Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2769 เตากลั่นสวรรค์สามขาพระจิตศักดิ์สิทธิ์

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2769 เตากลั่นสวรรค์สามขาพระจิตศักดิ์สิทธิ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2769 เตากลั่นสวรรค์สามขาพระจิตศักดิ์สิทธิ์

ในชั่วพริบตาเดียวนั้นเอง เชือกมัดเซียนก็จัดการมัดหลี่ชิเย่เอาไว้อย่างแน่นหนา หลังจากที่เชือกมัดเซียนได้ทำการมัดหลี่ชิเย่เอาไว้อย่างแน่นหนาสุดๆ แล้ว ไม่ว่าหลี่ชิเย่จะมีอภินิหารอย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถดิ้นหลุดไปได้ ได้แต่ถูกจับเสียแต่โดยดี สุดแต่ผู้อื่นจะเชือดเฉือน

“การลงมือไม้นี้ของธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางนับว่าฉลาดมาก” ยอดฝีมือที่ได้สติคืนกลับมาถึงกับร้องด้วยความตื่นตระหนกตกใจระคนกับความดีใจ เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว

“นับว่ามีฝีมือ นี่เป็นการกระทำที่ชาญฉลาดมาก” ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เคยเป็นกังวลในธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางต่างหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากได้เห็นภาพนี้แล้ว ต่างทยอยกันยกนิ้วโป้งให้พร้อมกับส่งเสียงชื่นชมขึ้นมา

การกระทำเช่นนี้ของธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางนับว่าเป็นการกระทำที่ฉลาดมาก ต่อให้นางมีอาวุธปฐมบรรพบุรุษ การที่นางลงมือสังหารหลี่ชิเย่ก็ไม่แน่ว่าจะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บได้ ที่สำคัญยิ่งกว่านี้ก็คือ ลำพังแค่ทำให้หลี่ชิเย่ได้รับบาดเจ็บ เกรงว่าจะไม่ส่งผลเปลี่ยนแปลงอะไรต่อภาพรวมของสถานการณ์

ดังนั้น ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางจึงถือโอกาสนี้อาศัยเชือกมัดเซียนมัดตัวหลี่ชิเย่เอาไว้ ทำให้หลี่ชิเย่ถูกจับตัวไว้โดยพลัน สุดแต่ผู้อื่นจะเชือดเฉือนตามอำเภอใจ

“ปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจงผู้นี้ออกจะประมาทมากเกินไปแล้ว เกรงว่าเขาคงคำนวณผิดเสียแล้ว” ระดับบรรพบุรุษก็ได้ทอดถอนใจขึ้นมา ไม้นี้ของธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางนับว่ายอดเยี่ยมดีแท้

“เชือกรัดเซียนคือสุดยอดเชือกเซียนที่ปฐมบรรพบุรุษทิ้งเอาไว้ ยิ่งเคล็ดวิชาล่าขังเซียนล่ะก็ถือเป็นสุดยอดเคล็ดวิชาสูงสุด เมื่อใดที่ถูกเชือกรัดเซียนอาศัยเคล็ดวิชาล่าขังเซียนมาพันธนาการเอาไว้ล่ะก็ เกรงว่าจะไม่สามารถดิ้นหลุดได้อีกแล้ว ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะแก้มัดออก เว้นแต่ผู้นั้นก็ได้ฝึกปรือเคล็ดวิชาล่าขังเซียนมาด้วย” เทพแท้จริงขั้นอมตะผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นช้าๆ

ทุกคนต่างก็รู้ว่า เชือกรัดเซียนเป็นสิ่งที่ปฐมบรรพบุรุษผู้เฒ่าอมตะทิ้งเอาไว้ให้ ในฐานะที่เป็นอาวุธปฐมบรรพบุรุษมันจะมีอานุภาพที่ทรงพลังเช่นใด เมื่อใดที่ถูกเชือกรัดเซียนอาศัยเคล็ดวิชาล่าขังเซียนมาพันธนาการเอาไว้ล่ะก็ เกรงว่าผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดต่างเข้าใจว่า เป็นไปไม่ได้ที่ตนเองนั้นจะดิ้นรนและหลุดออกมาจากเชือกรัดเซียนได้

