Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2595 มนุษย์ยักษ์เหล็ก

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2595 มนุษย์ยักษ์เหล็ก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2595 มนุษย์ยักษ์เหล็ก

เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อสิบวัชระเริ่มผนึกร่างกับเรือรบยานแม่ของตนเข้าด้วยกันแล้ว พลันพวยพุ่งเป็นประกายที่ดั่งคลื่นยักษ์ออกมา เสมือนหนึ่งอาวุธศักดิ์สิทธิ์แต่ละชิ้นที่ตื่นขึ้นมาอย่างนั้น

ท่ามกลางเสียงตูมดังสนั่น มองเห็นฟ้าดินล้วนแล้วแต่สะเทือนหวั่นไหวทีหนึ่ง อานุภาพที่น่ากลัวปราศจากผู้ต่อกรพุ่งโจมตีออกมา ฉับพลันได้ขยายไปยังอาณาจักรแล้วอาณาจักรเล่า กระจายไปยังแผ่นดินอย่างไร้ขอบเขตจำกัด ภายใต้การโจมตีอย่างรุนแรงของอานุภาพที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกร กระทั่งเรียกได้ว่าได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในแดนลัทธิราชัน

นาทีนี้ เมื่อเรือรบยานแม่สิบลำได้หลอมรวมกันเข้ากับสิบวัชระแล้ว เรือรบยานแม่ทั้งสิบลำดูเหมือนจะไม่ใช่เรือรบอีกแล้ว แต่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์แต่ละชิ้น เหมือนว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ลักษณะเช่นนี้สร้างขึ้นมาจากสุดยอดโลหะศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ได้รวมเอาพลังหมื่นชาติ และพลังทั้งหมดของหนึ่งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ เหมือนว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ได้สืบทอดพลังที่ไม่มีสิ้นสุดเอาไว้

แต่ว่า นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ได้ยินเสียงปัง ปัง ปังดังขึ้น สิบวัชระและเรือรบยานแม่หลังจากรวมเป็นร่างเดียวกันแล้ว เรือรบยานแม่สิบลำถึงกับเริ่มปะติดปะต่อกันเข้า เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ปะติดปะต่อจนกลายเป็นมนุษย์ยักษ์คนหนึ่ง

ภายในเสี้ยววินาทีนี่เอง ในบรรดาเรือรบยานแม่ทั้งหมด เรือรบบางลำได้กลายเป็นส่วนหัวของมนุษย์ยักษ์ บางลำกลายเป็นส่วนขาของมนุษย์ยักษ์ และบางลำกลายเป็นแขนของมนุษย์ยักษ์นี้…

ในเวลานี้ มนุษย์ยักษ์ที่มีขนาดใหญ่โตสุดจะจินตนาการคนหนึ่งได้ปรากฏอยู่บนท้องฟ้า เมื่อมนุษย์ยักษ์ลักษณะเช่นนี้ปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าได้ทำให้เมืองหมิงลั่วเฉิงมืดลงทั้งเมือง ขณะที่มนุษย์ยักษ์ที่น่ากลัวยืนอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าสูงนั้น เมืองหมิงลั่วเฉิงที่อยู่บนพื้นเมื่อเปรียบกับมนุษย์ยักษ์ที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารแล้ว เป็นเพียงมุมเล็กๆ มุมหนึ่งเท่านั้น แค่เงาส่วนน้อยๆ ของมนุษย์ยักษ์ที่ทิ้งลงมาก็สามารถครอบคลุมเมืองหมิงลั่วเฉิงได้หมดทั้งเมือง

มนุษย์ยักษ์ผู้นี้ไม่ได้มีร่างกายที่เป็นเลือดเนื้อ เนื่องจากมันเกิดจากการปะติดปะต่อของเรือรบยานแม่ ดังนั้น มนุษย์ยักษ์คนนี้จึงมีร่างกายที่เป็นเหล็กกล้า ดังนั้น ดูไปแล้วมันก็คือมุนษย์เหล็กกล้าที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารตัวหนึ่ง

ลองนึกภาพดู เรือรบยานแม่ทุกลำล้วนแล้วแต่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารทั้งสิ้น ยามที่เรือรบยานแม่ลำเดียวลอยล่องอยู่บนท้องฟ้า มันก็คล้ายเป็นผืนแผ่นดินที่กว้างใหญ่ไพศาลลอยล่องอยู่บนท้องฟ้าอย่างนั้น เมื่อเรือรบยานแม่ที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารสิบลำปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน มนุษย์ยักษ์ที่เกิดจากการปะติดปะต่อของมันจะมีขนาดที่ใหญ่โตเช่นใด

ดังนั้น เมื่อมนุษย์ยักษ์เหล็กเช่นนี้หลังจากประกบเข้าด้วยกันสำเร็จแล้ว เกรงว่ามันจะต้องกลายเป็นมนุษย์ยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ยักษ์ที่สุดในโลกแล้ว ขณะที่มัน่ยืนอยู่ท่ามกลางท้องฟ้า บนหัวมีดวงตะวันแลจันทรา ทางช้างเผือกและดวงดาวที่หมุนวน มหาสมุทรเป็นเพียงน้ำขังในหลุมตื้นๆ ที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาเท่านั้นเอง

ขณะที่มนุษย์ยักษ์ที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารลักษณะเช่นนี้ลอยล่องอยู่กลางอากาศเช่นนี้ เหมือนว่าเวลานี้มันได้บดบังทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นเอาไว้ เหมือนว่ามนุษย์ยักษ์ที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารลักษณะเช่นนี้ลงมาจากท้องฟ้าล่ะก็ มันสามารบดขยี้ทำลายระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นจนแหลกละเอียดไปทั้งหมด

ในขณะนี้ ทุกคนต่างแหงนหน้ามองดูมนุษย์ยักษ์ที่อยู่บนท้องฟ้า ผู้คนจำนวนมากไม่สามารถมองเห็นรูปร่างหน้าตาของมนุษย์ยักษ์ตัวนี้ได้ทั้งหมด มีเพียงยอดฝีมือที่แข็งแกร่งถึงระดับหนึ่งเปิดเนตรฟ้าเต็มที่แล้ว จึงสามารถมองเห็นภาพเต็มทั้งหมดของมนุษย์ยักษ์เหล็กตัวนี้ได้อย่างแท้จริง

ทำให้พวกเขาอดที่จะรู้สึกใจหายใจคว่ำไม่ได้ ขณะมองเห็นบนหัวของมนุษย์ยักษ์เหล็กตัวนี้มีสุริยันจันทราลอยอยู่ มีทางช้างเผือกแลดวงดาวห้อมล้อม

“นี่มันเป็นสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่” ทุกคนต่างรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง เมื่อมองเห็นมนุษย์ยักษ์เหล็กที่มีขนาดใหญ่โตปราศจากผู้เทียบเทียมแล้ว

“โอ้แม่เจ้า หากมนุษย์ยักษ์เหล็กลักษณะเช่นนี้ยกเท้าเหยียบลงมา สามารถเหยียบแคว้นๆ หนึ่งให้แหลกละเอียดได้ หากมันพุ่งโจมตีลงมาจากบนท้องฟ้าล่ะก็ สามารถทำลายระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ หนึ่งจนพังพินาศย่อยยักเลยทีเดียว นี่มันออกจะมากเกินไปแล้วกระมัง” มีผู้ที่ร้องเสียงแหลมออกมา เมื่อมองเห็นมนุษย์ยักษ์เหล็กที่มีขนาดใหญ่โตสุดเปรียบเปรยเช่นนี้

“โอ้แม่จ๋า ถอนตัวไปก่อนดีกว่า มิฉะนั้นล่ะก็ต้องพินาศย่อยยับเป็นแน่แล้ว” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ต่างทยอยกันเหินขึ้นฟ้าและหลบหนีออกไปจากเมืองหมิงลั่วเฉิง และยอดฝีมือที่มีกำลังความสามารถจำนวนไม่น้อยที่ก้าวขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว พวกเขาคอยสังเกตุการณ์อยู่บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวจากระยะห่างไกล เพื่อป้องกันถูกลูกหลง

ไม่ว่าใครก็ดูออกว่า เฉกเช่นมนุษย์ยักษ์เหล็กลักษณะเช่นนี้ เพียงยกเท้าเหยียบลงมาก็สามารถเหยียบจนเมืองหมิงลั่วเฉิงแหลกละเอียด ภายใต้เท้าของมนุษย์ยักษ์เหล็กตัวนี้แล้ว ลำพังแค่เมืองหมิงลั่วเฉิงมันก็คล้ายดั่งเป็นปราสาททราบเล็กๆ ที่อยู่บนชายหาดเท่านั้นเอง

