Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2525 ก่อนเกิดเหตุครั้งใหญ่

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2525 ก่อนเกิดเหตุครั้งใหญ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2525 ก่อนเกิดเหตุครั้งใหญ่
ตูม…เสียงดังสนั่นเกิดขึ้น เมื่อข้างลำตัวของราชันแท้จริงปาเจิ้นปรากฏหลักกฎเกณฑ์สัจธรรมจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรงนั้น สร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อฟ้าดิน กลิ่นอายของราชันแท้จริงปาเจิ้นเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งในพริบตา เสมือนดังได้เพิ่มสูงขึ้นหลายระดับในชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น

ในเวลานี้เอง ขณะที่ราชันแท้จริงปาเจิ้นลืมตาทั้งสองขึ้นมานั้น มองเห็นประกายสีทองวูบวาบ ยามที่สายตาของเขาคุโชนขึ้นมา เสมือนดั่งสามารถหลอมกลั่นโลกธาตุ สามารถติดๆ ดับๆ ตลอดกาล ในพริบตาเดียวนั่นเอง เหมือนว่าได้ทำให้เขามีพลังที่สามารถฟันสายน้ำแห่งกาลเวลาจนขาดสบั้นโดยอาศัยมือข้างเดียวอย่างนั้น

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำเมื่อมองเห็นราชันแท้จริงปาเจิ้นในขณะนี้ ปรกติแล้วราชันแท้จริงปาเจิ้นก็นับว่าแข็งแกร่งมากพออยู่แล้ว ภายใต้การปลุกเสกด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่ไพศาลเช่นนี้แล้ว ได้กลับกลายเป็นพาลมากยิ่งขึ้นไปอีก ดุจดั่งปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้า

แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง หลักกฎเกณฑ์สัจธรรมที่อยู่รอบๆ ตัวราชันแท้จริงปาเจิ้น ซึ่งสามารถกดทับเหล่าชั้นฟ้าจนพังทลายได้กำลังทำการวิวัฒนาการ กลายเป็นสุริยันจันทราและดวงดาว สรรพสิ่งบนโลก สรรพหลักธรรมบนโลก

ภายในระยะเวลาอันสั้น หลักกฎเกณฑ์ที่อยู่รอบๆ ตัวของราชันแท้จริงปาเจิ้นล้วนแล้วแต่หายไปสิ้น ปรากฏเป็นโลกที่ยิ่งใหญ่ไพศาลน่าเกรงขามขึ้นที่ด้านหลังของเขา ในพริบตาเดียวนั่นเอง เสมือนดั่งราชันแท้จริงปาเจิ้นได้นำเอาโลกแท้จริงโลกหนึ่งมาแบกเอาไว้บนหลังอย่างนั้น

‘ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่’ มีผู้ที่มองดูดวงดาวที่สว่างไสวของโลกที่อยู่ด้านหลังของราชันแท้จริงปาเจิ้นแล้ว รู้สึกว่าคุ้นตาเป็นพิเศษ เมื่อมองดูให้ละเอียดอีกทีก็รู้แล้วว่ามันคือสิ่งใดแล้ว

“เป็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่จริงๆ” โลกที่คุ้นหูคุ้นตามากเช่นนี้ ผู้คนจำนวนมากพลันจดจำได้ทันที โลกดังกล่าวที่ว่าก็คือระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่นั่นเอง

ในขณะนี้ เสมือนว่าราชันแท้จริงปาเจิ้นได้นำเอาระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ทั้งหมดมาแบกเอาไว้บนหลังอย่างนั้น เพียงชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ราชันแท้จริงปาเจิ้นดุจดั่งมีพลังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ทั้งหมดอยู่ในครอบครอง

ฟู่วววเสียงหนึ่งดังขึ้น เสมือนดั่งเมฆหมอกที่บางครั้งก็หนาทึบบางครั้งก็เจือจาง ในเวลานี้เอง ด้านหลังของราชันแท้จริงปาเจิ้นปรากฏเมฆเซียนบางๆ ที่ทิ้งตัวลงมา ในเวลานี้จึงทำให้ราชันแท้จริงปาเจิ้นนั้นมีเมฆเซียนบางๆ ล้อมรอบตัว ทำให้ดูเหมือนว่าตัวของราชันแท้จริงปาเจิ้นนั้นก้าวเดินออกมาจากแดนเซียนอย่างนั้น ทุกก้าวย่างที่ก้าวออกไปล้วนแล้วแต่นำมาซึ่งกลิ่นอายของแดนเซียน และนำเอาหมอกบางๆ ในแดนเซียนมาด้วย ทุกย่างก้าวที่เข้าก้าวเดินไปนั้น เหมือนว่าได้ทำให้แผ่นดินที่อยู่ใต้เท้าของเขากลายเป็นแผ่นดินเซียนอย่างนั้น

