Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2616 ยืดได้หดได้

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2616 ยืดได้หดได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2616 ยืดได้หดได้

สุดท้าย ได้ยินเสียงจี๊ดดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง หลี่ชิเย่ถูกลดขนาดลงอย่างสิ้นเชิง ในเวลานี้หลี่ชิเย่ถูกลดขนาดลงไปจนเท่าๆ กับมดตัวหนึ่ง

ทุกคนต่างอ้าปากตาค้างพูดอะไรไม่ออก เมื่อมองเห็นภาพนี้ มองเห็นหลี่ชิเย่ที่ถูกลดขนาดลงมาจนเท่าๆ กับมดตัวหนึ่งในพริบตาเดียว ทุกคนถึงกับตะลึงงัน

แรกทีเดียว ขณะที่พวกเขาแขกสวรรค์ชุดเขียวได้เสกเอาคันฉ่องโลหิตที่เป็นอาวุธต้องห้ามออกมานั้น ทุกคนเข้าใจว่าพวกของแขกสวรรค์ชุดเขียวจะเสกเอาสุดยอดเคล็ดวิชาสังหารอะไรออกมา และหรืออาศัยวิชาสังหารที่โหดเหี้ยมที่สุด และหรือเป็นคำสาปที่น่าสะเทือนขวัญอะไรนั่น

นึกไม่ถึงเลยว่า เมื่อหลี่ชิเย่ถูกประกายเลือดเช่นนี้สาดส่องแล้ว กลับกลายเป็นว่าเป็นการย่อส่วนตัวของหลี่ชิเย่ สุดท้ายถูกลดขนาดจนเหลือเท่ากับมดตัวหนึ่ง

ทุกคนต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ที่มีขนาดเท่ามดตัวหนึ่งในเวลานี้ ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกว่าคันฉ่องโลหิตเช่นนี้ช่างแปลกประหลาดมากเหลือเกิน

“คันฉ่องโลหิตนี่ นี่นับว่าน่ากลัวโดยแท้ เมื่อใดที่ส่องถูกตัวเข้าเกรงว่าจะเป็นการบ่งชี้ว่าจะต้องตาย บางทีสิ่งนี้อาจเป็นคำสาปอย่างหนึ่ง” มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนสั่นเทิ้มทีหนึ่งและเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ถูกลดขนาดลงเหลือเท่ากับมดตัวหนึ่งเท่านั้น

“สิ่งนี้เกรงว่าคงไม่ใช่แค่คำสาปง่ายดายปานนั้นกระมัง บางทีอาจมีการปลุกเสกเอาตราผนึกบางอย่างเข้าไปด้วย” มีระดับบรรพบุรุษเอ่ยขึ้นช้าๆ เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ที่มีขนาดเท่ากับมดตัวหนึ่งว่า “นี่เป็นการผนึกสัจธรรมของหลี่ชิเย่เอาไว้ มีเพียงปิดผนึกสัจธรรมเอาไว้ คำสาปเช่นนี้จึงสามารถย่อส่วนหลี่ชิเย่ลงให้เล็กเท่ากับมดตัวหนึ่งได้”

“นี่ยังหาใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด” ขณะที่ผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยกำลังพึมพำด้วยความกังขาอยู่นั้น สายตาของระดับบรรพบุรุษที่มีผมเผ้าขาวโพลนผู้หนึ่งเพ่งตรงไปข้างหน้า ท่าทางหนักแน่นจริงจัง และกล่าวว่า “เกรงว่านี่จะเป็นเพียงการทดสอบของพวกลู่เคอะเวิง และในขณะนี้การทดสอบได้ประสบผลสำเร็จแล้ว พวกเขาได้หลอมกลั่นอาวุธต้องห้ามลักษณะเช่นนี้สำเร็จแล้ว เกรงว่าต่อจากนี้อาจมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะหลอมสร้างอาวุธต้องห้ามที่ทรงพลังและสยดสยองมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมขึ้นมาอีก”

ครั้นกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว ระดับบรรพบุรุษที่มีผมเผ้าขาวโพลนผู้นี้ซุบซิบด้วยความกังขาว่า “อย่าลืมไปสิ เบื้องหลังของเคอะเหมิงมีระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลายสิบกระทั่งนับร้อยแห่งที่พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน พวกเขาเรียกได้ว่ามีวัตถุดิบที่ไม่ขาดแคลนในครอบครองเลยทีเดียว”

เมื่อระดับบรรพบุรุษที่เก่ากะลาพูดออกมาเช่นนี้ ทำให้ผู้ฟังต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึง “วัตถุดิบ”ที่ระดับบรรพบุรุษผู้นี้พูดถึงก็คือชีวิตที่ถูกนำมาหลอมสร้างนั่นเอง

ถ้าหากว่าคันฉ่องโลหิตบานนี้หลอมกลั่นโดยอาศัยชีวิตจำนวนหลายล้านชีวิตล่ะก็ บางทีเคอะเหมิงอาจสามารถอาศัยสิบล้านชีวิตกระทั่งเป็นล้านล้านชีวิตมาหลอมสร้างเป็นอาวุธต้องห้ามที่ทรงพลังและสยองขวัญยิ่งกว่ามาใช้ก็เป็นได้

“สำเร็จแล้ว” ในเวลานี้เอง พวกของแขกสวรรค์ชุดเขียวทั้งห้าต่างหัวเราะเสียงดังขึ้นมา เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ถูกย่อส่วนลงเหลือขนาดเท่ากับมดเท่านั้น

ในเวลานี้เอง พวกของแขกสวรรค์ชุดเขียวอดที่จะหัวเราะเสียงดังขึ้นมาไม่ได้ แขกสวรรค์เขาทองคำไม่สามารถสะกดความดีใจเอาไว้ได้ หัวเราะเสียงดังและกล่าวว่า “ยังคงเป็นพี่ลู่เคอะที่ยอดเยี่ยมมาก สามารถหลอมสร้างอาวุธต้องห้ามเช่นนี้ขึ้นมาได้ และคงมีเพียงพี่ลู่เคอะที่เป็นประเภทมีเพียงหนึ่งเดียวไม่มีสองที่สามารถคิดออกมาได้เช่นนี้”

“นั่นสิ พี่ลู่เคอะมีประสบการณ์กว้างไกล ปราศจากผู้เทียบเทียม” แขกสวรรค์เคราขาวก็อดดีใจไม่ได้ และพูดออกมาจากใจ

“เมื่อมีอาวุธต้องห้ามนี้ แม้ใต้หล้ากว้างใหญ่ ไหนเลยจะต้องหวั่นเกรงเล่า?” แขกสวรรค์อีกผู้หนึ่งก็หัวเราะเสียงดัง ท่าทางหยิ่งยโสเต็มเปี่ยม

ในขณะนี้ พวกเขาแขกสวรรค์ทั้งห้าต่างจ้องตากันและกัน แล้วหัวเราะเสียงดังขึ้นมา ระหว่างที่พวกเขาจ้องมองตากันและกันนั้น ปรากฏแนวความคิดที่เหิมเกริมมากกว่านี้เอง

หลี่ชิเย่มีความแข็งแกร่งมากพอแล้วสินะ แค่เคลื่อนไหวก็เอาชนะพวกเขาได้อย่างง่ายดาย แม้พวกเขาทั้งห้าจะร่วมมือกันก็ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่ แต่ว่า ภายใต้อาวุธต้องห้ามเช่นนี้ หลี่ชิเย่ยังคงยากจะหนีเคราะห์กรรมไปได้พ้น สุดท้ายแล้วยังคงถูกผนึกร่างเอาไว้

เมื่อได้เห็นอานุภาพที่ทรงพลังยิ่งของอาวุธต้องห้ามนี้แล้ว ในเวลานี้ภายในใจของพวกเขาต่างมีแนวความคิดที่เหิมเกริม เฉกเช่นที่ผู้อื่นได้คาดเดาเอาไว้อย่างนั้น พวกเขาสามารถหลอมสร้างอาวุธต้องห้ามที่ทรงพลังยิ่งกว่านี้ขึ้นมาได้อีก

เหมือนดั่งที่ที่ผู้อื่นได้คาดเดาเอาไว้อย่างนั้น เพื่อหลอมสร้างอาวุธต้องห้ามชิ้นนี้ พวกเขาเคยเสียสละชีวิตจำนวนหลายล้านชีวิต

ขณะที่มีการหลอมสร้างอาวุธชิ้นนี้นั้น ภายในของพวกเขาก็มีผู้ที่ไม่เห็นด้วย จะอย่างไรเสียเรื่องนี้หาใช่เป็นเรื่องเล็กๆ อีกอย่าง อานุภาพของอาวุธต้องห้ามลักษณะเช่นนี้ไม่เห็นจะแข็งแกร่งมากไปถึงไหน เฉกเช่นพวกเขาที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ตัวของพวกเขาเองก็ไม่ได้ขาดแคลนเรื่องของอาวุธอยู่แล้ว

แต่ว่า มาวันนี้ได้เห็นแม้แต่หลี่ชิเย่ที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้ยังถูกอาวุธต้องห้ามชิ้นนี้ผนึกเอาไว้ได้ พลันทำให้ในใจของพวกเขามีความทะเยอทะยานขึ้นมาทันที

ถ้าหากพวกเขาสามารถหลอมสร้างอาวุธต้องห้ามที่ทรงพลังยิ่งกว่านี้ได้ เช่นนั้นแล้ว ถึงเวลานั้นอย่าว่าแต่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิอื่นๆ ในแดนลัทธิราชันเลย แม้แต่สามผู้ยิ่งใหญ่เช่นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ตระกูลหลี่ ตระกูลมู่ก็ต้องหวั่นเกรงพวกเขาอยู่สามส่วน

เมื่อถึงขั้นนั้น ต่อให้การหลอมสร้างอาวุธต้องห้ามลักษณะเช่นนี้ต้องอาศัยชีวิตหลายสิบล้านชีวิตกระทั่งเป็นล้านล้านชีวิต กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วนับเป็นอะไรได้ ชีวิตเหล่านี้เป็นเพียงมดปลวกเท่านั้นในสายตาของพวกเขา

“มดปลวก” ในเวลานี้ พวกของแขกสวรรค์ชุดเขียวต่างจ้องมองตากันและกันและหัวเราะ พวกเขาต่างหัวเราะเสียงดัง เมื่อพวกเขามีอาวุธต้องห้ามเช่นนี้สักชิ้นอย่างแท้จริง ใต้หล้าล้วนแล้วแต่คือมดปลวก

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า…” ในขณะนี้ แขกสวรรค์ชุดเขียวหัวเราะเสียงดังและก้มมองดูบนพื้น มองดูหลี่ชิเย่ที่มีขนาดเท่ามด และหัวเราะเสียงดังแล้วกล่าวว่า “มดปลวก เวลานี้ใครเล่าที่เป็นมดปลวก? เจ้านั่นแหละคือมดปลวก! แค่มดปลวกตัวหนี่งหาญกล้าต่อต้านกับพวกเรา”

“ฆ่ามันเสียก็สิ้นเรื่อง” แขกสวรรค์เขาทองคำก็หัวเราะเสียงดัง และกล่าวว่า “แค่มดปลวกตัวหนึ่งเท่านั้น ไหนเลยคู่ควรจะกล่าวถึง”

เวลานี้แขกสวรรค์ทั้งห้าคนต่างหัวเราะเสียงดัง ท่าทางทำตามอำเภอใจโดยไม่แคร์ว่าใครจะมองอย่างไรอย่างสิ้นเชิง

หลังจากที่ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ได้มองเห็นภาพนี้แล้วถึงกับใจหายใจคว่ำ ดูไปแล้วเคอะเหมิงต้องการหลอมสร้างอาวุธต้องห้ามที่ทรงพลังยิ่งกว่าขึ้นมาจริงๆ แล้ว

“คนโหดอันดับหนึ่งจบสิ้นแล้ว เมื่อครู่เขายังหัวเราะเยาะแขกสวรรค์ทั้งห้าว่าเป็นมดปลวก นึกไม่ถึงว่า เวลานี้ตัวเขาเองกลับกลายเป็นมดปลวกที่แท้จริง” มีผู้พูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมา

มีผู้ที่มองหลี่ชิเย่ขัดหูขัดตามานานแล้วจึงได้หัวเราะเยาะ และกล่าวว่า “กล่าวได้แต่เพียงเขาไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ถือว่าตัวเองพอมีฝีมืออยู่บ้างก็เข้าใจว่าตนเองนั้นปราศจากผู้ต่อกรใต้หล้าจริงๆ และไม่ลองคิดดูว่า เคอะเหมิงนั้นดำรงอยู่ในฐานะใด เบื้องหลังมีระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิหลายสิบแห่งที่เขาอิงแอบอยู่ เพียงพอที่จะหมางเมินใต้หล้า ธาตุแท้ภายในลึกซึ้งยากจะหยั่งถึง ผู้ยิ่งใหญ่อย่างเคอะเหมิงไหนเลยที่ตัวเขาเพียงคนเดียวสามารถต่อต้านได้ เป็นการรนหาที่ตายเอง”

ตูมเสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เองเสมือนดั่งฟ้าดินสั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างนั้น เท้าขนาดใหญ่ข้างหนึ่งได้เหยียบลงมา มันได้เหยียบลงไปยังหลี่ชิเย่ที่ได้กลับกลายเป็นตัวเท่ากับมดอย่างแรง

เมื่อเท้าขนาดใหญ่เหยียบลงไป ได้ยินเสียงปังดังขึ้นมา โดยได้เหยียบลงบนพื้นอย่างแรง

“ไม่” หลินยี่เสวี่ยถึงกับร้องออกมาด้วยความโศกเศร้าเมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว มองเห็นหลี่ชิเย่ที่ถูกเท้าขนาดใหญ่ที่เหยียบลงไป ไม่ต้องดูก็สามารถจินตนาการได้ว่า เกรงว่าหลี่ชิเย่ในขณะนี้ได้ถูกเหยียบจนเละเป็นโจ๊กแล้ว เหมือนมดตัวหนึ่งที่ถูกเหยียบตาย

หลินยี่เสวี่ยร้องเสียงโศกเศร้าขึ้นมา น้ำตาไหลอาบ แต่ทว่านางกลับปราศจากกำลังช่วยอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

“จบแล้ว เสียดายคนหนุ่มที่ปราศจากผู้ต่อกรแห่งยุค” มีผู้ที่ทอดถอนใจด้วยความหดหู่ เมื่อมองเห็นเท้าขนาดใหญ่ที่เหยียบอยู่บนพื้น รู้สึกเสียดายกับสิ่งนี้

“แข็งเกินหักง่าย คนโหดอันดับหนึ่งยกตนข่มท่านเกินไป” มียอดฝีมืออดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าเบาๆ

และมีผู้ที่หัวเราะเยาะทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ใครใช้ให้เขาไม่รู้จักชั่วดี แขกสวรรค์ทั้งห้าได้ถอยให้สามส่วนแล้วยังคงยกตนข่มท่าน บังคบคนอื่นให้เข้าไปยังมุมอับ เวลานี้ถูกเหยียบตายเหมือนดั่งมดปลวกก็สมน้ำหน้าแล้ว”

ขณะที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกเสียดายในตัวของคนโหดอันดับหนึ่งอยู่ นาทีนี้เองได้ยินเสียงตูม ตูม ตูมดังตูมตามขึ้นเป็นระลอก เกิดการสั่นไหวไปทั่วแคว้นเหล่าเทพ

ท่ามกลางเสียงดังตูมตามดังตูม ตูม ตูมเป็นระลอกนั้น ทั่วทั้งแคว้นเหล่าเทพสั่นไหวโคลงแคลงไม่หยุด เหมือนได้รับพลังที่ทรงพลังและน่ากลัวยิ่งทำให้มันสั่นไหวโคลงแคลงอย่างนั้น

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” แขกสวรรค์ทั้งห้าถูกทำให้ตื่นตระหนกยิ่งนักเมื่อเห็นแคว้นเหล่าเทพสั่นไหวโคลงแคลงไปทั่ว เนื่องจากพลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรนี้ชัดเจนมากว่าไม่ได้อยู่ในความควบคุมของพวกเขา

“เกิดอุบัติเหตุแล้ว” ผู้คนจำนวนไม่น้อยก็รู้สึกตกใจเช่นกัน เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว

ตูม ตูม ตูมท่ามกลางเสียงดังตูมตามเป็นระลอก ทุกคนมองเห็นเท้าขนาดใหญ่ข้างนั้นที่เดิมเหยียบอยู่บนพื้นถึงกับถูกยกลอยขึ้นสูง ในเวลานี้ ใต้เท้าปรากฏร่างเงาของหลี่ชิเย่

อีกทั้งนาทีนี้ร่างของหลี่ชิเย่มีขนาดใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น เพียงชั่วพริบตาเดียวร่างกายของหลี่ชิเย่ก็ได้กลับคืนสู่ขนาดดั้งเดิม

อย่างไรก็ตามร่างกายของหลี่ชิเย่ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ท่ามกลาเสียงดังตูมตามที่ดังตูม ตูม ตูมขึ้นมาเป็นระลอก มองเห็นร่างกายของหลี่ชิเย่มีขนาดใหญ่มากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มกลายเป็นมนุษย์ยักษ์แล้ว

ตั้งแต่เริ่มแรก ร่างกายของหลี่ชิเย่ได้กลายเป็นภูเขาสูงลูกหนึ่ง จากนั้นกลายเป็นขนาดใหญ่เท่าเทือกเขาเทือกหนึ่ง แล้วกลับกลายเป็นหัวค้ำฟ้าเท้าเหยียบผืนปฐพี…

จากการที่ร่างกายของหลี่ชิเย่ที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ บริเวณโดยรอบตัวของเขาปรากฎประกายเลือดที่ลอยขึ้นมา ประกายเลือดเหล่านี้ก็คือประกายเลือดทั้งหมดที่มุดเข้าไปในร่างกายของเขาเมื่อครู่

ในเวลานี้ ประกายเลือดทั้งหมดล้วนแล้วแต่ลอยออกมาเสมือนดั่งเป็นกฎเกณฑ์สีเลือดแต่ละข้อที่ฉุดลากร่างกายของหลี่ชิเย่อย่างนั้น ทำให้ร่างกายของหลี่ชิเย่ถูกดึงจนมีขนาดใหญ่ขึ้นๆ

จากการที่เสียงตูม ตูม ตูมดังตูมตามขึ้นมาเป็นระลอก เพียงชั่วพริบตาเดียวร่างกายของหลี่ชิเย่ก็ได้กลับกลายเป็นขนาดยักษ์ดั่งฟ้าดิน เส้นขนของเขาหลุดร่วงลงมาเส้นหนึ่งก็สามารถทับจนเทือกเขาพังถล่มลงมาทั้งเทือก

เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อร่างกายของหลี่ชิเย่ขยายใหญ่จนได้ระดับหนึ่งแล้ว แคว้นเหล่าเทพไม่สามารถรองรับตัวของหลี่ชิเย่ได้อีกต่อไป ท่ามกลางเสียงคร๊ากกก คร๊ากกก คร๊ากกก แคว้นเหล่าเทพเริ่มแตกร้าวขึ้นมา แม้ว่าแคว้นเหล่าเทพนับว่ามีขนาดที่ใหญ่โตมโหฬารมากพอแล้ว แม้ว่ามันได้กลายเป็นฟ้าดินที่เป็นของตนเองแล้วก็ตาม

แต่ทว่า นาทีนี้ยังคงถูกร่างกายขนาดยักษ์ของหลี่ชิเย่ดันจนแตก สุดท้าย ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังขึ้น แคว้นเหล่าเทพถูกดันจนแตกละเอียด ไม่เพียงแต่แคว้นเหล่าเทพเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในแคว้นเหล่าเทพก็ถูกดันจนแตกละเอียด ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียดโดยพลัน ตัวคันฉ่องโลหิตก็ถูกทำให้แตกสลายทันที

“หนี” พวกของแขกสวรรค์ชุดเขียวทั้งห้าคนหันหลังวิ่งหนีไปทันทีเมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว พวกเขาใช้กำลังทั้งหมดที่มีอยู่หนีไปให้ไกลที่สุด

“ย้อนกลับทีหนึ่งสนุกดีออก” เวลานี้หลี่ชิเย่เปิดปากพูดออกมา เสียงของเขาดังยิ่งกว่าเสียงฟ้าผ่าเป็นหมื่นเท่า ทำเอาฟ้าดินเกิดสะเทือนหวั่นไหวขึ้นมา

เวลานี้เอง มือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่ได้คว้าลงมา คว้าไปยังพวกของแขกสวรรค์ชุดเขียวห้าคนที่กำลังหลบหนี

ในขณะนี้ พวกของแขกสวรรค์ชุดเขียวทั้งห้าคนได้อาศัยพลังที่มีอยู่ออกมาอย่างเต็มกำลังแล้ว อีกทั้งมีความรวดเร็วที่สูงมาก เพียงชั่วพริบตาเดียวก็หนีไปไกลถึงล้านล้านลี้แล้ว

…………………………………

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *