Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3113 กิเลนคริสตัล

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3113 กิเลนคริสตัล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3113 กิเลนคริสตัล

นับตั้งแต่เจ๋อหลงลงมือ จักรพรรดิซีหวงก็ปราศจากความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด เหมือนว่านางมองไม่เห็นการต่อสู้ครั้งนี้อย่างนั้น และหรือนางกำลังรอโอกาสอยู่ รอโอกาสเหมาะๆ และโจมตีหลี่ชิเย่ถึงตายในครั้งเดียว

แต่ต่อให้จักรพรรดิซีหวงลงมือกะทันหันในจังหวะที่หลี่ชิเย่กำลังต่อสู้อยู่กับเจ๋อหลง และโจมตีหลี่ชิเย่ถึงตายในครั้งเดียวก็ไม่ถือเป็นการลอบโจมตี และทุกคนก็จะไม่โทษนาง จะอย่างไรเสียจักรพรรดิซีหวงได้เคยบอกกล่าวต่อหลี่ชิเย่มาแล้วก่อนหน้านี้ หาใช่เป็นการลอบโจมตีโดยปราศจากลางบอกเหตุใดๆ มาก่อน

ทว่าหลี่ชิเย่ยังคงมีท่าทางสบายๆ เป็นธรรมชาติ เขาไม่รีบร้อนที่จะลงมือต่อจักรพรรดิซีหวง กล่าวสำหรับเขาแล้ว จะลงมือช้าหรือเร็วผลลัพธ์ที่ได้ก็เหมือนกัน

หลังจากหลี่ชิเย่จัดการทำลายนกสามขาทองคำของเจ๋อหลงอย่างง่ายดายแล้ว ทำให้ภายในใจของผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องหวั่นไหวกับสิ่งนี้ ภายในใจของผู้คนจำนวนมากก็รู้สึกใจหาย เหมือนว่าความแข็งแกร่งของหลี่ชิเย่นั้นเกินเลยกว่าที่ทุกคนคาดการณ์เอาไว้มากทีเดียว

แม้ว่าตั้งแต่ต้นจนจบ เจ๋อหลงเองก็ไม่ได้ทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง ร่างที่แท้จริงของเขาก็ยังไม่ได้ลงมือ แต่ว่า ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร ทุกคนต่างรู้สึกรางๆ ว่า บางทีเจ๋อหลงอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนโหดอันดับหนึ่ง

ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกว่าลางสังหรณ์ลักษณะเช่นนี้เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อถือ และไร้เหตุผลสิ้นดี จะอย่างไรเสีย เจ๋อหลงคือระดับคงความอมตะตลอดกาล ชั้นวิถีไกลรุ่นใหญ่ อีกทั้งยังเป็นผู้คุ้มกันของพระอาจารย์จินกวงอีกด้วย

หลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงอัจฉริยะบุคคลที่เพิ่งเข้าสู่ยุทธภพ ไม่ว่าจะเป็นด้านธาตุแท้ภายในหรือสิ่งอื่นใด ไม่เห็นจะเทียบได้กับเจ๋อหลง

ทว่า ในเวลานี้เอง ดันมีผู้คนจำนวนมากที่รู้สึกไม่สบายใจในใจ ลางสังหรณ์บอกพวกเขาว่า ในคราวนี้เกรงว่าเจ๋อหลงจะต้องพ่ายแพ้อย่างยับเยินด้วยบมือของหลี่ชิเย่

“สหาย ระวังตัวด้วย รอบต่อไปหากได้รับอันตรายขึ้นเมื่อใดล่ะก็ เกรงว่าคงยากที่จะพลิกสถานการณ์ได้อีก สหาย ระมัดระวังด้วย” เวลานี้ เสียงที่แก่หง่อมของเจ๋อหลงดังขึ้นมา

การที่เจ๋อหลงกล่าวเตือนเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือมิตร เรียกได้ว่าได้กระทำในท่วงทำนองของผู้เป็นผู้อาวุโสอย่างเต็มที่แล้ว ในฐานะที่เป็นชั้นวิถีไกลที่ปราศจากผู้เทียบเทียมแห่งยุค สมควรแล้วที่เป็นเช่นนี้

“ดี ข้าขอเปิดหูเปิดตาสักหน่อย” หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ เท่านั้นเอง

เสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง นาทีนี้พื้นพสุธาสะเทือนหวั่นไหวทีหนึ่ง สัตว์เทพตัวหนึ่งก้าวเท้าเข้ามา ขณะที่เท้าข้างหนึ่งของมันเหยียบลงบนพื้นดินนั้น เหมือนพื้นดินจะรองรับน้ำหนักของมันไม่ค่อยจะได้