“สิ่งนี้ไม่ง่ายเหมือนถูกพันธนาการเอาไว้เพียงเท่านั้น เมื่อใดที่ถูกเชือกรัดเซียนรัดเอาไว้ ก็เท่ากับถูกห่วงอาคมไปสยบสัจธรรมของผู้นั้นเอาไว้ ต่อให้มีกำลังความสามารถแข็งแกร่งเช่นใดก็ตาม ในเวลานี้ก็ไร้ประโยชน์ ถึงตอนนั้นเรียกได้ว่าปราศจากเรี่ยวแรงอย่างแท้จริง สุดแต่ผู้คนจะเชือดเฉือนตามอำเภอใจ” ระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิผู้หนึ่งกล่าวด้วยท่าทีหนักแน่นจริงจัง

“แน่น…” เป็นจริงตามคาด ในเวลานี้ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางร้องเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา ได้ยินเสียงจี๊ดดังขึ้นเสียงหนึ่ง เชือกรัดเซียนที่พันธนาการบนตัวของหลี่ชิเย่พลันรัดอย่างแน่นหนามากขึ้น มองเห็นเชือกรัดเซียนที่รัดอย่างแน่นหนาจนลึกเข้าไปภายในร่างกายของหลี่ชิเย่ เหมือนว่าต้องการรัดร่างกายของหลี่ชิเย่ให้ขาดอย่างนั้น

“นับว่าทรงพลังโดยแท้” หลี่ชิเย่ที่ถูกรัดจนแน่นมากถึงกับขมวดคิ้วทีหนึ่ง และกล่าวว่า “อาวุธที่ตาเฒ่าสร้างขึ้นมานับว่ายอดเยี่ยมโดยแท้ ขืนยังคงรัดต่อไปกระดูกข้าคงถูดรัดจนหักได้จริงๆ”

“ดูท่าจะพันธนาการเขาเอาไว้แล้วจริงๆ” เมื่อทุกคนมองเห็นหลี่ชิเย่ที่ถูกเชือกรัดเซียนรัดเอาไว้อย่างแน่นหนาแล้ว ต่างรู้สึกว่าคราวนี้หลี่ชิเย่ยากจะหนีรอดจากเคราะห์กรรมแล้ว

“คนโหดอันดับหนึ่งผู้นี้ประมาทเกินไปแล้ว เกรงว่าคราวนี้จะตายน้ำตื้นเสียแล้ว” ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสที่มองเห็นหลี่ชิเย่ถูกเชือกรัดเซียนรัดจนยากจะกระดิกตัวได้ เข้าใจว่าคราวนี้หลี่ชิเยากจะหนีเคราะห์กรรมได้พ้นเสียแล้ว

“นับว่าประมาทโดยแท้ เกรงว่าคราวนี้เขาจะก้าวเดินผิดก้าวหนึ่ง แพ้ทั้งกระดาน กลายเป็นนักโทษของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง น่าเสียดาย เดิมทีเขาสามารถเป็นผู้คุมสถานการณ์ได้อยู่แล้ว” มีผู้ยิ่งใหญ่ถึงกับส่ายหน้า รู้สึกเสียดายในตัวหลี่ชิเย่

“ฮึนี่แหละคือจุดจบของความบ้าระห่ำยโสอวดดี” มีผู้ที่หัวเราะเยาะเย้ย และกล่าวว่า “ในเมื่อเขาประมาทขนาดนี้ก็สมควรตายแล้ว”

ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางถึงกับหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ถูกเชือกรัดเซียนรัดเอาไว้จนแน่นหนามาก อย่างน้อยที่สุดเชือดรัดเซียนของนางนับว่ามีผลอยู่

ก่อนหน้านั้น นางยังเป็นกังวลว่าเชือกรัดเซียนของตนจะใช้การไม่ได้กับหลี่ชิเย่ เวลานี้ดูไปแล้วความกังวลของนางนั้นคิดมากไปเอง อาวุธปฐมบรรพบุรุษย่อมเป็นอาวุธปฐมบรรพบุรุษ อานุภาพของมันนั้นหาใช่สิ่งที่ยอดฝีมืออื่นๆ สามารถประเมินได้อยู่แล้ว

เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไห ในพริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นเตากลั่นสวรรค์สามขาพระจิตศักดิ์สิทธิ์ของจู่หวังแห่งดินแดนภาคกลางพลันพวยพุ่งประกายที่ไม่มีสิ้นสุดขึ้นมา ประกายทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีความศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ยิ่งนัก ในพริบตาเดียวนั้นเอง มองเห็นประกายที่มีความศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ทั้งหมดพลันพุ่งขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้า

ณ ท้องฟ้าเบื้องบนนั้น ประกายศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์เสมือนหนึ่งได้ยิงทะลุมิติอย่างนั้น ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง บนท้องฟ้าประกฎประตูเปิดออกบานหนึ่ง สุดยอดแคว้นศักดิ์สิทธิ์สูงสุดแคว้นนึ่งลอยขึ้น

ท่ามกลางแคว้นดังกล่าวนี้ มองเห็นผู้คนจำนวนมากมาย แต่ทว่าผู้คนจำนวนมากมายเหล่านี้หาใช่เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาอะไรอีกต่อไป เหมือนว่าท่ามกลางผู้คนจำนวนมากมายนั้น ประชาชนทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นพระจิตศักดิ์สิทธิ์สูงสุดองค์หนึ่ง มีความศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์สูงส่งบริสุทธิ์ยิ่งนัก บนตัวของพวกเขาได้แผ่กลิ่นอายที่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดออกมา กลิ่นอายลักษณะเช่นนี้มีพลังมหาศาลไร้ขอบเขต คล้ายสามารถทำให้โลกทั้งโลกบริสุทธิ์ได้อย่างนั้น

ขณะแคว้นที่มีความศักดิ์สิทธิ์ถูกเปิดออกมานั้น ได้โปรยประกายที่ศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนลงมา

ท่ามกลางตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวนี้ ซากศพกองสุมดั่งภูเขา เลือดไหลรินเป็นธาร แต่ว่า เมื่อประกายที่ศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนถูกโปรยปรายลงมาบนซากศพที่ดั่งภูเขา และโปรยปรายลงในเลือดที่ไหลเป็นธารนั้น เหมือนว่าความสกปรกทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถูกทำให้บริสุทธิ์อย่างนั้น ทุกสิ่งล้วนดูจะมีความศักดิ์สิทธิ์สูงส่งบริสุทธิ์อะไรอย่างนั้น

ในเวลานี้เอง ภาพที่มหัศจรรย์ยิ่งได้เกิดขึ้น มองเห็นท่ามกลางซากศพที่กองสุมดั่งภูเขานั้นถึงกับปรากฎประกายลอยขึ้นมา ภายใต้การครอบคลุมของประกายที่ศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์นั้น ระหว่างซากศพถึงกับมีร่างเงาที่จางๆ ลุกขึ้นมาสายแล้วสายเล่า

ร่างเงาที่ดูเป็นประกายจางๆ แต่ละสายคล้ายกับเป็นศิษย์ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางที่ตายในสนามรบเหล่านั้น ในขณะนี้เหมือนว่าพวกเขาล้วนแล้วแต่ได้รับการโปรดอย่างนั้น พวกเขาติดตามประกายที่ศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ค่อยๆ ลอยขึ้นไปบนฟ้า สุดท้ายลอยเข้าไปยังแคว้นสวรรค์ กลายเป็นส่วนหนึ่งของคนจำนวนมากมายที่มีอยู่เป็นหมื่นเป็นล้านในแคว้นสวรรค์

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” มีผู้ที่ถูกทำให้ตกใจยิ่ง รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงอะไรอย่างนั้น เมื่อได้เห็นภาพที่แปลกประหลาดอย่างนั้น

“นี่คือการโปรด” ระดับเทพแท้จริงที่เก่ากะลาผู้หนึ่งกล่าวด้วยท่าทีหนักแน่นจริงจังว่า “เล่าลือกันว่า “เตากลั่นสวรรค์สามขาพระจิตศักดิ์สิทธิ์คือของวิเศษที่ปฐมบรรพบุรุษสร้างขึ้นมาเพื่อสำหรับโปรดวิญาณผู้วายชนม์ โดยเตากลั่นสวรรค์สามขาพระจิตศักดิ์สิทธิ์ใบนี้เคยโปรดผู้วายชนม์มากว่าล้านล้านคน สุดท้ายทำพวกเขาให้บริสุทธิ์ กลายเป็นส่วนหนึ่งของเตากลั่นสวรรค์สามขาพระจิตศักดิ์สิทธิ์ และส่งเสริมพลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียมให้กับเตากลั่นสวรรค์สามขาพระจิตศักดิ์สิทธิ์…”

“…ภายหลัง เตากลั่นสวรรค์สามขาพระจิตศักดิ์สิทธิ์ใบนี้ถูกถ่ายทอดไปอยู่กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางแล้ว มันหาใช่เป็นเพียงเตากลั่นสามขาวิเศษที่ไว้โปรดผู้วายชนม์อีกต่อไป ขณะเดียวกันมันยังเป็นอาวุธปฐมบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรชิ้นหนึ่ง เมื่อไรที่สามารถควบคุมพลังของเตากลั่นสวรรค์สามขาพระจิตศักดิ์สิทธิ์ได้ ก็จะทำให้ตนเองนั้นกลับกลายเป็นแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในพริบตา”

เมื่อเทพแท้จริงผู้นี้เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วท่าทีดูหนักแน่นจริงจังยิ่งนัก เนื่องจากในยุคสมัยที่ดึกดำบรรพ์นั้น ผู้เฒ่าอมตะเคยอาศัยเตากลั่นสวรรค์สามขาพระจิตศักดิ์สิทธิ์นี้โปรดวิญญาณผู้วายชนม์ที่แข็งแกร่งฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่ง ทำให้เตากลั่นสวรรค์สามขาพระจิตศักดิ์สิทธิ์ใบนี้มีพลังศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ที่น่ากลัวยิ่งอยู่ในครอบครอง มาวันนี้ หลังจากจู่หวังแห่งดินแดนภาคกลางได้ควบคุมพลังสายนี้ได้แล้ว กำลังความสามารถของเขาก็จะต้องเพิ่มสูงขึ้นมากจนก้าวไปถึงอีกระดับหนึ่ง กระทั่งทำให้เขามีพลังของเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นศักราชภายในระยะเวลาช่วงสั้นๆ

“ในที่สุด จู่หวังพวกเจ้าก็ได้เตรียมตัวพร้อมแล้ว สมควรให้ข้าลงมือได้แล้ว” ขณะที่ทุกคนต่างตื่นตระหนกอยู่กับเตากลั่นสวรรค์สามขาพระจิตศักดิ์สิทธิ์อยู่นั้น เสียงเรียบเฉยของหลี่ชิเย่ได้ดังขึ้น

ความจริงแล้ว ในขณะนี้กัวเจียหุ้ยได้ช่วยเหลือพวกของหลี่เจี้ยนคุนทุกคนได้แล้ว

“เจ้า…” ภายในใจของธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางเย็นวาบ เมื่อหลี่ชิเย่ปริปากพูดขึ้นมา ในพริบตาเดียวนั่นเอง นางตระหนักได้ว่าแย่แล้ว ในฐานะที่เป็นเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ชั้นเก้า นาทีนี้นางรับรู้ได้ถึงอันตรายโดยสัญชาตญาณ

นาทีนี้ หลี่ชิเย่ที่ถูกเชือกมัดเซียนรัดเอาไว้แน่นหนามาก ถึงกับเอื้อมมือไปหยิบเอากระบี่ยาวที่วางอยู่บนตัก

“เป็นไปไม่ได้…” ระดับเทพแท้จริงรู้สึกหวาดผวาจนหน้าถอดสี ร้องเสียงดังขึ้นมา เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ถึงกับเอื้อมมือไปหยิบเอากระบี่ยาขึ้นมา

“มันเป็นไปได้อย่างไร…” แม้แต่สีหน้าของธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางก็ต้องเปลี่ยนไป ไม่อยากจะเชื่อในสายตาของตนเอง

เนื่องจากในอดีตนางเองเคยทดลองมาแล้ว เมื่อใดที่ถูกเชือกมัดเซียนรัดเอาไว้อย่างแน่นหนามากแล้ว บรรดาระดับบรรพบุรุษดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางของพวกเขาต่างหมดปัญญา ไม่สามารถดิ้นรนได้

แต่ทว่า ในเวลานี้หลี่ชิเย่กลับไม่ได้รับผลกระทบอย่างนั้น ต่อให้เชือกมัดเซียนบนตัวจนแน่นมากแล้ว เขายังคงสบายอกสบายใจยิ่ง หยิบเอากระบี่ยาวขึ้นมาได้ตามอารมณ์

“รับมือข้าหนึ่งกระบี่” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย กระบี่ยาวในมือถือโอกาสฟันเข้าไปตรงๆ ยังธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลาง

“แย่แล้ว…” สีหน้าของธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางเปลี่ยนไปมากทีเดียวรู้สึกหวาดผวา ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง นางได้ล่าถอยออกไปด้วยความเร็วที่เร็วที่สุดของตนเอง ขณะเดียวกันได้สำแดงเคล็ดวิชาการป้องกันสูงสุด ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังขึ้น ปรากฏมังกรแท้จริงที่กระโดดขึ้นมา และขดตัวอยู่ข้างกายของนาง หวังจะต้านหนึ่งกระบี่ของหลี่ชิเย่ที่การฟาดฟันลงมา

ขณะที่การป้องกันของธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ในเสี้ยววินาทีนี้เองได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น ร่างกายของนางพลันถูกชุดเกราะที่หน้าๆ ปิดทับเอาไว้ ในขณะเดียวกัน ด้านหน้าของนางปรากฎโล่เก่าแก่โบราณแต่ละโล่ที่ลอยขึ้นตรงหน้า โดยโล่เก่าแก่โบราณแต่ละโล่ได้เข้าป้องกันตัวของนางจนน้ำยังเล็ดรอดเข้าไปไม่ได้

ปังเสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั้นเอง หนึ่งกระบี่ของหลี่ชิเย่ได้ฟาดฟันลงมาแล้ว ต่อให้มีมังกรแท้จริงแต่ละตัวที่กระโดดขึ้นมาขดตัวอยู่ก็ไร้ประโยชน์ ขณะที่หนึ่งกระบี่ฟาดฟันลงมานั้น มังกรแท้จริงแต่ละตัวถูกฟันจนศีรษะหลุดออกมา ได้ยินเสียงปังเสียงหนึ่ง นาทีนี้โล่เก่าแก่โบราณแต่ละโล่ก็ถูกฟันจนแหลกละเอียด

ด้วยความน่ากลัวของหนึ่งกระบี่นี้ พลันทำให้ใบหน้าของธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางซีดเผือด

“อย่าได้อวดดีนัก…” ขณะที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นดายนั้น จู่หวังแห่งดินแดนภาคกลางที่เตรียมการพร้อมแล้วในที่สุด ได้ส่งประกายที่ศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์และไม่มีสิ้นสุดทำการครอบคลุมธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางเอาไว้ ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังขึ้น ปรากฏกำแพงศักดิ์สิทธิ์แต่ละด้านที่มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งถูกสร้างขึ้น กำแพงศักดิ์สิทธิ์ลักษณะเช่นนี้ทอดข้ามสิบล้านลี้ ก้าวข้ามอดีตและปัจจุบัน หวังจะปกป้องธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางเอาไว้ในกำแพงศักดิ์สิทธิ์

ทันใดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนหยุดลง ทุกคนต่างรู้สึกว่าหัวใจของตนเต้นช้าไปหนึ่งจังหวะ

คู่สายตาแต่ละคู่ของทุกคนล้วนแล้วแต่เบิกกว้าง พยายามเบิ่งตาทั้งสองอย่างเต็มที่ ต้องการมองเห็นการเปลี่ยนแปลงทุกๆ รายละเอียดปลีกย่อยของภาพนี้

จังหวะที่ทุกคนต่างหายใจไม่ทันนั้น ได้ยินเสียงคร๊ากกกที่ดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง มองเห็นกำแพงศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ที่เป็นแนวป้องกันอยู่ด้านหน้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางพลันแตกร้าว และตามติดด้วยเสียงดังปัง กำแพงศักดิ์สิทธิ์ทั้งด้านแตกละเอียด

ในเวลานี้ ทุกคนต่างมองเห็นว่า บริเวณกลางหน้าผากของธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางปรากฎเป็นรอยเลือดขนาดเล็กรอยหนึ่ง และหยดเลือดได้ทะลักออกมาจากรอยเลือดเล็กๆ รอยนี้

เสียงช่าาาเสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนอง ร่างกายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางพลันผ่าครึ่งแยกออกเป็นสองซีก เลือดสดๆ และเครื่องในร่วงลงมากองเต็มพื้นไปหมด

……………………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *