Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2678 สังหารในหนึ่งกระบวนท่า
ตอนที่ 2678 สังหารในหนึ่งกระบวนท่า
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว พริบตาเดียวนั่นเอง ดาวเคราะห์ทั้งหมด แต่ละรอบที่พุ่งตัวออกไป แต่ว่า พริบตาเดียวที่ดาวเคราะห์ทั้งหมด พุ่งออกไปนั้น เหมือนว่าดาวเคราะห์ทั้งหมดได้หายสาบสูญไปอย่างนั้น แต่ก็เหมือนอยู่ตรงนั้น ยิ่งกว่านั้นเหมือนได้ปะทะเข้ากับหน้าอกของเจ้าในพริบตาเดียวนี่เอง อีกทั้งยังเป็นการพุ่งชนเข้ามารอบแล้วรอบเล่าติดๆ กัน…
ความจริงแล้ว ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้นเอง เนื่องจากดาวเคราะห์ทั้งหมดแต่ละรอบที่ก้าวข้ามอาณาจักรกาลเวลามา มันไม่ได้อยู่ในอาณาจักรของช่องว่างแล้ว ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่มองเห็นเป็นเพียงภาพเหตุการณ์ประหลาดต่างๆ นานาเท่านั้นเอง
แว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น พริบตาเดียวที่ดาวเคราะห์ทั้งหมดแต่ละรอบถูกยิงออกไปนั้น ต้นโลกดึกดำบรรพ์ที่อยู่เหนือศีรษะได้สว่างไสวขึ้นมา ผลสัจธรรมผลที่สองได้สั่นไหวทีหนึ่ง
ฟิวววทันใดนั้นเอง ร่างของหลี่ชิเย่ได้หมุนรอบตัวเองขึ้นมาเสมือนดั่งเป็นลมพายุอย่างนั้น และคล้ายเป็นดอกสว่านหัวเพชรขนาดยักษ์ และหรือเหมือนลูกข่างที่หมุนอย่างรวดเร็ว
ปัง ปัง ปัง…ทุกคนยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนอง เสียงแตกละเอียดดังขึ้นมาเป็นระลอก ในพริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นหลี่ชิเย่ที่กระโดดออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกครั้งที่เขากระโดดออกมานั้นก็จะพุ่งโจมตีลงมาเหมือนสว่านหัวเพชรที่พุ่งชนลงมาอย่างนั้น
ในพริบตาเดียวนั่นเอง หลี่ชิเย่แต่ละคนที่พุ่งชนลงมานั้น หลี่ชิเย่ทุกคนล้วนแล้วแต่พุ่งชนเข้ากับดาวเคราะห์ทั้งหมดรอบหนึ่ง ดังนั้น ในเสี้ยววินาทีนี้เอง บนฟ้าดินเสมือนดั่งมีหลี่ชิเย่เป็นร้อยคนอย่างนั้น หลี่ชิเย่ทุกๆ คนล้วนแล้วแต่พุ่งชนออกมาอย่างฉับพลันทันที และพุ่งชนกับดาวเคราะห์ทั้งหมดที่กลิ้งเข้ามาตามเส้นสายผลึกกาลเวลา
ท่ามกลางเสียงปัง ปัง ปังที่ดังขึ้นเป็นระลอก มองเห็นดาวเคราะห์ทั้งหมด แต่ละรอบแหลกละเอียดไปจากการถูกหลี่ชิเย่พุ่งชนในทีเดียว หลี่ชิเย่นั้นเสมือนดั่งเป็นสว่านหัวเพชรที่มีขนาดยักษ์และหมุนอย่างรวดเร็ว ขณะที่ดาวเคราะห์ทั้งหมดเสมือนดั่งเป็นพวกกระเบื้องเคลือบที่เปราะบาง มันแตกละเอียดไปทันทีภายใต้การพุ่งชนของหลี่ชิเย่
เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ดาวเคราะห์ทั้งหมดจำนวนหนึ่งร้อยดวงล้วนแล้วแต่ถูกหลี่ชิเย่พุ่งชนจนแหลกละเอียดไปโดยพลัน
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร…” ในเวลานี้ ทุกคนต่างอ้าปากกว้างจนหุบไม่ลงเป็นเวลานาน ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่เข้าใจถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมที่อยู่ข้างใน และไม่เข้าใจถึงความลับที่อยู่ภายใน
สมควรทราบว่าดาวเคราะห์ทั้งหมดของนักพรตไป๋ยื่อนั้นเป็นการเข้าไปอยูในเส้นสายผลึกกาลเวลา และทะลุผ่านกาลเวลาในพริบตาเดียว ซึ่งไม่ได้มีช่วงห่างระหว่างช่องว่างอีกแล้ว
แต่ว่า หลี่ชิเย่กลับจัดการพุ่งชนดาวเคราะห์ทั้งหมดจนแหลกละเอียดไปทั้งหมดในพริบตาเดียว อีกทั้งดาวเคราะห์ทั้งหมดคล้ายดั่งถูกชนจนแหลกละเอียดไปพร้อมกันอย่างนั้น ในชั่วพริบตาเดียวดุจดั่งได้ปรากฏหลี่ชิเย่ขึ้นมาเป็นร้อยคน แม้ว่าท่าทางของหลี่ชิเย่แต่ละคนจะแตกต่างกัน แต่ว่า ล้วนแล้วแต่เสมือนดั่งเป็นสว่านหัวเพชรขนาดยักษ์ที่พุ่งชนเข้ากับดาวเคราะห์ทั้งหมด
“นี่ นี่เป็นวิชามารอย่างนั้นรึ?” แม้แต่ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ ระดับบรรพบุรุษผู้มีความรู้กว้างขวางมากกว่านี้ก็ต้องอ้าปากกว้างค้าง ไม่สามารถมีปฏิกิริยาตอบสนองได้ทัน และต่างไม่สามารถมองออกว่ามันคือความลึกซึ้งยอดเยี่ยมแบบไหนกันแน่
ปัง…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ขณะที่ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่สามารถมีปฏิกิริยาที่ตอบสนองได้ทัน หลี่ชิเย่ที่เสมือนดั่งเป็นสว่านหัวเพชรพลันเข่าลอยปะทะเข้ากับหน้าอกของนักพรตไป๋ยื่ออย่างแรง
สีหน้าของนักพรตไป๋ยื่อเต็มไปด้วยความงุนงง จังหวะที่ถูกเข่าลอยของหลี่ชิเย่กระแทกเข้ากับทรวงอกในพริบตาเดียวนั้น ความจริงแล้วเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหลี่ชิเย่ที่เสมือนดังสว่านหัวเพชรใช้วิธีอะไรโจมตีเขา และทำลายแนวป้องกันของเขาได้อย่างไรกัน
กล่าวได้ว่า ตัวเขาที่อยู่ในฐานะเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นคงความอมตะตลอดกาลนั้น นาทีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกัน หรือจังหวะการย่างก้าว และหรือการเคลื่อนย้ายตำแหน่งล้วนแล้วแต่ยอดเยี่ยมหนึ่งไม่เป็นสองรองใครทั้งสิ้น สมบูรณ์แบบยากจะหาผู้ใดเทียม เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครสามารถทำลายแนวป้องกันของเขาได้โดยพลัน และโจมตีเขาได้ในพริบตาเดียว และกระแทกเข้ากับทรวงอกของเขาในทันที
ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ ภายใต้เข่าลอยของหลี่ชิเย่ที่กระแทกเข้าอย่างหนัก ไม่ว่าแนวป้องกันของเขา จังหวะการย่างก้าวจะสมบูรณ์แบบเช่นใด ดูจะช่างเปราะบางเหลือเกิน แตกละเอียดจากการโจมตีครั้งเดียว
เสียงปังดังสนั่นหวั่นไหว นักพรตไป๋ยื่อถูกเข่าลอยของหลี่ชิเย่กระแทกเข้าให้ที่ทรวงอกอย่างหนักทีหนึ่ง ได้ร่วงหล่นจากท้องฟ้าสูง ทุกคนต่างมองเห็นบริเวณหน้าอกของนักพรตไป๋ยื่อถูกโจมตีจนทะลุ ในระหว่างที่กำลังร่วงหล่นลงมา
ภาพนี้เสมือนดั่งเป็นภาพเคลื่อนไหวช้าอย่างนั้น ถูกดึงจังหวะให้ยืดยาวขึ้นไปมาก ทุกคนล้วนแล้วแต่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ภาพของทรวงอกที่ถูกโจมตีจนทะลุของนักพรตไป๋ยื่อ เลือดสดๆ ที่พุ่งออกมาดั่งธนูวิ่งผ่านท้องฟ้าสีคราม เป็นภาพที่สร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนเหลือเกิน
สุดท้าย ท่ามกลางเสียงปังที่ดังสนั่นหวั่นไหว ร่างของนักพรตไป๋ยื่อชนกระแทกเข้ากับพื้นดินอย่างแรง ทำเอาหน้าดินแตกละเอียดและกลายเป็นหลุมลึกขนาดยักษ์ขึ้นมา หลุมลึกขนาดยักษ์เชนนี้จัดว่าเป็นหุบเหวลึกแล้ว
บริเวณหุบเหวลึกปรากฏรอยเลือดที่สยดสยองสะเทือนขวัญ มองเห็นเพียงเลือดสดๆ ของนักพรตไป๋ยื่อที่สาดกระเซ็นไปทั่วพื้นที่ สภาพนั้นเปี่ยมด้วยความสะเทือนหวั่นไหวอย่างยิ่ง
ฟ้าดินกลับกลายเป็นเงียบสงัดโดยพลัน ทุกคนต่างหายใจกันไม่ทัน ทุกคนล้วนแล้วแต่หายใจไม่ออกกันแล้ว แม้ว่ามีผู้ที่คิดจะพยายามหายใจให้ได้ แต่มันไม่สามารถหายใจหอบได้อยู่แล้ว
เมื่อครู่นี้ ขณะที่นักพรตไป๋ยื่อปรากฎตัวดูช่างปราดเปรื่องน่าทึ่งอะไรอย่างนั้น ช่างทำให้สะเทือนหวั่นไหวอะไรอย่างนั้น ในความคิดของผู้คนจำนวนเท่าไรในขณะนั้นที่มองว่านักพรตไป๋ยื่อนั้นที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง ปราศจากผู้ต่อกรในหล้าแล้ว
แต่ว่า ในชั่วพริบตาเดียวนั้นเอง ท่ามกลางสายตาของผู้คนจำนวนมาก นักพรตไป๋ยื่อถูกเข่าลอยของหลี่ชิเย่กระแทกเข้าทรวงอกอย่างหนักจนอกทะลุ เลือดสดๆ แตกกระจายร่วงหล่นลงมา เป็นเรื่องที่สร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนเหลือเกิน
ศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่จำนวนล้านล้านคนที่เมื่อครู่ยังร้องเสียงแหลมดัง กระทั่งกอดคอร้องไห้ด้วยความดีใจ ทันใดนั้นเหมือนดั่งโดนฟ้าผ่าและยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นเป็นเวลานาน
เมื่อครู่นี้ ศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่จำนวนเท่าไรที่มองว่านักพรตไป๋ยื่อคือผู้ช่วยชีวิต พวกเขามองว่า เมื่อนักพรตไป๋ยื่อลงมือระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ของพวกเขาก็รอดแล้ว แต่ว่า ความฝันที่งดงามของพวกเขาคงอยู่ได้ไม่ถึงสิบห้านาทีก็ถูกทำลายจนแหลกละเอียดไป
ไม่ง่ายนักที่ศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่นับล้านล้านซึ่งอยู่ท่ามกลางความสิ้นหวังจะมองเห็นความหวังสายหนึ่ง ทำให้ภายในใจของพวกเขาบังเกิดความหวังที่ลุกโชนขึ้นมา แต่ ภายในระยะเวลาอันสั้น ความหวังของพวกเขาถูกบดขยี้จนดับไปแล้ว
นาทีนี้ ไม่มีใครสามารถเปรียบเปรยถึงสภาพจิตใจของศิษย์ตระกูลมู่ได้อีกแล้ว ไม่มีหมึกและพู่กันใดๆ สามารถบรรยายให้เห็นภาพว่า สภาพจิตใจของศิษย์ตระกูลมู่เป็นเช่นใด
ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่เข้าใจว่า เพราะอะไรหลี่ชิเย่สามารถทำลายดาวเคราะห์ทั้งหมดจนแหลกละเอียดได้ ตามหลักแล้ว ‘ไป๋ยื่อตัดวัฏสงสาร’ ของนักพรตไป๋ยื่อนั้น นับเป็นเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรแน่นอน และได้ผ่านการเจียระไนมายุคแล้วยุคเล่า เรียกได้ว่าไม่มีช่องไหว่อีกแล้ว มิฉะนั้นล่ะก็ นักพรตไป๋ยื่อคงไม่เอามาเป็นท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา
แน่นอน ไม่มีใครรับรู้ถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของหลี่ชิเย่ ปัญหาเรื่องนี้อยู่ที่ผลสัจธรรมผลที่สองของต้นดึกดำบรรพ์ของหลี่ชิเย่
หลี่ชิเย่ได้ตั้งชื่อให้กับผลสัจธรรมผลนี้ว่า ‘ผลสัจธรรมลูกยาง’ สิ่งที่ลึกซึ้งยอดเยี่ยมที่สุดของผลสัจธรรมผลนี้ก็คือ มันจะหมุนวนอย่างไม่มีสิ้นสุด และพลังทั้งหมดถูกรวบรวมอยู่ที่จุดๆ เดียว ที่น่ากลัวมากที่สุดก็คือ ภายใต้การโจมตีของมันนั้น มันจะเลือกโจมตีจุดที่อ่อนแอและเป็นช่องไหว่มากที่สุด
ดังนั้น เมื่อผลสัจธรรมผลนี้สำแดงอานุภาพขึ้นมานั้น พลันที่มันโจมตีก็สามารถโจมตีเข้าไปยังจุดที่อ่อนแอและเป็นช่องโหว่มากที่สุด เป็นการโจมตีครั้งเดียวถึงแก่ชีวิตต่อศัตรูได้ในทันที
ดังนั้น ไม่ว่า ‘ไป๋ยื่อตัดวัฏสงสาร’ ของนักพรตไป๋ยื่อจะทะลุผ่านกาลเวลาอย่างไร หลุดออกจากช่องว่างเช่นใด แต่ ภายใต้ผลสัจธรรม มันคือช่องโหว่ มันมีแต่จุดที่อ่อนแอที่สุด ดังนั้น ผลสัจธรรมลูกยางพลันโจมตีเข้าไปยังจุดที่อ่อนแอที่สุดของมัน ทำลายดาวเคราะห์ทั้งหมดจำนวนหนึ่งร้อยลูกจนแหลกละเอียดไป
เช่นเดียวกันกับขณะที่นักพรตไป๋ยื่อถูกเข่าลอยของหลี่ชิเย่เข้าไปเต็มๆ นั้น ยังปรากฏสีหน้าที่มึนงงอย่างนั้น เขาไม่เข้าใจอย่างสิ้นเชิงว่า เพราะอะไรแนวป้องกันที่ทรงพลังที่สุด จังหวะการย่างก้าวที่สมบูรณ์แบบที่สุด ยังคงถูกหลี่ชิเย่โจมตีเข้าที่บริเวณแนวป้องกันที่อ่อนแอที่สุด และถูกทำลายไปโดยพลัน
เหมือนเช่นผลสัจธรรมที่สำแดงอานุภาพที่ทรงพลังที่สุดขึ้นมาอย่างนั้น และมันจะโจมตีจุดใดก็ตามที่เป็นช่องโหว่ และจุดที่อ่อนแอที่สุดของศัตรู
“เพิ่งจะกก้าวสู่ประตูของชั้นคงความอมตะตลอดกาลเท่านั้นเอง ก็ยกย่องตนเองว่าปราศจากผู้ต่อกร” หลี่ชิเย่ทำท่าหาวทีหนึ่ง กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คำพูดของหลี่ชิเย่ทำให้ทุกคนต้องสั่นเทิ้มทีหนึ่ง แล้วจึงได้สติกลับมา ในเวลานี้ทุกคนต่างมีเหงื่อเย็นโทรมกาย ไม่รู้ว่าผู้คนจำนวนเท่าไรที่เข่าอ่อนทั้งสองข้างและทรุดนั่งลงกับพื้นโดยตรง ไม่มีความกล้าแม้แต่จะลุกขึ้นยืน
ภาพนี้น่ากลัวเหลือเกิน ลองนึกภาพดู นักพรตไป๋ยื่อที่แข็งแกร่งถึงชั้นคงความอมตะตลอดกาลเช่นนี้ ไม่สามารถรับได้แม้แต่เพียงกระบวนท่าเดียวของหลี่ชิเย่ ลองถามตัวพวกเขาเองว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่แล้วพวกเขาช่างไม่ได้เรื่องเช่นใด เกรงว่าหลี่ชิเย่อาศัยนิ้วมือนิ้วเดียว ไม่สิ เส้นผมเส้นเดียวก็สามารถสังหารพวกเขาได้แล้ว
ในเวลานี้ ไม่ว่าหลี่ชิเย่จะพูดคำพูดเช่นใดออกมา ทุกคนก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผล แม้ว่าเขาจะมองนักพรตไป๋ยื่อเป็นมดปลวก ก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว
“ดูท่า ผู้ช่วยที่ตระกูลมู่เชิญมาก็ไม่เท่าไรนี่” เวลานี้หลี่ชิเย่มองดูราชันแท้จริงมู่เจี้ยนทีหนึ่ง และยิ้มกล่าวเรียบเฉยขึ้นมา
สีหน้าของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเปลี่ยนไปมากทีเดียว ถึงกับผวาดผวา และก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว
เขายังเข้าใจว่านักพรตไป๋ยื่อสามารถต้านหลี่ชิเย่เอาไว้ได้พักหนึ่ง เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะพอดีกับการรักษาอาการบาดเจ็บของเขา เมื่อเข้าฟื้นคืนพลังขึ้นมาได้แล้วก็จะร่วมมือกับนักพรตไป๋ยื่อเพื่อสังหารหลี่ชิเย่
ดูไปแล้ว เวลานี้เขายังคงประเมินหลี่ชิเย่ต่ำเกินไป นักพรตไป๋ยื่อพ่ายแพ้ต่อหลี่ชิเย่ภายในระยะเวลาอันสั้น โดยที่เขายังไม่ทันได้ฟื้นคืนพลังเลย
ในเวลานี้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง บังเกิดความหวาดกลัวครั้งใหญ่ขึ้นมา ในขณะนี้ ในสายตาของเขามองว่าหลี่ชิเย่มีความน่ากลัวยิ่งกว่าใครๆ
กล่าวได้ว่า จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนนั้นแข็งแกร่งมากพอแล้ว แต่ว่า ในเวลานี้ลึกๆ ในใจของเขามีความหวาดกลัวเมื่อเผชิญกับหลี่ชิเย่ นาทีนี้จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้สั่นคลอนแล้วอย่างสิ้นเชิง
ความจริงแล้ว ใช่แต่เพียงราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเท่านั้นที่บังเกิดความหวาดกลัวต่อหลี่ชิเย่ขึ้นในใจ เกรงว่าผู้คนใต้หล้าในวันนี้ล้วนแล้วแต่บังเกิดความหวาดกลัวต่อหลี่ชิเย่แล้ว
หลังจากนี้ อย่าว่าแต่การปรากฏตัวของคนโหดอันดับหนึ่งเลย เพียงอาศัยคำพูดคำเดียวของคนโหดอันดับหนึ่ง เกรงว่าก็จะทำให้เทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งหมดต้องคุกเข่าลงอยู่ตรงนั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่กล้าเป็นศัตรูกับเขา
คำพูดเพียงคำเดียวของเขาเพียงพอที่จะทำให้ผู้คนต้องขวัญหนีดีฝ่อ
“จบสิ้นกันแล้วรึ?” ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยมองไปที่หุบเหวลึกขนาดยักษ์ ในขณะนี้ มีผู้คนจำนวนเท่าไรที่หวังว่านักพรตไป๋ยื่อจะไม่ตายอย่างอนาถ
ถ้าหากว่าแม้แต่นักพรตไป๋ยื่อที่เป็นถึงชั้นคงความเป็นอมตะตลอดกาลยังถูกสังหารด้วยกระบวนท่าเดียวของคนโหดอันดับหนึ่งล่ะก็ เมื่อเป็นเช่นนั้น บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนเช่นพวกเขาชาตินี้อย่าได้ไปฝึกปรืออะไรอีกเลย ไปเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งแต่โดยดีก็แล้วกัน ต่อให้พวกเขาฝึกปรืออย่างหนักชั่วชีวิตก็ได้ไม่เท่าคนโหดอันดับหนึ่งแม้แต่นิดเดียว
…………………………………
Comments