เวลานี้ ห่างจากตัวของหลี่ชิเย่ไม่ไกลเท่าไรนัก สัตว์เทพตัวหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นมา มันคือกิเลนตัวหนึ่ง บนตัวของสัตว์เทพตัวนี้ปรากฏประกายพราวพร่างที่เปล่งออกมาทั้งตัว กระทั่งแม้แต่ตัวของมันก็ดูใสเป็นประกายสวยงาม เหมือนเจียระไนขึ้นมาจากผลึกศักดิ์สิทธิ์ที่ดีที่สุดในโลกอย่างนั้น

ประกายพร่างพราวที่ผลึกคริสตัลเปล่งออกมาจากกิเลนคริสตัลตัวนี้ คล้ายเป็นอนุภาคแสงนับไม่ถ้วนที่ปลิวกระจายอยู่บนท้องฟ้าอย่างนั้น เสมือนหนึ่งว่ามันสามารถโปรยปรายกาลเวลานับไม่ถ้วนลงมาให้กับฟ้าดินได้

“เป็นเพราะอะไร ดูเหมือนกาลเวลากำลังไหลเคลื่อนไปอย่างนั้น” ระดับบรรพบุรุษอดที่จะพึมพำขึ้นมา ขณะมองเห็นกิเลนคริสตัลตัวนี้

เมื่อทุกคนถูกชี้ให้เห็นถึงข้อนี้ จึงได้ไปพิจารณากิเลนคริสตัลตัวนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง ต่างรู้สึกว่ามันเป็นเช่นนี้จริงๆ

ขณะที่มีการเคลื่อนที่ของประกายพร่างพราวทั่วทั้งตัวของกิเลนคริสตัล การลอยล่องของอนุภาคแสงนั้น เมื่อพิจารณาดูอย่างละเอียดก็จะพบว่า ไม่ว่าจะเป็นประกายพร่างพราวที่เคลื่อนไหว หรืออนุภาคแสงที่บริสุทธิ์ก็ตาม ดูเหมือนว่าล้วนแล้วแต่เคลื่อนที่ไปยังทิศทางที่เป็นการเฉพาะ เหมือนว่านี่คือการเคลื่อนไหวของกาลเวลา กาลเวลาแต่ละสายที่เคลื่อนไหวได้ไหลรวมกันเป็นกาลเวลาสายหนึ่งที่ไหลเอื่อยๆภายในร่างกายของกิเลนคริสตัล

อย่างไรก็ตาม ขณะที่กิเลนคริสตัลตัวนี้ได้ก้าวเท้าออกไปช้าๆ ในเวลานี้นั้น เมื่อเท้าข้างหนึ่งของมันเหยียบลงบนพื้นดิน ได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น มองเห็นดินพลันสลายไปตามสายลม เหมือนว่าในพริบตาเดียวนั่นเองได้ผ่านไปเป็นพันล้านปี

“นี่แหละคือกาลเวลา!” ระดับบรรพบุรุษที่มองเห็นภาพนี้แล้วถึงกับร่างสั่นเทาทีหนึ่ง

แต่ว่า ในเวลานี้เอง กิเลนคริสตัลก็ได้ก้าวเท้าอีกข้างหนึ่งออกไป เมื่อเท้าอีกข้างหนึ่งของมันลงแตะกับพื้นดินนั้น เมล็ดพันธุ์ที่ฝังอยู่ลึกลงไปใต้พื้นดินพลันแตกเป็นรากขึ้นมา อีกทั้งยังเจริญเติบโตขึ้นมารวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ เพียงชั่วพริบตาเดียว ฝักบัวที่อุดมสมบูรณ์ได้เจริญงอกงามขึ้นและยกตัวกิเลนคริสตัลขึ้นมา

เดิมทีเมล็ดพันธุ์ที่ฝังลึกลงไปใต้ดินเมล็ดนี้จะต้องใช้เวลาเป็นร้อยเป็นพันปีจึงสามารถเจริญงอกงามขึ้นมาได้ แต่ว่า นาทีนี้กลับเจริญเติบโตขึ้นในชั่วพริบตาเดียวอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง

“เท้าข้างหนึ่งมรณะ เท้าอีกข้างหนึ่งให้กำเนิดรึ?” ไม่รู้ว่ามีกษัตริย์และประมุขพรรคจำนวนเท่าไรต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน เมื่อกิเลนคริสตัลก้าวเท้าออกไปสองเท้า เหมือนว่ามันจะเป็นพลังที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หนึ่งนั้นเป็นตัวแทนของความตาย หนึ่งนั้นแทนการมีชีวิต

“ไม่ มีเพียงพลังแบบเดียวเท่านั้น” บรรพบุรุษที่อยู่ในระดับคงความอมตะตลอดกาลมองออกถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมนี้ได้ และกล่าวว่า “นี่แหละคือพลังของกาลเวลา นี่คืออีกหนึ่งกายนิมิตของเจ๋อหลง มีนามว่ากิเลนคริสตัล โดยที่กายนิมิตดังกล่าวต่อให้ไม่ถือเป็นอันดับหนึ่งในบรรดากายนิมิตทั้งเจ็ดของเจ๋อหลง เกรงว่าก็คงจัดอยู่ในอันดับหนึ่งในสาม”

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างสั่นเทากับสิ่งนี้ ต่างอดที่จะกลั้นลมหายใจเอาไว้ ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการรุ้ว่า หนึ่งในกายนิมิตที่แข็งแกร่งมากที่สุดของเจ๋อหลงนั้น จะมีอานุภาพแข็งแกร่งเพียงใดกันแน่

กิเลนคริสตัลเดินเข้าหาหลี่ชิเย่ช้าๆ การที่มันหนึ่งเท้าคือความมีชีวิต หนึ่งเท้าคือความตาย ส่งผลให้ปรากฎเป็นสภาพการณ์ที่อัศจรรย์มาก เมื่อเท้าข้างหนึ่งของมันที่เหยียบลง ปรากฎดอกไม้ต้นไม้ใบหญ้าเจริญงอกงาม สามารถยกตัวของมันขึ้นมา แต่ว่า เมื่อเท้าอีกข้างนึ่งของมันก้าวเท้าลงไปนั้น มองเห็นดอกไม้ต้นไม้ใบหญ้าพลันทยอยกันแห้งตาย ด้วยภาพที่มหัศจรรย์เช่นนี้ ทำให้ผู้ที่พบเห็นต่างชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง

“งดงามจนแยกแยะไม่ถูก” หลี่ชิเย่มองดูกิเลนคริสตัลที่เดินเข้ามาใกล้ กล่าวชื่นชมคำหนึ่ง “นี่แหละคือกาลเวลา!”

“นั่นสิ โลกนี้ยังจะมีสิ่งใดงดงามยิ่งไปกว่ากาลเวลาเล่า ยังมีสิ่งใดสามารถทำให้ผู้คนต้องอาลัยอาวรณ์มากไปกว่านี้อีกเล่า” แม้แต่เจ๋อหลงก็รู้สึกปลงอนิจจังอย่างยิ่ง

กล่าวสำหรับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่แล้ว ไม่สามารถรับรู้ได้ถึงเสน่ห์ของกาลเวลา มีเพียงผู้ดำรงอยู่ในฐานะเช่นเจ๋อหลงที่มีชีวิตอยู่มานานพันล้านปีเท่านั้น จึงสามารถรู้ถึงความล้ำค่าของกาลเวลา

“แม้ไม่สามารถควบคุมกาลเวลา แต่ว่า สามารถบรรลุถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของกาลเวลาเช่นนี้ได้ ก็นับว่าสมดังคำเล่าลือแล้ว ไม่เสียทีที่เป็นชั้นวิถีไกล” หลี่ชิเย่พยักหน้า และยอมรับในกำลังความสามารถของเจ๋อหลงยิ่งนัก

“สหาย ชมเกินไปแล้ว พูดแล้วก็น่าละอาย” เจ๋อหลงกล่าวด้วยความละอายใจว่า “ข้าทำการบรรลุอยู่ห้าชั่วคนเต็มๆ จึงได้มาบางส่วน สติปัญญาโง่เขลา เทียบไม่ได้กับเหล่าปรัชญาเมธี”

คำพูดเช่นนี้ของเจ๋อหลงได้ทำให้ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ เจ๋อหลงนั้นมีความแข็งแกร่งเพียงใด กลับใช้เวลาในการบรรลุถึงห้าชั่วคน จึงมองเห็นความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของกาลเวลามาได้บ้าง ลองนึกภาพดู ความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของกาลเวลานั้นช่างมีความลึกซึ้งเพียงใด?

แน่นอนที่สุด ในสายตาของผู้คนจำนวนมากมองว่า การที่เจ๋อหลงคิดว่าตัวเองโง่เขลานั้น มันเป็นเพียงคำพูดที่ถ่อมตนเท่านั้นเอง สามารถสำเร็จกลายเป็นชั้นวิถีไกลที่ปราศจากผู้ต่อกรได้ ไหนเลยมีความเป็นไปได้ว่าเป็นผู้ไร้สมองได้เล่า

“ถ้าเช่นนั้นก็ให้ข้าได้เปิดหูเปิดตาในพลังกาลเวลาของเจ้าก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่มองดูกิเลนคริสตัลตัวนี้แล้วหัวเราะ ท่าทางดูจะเห็นแล้วชอบและรู้สึกคันไม้คันมืออยากทดลองดูสักหน่อย

“ล่วงเกินแล้ว สหายโปรดระวังด้วย” ท่าทางของเจ๋อหลงดูจะหนักแน่นและเอ่ยขึ้นมาช้าๆ สิ่งนี่ไม่เพียงเพราะเมื่อใดที่ถูกพลังกาลเวลาทำร้ายเข้าแล้ว ยากจะพลิกสถานการณ์ได้เท่านั้น

ศึกนี้กล่าวสำหรับเจ๋อหลงเองก็มีความสำคัญยิ่ง หากแม้กิเลนคริสตัลของเขาก็ทำร้ายหลี่ชิเย่ไม่ได้ล่ะก็ เช่นนั้นแล้ว เขาก็ต้องมีการประเมินที่ลึกยิ่งกว่านั้นเกี่ยวกับกำลังความสามารถของหลี่ชิเย่แล้ว

เวลานี้ ทุกคนได้ยินคำพูดโต้ตอบของหลี่ชิเย่กับเจ๋อหลงแล้ว และทำให้ยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน คำพูดโต้ตอบของพวกเขาทั้งสองฟังดูแล้วดูจะมีท่าทีต่างเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันอยู่มากทีเดียว

ทุกคนต่างฟังออกได้ว่า หลี่ชิเย่นั้นให้ความชื่นชมในกิเลนคริสตัลของเจ๋อหลงยิ่งนัก ขณะที่เจ๋อหลงเองก็ให้ความเคารพนับถือในศัตรูหมายเลขหนึ่งที่แข็งแกร่งเช่นหลี่ชิเย่

เวลานี้ กิเลนคริสตัลได้ก้าวเดินเข้าหาหลี่ชิเย่ช้าๆ กิเลนคริสตัลดูไปแล้วมีความงดงามยิ่งนัก ลำพังดูจากรูปลักษณ์ภายนอก ทำให้ผู้คนรู้สึกว่ามันไม่มีพลังโจมตีที่ทรงพลังอะไร กระทั่งมีความรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมอย่างหนึ่ง

อีกทั้ง ขณะกิเลนคริสตัลเดินเข้าหาหลี่ชิเย่นั้น ไม่ได้แสดงออกถึงความเป็นศัตรูใดๆ ตรงกันข้ามกลับเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งที่เดินเข้ามาหา ช่างน่ารักน่าเอ็นดูอะไรอย่างนั้น

ทว่า ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ โดยเฉพาะระดับคงความอมตะตลอดกาลที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรด้วยแล้ว อากัปกิริยาของพวกเขายิ่งดูจะหนักแน่นจริงจัง เมื่อมองเห็นกิเลนคริสตัลเดินเข้ามา

หลังจากที่พวกเขาก้าวมาถึงระดับเช่นนี้แล้ว พวกเขายิ่งจะเข้าใจถึงพลังของกาลเวลา ซึ่งเป็นหนึ่งในพลังที่น่ากลัวที่สุดในโลก พลังเช่นนี้หาใช่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาจะสามารถขัดขืนได้

หลังจากที่กิเลนคริสตัลเดินเข้ามาแล้ว ไม่ได้มีการโจมตีต่อหลี่ชิเย่อย่างที่ทุกคนได้จินตนาการเอาไว้

ตรงกันข้าม หลังจากที่กิเลนคริสตัลเดินเข้าใกล้หลี่ชิเย่แล้ว มันถึงกับเดินวนรอบตัวหลี่ชิเย่อย่างช้าๆ

ดูไปแล้วภาพเช่นนี้ก็คล้ายกิเลนคริสตัลเป็นสัตว์เลี้ยงที่ทั้งสวยงาม ทั้งน่ารักตัวหนึ่ง มันเดินหมุนไปรอบๆ ตัวของหลี่ชิเย่ เหมือนต้องการยอมรับหลี่ชิเย่เป็นเจ้าของอย่างนั้น

แต่ว่า ถ้าหากคิดเช่นนี้ล่ะก็ มันคือการรนหาที่ตายเอง

เนื่องจากขณะที่กิเลนคริสตัลเดินวนรอบตัวหลี่ชิเย่นั้น มันได้ทิ้งกาลเวลาสายแล้วสายเล่าเอาไว้ ดังนั้น การหมุนวนรอบยิ่งมากเท่าไร กาลเวลาที่ทิ้งเอาไว้ก็จะยิ่งมากเท่านั้น

ที่สำคัญมากที่สุดก็คือ ขณะที่มันวนรอบหลี่ชิเย่นั้น ช่องว่างพลันกลับกลายเป็นไม่คงอยู่อีกแล้ว สิ่งนี้เป็นการบ่งบอกว่า ไม่ว่าบุคคลนั้นจะหลบหนีไปที่ใดก็ตามก็จะหนีกาลเวลาของตนไปไม่พ้น กิเลนคริสตัลจะยังคงเดินวนเวียนรอบตัวของบุคคลผู้นั้นเช่นเดิม

นับแต่วินาทีที่กิเลนคริสตัลตัวนั้นเดินวนรอบตัวของหลี่ชิเย่เป็นต้นมา หลี่ชิเย่ก็ได้เข้าไปอยู่ในอาณาจักรของกาลเวลาแล้ว โดยไม่เกี่ยวกับช่องว่างอีก ดังนั้นภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้ ไม่ว่าจะหนีไปที่ใด หรือก้าวเดินไปแห่งใด ผลลัพธ์ก็จะออกมาเหมือนกัน

การที่กิเลนคริสตัลเดินวนรอบตัวหลี่ชิเย่ท่ามกลางอาณาจักรกาลเวลานั้น ก็คือการนำเอากาลเวลามาเรียงซ้อนกัน

“ดูเหมือนไม่ได้ก่อเกิดอันตรายอะไรนี่?” บรรดาศิษย์ได้พึมพำขึ้น เมื่อเห็นกิเลนคริสตัลที่คล้ายสุนัขที่เป็นสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง เดินวนรอบๆ หลี่ชิเย่

“เจ้าคนไร้สมอง นี่มันคือกาลเวลา” ผู้อาวุโสได้ตวาดเสียงดังกับผู้เยาว์ของตนว่า “นั่นเป็นเพราะหลี่ชิเย่แข็งแกร่งมากเกินไป หากเปลี่ยนเป็นเจ้าแค่รอบเดียวก็หายวับไปกับตาในพริบตาเดียวแล้ว เจ้าดูช่องว่างที่ถูกตัดเฉือนนั่นสิ!”

หลังจากที่บรรดาศิษย์เหล่านี้ถูกผู้อาวุโสกล่าวเตือนสติแล้วจึงได้จ้องมองดูอย่างละเอียด มองเห็นขณะกิเลนเดินวนรอบหลี่ชิเย่นั้น ไม่เพียงแต่ตัดเฉือนช่องว่างเท่านั้น ทั้งยังทำให้ช่องว่างทั้งหมดเริ่มกลับกลายเป็นขมุกขมัวขึ้นมา

นี่หาใช่เป็นการก่อกวนต่อช่องว่างของกิเลน แต่เป็นเพราะกาลเวลาของกิเลนคริสตัลที่ไปทำให้ช่องว่างเน่าเปื่อยเปลี่ยนสภาพ เหมือนว่าในพริบตาเดียวนั่นเอง ช่องว่างได้ผ่านกาลเวลามาแล้วเป็นพันล้านปี จากการที่กาลเวลาเคลื่อนผ่านไปอย่างยาวนานแล้ว แม้แต่ช่องว่างก็พลันมีสภาพที่แก่หง่อม และพลังของช่องว่างก็หายไปด้วย

ยอดฝีมือที่มองเห็นช่องว่างที่สลายไปตามพลังที่ไหลเคลื่อนไป กลับกลายเป็นขมุกขมัวขึ้นมาถึงกับสั่นเทิ้มและกล่าวขึ้นมาว่า “หากสวรรค์แก่ชรา ชั่วฟ้าดินสลาย”

แม้แต่ช่องว่างยังคงแก่ชราลง สิ่งนี้ทำให้ผู้คนจินตนาการได้ว่า บางทีภายใต้กาลเวลาที่เร่งให้แก่ชรา แม้แต่สวรรค์ก็มีวันต้องแก่ชราไปสักวัน ช่างเป็นพลังที่น่ากลัวอะไรอย่างนั้น!

………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด