Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3108 พบจักรพรรดิซีหวงอีกแล้ว

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3108 พบจักรพรรดิซีหวงอีกแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3108 พบจักรพรรดิซีหวงอีกแล้ว

กระบี่ปาฉือเหมยเจี้ยน ถือกระบี่เสมอคิ้ว เมื่อหนึ่งกระบี่ล็อกเป้ามั่นคงแล้ว ปลายกระบี่ก็อยู่ใกล้แค่นั้นเอง

พริบตาเดียวขณะที่หนึ่งกระบี่ราชันแท้จริงปาฉื่อล็อกเป้านั้น ทุกคนต่างรู้สึกว่าประกายกระบี่ของกระบี่ปาฉื่อเหมยเจี้ยนได้มุดเข้าไปภายในระหว่างคิ้วของตนแล้ว ในพริบตาเดียวนั้นทุกคนล้วนรู้สึกว่าระหว่างคิ้วของตนเสมือนดั่งระเบิดออกอย่างนั้น ถูกแทงจนเป็นรูเลือดรูหนึ่ง เสียชีวิตทันที

นาทีนั้นเรียกได้ว่า ขณะที่ราชันแท้จริงปาฉื่อยังไม่ทันสำแดงกระบี่ออกไป ทุกคนต่างรู้สึกว่าหนึ่งกระบี่นี้พลันถึงแก่ชีวิตได้ทันที

กระบี่ยังไม่ทันสำแดงออกไป คนก็ตายไปแล้ว หนึ่งกระบี่ลักษณะเช่นนี้ช่างน่ากลัวเช่นใด หนึ่งกระบี่ลักษณะเช่นนี้ไม่อาจหลบหลีกได้อยู่แล้ว มันได้ล็อกเป้าเจ้าเอาไว้อย่างแน่นหนา

ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง ขณะมองดูหนึ่งกระบี่ที่น่าสยองขวัญเพียงนี้

แม้ว่าเวลานี้ราชันแท้จริงปาฉื่อจะมีกระบี่อยู่ในมือ เขาไม่ได้เปล่งอานุภาพราชันแท้จริงขึ้นมาอย่างที่ทุกคนได้จินตนาการเอาไว้ และกระบี่ปาฉื่อเหมยเจี้ยนไม่ได้ระเบิดอานุภาพราชันแท้จริงปราศจากผู้ต่อกรอย่างที่ทุกคนจินตนาการ

เวลานี้ ขณะที่ราชันแท้จริงปาฉื่อถือกระบี่ระดับคิ้วนั้น ตัวเขาไม่เพียงมีท่าทีที่เคารพถ่อมตนเท่านั้น อีกทั้งกระบี่ปาฉื่อเหมยเจี้ยนก็ดูจะเก็บงำประกายกระบี่เช่นกัน

นาทีนี้ ไม่ว่าจะเป็นราชันแท้จริงปาฉื่อ หรือจะเป็นกระบี่ปาฉื่อเหมยเจี้ยนล้วนให้ความรู้สึกผู้คนอย่างหนึ่งถึงการกลับคืนสู่สภาพดั้งเดิม

ด้วยลักษณะของความรู้สึกที่เป็นการกลับคืนสู่สภาพดั้งเดิมเช่นนี้แหละ กลับทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง และบังเกิดเย็นยะเยือกในใจอย่างรุนแรง

เนื่องจากกระบี่ที่กลับคืนสู่สภาพดั้งเดิมเช่นนี้จึงจะเป็นกระบี่ที่ฆ่าคนได้อย่างแท้จริง การดำรงอยู่ของมัน การออกจากฝักของมันมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวก็คือฆ่าคน!

ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ราชันแท้จริงปาฉื่อได้สำแดงกระบี่แล้ว หนึ่งกระบี่ที่ยื่นออกไปข้างหน้าไม่ถือว่าเร็ว และไม่นับว่าช้า ปราศจากเสียงลมและฟ้าผ่า ปราศจากพลังอานุภาพสวรรค์ แค่หนึ่งกระบี่ที่ยื่นไปข้างหน้าเท่านั้นเอง

หนึ่งกระบี่ที่ยื่นออกไป พุ่งตรงไปยังบริเวณระหว่างคิ้วของหลี่ชิเย่ เป็นหนึ่งกระบี่ที่ไม่สลับซับซ้อน เป็นหนึ่งกระบี่ที่ตรงไปตรงมามาก

หนึ่งกระบี่ลักษณะเช่นนี้เสมือนดั่งเป็นน้ำเปล่า ชิมแล้วดูเหมือนจะไร้รสชาติ แต่ทว่า ด้วยหนึ่งกระบี่ที่เสมือนดั่งน้ำเปล่าเช่นนี้ แต่กลับมองเห็นหัวใจของผู้คนโดยตรง หนึ่งกระบี่ถึงตาย! มันก็คือกระบี่ที่สำหรับฆ่าคน!

กระบี่ปรากฏ เย็นวาบระหว่างคิ้ว ในพริบตาเดียวนั่นเอง แม้ว่าหนึ่งกระบี่นี้จะเป็นการทิ่มแทงไปที่หลี่ชิเย่เท่านั้น แต่ ได้มีผู้ที่ร่างแข็งทื่อและล้มลง บริเวณระหว่างคิ้วปรากฏเลือดสดๆ ซึมออกมาหยดหนึ่ง แม้จะห่างกันเป็นหมื่นลี้

หนึ่งกระบี่ถึงตาย มีผู้ที่ใจจดใจจ่อมากเกินไป โดยจมปลักอยู่กับหนึ่งกระบี่นี้ สุดท้าย ส่งผลให้หนึ่งกระบี่นี้เดิมทีไม่ได้ต้องการสังหารเขา แต่เขากลับถูกหนึ่งกระบี่นี้จนเสียชีวิตไป

‘กระบี่ที่ฆ่าคน!’ แม้แต่ระดับคงความอมตะตลอดกาลก็อดที่จะชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง และประเมินค่าเช่นนี้ เมื่อได้เห็นหนึ่งกระบี่ที่ง่ายๆ ไม่สลับซับซ้อน หนึ่งกระบี่ที่เสมือนดั่งน้ำเปล่า

กระบี่ที่ฆ่าคน แม้จะไม่ได้มีอานุภาพที่สะเทือนเลื่อนลั่น แม้จะเป็นเพียงหนึ่งกระบี่ที่ง่ายๆ ไม่สลับซับซ้อน ยังคงทำให้ผู้คนต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึง แม้แต่ระดับคงความอมตะตลอดกาลก็รู้สึกตื่นเต้นหัวใจเต้นเร็ว ถามตัวเองว่า ภายใต้หนึ่งกระบี่เช่นนี้สามารถรับมือได้สบายหรือไม่

เสียงตึงดังขึ้นเสียงหนึ่ง ขณะที่ภายในใจของทุกคนรู้สึกสะท้าน เสียงกระบี่คำรามดังขึ้นไม่ขาดสาย

นาทีนี้ เสมือนหนึ่งเวลาถูกทำให้เป็นภาพนิ่งอย่างนั้น ทุกคนล้วนต้องการเห็นหลี่ชิเย่ต้านหนึ่งกระบี่นี้เอาไว้ หนึ่งกระบี่ที่ฆ่าคนได้หยุดอยู่ตรงนั้น ถูกทำให้เป็นภาพนิ่งอยู่ตรงนั้น

ขณะที่ทุกคนมองออกไปนั้น เห็นหลี่ชิเย่เพียงอาศัยนิ้วมือนิ้วหนึ่งต้านกระบี่นี้เอาไว้เท่านั้นเอง มองเห็นปลายนิ้วมือที่กดทับบนปลายกระบี่เอาไว้เบาๆ

แต่ว่า แม้ว่าปลายนิ้วที่เปล่งประกายนี้จะกดทับอยู่บนปลายกระบี่เบาๆ มันกลับเสมือนดั่งเป็นโลกทั้งโลกที่กดทับอยู่บนปลายกระบี่เล่มนี้ น้ำหนักของนิ้วมือนิ้วหนึ่งไม่สามารถประเมินได้ จัดการกดทับกระบี่ปาฉื่อเหมยเจี้ยนจนโค้งงอดื้อๆ แม้แต่ราชันแท้จริงปาฉื่อก็ไม่สามารถอาศัยมือข้างเดียวกำกระบี่ของตนเอาไว้ได้ ได้แต่ใช้มือทั้งสองข้างต้านเอาไว้เต็มที่ เวลานี้ดูไปแล้วเขาออกจะมีกำลังไม่เพียงพอ ใบหน้าแดงก่ำ

เสียงปัง…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง เวลานี้ หลี่ชิเย่คลายนิ้วมือ และใช้ปลายนิ้วดีดเบาๆ เท่านั้นเอง

แต่ว่า อาศัยการดีดเบาๆ เช่นนี้นี่เอง เสมือนหนึ่งได้ดีดโลกทั้งโลกให้เด้งออกไป คล้ายทะลุผ่านโลกทั้งโลก ท่ามกลางเสียงปังที่ดังขึ้น เห็นร่างของราชันแท้จริงปาฉื่อถูกดีดจนตัวลอยออกไป

ตูม ตูม ตูมเสียงชนกระแทกดังขึ้น ราชันแท้จริงปาฉื่อที่ถูกดีดกระเด็นออกไปได้พุ่งชนกับภูเขาหลายลูกติดต่อกันไป เศษดินปลิวกระจาย เมื่อเขาสามารถพยุงตัวขึ้นมาจากกองหินกองดินออกมาได้นั้น ต้องกระอักเลือดออกมาอย่างแรง และไอออกมาเป็นเลือดอีกหลายคำ

ภายใต้นิ้วมือนิ้วหนึ่ง ราชันแท้จริงปาฉื่อก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส

นิ้วมือนิ้วหนึ่งเอาชนะราชันแท้จริงปาฉื่อ ผู้ที่ไม่เคยได้เห็นหลี่ชิเย่ลงมือมาก่อนเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว ต้องอ้าปากกว้างมากและค้างอยู่อย่างนั้นหุบไม่ลงเป็นเวลานาน กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว ภาพลักษณะเช่นนี้นับว่าสร้างความหวั่นไหวได้มากเหลือเกิน

แม้แต่ผู้ที่เคยเห็นหลี่ชิเย่ลงมือมาก่อนก็อดที่จะเสียวสันหลังวาบไม่ได้

พวกเขาต่างรู้ว่าราชันแท้จริงปาฉื่อหาใช่คู่ต่อสู้ของคนโหดอันดับหนึ่ง จะอย่างไรเสีย แม้แต่พวกของเทพสงครามจินเปี้ยนร่วมมือกันสถึงเจ็ดคนยังถูกสังหาร ตัวของราชันแท้จริงปาฉื่อยิ่งเรียกว่าไม้ซีกยากจะงัดไม้ซุงได้อยู่แล้ว

แต่ว่า การที่คนโหดอันดับหนึ่งงอนิ้วมือดีดไปทีหนึ่งก็สามารถเอาชนะราชันแท้จริงปาฉื่อได้ นับว่าสร้างความหวาดกลัวขึ้นในใจพวกเขาอย่างแท้จริง รู้สึกเหมือนหัวใจของตนถูกคนเขาทุบเข้าให้อย่างแรงทีหนึ่ง คนโหดอันดับหนึ่งนับว่าน่าสยองขวัญมากเหลือเกิน นับว่าแข็งแกร่งมากเกินไปแล้ว

“ละเว้นชีวิตเจ้าครั้งหนึ่ง” หลี่ชิเย่มองดูราชันแท้จริงปาฉื่อที่ไอเป็นเลือดแวบหนึ่ง เอ่ยเรียบเฉยขึ้นมา จากนั้นก้าวเดินไปข้างหน้าต่อไป

เมื่อกระบี่เหินเทียนเจียวมองเห็นราชันแท้จริงปาฉื่อพ่ายแพ้ยับเยิน ยิ่งทำให้ต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึงขึ้น พยายามวิ่งหนีเข้าไปด้านใน พยายามหลบเข้าไปด้านใน ส่งเสียงดังร้องให้คนช่วย “ช่วยด้วย…”

กึก กึก กึกขณะที่กระบี่เหินเทียนเจียววิ่งหนีเข้าไปด้านในนั้น เสียงรถม้าดังขึ้น มองเห็นรถม้าคันหนึ่งแล่นมาช้าๆ และหยุดลงตรงนั้น

“เป็นพาหนะประจำตัวของพระอาจารย์จินกวง คือพระอาจารย์จินกวงรึ?” มีผู้ที่ร้องออกมาด้วยความตระหนก เมื่อมองเห็นรถม้าคันนี้แล่นออกมาจากด้านใน

“พระอาจารย์จินกวงมาแล้วรึ?” แม้แต่นัยน์ตาคู่นั้นของระดับบรรพบุรุษก็เบิกกว้างมาก เมื่อมองเห็นรถม้าคันนี้

ในเวลานี้สายตาของทุกคนล้วนรวมศูนย์อยู่บนรถม้าคันนี้ ทุกคนต่างต้องการทราบว่า ผู้ที่สั่งอยู่ภายในรถม้าใช่พระอาจารย์จินกวงหรือไม่

“เจ่แจ้ รีบช่วยข้า” เมื่อกระบี่เหินเทียนเจียวเห็นรถม้าคันนี้แล้วคล้ายเห็นผู้ที่จะช่วยให้รอดชีวิตอย่างนั้น จึงรีบเร่งวิ่งเข้าไปหา

รถม้าจอดอยู่ที่ตรงนั้น ดูเหมือนผู้ที่อยู่บนรถม้าไม่คิดที่จะลงจากรถม้า ประตูยังคงปิดสนิท

“เจ่แจ้…” กระบี่เหินเทียนเจียวรู้สึกตื่นตระหนก เมื่อเห็นประตูรถปิดสนิท จึงรีบร้องเสียงดังขึ้นมา

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างจ้องมองตากันและกัน เมื่อได้ยินกระบี่เหินเทียนเจียวร้องเรียก ‘เจ่แจ้’ มีผู้เอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “เป็นจักรพรรดิซีหวง”

“ภรรยาของพระอาจารย์จินกวง” ในเวลานี้ทุกคนต่างรู้แล้วว่า ผู้ที่นั่งอยู่บนรถม้าคือผู้ใดแล้ว มีบางคนรุ้สึกผิดหวังเมื่อรู้ว่าพระอาจารย์จินกวงไม่ได้มาด้วยตนเอง แต่ว่า ในเมื่อจักรพรรดิซีหวงมาแล้ว เกรงว่าพระอาจารย์จินกวงช้าเร็วก็ต้องมา

เมื่อผู้ที่ผิดหวังนึกถึงข้อนี้แล้ว พลันรู้สึกมีกำลังวังชาขึ้นมาอีกครั้ง

เวลานี้ หลี่ชิเย่ได้เดินใกล้เข้ามาแล้ว ยิ้มบางๆ และก้าวเดินเข้าไปช้าๆ

“เจ่แจ้ ช่วยข้าเร็ว” เมื่อกระบี่เหินเทียนเจียวมองเห็นหลี่ชิเย่ที่เดินใกล้เข้ามาทุกที ทำเอาขวัญหนีดีฝ่อ รีบส่งเสียงร้องดังขึ้นมา

แต่ว่า ภายในรถม้ายังคงเงียบสงัด เหมือนว่าไม่ได้ยินคำพูดของกระบี่เหินเทียนเจียวอย่างนั้น

“เจ่แจ้ ช่วยข้าด้วย” เมื่อกระบี่เหินเทียนเจียวมองเห็นหลี่ชิเย่เดินเข้ามาใกล้จะถึงอยู่แล้ว จึงรีบคุกเข่าลงและร้องกล่าวว่า “เจ่แจ้ เห็นแก่เป็นตระกูลเดียวกัน สำนักเดียวกัน ได้โปรดช่วยข้าด้วย” กล่าวพลางน้ำตาไหลพราก

สิ่งนี้พลันทำให้ทุกคนถึงกับกลั้นหายใจเอาไว้ เมื่อเห็นกระบี่เหินเทียนเจียวคุกเข่าอยู่ตรงนั้น ในเวลานี้ทุกคนต่างมองไปที่รถม้าคันนั้น

เวลานี้ทุกคนล้วนรู้แล้วว่า ผู้ที่นั่งอยู่ในรถม้าก็คือจักรพรรดิซีหวงนั่นเอง ผู้กุมอำนาจของสี่ซี ภรรยาของพระอาจารย์จินกวง และคือพี่สาวร่วมตระกูลกับกระบี่เหินเทียนเจียว

เพียงแต่ว่าสิ่งที่ทุกคนต้องการทราบก็คือ จักรพรรดิซีหวงในขณะนี้จะเลือกอย่างไรเล่า?

ผู้คนจำนวนมากต่างรู้ดีว่า จักรพรรดิซีหวงกับกระบี่เหินเทียนเจียวนั้นเติมโตมาด้วยกันในตระกูลเดียวกัน ความสัมพันธ์ก็นับว่าไม่เลวนัก เวลานี้กระบี่เหินเทียนเจียวถูกหลี่ชิเย่ตามสังหาร จักรพรรดิซีหวงจะนิ่งดูดายไม่ให้การช่วยเหลือเมื่อเห็นผู้อื่นกำลังอยู่ในอันตรายรึ?

“เจ่แจ้…” กระบี่เหินเทียนเจียวร้องเสียงดัง ร้องไห้ด้วยความเศร้าระทม

สุดท้าย ภายในรถม้าปรากฏเสียงทอดถอนใจขึ้นมาเบาๆ ในที่สุดภายในรถม้าได้มีเสียงของจักรพรรดิซีหวงที่ส่งออกมา นางกล่าวช้าๆ ว่า “เรื่องที่เจ้าก่อยังน้อยไปรึ?”

“เจ่แจ้!” กระบี่เหินเทียนเจียวถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ เมื่อได้ยินเสียงของจักรพรรดิซีหวง นางรู้ว่านางมีโอกาสรอดแล้ว

ขณะที่หลี่ชิเย่ในเวลานี้ก็ไม่รีบร้อนอะไร ตรงกันข้ามกลับหยุดก้าวเดินต่อไป ยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ เหมือนกำลังดูหนังอย่างนั้น

ทุกคนอดที่จะกลั้นลมหายใจเอาไว้ เมื่อได้ยินจักรพรรดิซีหวงปริปากพูดแล้วในที่สุด และผู้คนไม่น้อยก็มองหน้ากันและกัน

พี่น้องจะอย่างไรเสียก็เป็นพี่น้อง ในเวลานี้ผู้คนจำนวนไม่น้อยคิดเช่นนี้ในใจ จะอย่างไรเสียกระบี่เหินเทียนเจียวก็คือน้องสาวตระกูลเดียวกันกับจักรพรรดิซีหวง ท้ายสุดแล้ว เกรงว่าจักรพรรดิซีหวงที่มากด้วยปัญญาก็คงไม่สามารถทำได้ด้วยการไม่ยื่นมือเข้าช่วยเมื่อเห็นว่าตกอยู่ท่ามกลางอันตราย ได้แต่ยื่นมือเรื่องนี้แล้ว

“แต่ สิ่งที่เจ้าทำลงไปในวันนี้ ข้าก็ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้” ในขณะที่ทุกคนคิดว่าจักรพรรดิซีหวงจะต้องลงมือเข้าช่วยเหลืออย่างแน่นอนนั้น เสียงของจักรพรรดิซีหวงได้ดังขึ้นอีกครั้ง

“ว่าไงนะ…” ทุกคนต่างตะลึงลานเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของจักรพรรดิซีหวง ผู้คนจำนวนไม่น้อยยังเข้าใจว่าตนเองฟังผิดไปแล้ว

มันกะทันหันมากเหลือเกิน แม้แต่กระบี่เหินเทียนเจียวก็ไม่ทันตั้งตัว

“เจ่แจ้ ข้า ข้าเติบโตพร้อมกับท่านมาแต่เด็ก และภูมิใจในตัวท่านตลอดมา…” กระบี่เหินเทียนเจียวรีบร้องไห้ออกมา

“ข้ารู้” เสียงของจักรพรรดิซีหวงดังขึ้นมา กล่าวเรียบเฉยว่า “แต่ เจ้าทำตัวได้แย่มาก ไม่เคยคำนึงถึงสำนักตลอดมา เจ้าโตแล้ว ไม่ใช่เด็กอีกแล้ว ความผิดที่เจ้าก่อขึ้นเอง เจ้าต้องรับเอาไว้เอง”

“เจ่แจ้…” กระบี่เหินเทียนเจียวรีบร้องกล่าวเสียงดังว่า “ต่อไปนี้ข้าไม่กล้าอีกแล้ว…”

“จำเอาไว้ เจ้าคือศิษย์ของสี่ซี” เสียงของจักรพรรดิซีหวงได้กล่าวตัดบทคำพูดของกระบี่เหินเทียนเจียว โดยกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “อย่าทำให้นิกายต้องเสื่อมเสีย สี่ซีไม่เคยมีคนอ่อนแอ! ถึงตาย ก็ต้องตายอย่างมีศักดิ์ศรีสักหน่อย”

“เจ่แจ้ ท่าน ท่าน ท่านจะทำเช่นนี้ไม่ได้ ท่าน ท่านช่วยข้าเถอะ ขอเพียงครั้งนี้ครั้งเดียว ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น ครั้งเดียว!” กระบี่เหินเทียนเจียวตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อเมื่อได้ยินคำพูดของจักรพรรดิซีหวง พูดพลางน้ำตาไหลพราก รีบร้องขอความช่วยเหลือ

แต่ว่า ภายในรถม้าไม่มีเสียงอีกแล้ว มีแต่ความเงียบสงัด

เวลานี้ทั่วฟ้าดินเสมือนดั่งสงบเงียบขึ้นมา เหมือนว่านอกเหนือจากเสียงร้องไห้ของกระบี่เหินเทียนเจียวแล้ว ก็ไม่มีเสียงอื่นใดอีก

ในเวลานี้ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่มองหน้าซึ่งกันและกัน

ก่อนหน้านี้ ผู้คนจำนวนเท่าไรเข้าใจว่าจักรพรรดิซีหวงจะต้องลงมือเข้าช่วยเหลือ จะอย่างไรเสียก็คือพี่น้องกัน แต่ว่า ท้ายที่สุดแล้วจักรพรรดิซีหวงกลับไม่ได้ลงมือให้การช่วยเหลือ

อีกทั้งเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของจักรพรรดิซีหวงแล้ว ทุกคนเข้าใจได้แล้วว่า กระบี่เหินเทียนเจียวตายแน่นอนแล้ว

……………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด