ตอนที่ 2648 ข้อได้เปรียบของราชันแท้จริง

อาวุธปฐมบรรพบุรุษเล่มหนึ่งตกทอดถึงมือของทายาทรุ่นหลังก็ไม่นับเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากเป็นพิเศษ จะอย่างไรเสีย ในแดนลัทธิราชันยังคงมีระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิบางส่วนคงของวิเศษที่เป็นอาวุธปฐมบรรพบุรุษเอาไว้

แต่ทว่า ขณะที่กระบี่มู่หวินอยู่ในมือของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนนั้น ทุกคนรู้สึกได้ว่านี่หาใช่เป็นเพียงอาวุธบรรพบุรุษชิ้นหนึ่งตกทอดถึงมือราชันแท้จริงมู่เจี้ยนง่ายๆ แค่นี้เอง

ขณะในมือของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนกำกระบี่มู่หวินเอาไว้นั้น ในชั่วพริบตาเดียวเสมือนหนึ่งราชันแท้จริงมู่เจี้ยนกับกระบี่มู่หวินได้หลอมรวมกันเป็นร่างเดียวกัน เหมือนว่าราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็คือส่วนหนึ่งของกระบี่มู่หวิน และด้วยเหตุนี้เอง ชั่วพริบตาเดียวขณะราชันแท้จริงมู่เจี้ยนถือกระบี่มู่หวินเอาไว้นั้น ทุกคนรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษที่แผ่กระจายออกมาจากตัวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน

ท่ามกลางเสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ร่างกายของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้แผ่กลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษแต่ละสายออกมาทั่วร่าง แม้จะกล่าวว่ากลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษแต่ละสายนี้อ่อนแอมากก็ตาม แต่ว่า เมื่อกลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษแต่ละสายที่แผ่กระจายออกมาจากราชันแท้จริงมู่เจี้ยนนั้น ทุกคนต่างรู้สึกว่านาทีนี้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเสมือนหนึ่งได้กลายเป็นปฐมบรรพบุรุษคนหนึ่ง

“ยอดเยี่ยมมาก ถึงกับทำให้อาวุธปฐมบรรพบุรุษยอมรับเป็นนาย นี่คือการควบคุมส่วนที่สำคัญที่สุดของกระบี่มู่หวินเอาไว้แล้ว สามารถสำแดงพลานุภาพการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะจำนวนไม่น้อยต่างอุทานด้วยความตื่นตะลึง เมื่อมองเห็นราชันแท้จริงมู่เจี้ยนที่ในมือถือกระบี่มู่หวิน คนและกระบี่รวมเป็นหนึ่งเดียว

อาวุธปฐมบรรพบุรุษคืออาวุธที่หลอมสร้างขึ้นโดยปฐมบรรพบุรุษ เฉกเช่นอาวุธปฐมบรรพบุรุษอย่างกระบี่มู่หวินไม่ต้องพูดถึงให้มากความ มันไม่เพียงแต่ถูกหลอมสร้างขึ้นโดยปฐมบรรพบุรุษมู่หวินที่ได้ทุ่มเทกำลังกายใจนับไม่ถ้วนเท่านั้น ยังถูกพกติดตัวอยู่กับบรรพบุรุษมู่หวินตลอดมา เคยเป็นหนึ่งในอาวุธที่ใช้ได้คล่องมือดั่งใจหมายและแข็งแกร่งมากที่สุดของปฐมบรรพบุรุษมู่หวิน

สมควรทราบว่า เจ้าของเดิมของอาวุธปฐมบรรพบุรุษอย่างกระบี่มู่หวินนี้คือปฐมบรรพบุรุษมู่หวินผู้ซึ่งดำรงอยู่ในฐานะสูงสุด ดังนั้น การที่อาวุธปฐมบรรพบุรุษที่ปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้สืบทอดมาถึงมือของชนรุ่นหลัง ก็เป็นการยากที่จะควบคุมมันได้