“ขอบรรพบุรุษคุ้มครอง” บรรดาราษฎรและผู้บำเพ็ญตนที่เป็นคนพื้นที่ของเมืองหมิงลั่วเฉิงต่างตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ เมื่อมองเห็นมนุษย์ยักษ์เหล็กที่น่ากลัวเช่นนี้ลอยอยู่เหนือท้องฟ้า ต่างอธิฐานกันเงียบๆ ภายใต้ฝ่าเท้าของมนุษย์ยักษ์เหล็กที่น่ากลัวเช่นนี้ พวกเขารู้สึกว่าตนเองเทียบไม่ได้กระทั่งมดปลวก พวกเขาอธิฐานขออย่าให้มนุษย์ยักษ์เหล็กก้าวเท้าเหยียบลงมาที่เมืองหมิงลั่วเฉิง มิฉะนั้นล่ะก็ พวกเขาจะต้องถูกเหยียบจนตายทั้งเมือง

หวูโหย่วเจิ้งและหลินยี่เสวี่ยเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว พวกเขาถึงกับอกสั่นขวัญแขวน ต่างกำหมัดไว้แน่น นาทีนี้ภายในใจของพวกเขามีความหวังเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือหวังว่าหลี่ชิเย่สามารถรบชนะ และสามารถทำลายมนุษย์ยักษ์เหล็กบนท้องฟ้าสูงให้ได้

มิฉะนั้นล่ะก็ หากมนุษย์ยักษ์เหล็กที่น่ากลัวเช่นนี้ตกลงมา อย่าว่าแต่เมืองหมิงลั่วเฉิงเลย เกรงว่าระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นก็ต้องจบสิ้นกันไป

ภายใต้พลังที่น่ากลัวเช่นนี้ หากโจมตีเข้ากับระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่น ด้วยความอ่อนแอเฉกเช่นระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นในเวลานี้ของพวกเขาแล้ว ไม่สามารถรองรับกับการโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ได้อยู่แล้ว ภายใต้การโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ ต่อให้ระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นของพวกเขาไม่ถึงกับหายวับไปกับตาในพริบตาเดียว ก็ทำให้พังทลายไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ ห่างจากการล่มสลายอยู่ไม่ไกลแล้ว

เมื่อไรที่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เว้นแต่หลบหนีไปจากระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่น มิฉะนั้นแล้ว ต่อให้หนีไปจากเมืองหมิงลั่วเฉิงก็ไร้ประโยชน์ ต่อให้หนีไปไกลจากเมืองหมิงลั่วเฉิงมากกว่านี้ก็ยากจะหลีกหนีความตายได้พ้นเช่นกัน

นิกายซูสือของพวกขาได้หลบหนีไปจากเมืองหมิงลั่วเฉิงแล้วและหนีไปไกลมาก แต่ว่า ถ้าหากปล่อยให้มนุษย์ยักษ์เหล็กตัวนี้กระแทกลงมา ศิษย์ของพวกเขาที่หนีออกไปจากเมืองหมิงลั่วเฉิงแล้วก็ไม่อาจหนีความตายไปได้เช่นกัน

ดังนั้น ภายในใจของหวูโหย่วเจิ้ง และหลินยี่เสวี่ยต่างอธิฐานกันอยู่เงียบๆ อธิฐานขอให้หลี่ชิเย่สามารถทำลายมนุษย์ยักษ์เหล็กจนพินาศย่อยยับไป จะอย่างไรเสียระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นก็คือบ้านของพวกเขา พวกเขาย่อมเป็นกังวลมากกว่าใครๆ

ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากเหินฟ้าขึ้นไปบนท้องฟ้าสูง ขึ้นไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแล้วมองเห็นความใหญ่โตของมนุษย์ยักษ์เหล็ก พวกเขาต่างตาค้างและพูดอะไรไม่ออก เกรงว่านี่คงเป็นมนุษย์ยักษ์เหล็กที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่พวกเขาได้เคยเห็นมาชั่วชีวิตแล้ว กระทั่งกล่าวได้ว่านี่คือมนุษย์ยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยพบเห็นมา

เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง เห็นมนุษย์ยักษ์เหล็กตัวนี้พลันพวยพุ่งเป็นเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ที่ดั่งคลื่นยักษ์ออกมา พลันที่เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งออกมาอย่างรุนแรงได้บดบังทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก ยามที่เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ที่ดั่งคลื่นยักษ์ได้รวมตัวขึ้นที่ด้านหลังของมันนั้น ได้กลับกลายเป็นปีกแสงที่มีขนาดใหญ่โตปราศจากผู้เทียบเทียม ปีกแสงลักษณะเช่นนี้มีขนาดใหญ่โตคล้ายดั่งทางช้างเผือกจำนวนล้านล้านทางช้างเผือกมารวมกัน เมื่อปีกทั้งสองกระพือขึ้นมา สามารถทำลายทางช้างเผือกจำนวนนับไม่ถ้วน

ท่ามกลางเสียงแว้งค์ที่ดังขึ้น เหนือศีรษะของมนุษย์ยักษ์เหล็กตัวนี้ถึงกับปรากฎวงแหวนศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ขณะวงแหวนศักดิ์สิทธิ์ลักษณะเช่นนี้ปรากฏอยู่เหนือศีรษะของมันนั้น มีความศักดิ์สิทธิ์และทรงกำลังอำนาจที่น่ากลัวยิ่งได้สยบลงมา ทำให้ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นล้วนแล้วแต่ถูกสยบเอาไว้ สรรพสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ภายในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่น ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างจากเมืองหมิงลั่วเฉิงไกลเท่าใดก็ตาม ภายใต้พลังศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวเช่นนี้สยบลงมา พวกเขาทั้งหมดล้วนแล้วแต่คุกเข่าลงกับพื้น และไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีกเลย

“นี่มันสิ่งบ้าบออะไรกันแน่ เป็นเทพสวรรค์รึ?” ทุกคนต่างมองตาค้างและพูดอะไรไม่ออก เมื่อมองเห็นมนุษย์ยักษ์เหล็กลักษณะบนหัวมีวงแหวน แผ่นหลังมีปีกแสงงอกขึ้นมา คล้ายดั่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ลงมาจากสวรรค์อย่างนั้น

หากจะกล่าวว่าเทพแท้จริงขั้นอมตะคนใดคนหนึ่ง หรือผู้ที่ปราศจากผู้ต่อกรคนใดคนหนึ่งมีวงแหวนบนหัว แผ่นหลังมีปีกแสงงอกขึ้นมายังสามารถเข้าใจได้ จะอย่างไรเสียการที่มีอภินิหารอยู่ในครอบครองแล้ว ยอดฝีมือทุกคนก็จะมีปรากฏการณ์ประหลาดที่เป็นของตนเอง เวลานี้เฉกเช่นร่างที่เป็นเพียงเหล็กกล้ากลับสามารถมีปรากฎการณ์ประหลาดที่น่ากลัวเหมือนเช่นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่ง แล้วจะไม่ให้ผู้คนมองดูจนตาค้างและพูดอะไรไม่ออกเล่า นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ

“ตำนาน” ระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งมีท่าทีหนักแน่นจริงจังขึ้นเมื่อมองเห็นภาพเช่นนี้ และกล่าวว่า “เล่าลือกันว่า นี่คือทักษะที่เก่าแก่โบราณของแดนลัทธิราชัน บางทีก็สามารถเรียกมันว่าวิชาหลอมสร้างที่เก่าแก่โบราณ ในแดนลัทธิราชันไม่เคยมีใครได้ครอบครอง ไม่นึกเลยว่า มาวันนี้ฉางจินต้งถึงกับศึกษาค้นคว้าวิชาการหลอมสร้างแขนงนี้จนทะลุปรุโปร่ง มิน่าเล่าหลายปีที่ผ่านมาฉางจินต้งจึงมีท่าทีที่ยกตนข่มท่าน มีความทะเยอทะยานที่จะเบียดตัวเองเข้าไปอยู่หนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่”

เสียงตูมดังสนั่น นาทีนี้มนุษย์ยักษ์เหล็กตัวนี้ได้ยกเท้ากระทืบลงมาใส่หลี่ชิเย่อย่างแรง ด้วยเท้าที่มีขนาดใหญ่โตเช่นนี้กระทืบลงมาอย่างแรง มันก็คล้ายเป็นผืนแผ่นดินที่มีขนาดใหญ่โตทุ่มลงมาจากบนท้องฟ้าอย่างนั้น ต้องการทุ่มจนระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นกลายเป็นหลุมยักษ์อย่างนั้น

เสียงตูมดังขึ้นมาอย่างรุนแรง ขณะที่เท้ายักษ์ข้างนี้ยังไม่ทันได้เหยียบลงไปถึงพื้นดิน ห่างจากพื้นดินราวหมื่นจ้างนั้น แรงปะทะที่น่ากลัวอย่างยิ่งพลันพุ่งลงไปถึงพื้นดินแล้ว

ได้ยินเสียงสิ่งปลูกสร้างล้มหักโค่นตูม ตูม ตูมดังขึ้นมาเป็นระลอก นาทีนี้ภูเขาแม่น้ำของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นจำนวนนับไม่ถ้วนแตกละเอียด มองเห็นบรรดาภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สูงนับหมื่นจ้างล้วนแล้วแต่แยกออกเป็นเสี่ยงๆ เศษชิ้นส่วนนับไม่ถ้วนแตกละเอียดกระจายอยู่เต็มพื้นดิน

เท้าข้างหนึ่งยังไม่ทันได้เหยียบลงมา ก็ทำให้ภูเขาแลแม่น้ำต่างๆ จำนวนนับไม่ถ้วนราบเป็นหน้ากลองไปแล้ว

อ๊ากกกท่ามกลางระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่น สรรพสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นถูกทำให้ตกใจจนร้องเสียงแหลมขึ้นมา เสียงแหลมดังของพวกเขาดังก้องไปทั่วฟ้าดิน ทุกคนต่างอ่อนแรงจนตัวสั่น หมอบคลานอยู่กับพื้นกระทั่งเรี่ยวแรงและความกล้าที่จะเงยหน้าขึ้นยังไม่มี

นาทีนี้ กล่าวสำหรับสรรพสิ่งมีชีวิตในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นแล้ว มันเหมือนวันสิ้นโลกมาถึงแล้วอย่างนั้น พวกเขาที่อยู่ภายใต้วันสิ้นโลกที่น่ากลัวเช่นนี้ พวกเขาช่างไร้ค่าคู่ควรจะกล่าวถึง เหมือนเช่นเม็ดฝุ่นผงเม็ดหนึ่งอย่างนั้น

ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่น ฝุ่นผลที่ตลบดั่งคลื่นยักษ์พลันปกคลุมบดบังท้องฟ้าไว้ทันที ขณะที่เท้าขนาดใหญ่กระทืบลงมานั้น ฝุ่นควันพลันปกคลุมไปทั่วทั้งโลก และปกคลุมตัวหลี่ชิเย่เอาไว้

นาทีต่อมา ฟ้าดินกลับกลายเป็นเงียบสงัดยิ่งนัก ทุกคนต่างทยอยกันลืมตามองไปข้างหน้า

“พินาศย่อยยับ” ทุกคนต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำเมื่อมองเห็นภาพเช่นนี้ ลองนึกดู ภัยพิบัติที่น่ากลัวเช่นนี้หากเกิดขึ้นที่ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิ และหรือสำนักของตนเอง เกรงว่าจะต้องประสบกับชะตากรรมที่หายวับไปกับตาในพริบตาเดียว

“ดู ดูนั่นคนโหดอันดับหนึ่งต้านเอาไว้ได้แล้ว” มีผู้ที่ตาแหลม มองผ่านกลุ่มของฝุ่นควันและมองลงไปด้านล่าง ถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมา

ทุกคนที่ได้ยินคำพูดคำนี้ล้วนแล้วแต่มองตามที่เข้าชี้ไป

เมื่อทอดสายตามองออกไป มองเห็นภาพนี้ที่อยู่ตรงหน้าเหมือนถูกหยุดเอาไว้อย่างนั้น มิติเหมือนชะลอตัว ทุกอย่างกลับกลายเป็นเงียบสงัด ทุกคนต่างอดที่จะกลั้นลมหายใจเอาไว้ไม่ได้

………………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *