Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2587 ถล่มอย่างหนัก
ตอนที่ 2587 ถล่มอย่างหนัก
เวลานี้ได้ทำทุกคนต่างรู้สึกงงงัน ทุกคนต่างจ้องมองภาพของเรือรบสิบกว่าลำถูกตบจนกลายเป็นขนมเปี้ยะเหล็กในชั่วพริบตาเดียวอย่างงุนงง
กองเรือรบของฉางจินต้งนับว่ามีชื่อเสียงโด่งดังในแดนลัทธิราชัน เรือรบทุกลำ แม้แต่เรือรบขนาดเล็กล้วนแล้วแต่ถูกสร้างขึ้นด้วยโลหะศักดิ์สิทธิ์ที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง เป็นการลงมือหลอมสร้างครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยตนเองโดยระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ กระทั่งราชันแท้จริง
เรียกได้ว่า เรือรบทุกลำของฉางจินต้งล้วนแล้วแต่ผ่านการทดสอบมาอย่างโชกโชน เรือรบทุกลำล้วนแล้วแต่เคยรับการปลุกเสกจากระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ กระทั่งราชันแท้จริงมาก่อน
กล่าวได้ว่า เรือรบทุกลำได้พกพาเอาพลังทำลายจากอาวุธเทพแท้จริงขั้นอมตะ และหรืออาวุธราชันแท้จริงที่ทรงพลังปราศจากผู้ต่อกร มีอานุภาพที่ปราศจากผู้เทียบเทียม
กองเรือรบของฉางจินต้งเคยเข้าร่วมในการศึกสงครามที่มีชื่อของแดนลัทธิราชันมาหลายครั้ง และเคยสร้างผลงานสู้รบที่โด่งดัง ภายใต้กองเรือรบฉางจินต้งที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกร เคยมีแคว้นเจ้าลัทธิที่ถูกทำลายไปแคว้นแล้วแคว้นเล่า
ในการศึกนับร้อยครั้งนั้น ระดับการสูญเสียของกองเรือรบฉางจินต้งล้วนแล้วแต่บางเบาอย่างยิ่ง กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว การสูญเสียเรือรบหนึ่งถึงสองลำก็นับเป็นเรื่องใหญ่แล้ว ไม่นึกไม่ฝันเลยว่า มาวันนี้หลี่ชิเย่พลันทำลายกองเรือรบฉางจินต้งสิบกว่ายี่สิบลำไปได้อย่างง่ายดาย
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างอ้าปากกว้าง เมื่อมองเห็นเรือรบสิบกว่าลำถูกหลี่ชิเย่ตบจนกลายเป็นขนมเปี๊ยะเหล็กในทันที ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกเสียวสันหลังวาบ อดที่จะรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงจนขนลุกซู่ไม่ได้ วิธีการเช่นนี้มันช่างพาลเหลือเกิน และน่ากลัวมากเกินไปแล้วกระมัง
“คน คนนี้เป็นใครกันนะ?” ระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิต่างอ้าปากกว้างเมื่อมองเห็นภาพนี้ ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ในเวลานี้
ในขณะนี้ ก็มีผู้คนจำนวนมากพูดไม่ออกว่าเป็นเพราะอะไร เนื่องจากกล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว หลี่ชิเย่ช่างไม่คุ้นหน้าเหลือเกิน มีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ถึงประวัติความเป็นมาของเขา ยิ่งไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน
“ฟังว่า เขาเรียกตัวเองว่าเป็นคนโหดอันดับหนึ่งอะไรนั่น ชื่อหลี่ชิเย่ แต่ไม่เคยได้ยินว่าเป็นใครมาจากไหน และไม่มีใครรู้ถึงประวัติความเป็นมาของเขา” ยอดฝีมือที่เป็นบุคคภายนอกได้ทราบข่าวคราวของหลี่ชิเย่มาบ้างจากปากของผู้บำเพ็ญตนของเมืองหมิงลั่วเฉิง
“คนโหดอันดับหนึ่ง?” ยอดฝีมือผู้มีชื่อเสียงโด่งดังต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน เนื่องจากทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่เคยได้ยินฉายานี้ ยิ่งไม่เคยได้ยินชื่อหลี่ชิเย่มาก่อน กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว ฉายานี้ชื่อนี้เรียกได้ว่าไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย ฟังดูแล้วเหมือนเป็นผู้เยาว์ที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนามคนหนึ่งเท่านั้น
“หรือจะเป็นคลื่นลูกใหม่โผล่ขึ้นมาอีกคน?” มีคนรู้สึกสงสัยเมื่อเห็นหลี่ชิเย่ลงมือได้อันธพาลและโหดร้ายทารุณถึงเพียงนี้ และกล่าวว่า “คนหนุ่มมีพลังที่น่าเคารพเลื่อมใสนะเนี่ย ก่อนหน้านั้นมีราชันแท้จริงต้วนยวี่ และราชันแท้จริงมู่เจี้ยน เวลานี้ได้ปรากฏคนโหดอันดับหนึ่งโผล่ขึ้นมาอีกคน”
แว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง เรือรบขนาดเล็กที่ขนาบข้างเรือรบลำใหญ่โตมโหฬารทั้งสิบลำต่างหันหัวเปลี่ยนทิศทาง พริบตาเดียวนั้น กระบอกปืนทั้งหมดที่อยู่บนเรือรบขนาดเล็กล้วนแล้วแต่หันไปยังหลี่ชิเย่ กระทั่งปลายกระบอกปืนของเรือรบลำยักษ์ทั้งสิบลำก็หันไปยังหลี่ชิเย่เช่นกัน
ย่อมไม่ต้องสงสัย ในพริบตาเดียวนั่นเอง กองเรือรบทั้งฝูงต่างรวบรวมกำลังทั้งหมดเล็งไปที่หลี่ชิเย่ เหมือนว่าพร้อมจะโจมตีต่อหลี่ชิเย่ให้ถึงตายในครั้งเดียว
เรือรบจำนวนร้อยกว่าลำ กระทั่งมากกว่าสองร้อยลำ ปลายกระบอกปืนล้วนแล้วแต่เล็งตรงไปยังหลี่ชิเย่ มองดูกระบอกปืนที่ถี่ยิบเหล่านั้นแล้ว ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึง และรู้สึกขนลุกซู่ในใจ
“กำลังโจมตีทั้งหมดของกองเรือรบเลยนะเนี่ย” มีผู้ร้องกล่าวเสียงแผ่วเบาเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “อานุภาพนี้ยอดเยี่ยมปราศจากสิ่งเทียบเทียม กองเรือรบทั้งหมดระดมยิงพร้อมๆ กัน เคยเล่นงานระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิแห่งหนึ่งจนพิกลพิการ และไม่สามารถฟืนฟูพลังกลับมาได้อีก”
“นี่มันโหดร้ายเหลือเกิน เป็นท่วงทำนองที่ต้องการยิงเมืองหมิงลั่วเฉิงให้จมธรณีอย่างนั้นรึ?” แม้แต่ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสยังต้องร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง และรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว
“อยู่ห่างๆ หน่อยจะดีกว่า เกิดยิงถล่มลงมาจริงๆ เกรงว่าเมืองหมิงลั่วเฉิงก็ต้องถูกยิงจนทะลุ” ยอดฝีมือที่มีประสบการณ์มากพูดเสียงแผ่วเบาคำหนึ่ง แล้วเริ่มถอนตัวออกนอกเมืองเมืองหมิงลั่วเฉิง
ความจริงแล้ว ทั่วทั้งเมืองหมิงลั่วเฉิงก็ได้ปรากฏเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย มีคนจำนวนไม่น้อยที่ตกใจไม่เบากับสิ่งนี้ เมื่อมองเห็นปืนของกองเรือรบทั้งหมดเล็งไปที่หลี่ชิเย่ถี่ยิบ พวกเขาทยอยกันล่าถอยออกจากเมืองหมิงลั่วเฉิง ด้วยเกรงว่าเมื่อกำลังโจมตีของกองเรือรบทั้งหมดยิงเข้ามา จะทำให้เมืองหมิงลั่วเฉิงถูกยิงจนทะลุ
“ผู้ที่มานั้นเป็นผู้ใด รีบแจ้งชื่อมาเสีย ฉางจินต้งจะไม่สังหารผู้เยาว์ที่ไร้ชื่อไร้เสียง” จังหวะที่ปากกระบอกปืนเล็งมาที่ตัวหลี่ชิเย่ทั้งหมดนั้น บนกองเรือรบปรากฏร่างเงาของแม่ทัพผู้หนึ่ง ได้ร้องกล่าวเสียงดังต่อหลี่ชิเย่
“ฉางจินต้งอะไร ไม่เคยได้ยิน” หลี่ชิเย่ที่ยืนเอ้อระเหยสบายอกสบายใจอยู่ตรงนั้น กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหย
สีหน้าของแม่ทัพผู้นี้ดูไม่จืดถึงขีดสุด หลังจากได้ฟังคำพูดของหลี่ชิเย่แล้ว บรรดาผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ล้วนแล้วแต่รู้สึกงงงัน
“วาจาของเจ้าหนูดูจะโอหังเกินไปแล้ว กล้าดูถูกได้แม้กระทั่งฉางจินต้ง?” มีผู้อดที่จะซุบซิบด้วยความกังขาไม่ได้
ฉางจินต้งคือหนึ่งในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่แข็งแกร่งที่สุดต่อจากสามผู้ยิ่งใหญ่ ในแดนลัทธิราชันมีกี่คนที่ไม่เคยได้ยินชื่อของฉางจินต้ง ยิ่งไปกว่านั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาการกระทำของฉางจินต้งมีความพาลเสมอมา ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ได้ยินชื่อของฉางจินต้งแล้วต้องรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง
“สวรรค์มีทางเจ้าไม่ไป นรกไร้ประตูกลับบุกเข้ามา” ดวงตาทั้งสองของแม่ทัพผู้นี้ดูไม่เป็นมิตร เผยให้เห็นปณิธานการฆ่าที่น่ากลัว กล่าวน่าครั่นคร้ามขึ้นมาว่า “ไม่ว่าเจ้าจะมีชาติกำเนิดเช่นใด เป็นศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดก็ตาม วันนี้เป็นการรนหาที่ตายเองของเจ้า โทษใครไม่ได้”
“มีฝีมืออะไรก็สำแดงออกมาก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่โบกมือเบาๆ และกล่าวท่าทีเฉยเมยว่า “พวกเจ้าจะได้ไม่มีโอกาสจะต่อสู้เมื่อข้าลงมือ”
“ตั้งขบวน กำลังทำลายสูงสุด ทำลายล้างศัตรู ไม่ให้เหลือแม้แต่ซาก!” แม่ทัพผู้นี้สีหน้าไม่เป็นมิตร กลิ่นอายการฆ่าคลุกกรุ่น ตวาดเสียงดังขึ้นมา
เสียงแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ดังขึ้น ทันใดนั้นเอง เรือรบขนาดเล็กทั้งหมดที่เดิมอยู่เคียงข้างเรือรบขนาดยักษ์พลันแล่นออกมา โดยเรือรบขนาดเล็กทั้งหมดล้วนแล้วแต่ไปเรียงอยู่ด้านหน้าสุด กลายเป็นดั่งกำแพงขนาดยักษ์ด้านหนึ่งขวางอยู่ด้านหน้า
ได้ยินเสียงตั้งขบวนแกร่กกก แกร่กกก แกร่กกกดังขึ้น มองเห็นเรือรบขนาดเล็กทั้งหมดพลันจัดเป็นขบวนสู้รบขึ้นมา ได้ยินเสียงแต่ละเสียงที่ดังแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ขึ้นมา เรือรบขนาดเล็กแต่ละลำในขณะนี้เหมือนมีการจุดติดจนสว่างไสวขึ้นมา
ในขณะนี้เอง เรือรบทุกลำล้วนแล้วแต่มีหางและปีกชนกัน ท่ามกลางเสียงดังแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์นั้น คล้ายดั่งเรือรบขนาดเล็กแต่ละลำได้ประกบติดเข้าด้วยกัน
สุดท้าย ท่ามกลางเสียงแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ที่ดังขึ้น หลังจากที่เรือรบขนาดเล็กทั้งหมดได้เชื่อมต่อเข้าด้วยกันแล้ว ถึงกับกลายเป็นแหขนาดยักษ์ปากหนึ่ง ได้ยินเสียงดังแว้งค์เสียงหนึ่ง ช่องว่างได้กระเพื่อมทีหนึ่ง
เมื่อทุกคนได้สติกลับมาแล้ว เรือรบขนาดเล็กได้จัดการล้อมหลี่ชิเย่เอาไว้ในฉับพลันทันที ในเวลานี้เรือรบขนาดเล็กทั้งหมดคล้ายดั่งเป็นแหขนาดยักษ์ที่ส่งประกายสีทองแวบวับ ทำการครอบหลี่ชิเย่เอาไว้ หรือจะพูดให้ถูกต้องก็คือ จัดการรวบเอาช่องว่างที่หลี่ชิเย่ยืนอยู่ทั้งหมด ดูไปแล้วก็เสมือนหนึ่งเป็นลูกบอลสีทองขนาดยักษ์อย่างนั้น
ขณะที่ตัวของหลี่ชิเย่อยู่ในตำแหน่งตรงกลางของลูกบอลสีทองขนาดยักษ์ใบนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้ปลายกระบอกปืนของเรือรบทั้งหมดเล็งไปที่ตัวหลี่ชิเย่ได้อย่างแม่นยำโดยไม่มีมุมอับแต่อย่างใด กล่าวได้ว่าพลังโจมตีที่ทรงพลังปราศจากผู้เทียบเทียมได้ครอบคลุมทุกตารางนิ้วบนตัวหลี่ชิเย่ ขอเพียงหลี่ชิเย่เปิดช่องโหว่แม้เพียงนิดเดียว กำลังโจมตีก็จะหลั่งไหลเข้าไป และกำลังโจมตีที่น่ากลัวก็พลันกลืนกินร่างของหลี่ชิเย่จนจมมิด
“จะเริ่มต้นแล้ว” มีผู้ที่พึมพำขึ้นมา เมื่อมองเห็นเรือรบขนาดเล็กจำนวนหนึ่งร้อยกว่าลำได้ทำการปิดล้อมหลี่ชิเย่ เอาไว้โดยไม่มีมุมอับแม้แต่น้อย
เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง แม้แต่เรือรบขนาดยักษ์สิบลำนั่นก็เปล่งประกายออกมา เสมือนถูกจุดติดขึ้นมาอย่างนั้น
“สิบวัชระก็จะลงมือด้วยรึ?” มีผู้ที่รู้สึกใจหายใจคว่ำ เมื่อมองเห็นเรือรบขนาดยักษ์สิบลำก็เปล่งกระกายขึ้นมา เหมือนว่าได้ตระเตรียมกำลังโจมตีพร้อมแล้วทั้งหมด
“กำลังโจมตีเช่นนี้สามารถทำลายระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิแห่งใดแห่งหนึ่งจนกระทั่งพิกลพิการได้เลยนะเนี่ย การที่นำมาใช้กับผู้เยาว์คนหนึ่ง ออกจะเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนแล้วกระมัง?” แม้แต่ยอดฝีมือสำนักเจ้าลัทธิก็รู้สึกเหนือความคาดคิด และตกใจเงียบๆ
“ยิง” นาทีนี้ จากคำสั่งที่สั่งการออกมา เรือรบขนาดเล็กทั้งหมดต่างยิงเข้าใส่พร้อมกันทันที
ตูม ตูม ตูมเสียงดังสนั่นหวั่นไหวสะเทือนฟ้าดิน ภายใต้พลังโจมตีที่น่ากลัวยิ่ง ทำให้เมืองหมิงลั่วเฉิงเกิดสั่นไหวขึ้นมาทั่วเมือง ยามที่พลังโจมตีปกคลุมไปทั่วแผ่นฟ้าของเมืองหมิงลั่วเฉิงนั้น ทำเอาราษฎรของเมืองหมิงลั่วเฉิงทั้งหมดตกใจจนหมอบอยู่กับพื้น และมีสีหน้าที่ซีดเผือด
พลังโจมตีเช่นนี้เป็นพลังโจมตีที่ทรงพลัง และน่ากลัวมากที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเห็นมาชั่วชีวิต พลังโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้เสมือนหนึ่งเพลิงแห่งความโกรธที่มาจากนรกอเวจีอย่างนั้น เมื่อไรที่มันเทใส่เมืองหมิงลั่วเฉิงล่ะก็ สามารถทำลายเมืองหมิงลั่วเฉิงทั้งเมืองในทันที สามารถยิงเอาเมืองหมิงลั่วเฉิงทั้งเมืองกระเด็นออกไป
เสียงตูม ตูม ตูมดังขึ้นมาไม่ขาดสาย สร้างความสะเทือนหวั่นไหวจนหูทั้งสองข้างของทุกคนแทบหนวก พริบตาเดียวนั่นเอง พลังโจมตีทั้งหมดถูกรวมอยู่บนร่างของหลี่ชิเย่ มองเห็นปลายกระบอกปืนบนเรือรบทุกลำล้วนส่งประกายไฟที่วูบวาบที่น่ากลัวออกมา กำลังโจมตีทั้งหมดล้วนยิงใส่อยู่บนตัวของหลี่ชิเย่โดยตรง
ท่ามกลางเสียงดังตูม ตูม ตูมที่เกิดจากการระเบิด มองเห็นกระบอกปืนหลายร้อยกระทั่งนับพันกระบอกที่ระดมยิงเข้าร่างของหลี่ชิเย่อย่างบ้าคลั่ง ต้องการยิงร่างหลี่ชิเย่ให้หายวับไปกับตาในพริบตาเดียว
ภายใต้พลังยิงโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ ได้ยินเสียงแตกละเอียดดังคร๊ากกกขึ้นมา ช่องว่างที่หลี่ชิเย่ยืนอยู่พลันถูกยิงจนแหลกละเอียด ภายใต้กำลังโจมตีที่น่ากลัวซึ่งครอบคลุมเอาไว้ทั้งหมด ช่องว่างที่กว้างใหญ่เริ่มหลอมละลาย ดังนั้น ทุกคนที่อยู่ในเมืองหมิงลั่วเฉิงต่างรู้สึกได้ถึงคลื่นความร้อนที่ร้อนผ่าว ทำให้ผู้คนรู้สึกปากคอแห้งผาก
ภายใต้คลื่นความร้อนที่น่ากลัวลักษณะเช่นนี้พุ่งเข้ามาปะทะ เหมือนว่าเมืองหมิงลั่วเฉิงก็ทำท่าจะเริ่มหลอมละลายอย่างนั้น ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ยากที่จะรองรับกับคลื่นความร้อนที่น่ากลัวเช่นนี้ได้
“ตายแล้วรึ?” มีผู้ซุบซิบด้วยความสงสัย เมื่อมองเห็นภาพที่จมอยู่ภายใต้พลังการโจมตีอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ และกล่าวว่า “ด้วยกำลังโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ ต่อให้เป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะก็ไม่เห็นจะรองรับได้”
“ไม่เป็นอะไร” ยอดฝีมือที่มองดูอย่างละเอียด โดยสายตาได้ทะลุผ่านพลังโจมตีจากปลายกระบอกปืนอย่างบ้าคลั่งแล้ว ถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมาด้วยความหวาดผวา
“ไม่ตายจริงๆ รึ?” เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดนี้ต่างรู้สึกตกใจยิ่งนัก ต่างทยอยกันมองไปยังหลี่ชิเย่ที่อยู่ท่ามกลางพลังโจมตี
…………………………………………………….
Comments