กล่าวได้ว่า ใช่ว่าใครก็มีสิทธิ์ไปควบคุมมันได้ ต่อให้ควบคุมมันได้ก็ยากที่จะให้มันยอมรับเป็นนาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะให้มันสำแดงอานุภาพที่แข็งแกร่งมากที่สุด

ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า เฉกเช่นอาวุธปฐมบรรพบุรุษอย่างกระบี่มู่หวินนั้น การที่จะได้รับการยอมรับเป็นนายจากมันนั้น เป็นเรื่องที่ยากมากๆ เรื่องหนึ่ง

แต่ว่า ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนกลับได้รับการยอมรับจากกระบี่มู่หวิน อาศัยจุดนี้ก็สามารถมองออกว่า เป็นความจริงที่ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนนั้นมีความปราดเปรื่องน่าทึ่งอย่างแท้จริง เป็นความจริงที่เขาเป็นราชันแท้จริงหนุ่มที่ยอดเยี่ยมมากคนหนึ่ง

ตูม ตูม ตูม…ในขณะที่ทุกคนล้วนแล้วแต่กำลังชมเปาะอยู่ว่าราชันแท้จริงมู่เจี้ยนถึงกับสามารถได้รับการยอมรับจากกระบี่มู่หวินนั้น เสียงตูมตามดังขึ้นมาเป็นระลอกไม่ขาดสาย

ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง ท้องฟ้าเสมือนหนึ่งถูกโจมตีจนฉีกขาดอย่างนั้น บนท้องฟ้าปรากฏเหตุการณ์ประหลาด มองเห็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิมีขนาดกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

มองเห็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิแห่งนี้มีกลิ่นอายสัจธรรมที่น่าเกรงขามและไม่มีสิ้นสุด เสมือนดั่งมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ไพศาลไม่มีสิ้นสุด ณ เบื้องบนของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิแห่งนี้มีประกายศักดิ์สิทธิ์สูงหมื่นจ้าง สาดส่องหมื่นชาติโดยทั่วกัน บนระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิแห่งนี้ปรากฎภูเขาศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่เต็มไปหมด และมีภูเขาศักดิ์สิทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนที่ตั้งสูงตระหง่านคล้ายแทงทะลุท้องฟ้า ท่ามกลางระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิแห่งนี้มีสิ่งมีชีวิตนับล้านล้านชีวิตกราบไหว้ สิ่งมีชีวิตนับล้านล้านชีวิตบูชา…

“ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่…” พลันที่มองเห็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่กว้างใหญ่ไพศาลและน่าเกรงขามนี้แล้ว มีผู้คนจำนวนมากจดจำประวัติความเป็นมาของมันได้ทันที ถึงกับร้องเสียงหลงด้วยเสียงอันดังขึ้นมา

ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ก่อตั้งขึ้นโดยปฐมบรรพบุรุษมู่หวิน มันคือระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิชั้นแดนลัทธิเซียน ภายหลังได้เสื่อมลง ทำให้ร่วงหล่นลงมาจากแดนลัทธิเซียน สุดท้าย ตระกูลหมู่ได้ผงาดขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ตระกูลมู่กลายเป็นหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่ของแดนลัทธิราชัน

ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ไม่เพียงก่อตั้งขึ้นโดยปฐมบรรพบุรุษมู่หวินเท่านั้น ยังได้สั่งสมธาตุแท้ภายในจากลูกหลานของตระกูลมู่มานับยุคสมัยไม่ถ้วน นอกเหนือจากปฐมบรรพบุรุษมู่หวินแล้ว ราชันแท้จริงแต่ละคนในยุคต่อๆ มาของตระกูลมู่ และชั้นคงความเป็นอมตะตลอดกาลแต่ละคน ล้วนแล้วแต่เคยทำการปลุกเสกระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่มาครั้งแล้วครั้งเล่า กล่าวได้ว่าธาตุแท้ภายในของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ลึกซึ้งยากจะหยั่งถึง มันที่อยู่ในฐานะหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่แดนลัทธิราชัน ไม่อาจดูถูกได้อย่างเด็ดขาด

“ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ปรากฏขึ้นที่นี่ได้อย่างไรกัน?” ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรล้วนแล้วแต่งงงัน เมื่อมองเห็นระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ปรากฎอยู่บนท้องฟ้า ในเวลานี้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้ากันและกัน เจ้าจ้องมองข้า ข้าจ้องมองเจ้า

ทุกคนต่างก็รู้ว่า ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ห่างจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นไกลมาก ไกลมากจนยากที่จะเอาระยะทางมาคำนวณ กล่าวได้ว่าระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิทั้งสองห่างกันระหว่างท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวผืนแล้วผืนเล่า

แต่ว่า เวลานี้ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่พลันปรากฏอยู่ตรงหน้าของทุกคน มาคราวนี้จะไม่ให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องงงงันได้อย่างไร ต่างไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไรกันแน่

“นี่เป็นเพียงเหตุการณ์ประหลาดเท่านั้น ไม่นับเป็นการมาถึงของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิที่แท้จริง” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “นี่คือการควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน เขาต้องการหยิบยืมพลังของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่มาใช้”

“ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ห่างไกลจากที่ตรงนี้นับเป็นล้านล้านผืนของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว นี่มัน มันห่างไกลกันมากถึงเพียงนี้ ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนสามารถยืมพลังของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิมาใช้ได้จริงรึ?” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากถึงกับเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว

ถ้าหากจะกล่าวว่าเวลานี้อยู่ที่ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนสามารถหยิบยืมและควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนเองเป็นเรื่องที่ปราศจากข้อกังขาอยู่แล้ว ปัญหาคือเวลานี้ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ห่างจากที่ตรงนี้ไกลนับเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวล้านล้านผืน มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนจะไปหยิบยืมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิด้วยระยะทางที่ห่างไกลถึงเพียงนี้ได้เล่า?

“นี่แหละคือจุดที่แข็งแกร่งของราชันแท้จริง” เทพแท้จริงขั้นอมตะมองดูราชันแท้จริงมู่เจี้ยนด้วยท่าทางที่อดจะเผยให้เห็นถึงความอิจฉาอยู่หลายส่วนไม่ได้ และกล่าวว่า “กล่าวสำหรับราชันแท้จริงแล้ว ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนเองไม่เคยออกห่างจากตนเอง ไม่ว่าจะก้าวเดินไปถึงที่ใดก็ตาม ยังคงสามารถรับรู้ได้ถึงพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนเอง สิ่งนี้เสมือนว่าตนเองยังคงอยู่ในระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนอย่างนั้น ดังนั้น ต่อให้ห่างไกลกันเป็นท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านล้านผืน ราชันแท้จริงยังคงสามารถหยิบยืมและควบคุมพลังของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิได้ จุดนี้มีเพียงราชันแท้จริงเท่านั้นที่ทำได้”

กล่าวสำหรับศิษย์ของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิคนหนึ่งคนใดก็ตาม ล้วนแล้วแต่มีโอกาสในการหยิบยืมพลังของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิได้ทั้งสิ้น ขอเพียงเป็นศิษย์ของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธินั้นๆ ได้ฝึกปรือเคล็ดวิชาของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธินั้นๆ ล้วนแล้วแต่สามารถใกล้ชิดกับพลังที่ซ่อนอยู่ในทุกๆ ตารางนิ้วของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิได้

ดังนั้น ศิษย์คนหนึ่งคนใดของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิหนึ่งเมื่อแข็งแกร่งจนถึงระดับหนึ่งแล้ว ก็จะมีโอกาสระดับหนึ่งในการที่จะหยิบยืมพลังที่ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิได้ซ่อนเอาไว้ กล่าวสำหรับศิษย์จำนวนมากแล้ว การที่สามารถหยิบยืมและควบคุมพลังของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิ ทำให้สามารถยกระดับพลังต่อสู้ของตนขึ้นในชั่วพริบตาเดียวได้

แน่นอนที่สุด การหยิบยืมพลังของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิมักจะต้องอยู่ภายในระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนเท่านั้นจึงจะได้ผล มีเพียงอยู่ภายในระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนเองจึงสามารถหยิบยืมพลังของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิได้ หากอยู่ในระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของผู้อื่นไม่สามารถทำได้อย่างสิ้นเชิง

วิธีการหยิบยืมพลังของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิมาใช้ ถูกเรียกว่าเป็นความได้เปรียบในฐานะเจ้าบ้านอยู่เสมอๆ เหมือนดั่งการต่อสู้ชี้ขาดระหว่างยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนสองคนอย่างนั้น แม้ว่าพวกเขาทั้งสองคนจะมีกำลังที่พอฟัดพอเหวี่ยงกัน แต่ทว่าหากมีฝ่ายหนึ่งอยู่ภายในระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตน ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า ผู้บำเพ็ญตนผู้นี้จะต้องได้เปรียบอย่างเด็ดขาดกับการต่อสู้ชี้ขาดในครั้งนี้ และมีโอกาสเอาชนะศัตรูได้มากยิ่งกว่า

วิธีการหยิบยืมและควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิมักจะไม่ได้ผลเมื่อไปจากระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนอยู่เสมอๆ ต่อให้เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะเมื่อออกไปจากระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนแล้ว ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถหยิบยืมและควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนเองได้

แต่ว่า ราชันแท้จริงกลับแตกต่าง เหมือนดั่งที่เทพแท้จริงขั้นอมตะผู้นั้นได้กล่าวเอาไว้ว่า ขอเพียงได้กลายเป็นราชันแท้จริงแล้ว ไม่ว่าราชันแท้จริงจะไปอยู่ที่ใด ก็เสมือนหนึ่งตนเองกับระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนไม่เคยออกห่างกันอย่างนั้น ดังนั้น ไม่ว่าจะไปถึงที่ใดก็ตาม ราชันแท้จริงก็สามารถหยิบยืมและควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนได้

นี่แหละคือเหตุผลว่าเพราะอะไร ด้วยระดับชั้นความสามารถที่เท่ากัน ความได้เปรียบของราชันแท้จริงจึงดูจะสูงกว่าเทพแท้จริงขั้นอมตะอย่างชัดเจนตลอดเวลาที่ผ่านมา ด้วยกำลังความสามารถที่เหมือนกัน เทพแท้จริงขั้นอมตะมักจะไม่สามารถต่อกรกับราชันแท้จริงอยู่เสมอๆ

“เป็นความจริงที่ว่าไม่ว่าจะไปถึงไหนก็สามารถหยิบยืมและควบคุมพลังของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิรึ?” ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ มองดูภาพแปลกประหลาดที่เป็นระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ซึ่งปรากฎอยู่บนท้องฟ้า

“ประมาณนี้ อานุภาพจะสูงหรือต่ำย่อมต้องได้รับผลกระทบในระดับหนึ่ง” เทพแท้จริงขั้นอมตะมองดูเหตุการณ์ประหลาดของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนแล้วอดที่จะอิจฉาไม่ได้

แม้แต่ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งเช่นตัวเขา เมื่อใดที่ออกจากระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนแล้ว ก็ไม่สามารถหยิบยืมและควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนได้

แต่ว่า ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนที่อยู่ในฐานะราชันแท้จริงแตกต่าง ต่อให้ห่างไกลจากระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ด้วยท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านล้านผืน ยังคงสามารถหยิบยืมและควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตน

เสียงตูม…ดังสนั่น ในพริบตาเดียวนั่นเอง ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ที่อยู่บนท้องฟ้าพลันโปรยปรายอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่สิ้นสุดลงมา โดยประกายที่ไม่ขาดสายได้เทลงมาจากท้องฟ้า ในพริบตาเดียวนี้เอง ประกายที่น่าเกรงขามยิ่งได้ปกคลุมร่างกายของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเอาไว้ทันที

นาทีนี้ ร่างกายของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้อาบเอิบอยู่ท่ามกลางแสงสว่างที่ไม่มีสิ้นสุด ในพริบตาเดียวนั้นเอง ทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงพลังที่ไม่มีสิ้นสุดถูกเทลงมาจากระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิ และเข้าไปอยู่ภายในร่างกายของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน

แม้ว่าระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่กับราชันแท้จริงมู่เจี้ยนจะห่างไกลกันมากมาย แต่ทว่านาทีนี้ธาตุแท้ภายในที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรได้สำแดงอานุภาพที่ฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่ง พลังที่แข็งแกร่งมากที่สุดของมันได้ถูกถ่ายทอดเข้าสู่ร่าง่ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนอย่างไม่ขาดสาย

เสียงตูม…ดังสนั่น ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทั่วทั้งร่างของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้พวยพุ่งประกายศักดิ์สิทธิ์ออกมา โดยที่ประกายศักดิ์สิทธิ์แต่ละสายเสมือนดั่งได้ผ่าฟ้าดินที่ขมุกขมัวออก ผ่าต้นกำเนิดหมื่นชาติออกมา

ในพริบตาเดียวนั่นเอง ได้ยินเสียงกระบี่คำรามดังตึงเสียงหนึ่ง มองเห็นกระบี่มู่หวินที่อยู่ในมือของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนพลันพวยพุ่งประกายแสงที่เจิดจ้าระลานตา กระบี่มู่หวินทั้งเล่มแลดูสว่างจ้า ส่องสว่างไปทั่วฟ้าดิน ประกายกระบี่ปฐมบรรพบุรุษที่น่ากลัวเหมือนได้ฉีกฟ้าดินหมื่นอาณาจักรจนขาดอย่างนั้น หากหนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันออกไปคงสามารถประหารหมื่นชาติ

ท่ามกลางเสียงกระบี่คำรามดังตึงนั้น มองเห็นตัวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้พวยพุ่งเป็นกลิ่นอายรุนแรงที่ไม่มีสิ้นสุดออกมา ได้ยินเสียงดังตูมเสียงหนึ่ง ทันใดนั้นเอง มองเห็นราชันแท้จริงมู่เจี้ยนปล่อยกฎเกณฑ์สูงสุดแต่ละสายพวยพุ่งขึ้นไปอย่างรุนแรง เสมือนดั่งเป็นน้ำตกสวรรค์ที่ไหลย้อนขึ้นไป

ท่ามกลางเสียงตูมดังสนั่น เพียงชั่วพริบตาเดียว เวลานี้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนคล้ายได้กลับกลายเป็นปฐมบรรพบุรุษที่สูงส่งคนหนึ่ง

“กลายร่างเป็นปฐมบรรพบุรุษ…” ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกหวาดผวา และร้องเสียงดังขึ้นมา เมื่อมองเห็นว่าในชั่วพริบตาเดียวนั่นเองราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้เปลี่ยนไป เหมือนได้กลับกลายเป็นปฐมบรรพบุรุษ

“นี่คือพลังจากระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิ” ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสถึงกับใจหายใจคว่ำเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว และกล่าวว่า “ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้บรรลุความลึกซึ้งของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว กระทั่งควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรมของตระกูลมู่ ในขณะนี้ ธาตุแท้ภายในของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิตระกูลมู่ได้ปลุกเสกลงบนตัวของเขาอย่างไม่ขาดสายแล้ว”

“เป็นความจริงที่ได้บรรลุความลึกซึ้งของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิ ทำให้พลังการต่อสู้ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้ถีบตัวสูงขึ้นหลายขั้น” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง เมื่อได้มองเห็นภาพนี้แล้ว

………………………………………………