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกตื่นตระหนกอยู่ในใจ เมื่อได้มองเห็นภาพเช่นนี้ ผู้คนจำนวนมากทยอยกันมองตากันและกัน ในเวลานี้เอง ทุกคนล้วนแล้วแต่รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของราชันแท้จริงปาเจิ้น

ย่อมไม่ต้องสงสัย พลังของราชันแท้จริงปาเจิ้นในเวลานี้มากกว่าราชันแท้จริงสองลัคนาแล้วอย่างแน่นอน กระทั่งมากกว่าราชันแท้จริงสามลัคนาไปแล้ว

“จะอย่างไรเสียนี่มันคือระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่นะเนี่ย ราชันแท้จริงปาเจิ้นบำเพ็ญเพียรอยู่ในแคว้นว่านเจิ้น และบรรลุถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่มาตั้งแต่เด็ก จึงไม่แปลกที่เขาสามารถควบคุมพลังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ในขณะนี้ นี่แหละคือข้อได้เปรียบของการเป็นเจ้าบ้าน” ระดับบรรพบุรุษได้กล่าวขึ้นมาช้าๆ

ความได้เปรียบในด้านของการเป็นเจ้าบ้านนั้น เป็นสิ่งที่มีกันได้กับผู้บำเพ็ญตนคนใดก็ตาม เว้นเสียแต่ผู้บำเพ็ญตนประเภทที่ไม่มีชาติกำเนิดมาจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ ขณะที่ผู้บำเพ็ญตนประเภทที่ไม่มีชาติกำเนิดมาจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธินั้น เรียกได้ว่าอ่อนแอจนสามารถมองข้ามไปได้

เฉกเช่นผู้บำเพ็ญตนสองคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน ถ้าหากพวกเขาทั้งสองจะต้องฆ่าฟันให้ตายไปข้างหนึ่ง สถานที่ที่ใช้ต่อสู้ขั้นเด็ดขาดอยู่ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของผู้บำเพ็ญตนคนใดคนหนึ่ง เช่นนั้นแล้วผู้บำเพ็ญตนที่ได้เปรียบในฐานะเจ้าบ้านสามารถสังหารคู่ต่อสู้ได้อย่างสิ้นเชิง

อีกทั้งผู้ที่มีทักษะยิ่งแกร่งมากเท่าไร ความได้เปรียบทางด้านของความเป็นเจ้าบ้านก็จะเด่นชัดมากยิ่งขึ้น สำหรับราชันแท้จริงนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงให้มากความ ในฐานะที่เป็นราชันแท้จริงและอยู่ภายในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของตน เขาย่อมมีความได้เปรียบอย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว อีกทั้งความได้เปรียบที่เด็ดขาดเช่นนี้ต่อให้เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่อยู่ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเดียวกันก็ยากจะเทียบเทียมกับเขาได้

จะอย่างไรเสีย ราชันแท้จริงได้บรรลุความลึกซึ้งยอดเยี่ยมที่ถึงแก่นเกี่ยวกับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของตนได้มากกว่า ได้ควบคุมพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ นี่แหละคือหนึ่งในข้อแตกต่างระหว่างราชันแท้จริงกับระดับเทพแท้จริง

ย่อมไม่ต้องสงสัย ราชันแท้จริงปาเจิ้นมีความได้เปรียบในฐานะเจ้าบ้านที่ยากจะหาผู้ใดเทียม เขาเกิดและเติบโตที่นี่ ได้บรรลุเคล็ดวิชาของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่มาตั้งแต่เด็ก เขามีความใกล้ชิดกับผืนแผ่นดินทุกตารางนิ้วของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่เป็นพิเศษ โดยเฉพาะภายในแคว้นว่านเจิ้นของพวกเขายิ่งไม่ต้องพูดถึง เขาสามารถโอนย้ายพลังของแคว้นว่านเจิ้นมาใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา

ครั้นมองเห็นราชันแท้จริงปาเจิ้นที่องอาจห้าวหาญในฐานะเจ้าบ้าน ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างทยอยกันมองดูหลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่บนเขาหงฮวงซาน ทุกคนต่างไม่รู้ว่าฮ่องเต้องค์ใหม่จะมีความได้เปรียบด้านการเป็นเจ้าบ้านอย่างไร จะอย่างไรเสีย ตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่เคยเห็นเขาลงมืออย่างเต็มกำลังความสามารถสักที

“เทียบกับฝ่าบาทแล้วเป็นอย่างไร?” เมื่อกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มองเห็นท่วงท่าลักษณะเช่นนี้ของราชันแท้จริงปาเจิ้นแล้ว มีทีท่าปราศจากผู้ต่อกรในหล้าอย่างยิ่ง ในเวลานี้ทำให้ความคิดของกลุ่มคนรุ่นใหม่ดูจะคึกคักขึ้นมา อดที่จะพูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมา

จะอย่างไรเสีย ราชันแท้จริงปาเจิ้นเคยเป็นผู้ที่เป็นแรงบัลดาลใจให้กับผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่มาเป็นเวลาที่ยาวนานมาก ไม่รู้ว่ามีศิษย์ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนเท่าไรที่ถือเอาราชันแท้จริงปาเจิ้นเป็นแบบอย่างมาโดยตลอด

ลึกๆ ภายในใจของศิษย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ยังคงคาดหวังว่าราชันแท้จริงปาเจิ้นจะมีความแข็งแกร่งอย่างเพียงพอ สามารถเอาชนะได้ในที่สุด

ผู้คนจำนวนมากไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับหลี่ชิเย่ เมื่อเปรียบกับราชันแท้จริงปาเจิ้น สิ่งนี้นอกเหนือจากหลี่ชิเย่ที่เป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ผู้นี้ ก่อนหน้านั้นไร้ชื่อไร้เสียงตลอดมา จากนั้นพลันโผล่ขึ้นมาในชั่วข้ามคืน และกลายเป็นฮ่องเต้แล้ว ขณะเดียวกัน หลี่ชิเย่ที่เป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ยังมีชื่อเสียงในทางไม่ดี ทุกคนต่างรู้จักเขาในนามทรราชที่มั่วโลกีย์ไร้คุณธรรม ดังนั้น ภายในใจของกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากจึงรังเกียจหลี่ชิเย่ที่เป็นทรราช

ในเวลานี้ ยังคงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยกระหายต้องการให้ราชันแท้จริงปาเจิ้นเอาชนะหลี่ชิเย่ที่เป็นทรราช แน่นอน ผู้คนจำนวนมากก็ได้แต่คิดอยู่ในใจเท่านั้น ไม่มีใครกล้าพูดออกมา มิฉะนั้นแล้ว หากให้ทรราชอย่างหลี่ชิเย่รู้เข้าล่ะก็ ไม่รู้ว่าจะมีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องหัวหลุดจากบ่า

“บางที อาจมีโอกาส” ผู้คนจำนวนไม่น้อยเมื่อมองเห็นลักษณะเช่นนี้ของราชันแท้จริงปาเจิ้นแล้ว อดที่จะพูดขึ้นมาแผ่วเบา

ทว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองโลกในแง่ดี ผู้บำเพ็ญตนรุ่นอาวุโสมีท่าทีหนักแน่นจริงจัง และกลั้นลมหายใจเอาไว้ เนื่องจากพวกเขาต่างเคยเห็นหลี่ชิเย่ลงมือมาแล้ว กล่าวได้ว่า การลงมือของหลี่ชิเย่นั้นลึกล้ำยากจะหยั่งถึง การลงมือที่สะเทือนเลื่อนลั่น มุทะลุดุดันและโหดร้าย ไม่มีใครรู้ว่าหลี่ชิเย่นั้นมีความแข็งแกร่งเช่นใดกันแน่

กระทั่งรุ่นอาวุโสคิดว่า ฮ่องเต้องค์ใหม่เมื่อเปรียบเทียบกับฮ่องเต้ไท่ชิงที่สวรรคตไปแล้วนั้น เกรงว่ามีแต่จะแกร่งกว่าไม่มีด้อยกว่า ถ้าหากเป็นเช่นนี้จริงล่ะก็ อย่าว่าแต่ราชันแท้จริงปาเจิ้นเลย ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ก็ต้องสั่นเทาภายใต้อำนาจบามีของเขา

ลองคิดดู ครั้งนั้นขณะฮ่องเต้ไท่ชิงเป็นใหญ่แต่ผู้เดียวใต้หล้านั้น มีคนไหนบ้างที่ไม่ใช่ตัวสั่นงันงกภายใต้อำนาจบารมีของฮ่องเต้ไท่ชิง ไม่ว่าจะเป็นสำนักเจ้าลัทธิหรือห้าแกร่ง และหรือปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดทั้งห้าก็ต้องตัวสั่นงันงกเช่นกัน โดยยินดีติดตามและปฏิบัติตามคำสั่ง อยู่ใต้อำนาจของผู้อื่น

ถ้าหากว่าฮ่องเต้องค์ใหม่แข็งแกร่งกว่าฮ่องเต้ไท่ชิงจริงๆ ล่ะก็ เช่นนั้นแล้วก็จะน่ากลัวมาก ทุกคนที่อยู่ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่อย่าหวังจะต่อต้านเขาตลอดไป!

แช้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่ทุกคนกำลังกลั้นลมหายใจอยู่นั้น ราชันแท้จริงปาเจิ้นได้ก้าวเท้าออกมาก้าวหนึ่ง

พลันที่ราชันแท้จริงปาเจิ้นก้าวเท้าออกมาก้าวหนึ่ง ได้ยินเสียงกระบี่คำราม ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้นมา กระบี่ศักดิ์สิทธิ์แต่ละเล่มปรากฏตัวขึ้นมา กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทุกเล่มต่างก็มีลวดลายที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง

กระบี่ศักดิ์สิทธิ์บางเล่มจะเป็นมังกรที่กำลังคำราม บางเล่มจะเป็นหงส์เซียนที่บินร่อน และมีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์บางเล่มที่เป็นสุนัขสวรรค์แผดเสียงก้อง…

กระบี่ศักดิ์สิทธิ์แต่ละเล่มมีรูปลักษณ์ที่น่ากลัวเช่นนี้ เท่ากับเสมือนหนึ่งเป็นการเปิดโลกดึกดำบรรพ์โลกหนึ่งขึ้นมาอย่างนั้น สิงสาราสัตว์เทพและสัตว์ปีกดุร้ายติดตามราชันแท้จริงปาเจิ้นออกมา

ดังนั้น เมื่อราชันแท้จริงปาเจิ้นเคลื่อนไหว กระบี่ศักดิ์สิทธิ์แต่ละเล่มก็ผงาดฟ้าติดตามมาด้วย ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง เมื่อมองจากระยะห่างไกลแล้ว คล้ายดั่งราชันแท้จริงปาเจิ้นบังคับควบคุมทะเลกระบี่มาอย่างนั้น กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในทะเลกระบี่ส่งเสียงคำรามทั่วฟ้าดิน บินร่อนและกระโดดไปหมื่นอาณาจักร แลดูอลังการยิ่งนัก และสร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คน

ผู้คนจำนวนมากที่ได้เห็นราชันแท้จริงปาเจิ้นบังคับควบคุมทะเลกระบี่มานั้น ต่างมองดูด้วยความสะเทือนหวั่นไหว มีผู้ที่พึมพำขึ้นมาว่า “นี่คือการเสด็จประพาสของเซียนแท้จริงรึ?”

ราชันแท้จริงปาเจิ้นก้าวเท้าก้าวหนึ่งก็คือโลกๆ หนึ่ง แม้ว่าแคว้นว่านเจิ้นห่างจากเขาจิ่วเหลียนซานมากมายเหลือเกิน แต่ว่า ไม่เป็นปัญหาสำหรับราชันแท้จริงปาเจิ้นที่จะก้าวไป

“จะมาแล้ว…” มีผู้พึมพำขึ้นมา เมื่อมองเห็นราชันแท้จริงปาเจิ้นควบคุมทะเลกระบี่เข้าใกล้เขาจิ่วเหลียนซานทุกทีๆ

ในเวลานี้ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยเริ่มทยอยกันถอนตัวไป เนื่องจากพวกเขารู้ว่า เมื่อไรที่ฮ่องเต้องค์ใหม่เปิดศึกกับฮ่องเต้องค์ใหม่ จะต้องสะเทือนเลื่อนลั่นอย่างแน่นอน ดังนั้น พวกเขาไม่ต้องการถูกพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย

มีผู้ที่แอบมองหลี่ชิเย่แวบหนึ่ง พวกเขาคิดจะมองเห็นความนัยอะไรบางอย่างจากท่าทางของหลี่ชิเย่

แต่ทว่า หลี่ชิเย่ยังคงเอ้อระเหยอะไรอย่างนั้น ข้างกายมีหลิ่วชูฉิง และปิงฉือหานยวี่คอยปรนนิบัติอยู่ ต้มชาใกล้ชิดสนิทสนมแบบไร้เดียงสา แม้ว่าจะเผชิญกับราชันแท้จริงปาเจิ้นที่กำลังบังคับควบคุมทะเลกระบี่เข้ามา หลี่ชิเย่ยังคงจิบชาด้วยท่าทีเอ้อระเหย ท่าทางเหมือนกำลังชื่นชมทิวทัศน์อันงดงามของเขาจิ่วเหลียนซาน

“นับว่าพาลจริงๆ” ต่อให้ในใจของผู้คนจำนวนมากไม่สบอารมณ์กับฮ่องเต้องค์ใหม่ แต่ก็ไม่อาจไม่ยอมรับ เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ในเวลานี้แล้วยังคงไม่ให้ความสำคัญ ความแข็งแกร่งของเขาใช่จะไม่มีเหตุผล

ภายในระยะเวลาอันสั้น ราชันแท้จริงปาเจิ้นก็ได้ก้าวเท้าเข้าไปยังเขาจิ่วเหลียนซานแล้ว ยามที่เขาก้าวเท้าเข้าไปยังเขาจิ่วเหลียนซานนั้น กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่ติดตามมาทางด้านหลังของเขาก็ส่งเสียงคำรามตามมา เสียงคำรามของกระบี่ดังขึ้นมาไม่ขาดสาย

ตึง ตึง ตึง…เสียงกระบี่คำรามดังก้องฟ้าดิน จังหวะที่ราชันแท้จริงปาเจิ้นก้าวเท้าเข้าไปยังเขาจิ่วเหลียนซานนั้น บรรดากระบี่ศักดิ์สิทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนที่ปักตรึงอยู่เต็มพื้นที่ของเขาจิ่วเหลียนซานล้วนแล้วแต่ส่งเสียงคำรามขึ้นมาพร้อมๆ กันในเวลานี้ ในขณะนี้เสมือนดั่งกระบี่ศักดิ์สิทธิ์จำนวนล้านล้านเล่มส่งเสียงคำรามขึ้นมาพร้อมกัน เหมือนกระบี่วิเศษทั้งหมดของโลกๆ หนึ่งคำรามเสียงยาวขึ้นมา ขณะเดียวกันกระบี่ประจำกายของผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากก็ไม่อยู่ในความควบคุมของเจ้าของกระบี่อีกต่อไป

ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง เสียงคำรามของกระบี่ทั้งหมดต่างหลอมรวมเป็นเสียงเดียว ฉีกท้องฟ้าจนขาดออกจากกัน และความขมุกขมัวก็ได้ทิ้งตัวลงมา

ในเวลานี้เอง กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่ปักอยู่บนเขาจิ่วเหลียนซานทั้งหมดต่างพวยพุ่งประกายกระบี่ที่ดั่งคลื่นยักษ์ออกมา และกลับกลายเป็นกระบี่ยักษ์ที่สูงใหญ่และทรงพลัง

แว้งค์…แว้งค์…แว้งค์…เสียงสั่นเทาที่บางเบาดังขึ้น จังหวะที่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดพวยพุ่งประกายกระบี่ออกมานั้น นาทีนี้มองเห็นภายในดินของเขาจิ่วเหลียนซานปรากฎเป็นลายเต๋าเป็นเส้นๆ

นาทีนี้ เขาจิ่วเหลียนซานเรียกได้ว่ามีเส้นแนวนอนแนวตั้งแต่ละเส้นที่ตัดสลับไขว้กันไปมา ภายในระยะเวลาอันสั้น ภายใต้การขับเคลื่อนของกระบี่ศักดิ์สิทธ์จำนวนมหาศาล ทั่วทั้งเขาจิ่วเหลียนซานล้วนแล้วแต่กลายเป็นค่ายกลกระบี่น่ากลัวที่ปราศจากผู้เทียบเทียม

สุดท้าย ได้ยินเสียงตึงเสียงกระบี่คำรามที่ฉีกฟ้าดินจนขาดดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในเวลานี้ ภูเขาแต่ละลูกของเขาจิ่วเหลียนซานเสมือนหนึ่งหายไป ภูเขาแต่ละลูกของเขาจิ่วเหลียนซานได้กลายเป็นกระบี่ยักษ์แต่ละเล่ม

กระทั่งตัวของเขาจิ่วเหลียนซานเองก็คือกระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งที่ทรงอานุภาพยิ่งใหญ่คับฟ้า

……………………………

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *