวั่นพรั่นพรึง ลองนึกภาพดู ตัวของปฐมบรรพบุรุษอัคคีนั้นแข็งแกร่งเพียงใด กำลังแบกรับของเขานั้นเข้มแข็งเช่นใด กล่าวได้ว่าเขาเคยแบกรับความเจ็บปวดมากกว่านี้มาแล้ว ต่อให้ความเจ็บปวดมากกว่านี้ก็ยากที่จะทำให้เขาต้องร้องเสียงน่าเวทนาขึ้นมาได้

เวลานี้ปฐมบรรพบุรุษอัคคีกลัยส่งเสียงร้องน่าเวทนาขึ้นมา ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่า ความเจ็บปวดเช่นนี้มันช่างน่ากลัวอะไรอย่างนั้น

แควกก…เสียงแตกร้าวดังขึ้น ในเวลานี้เอง จากการที่มีอักขระยันต์แต่ละตัวที่ประทับสลักลงไปภายในร่างกายของปฐมบรรพบุรุษอัคคี ทำให้เนื้อหนังของเขาปรากฏเป็นรอยร้าวขึ้นมาเป็นริ้วๆ เหมือนว่าร่างกายของเขาจะมีการดิ้นจนปริร้าวออกมาอย่างนั้น

เสียงตูมดังขึ้นเสียงหนึ่ง จากการที่เปลวไฟบนตัวของปฐมบรรพบุรุษอัคคีท่วมสูงขึ้น เปลวไฟที่แผ่กระจายออกมาจากตัวของเขาเริ่มมีสีที่เปลี่ยนไป

ไฟชั่วร้ายของเขาดูเหมือนจะอ่อนลงมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้สีของเปลวไฟที่แผ่กระจายออกมาจากตัวของเขาดูจะมีความบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น

ร่างเงาที่ปรากฏท่ามกลางประกายนั้นยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ประกายบนตัวของเขาที่ตกลงบนร่างกายปฐมบรรพบุรุษอัคคีนั้น ได้เร่งความเร็วในการขับไล่พลังความมืดให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

สุดท้าย ได้ยินเสียงแค่วกกกดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในเวลานี้เองร่างกายของปฐมบรรพบุรุษอัคคีปริออก ปรากฏรอยปริแยกเป็นริ้วๆ ท่ามกลางรอยปริแยกเป็นริ้วๆ ปรากฏประกายแต่ละสายที่โผล่ขึ้นมา

ประกายแต่ละสายนี้เสมือนดั่งเป็นประกายแรกเริ่มขณะความขมุกขมัวเปิดออก ช่างมีความบริสุทธิ์ ช่างพร่างพราวอะไรอย่างนั้น เหมือนว่าประกายลักษณะเช่นนี้สาดส่องเข้ามาจากยุคสมัยที่ดึกดำบรรพ์ที่สุด

“ไม่…” เวลานี้ปฐมบรรพบุรุษอัคคีร้องเสียงแหลมและเศร้ารันทดขึ้นมา เนื่องจากหลังจากที่ประกายดังกล่าวทะลุร่างออกมาแล้วนั้น สีสันไฟชั่วร้ายบนตัวของเขาได้จางลง

เสียงตูมดังขึ้นไม่ขาดสาย แต่ว่าเปลวไฟที่ลุกไหม้บนตัวของปฐมบรรพบุรุษอัคคีหาใช่เป็นไฟชั่วร้ายอีกต่อไปแล้ว ในขณะนี้เปลวไฟบนตัวของเขาดูบริสุทธิ์อะไรอย่างนั้น เปลวไฟแฝงด้วยสีแดงทอง เหมือนหงส์ที่ถือกำเนิดใหม่หลังจากผ่านการเผาผลาญแล้วอย่างนั้น

ถูกต้อง นี่แหละคือเพลิงหงส์ เคยเป็นพลังดั้งเดิมที่สุดของปฐมบรรพบุรุษอัคคี อีกทั้งในขณะนี้เพลิงหงส์ที่กำลังลุกไหม้อยู่ภายในตัวของปฐมบรรพบุรุษอัคคีนั้นยิ่งไหม้ยิ่งรุนแรง และทรงพลังมากยิ่งขึ้น

“ถูกต้อง เป็นเขานั่นแหละ” พวกปราชญ์กระบี่ต่างพูดขึ้นเบาๆ เมื่อมองเห็นบนตัวของปฐมบรรพบุรุษอัคคีปรากฎเพลิงหงส์ที่ลุกไหม้ขึ้นมา

หลังจากที่บนตัวของปฐมบรรพบุรุษอัคคีปรากฏเพลิงหงส์ที่ลุกไหม้ขึ้นมาแล้ว พวกของปราชญ์กระบี่ก็รู้แล้วว่า ปฐมบรรพบุรุษอัคคีที่พวกเขาคุ้นเคยได้กลับมาอีกแล้ว นี่แหละจึงเป็นปฐมบรรพบุรุษอัคคีที่แท้จริง

จากการลุกไหม้ของเพลิงหงส์ที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ พลังความมืดที่อยู่บนตัวปฐมบรรพบุรุษอัคคีก็ถูกขับไล่ออกไปอย่างช้าๆ และไฟชั่วร้ายก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยตามไปด้วย สุดท้าย บนตัวของปฐมบรรพบุรุษอัคคีคงเหลือไว้เพียงเพลิงหงส์เท่านั้น

อ๊ากก…ท่ามกลางปฐมบรรพบุรุษอัคคีที่ร้องเสียงแหลมขึ้นมานั้น เพลิงหงส์ได้จุดติดและลุกไหม้บนตัวของปฐมบรรพบุรุษอัคคีโดยสิ้นเชิง ในพริบตาเดียวนั่นเอง ได้ยินเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหว มองเห็นเพลิงหงส์ที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง สั่นคลอนต่อเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน

นาทีนี้มองเห็นหงส์ตัวหนึ่งที่โผล่ขึ้นมาช้าๆ หงส์ตัวนี้ช่างแข็งแรงและทรงพลังอะไรอย่างนั้น ช่างปราศจากผู้เทียบเทียมในหล้าอะไรอย่างนั้น บนหลังของหงส์มีลวดลายเต๋าที่ปราศจากผู้เทียบเทียม ทุกๆ ลายเต๋าเสมือนดั่งกำลังวิวัฒนาการสัจธรรมสูงสุดดึกดำบรรพ์อยู่ การปรากฎตัวของหงส์ตัวนี้ดุจดั่งสืบทอดฟ้าดินหมื่นวิถี มันก็คือเคล็ดวิชาเล่มหนึ่งที่ปราศจากผู้เทียบเทียมในหล้า

พริบตาเดียวขณะที่หงส์กางปีกสองข้างปกป้องปฐมบรรพบุรุษอัคคีเอาไว้นั้น ทันใดนั้นเอง ปฐมบรรพบุรุษอัคคีที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้ต่อกรในหล้าคนนั้นก็ได้กลับมาอีกแล้ว ท่ามกลางการเหลียวหน้าแลหลังของเขามีท่วงท่าของผู้ปราศจากผู้ต่อกรในหล้า ดูจากหน้าตาของเขาแล้วเผยให้เห็นถึงท่าาทางของความมีเสน่ห์ของความเป็นผู้ปราดเปรื่องน่าทึ่งหมื่นยุค

นี่แหละคือปฐมบรรพบุรุษอัคคี ยอดคนที่ปราศจากผู้เทียบเทียมแห่งยุค นับแต่อดีตกาลเป็นต้นมา ไม่เพียงไม่กี่คนที่สามารถต่อกรกับเขาได้

“ปฐมบรรพบุรุษอัคคี…” พวกของราชันแท้จริงหวงจุนล้วนอดที่จะชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง เมื่อมองเห็นท่าทางอันมีเสน่ห์ของปฐมบรรพบุรุษอัคคี หนึ่งในสิบปฐมบรรพบุรุษใช่เป็นเพียงชื่อเสียงจอมปลอม การที่สามารถร่วมยุคสมัยกับผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นนี้ สามารถเห็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคลที่ปราดเปรื่องน่าทึ่ง นับเป็นเรื่องที่เป็นเกียรติยิ่งโดยแท้จริง

ปฐมบรรพบุรุษอัคคีนับเป็นผู้ที่มีเสน่ห์ไร้ขีดจำกัดโดยแท้จริง หาไม่แล้ว ในครั้งนั้นก็คงจะไม่มีระดับราชันแท้จริง ระดับคงความอมตะตลอดกาลจำนวนมากตอบรับการชักชวน และร่วมเดินทางไปทะเลปุ๊ตู้ไห่ด้วยกันกับเขา

น่าเสียดาย สุดท้ายแล้วเขากลับตกต่ำสู่ความมืด แต่ว่า นาทีนี้ปฐมบรรพบุรุษอัคคีได้กลับมาอีกครั้ง แม้ว่าจะไม่ใช่ปฐมบรรพบุรุษอัคคีที่แท้จริง เขายังคงมีลักษณะของความมีเสน่ห์ในครั้งนั้น มีบุคลิกที่สุดยอดในครั้งนั้น ผู้ที่เคยพบเห็นตัวเขาต่างน่าทึ่งกับสิ่งนี้

เสียงปุ ปุ ปุดังขึ้น ในเวลานี้ ร่างกายของปฐมบรรพบุรุษอัคคีเริ่มแตกร้าว จากการที่ร่างกายของเขาแตกร้าวนั้น ปรากฏอักขระโบราณแต่ละตัวที่มุดออกมาจากภายในร่างกายของเขา

อักขระโบราณแต่ละตัวเหล่านี้เปี่ยมด้วยพลังของหงส์ เหมือนว่าอักขระยันต์ทุกๆ ตัวล้วนแล้วแต่เป็นต้นกำเนิดเพลิงอย่างนั้น แค่อักขระยันต์สักตัวตกลงบนพื้นก็สามารถหลอมละลายปฐพีได้อย่างนั้น

อักขระยันต์เก่าแก่โบราณเช่นนี้เสมือนดั่งเป็นต้นกำเนิดเปลวไฟทั้งหมด พลังของมันบริสุทธิ์อย่างยิ่ง เสมือนหนึ่งเป็นหงส์แต่ละตัวที่กำลังร่ายรำอยู่ตรงนั้นอย่างนั้น

สุดท้าย ได้ยินเสียงปุดังขึ้นเสียงหนึ่ง อักขระยันต์ทั้งหมดล้วนรวมตัวอยู่ด้วยกัน จากนั้นก็คล้ายดั่งสายน้ำไหลอย่างนั้น ไหลหลั่งไปยังร่างเงาที่นั่งอยู่บนวิหารโบราณสายนั้น

มือขนาดใหญ่ของร่างเงาที่นั่งอยู่ท่ามกลางประกายรวบทีหนึ่ง จัดการรวบเอาอักขระยันต์ที่ลอยเข้ามาเข้าไปในแขนเสื้อทั้งหมด ขณะที่อักขระยันต์เหล่านี้ลอยเข้าไปในแขนเสื้อของเขานั้น ประดุจดั่งเป็นลูกนกแต่ละตัวที่กลับรังอย่างนั้น ช่างมีความสุขอะไรเช่นนั้น

สุดท้าย อักขระยันต์ทั้งหมดล้วนถูกร่างเงานี้รวบเข้าไปอยู่ภายในแขนเสื้อทั้งหมด ตลอดขั้นตอนเป็นไปอย่างราบรื่นต่อเนื่อง และสอดคล้องกับจังหวะฟ้าดินอย่างสิ้นเชิง

หลังจากที่อักขระยันต์ทั้งหมดถูกเก็บไปจนหมดสิ้นแล้ว ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ร่างกายที่แตกร้าวของปฐมบรรพบุรุษอัคคีพลันกลับกลายเป็นประกายแสงนับไม่ถ้วน ในเวลานี้ ประกายแสงนับไม่ถ้วนได้ปลิวกระจายออกไป ครั้งอนุภาคแสงแต่ละลูกตกลงพื้นดินนั้น ผู้คนเหมือนได้ยินเสียงที่ตกกระทบพื้นดังปุ ปุ ปุแผ่วเบาอย่างนั้น

สุดท้าย ประกายแสงทั้งหมดล้วนหลอมรวมและหายไปท่ามกลางปฐพี และหายไปโดยสิ้นเชิง

นับจากนาทีนี้เป็นต้นไป ปฐมบรรพบุรุษอัคคีก็ได้หายไปท่ามกลางสายน้ำแห่งกาลเวลา หายวับไปกับตานับแต่นี้เป็นต้นไป เหมือนว่าไม่เหลือไว้ซึ่งร่องรอยใดๆ บนโลกใบนี้อีกแล้ว

หลังจากที่ปฐมบรรพบุรุษอัคคีหายวับไปกับตาในพริบตาเดียวแล้วนั้น ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้น ประกายที่อยู่ในวิหารโบราณก็หายตามไปด้วย ขณะที่ร่างเงาที่นั่งอยู่ท่ามกลางประกายก็ค่อยๆ มืดสลัวลง สุดท้ายก็ได้หายตัวไป

ภายในระยะเวลาอันสั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็ได้กลับคืนสู่ความสงบ เหมือนไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้น

พวกราชันแท้จริงหวงจุนต่างอ้าปากกว้างค้างอยู่อย่างนั้นเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว ภาพลักษณะเช่นนี้นับว่าสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนเหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งร่างเงาสายนั้นได้จับเอาตัวปฐมบรรพบุรุษอัคคีไป ยิ่งเป็นการสร้างความแปลกประหลาดที่พูดไม่ออกภายในใจของผู้คน

ทุกคนต่างรู้ว่าสิ่งนี้บ่งบอกถึงสิ่งใดแล้ว กับการที่คนผู้นี้สามารถจับเอาตัวปฐมบรรพบุรุษอัคคีไปได้ ขณะเดียวกัน ทุกคนต่างรู้สึกอยากรู้อยากเห็นกับร่างเงาสายนี้

ลองนึกภาพดู ต้องเป็นบุคคลเช่นใดจึงสามารถบ่มฟักผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นปฐมบรรพบุรุษอัคคีขึ้นมาได้? อีกทั้ง อาศัยคำสนทนาของปฐมบรรพบุรุษอัคคีสามารถรับรู้ได้ว่า ดูเหมือนอาจารย์ของเขาจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าปฐมบรรพบุรุษอัคคีเสียอีก

ปฐมบรรพบุรุษอัคคีคือหนึ่งในสิบสุดยอดปฐมบรรพบุรุษแล้ว ผู้ที่สามารถดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งยิ่งกว่าปฐมบรรพบุรุษอัคคีเสียอีก เช่นนั้นแล้ว อาจารย์ของปฐมบรรพบุรุษอัคคีนั้นมีความแข็งแกร่งเช่นใดกันแน่ ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวเพียงใด

พวกของราชันแท้จริงหวงจุนต่างรู้สึกตระหนกในใจ เมื่อนึกถึงจุดนี้

…………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด