Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2776 เจียงฉางฉุน

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2776 เจียงฉางฉุน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2776 เจียงฉางฉุน

การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายได้นัดหมายกันที่เมืองจู่เฉิงในวันพรุ่งนี้ ในเวลานี้ผู้คนจำนวนมากต่างตั้งตาคอยกับสิ่งนี้

ขณะที่การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายยังมาไม่ถึง ทันใดนั้น ได้ยินเสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น บนท้องฟ้าพลันปรากฎเป็นวังวนขึ้นมา วังวนดังกล่าวออกเป็นสีทอง คล้ายเกิดจากการรวมตัวกันของธารน้ำขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วน จากนั้นค่อยๆ หมุนรอบตัวช้าๆ ซึ่งไม่เหมือนวังวนที่หมุนอย่างรวดเร็วน่าหวาดผวาอย่างนั้น

ขณะที่วังวนสีทองลักษณะนี้กลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมานั้นแลดูสวยงามยิ่งนัก เหมือนว่าท่ามกลางวังวนสีทองดังกล่าวจะมีของวิเศษที่ล้ำค่าจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมาอย่างนั้น

จังหวะที่พบเห็นวังวนลักษณะเช่นนี้ปรากฏบนท้องฟ้านั้น ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง มองเห็นวังวนถึงกับค่อยๆ ทิ้งตัวลงมาอย่างช้าๆ ธารน้ำเล็กๆ แต่ละสายทยอยกันทิ้งตัวลงมา ทั้งยังพันเข้าหาซึ่งกันและกัน และสายธารเล็กๆ ที่ไหลเอื่อยๆ ที่พันเข้าหากันได้ถักทอจนกลายเป็นบันไดสวรรค์ภายในระยะเวลาอันสั้น

และแล้วบันไดสวรรค์สีทองที่ค่อยๆ หย่อนลงมาจากวังวนอย่างช้าๆ จากนั้นได้ร่อนลงสู่เมืองเอกด้วยประการเช่นนี้

“นั่นมันคืออะไร?” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่เพิ่งจะได้เห็นความมหัศจรรย์ และภาพที่แปลกประหลาดเช่นนี้เป็นครั้งแรกรู้สึกแปลกใจ และกล่าวว่า “หรือจะเป็นแขกผู้มาเยือนจากต่างดาว?”

“ไหนเลยมีแขกจากต่างดาวอะไรนั่น” ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสที่ผ่านเหตุการณ์มาส่ายหน้า ท่าทางรู้สึกให้ความนับถือขึ้นมา และกล่าวว่า “นี่คือวิหารอมตะ จะมีคนมาจากวิหารอมตะแล้ว”

‘วิหารอมตะ’ ต่อให้เป็นยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ไม่เคยพบเห็นศิษย์ของวิหารอมตะก็ต้องรู้สึกเย็นวาบในใจ ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกนับถือขึ้นมาเมื่อได้ยินชื่อ ‘วิหารอมตะ’ ‘วิหารอมตะ’

“จะมีคนที่มาจากวิหารอมตะแล้วนับว่าพบเห็นได้น้อยมาก หาได้ยากยิ่งนะเนี่ย” ระดับผู้อาวุโสสำนักเจ้าลัทธิถึงกับทอดถอนใจขึ้นมาและกล่าวว่า “วิหารอมตะไม่ได้ปรากฏตัวมานานมากแล้ว วันนี้ถึงกับกลับสู่ยุทธภพอีกครั้ง”

“ที่วิหารอมตะกลับสู่ยุทธภพก็ไม่แปลก” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะกล่าวด้วยท่าทางหนักแน่นจริงจังว่า “พวกของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศได้ปลุกจานอมตะสวรรค์ให้ตื่นขึ้น สิ่งนี้กล่าวสำหรับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารโดยรวมแล้วเป็นเรื่องที่สะเทือนเลื่อนลั่น แล้วจะไม่สร้างความแตกตื่นให้กับวิหารอมตะได้อย่างไรกันเล่า ยิ่งไปกว่านี้ มาวันนี้แคว้นโบราณยันต์แปดทิศมีท่าทีจะบัญชาการใต้หล้า ซึ่งเป็นการท้าทายฐานะของวิหารอมตะ วิหารอมตะย่อมไม่อาจนิ่งดูดายได้”

“เป็นเช่นนี้จริง เพียงแต่ไม่รู้ว่าวิหารอมตะในคราวนี้จะมีท่าทีอย่างไร” ยอดฝีมือเก่ากะลากล่าวพร้อมกับพยักหน้าด้วยท่าทีหนักแน่นจริงจัง

วิหารอมตะคือหนึ่งในสำนักที่เก่าแก่ที่สุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร ในยุคสมัยที่ยาวนานมากๆ ขณะผู้เฒ่าอมตะยังมีชีวิตอยู่นั้น วิหารอมตะคือผู้ที่คอยควบคุมดูแลตามคำบัญชาแทนผู้เฒ่าอมตะ ทำการกวาดล้างไปทุกที่ ปกครองทั่วหล้าแทนผู้เฒ่าอมตะ

กล่าวได้ว่าในยุคสมัยเช่นนั้น วิหารอมตะเรียกได้ว่าเป็นผู้อยู่ในตำแหน่งสูงสุด มีอำนาจอยู่ในมือและโด่งดังยิ่งนัก

ภายหลัง ผู้เฒ่าอมตะไม่เวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป วิหารอมตะยังคงมีฐานะที่สูงเด่น ยังคงเป็นผู้ควบคุมปกครองอำนาจในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก

เพียงแต่ จากกาลเวลาที่เคลื่อนผ่านไป วิหารอมตะยิ่งถอยห่างหายออกจากสายตาของผู้คนบนหล้า และไม่ก้าวก่ายกับเรื่องราวกิจการของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร ค่อยๆ หายตัวและอยู่อย่างสันโดษไปช้าๆ

แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ผ่านไปเป็นพันล้านปี วิหารอมตะยังคงมีฐานะที่สูงส่งยิ่งในความคิดของศิษย์ และลูกหลานทุกๆ คนในแต่ละรุ่นของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร เรียกได้ว่าฐานะของวิหารอมตะในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารนั้น ยากจะมีผุ้ใดสามารถสั่นคลอนได้อยู่แล้ว

ในข้อนี้ นิกายหู้ซานจงห่างชั้นไม่สามารถเทียบเคียงได้กับวิหารอมตะ

แม้จะกล่าวว่า ล่วงเลยมาถึงวันนี้แคว้นโบราณยันต์แปดทิศมีความแข็งแกร่งมากแล้ว มีกำลังทหารที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกร มีธาตุแท้ภายในที่แข็งแรงมั่นคงยิ่ง ได้รับการยกย่องว่าเป็นแคว้นอันดับหนึ่งของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร แต่ว่า ในความคิดของผู้คนจำนวนมากแล้ว แคว้นโบราณยันต์แปดทิศยังไม่มีสิทธิ์ได้ควบคุมอำนาจปกครองของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร เว้นเสียแต่ว่าแคว้นโบราณยันต์แปดทิศสามารถเอาชนะวิหารอมตะได้ นั่นแหละจึงสามารถกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่ไร้ตำแหน่งโดยไม่มีอะไรต้องละอายใจ หาไม่แล้ว แคว้นโบราณยันต์แปดทิศจะถูกครอบอยู่ใต้เงาทมิฬของวิหารอมตะตลอดไป

เนื่องมาจากเงาทมิฬของวิหารอมตะที่วนเวียนเหนือศีรษะตลอดมา ทำให้แคว้นโบราณยันต์แปดทิศรีบเร่งเปิดใช้จานสวรรค์อมตะด้วยความรีบร้อนเช่นนี้เพื่อบัญชาการใต้หล้า แคว้นโบราณยันต์แปดทิศต้องการอาศัยโอกาสที่หาได้ยากยิ่งนี้ มาสร้างฐานะของพวกเขาขึ้นในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร และฉวยโอกาสนี้ควบคุมอำนาจเอาไว้

แว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง มองเห็นวังวนที่อยู่บนท้องฟ้าปรากฏประตูขึ้นมาประตูหนึ่ง มีผู้ที่ก้าวเดินออกมาจากภายในประตูคนแล้วคนเล่าเรียงแถวกันมา

ยอดฝีมือที่ก้าวลงมาจากประตูนี้ล้วนแล้วแต่อยู่ในชุดเสื้อคลุมยาวแบบเดียวกัน แม้ว่าเสื้อคลุมยาวบนตัวของพวกเขาจะแลดูเรียบง่าย แต่ภาพรวมทั้งตัวกลับเปล่งพลังที่ไม่โกรธแต่มาดเคร่งออกมาสายหนึ่ง ในมือของพวกเขาถือกระบองยาวมาด้วย เสมือนหนึ่งในมือของพวกเขากุมอำนาจมาด้วยอย่างนั้น ให้ความรู้สึกผู้คนว่าอำนาจกษัตริย์อยู่ในกำมือ

เหมือนว่าพวกเขาเป็นตัวแทนปณิธานสูงสุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร พวกเขาเป็นผู้ใช้อำนาจสูงสุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร

ดังนั้น ไม่รู่ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรต้องกลั้นลมหายใจกับสิ่งนี้ เมื่อมองเห็นยอดฝีมือคนแล้วคนเล่าเรียงแถวก้าวลงมาจากวังวนความจริงแล้ว แม้แต่ยอดฝีมือของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ พวกเขาก็มีท่าทีที่หนักแน่นจริงจังเช่นกัน เมื่อมองเห็นการมาถึงของยอดฝีมือวิหารอมตะ ไม่กล้าผ่อนคลายแม้แต่น้อย

เนื่องจากกล่าวสำหรับแคว้นโบราณยันต์แปดทิศของพวกเขาแล้ว ไม่แน่นัก ครั้งนี้แม้เพียงความผิดพลาดเล็กน้อยก็อาจจะเป็นศัตรูกับวิหารอมตะ และสองฝ่ายเปิดศึกขึ้นได้ทันที

“นึกไม่ถึงว่าวิหารอมตะจะมาด้วย” สำนักเจ้าลัทธิแคว้นโบราณบางส่วนที่ได้ยืนอยู่ฝ่ายของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศแล้ว ถึงกับรู้สึกเสียใจภายหลังอยู่บ้างในใจ

จะอย่างไรเสียการยืนอยู่ข้างฝ่ายของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ ดีไม่ดีก็คือเป็นศัตรูกับวิหารอมตะ

“วิหารอมตะจะมีระดับผู้ยิ่งใหญ่คนไหนที่มากันบ้างนะ?” มีผู้ที่ซุบซิบด้วยความกังขา เมื่อมองเห็นยอดฝีมือของวิหารอมตะแต่ละคนที่ก้าวเดินลงมา และยืนเรียงเป็นแถวรอคอยอยู่เงียบๆ

“คราวนี้ ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศและดินแดนศักดิ์ภาคกลางคือยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต กับเฒ่าเซียนดินแดนภาคกลาง ถ้าหากวิหารอมตะไม่มีชั้นคงความอมตะตลอดกาลมาสักคนเกรงว่าคงคุมสถานการณ์ไม่อยู่กระมัง” ยอดฝีมือกลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่อาจไม่กล่าวด้วยความกังวล

“ไม่แน่นักว่าเจียงฉางฉุนจะมาด้วยตนเอง” มียอดฝีมือถึงกับกล่าวด้วยความตื่นเต้นดีใจ

ภายในใจของทุกคนต่างรู้สึกเย็นวาบเมื่อได้ยินชื่อของ ‘เจียงฉางฉุน’ เจียงฉางฉุนคือผู้มีชาติกำเนิดมาจากวิหารอมตะ เขาคือชั้นคงความอมตะตลอดกาลที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งที่สุดในยุคปัจจุบัน!

“เกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้แล้ว” ระดับบรรพบุรุษตระกูลขุนนางโบราณส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “เจียงฉางฉุนได้หายสาบสูญไปนาน นานมากๆแล้ว ต่อให้ยังมีชีวิตอยู่ก็คงไม่น่าจะปรากฎตัวกับเรื่องเช่นนี้อีก หากเขาปรากฏตัวแค่คำพูดคำเดียวก็เพียงพอแล้ว เขาพูดออกมาคำหนึ่ง ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารใครบ้างกล้าไม่ปฏิบัติตาม!”

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกว่าคำพูดของระดับบรรพบุรุษผู้นี้มีเหตุผล และพยักหน้ากันเงียบๆ เจียงฉางฉุนคือหนึ่งเดียวที่ดำรงอยู่ในฐานะด้อยกว่าผู้เฒ่าอมตะในรอบพันล้านปีที่ผ่านมาของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร เขามีฐานะที่สูงส่งมากในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร

ขอเพียงเจียงฉางฉุนปรากฏตัว ชั้นคงความอมตะตลอดกาลเฉกเช่นพวกยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตมิต้องทำตัวอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว

ฮึ…เฉกเช่นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะอย่างยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตเพียงแค่ส่งเสียงฮึเย็นชาออกมาคำหนึ่งกับการมาถึงของยอดฝีมือวิหารอมตะ และไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาอีก

แน่นอนที่สุด กล่าวสำหรับผู้ดำรงอยู่ในฐานะยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตนั้น เขามีความหวั่นเกรงในเจียงฉางฉุนจริงๆ ถ้าหากเจียงฉางฉุนไม่ปรากฏตัวขึ้นมา กล่าวสำหรับเขาแล้ว ระหว่างวิหารอมตะเขายังยังคงสามารถสู้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลอะไร ในใจของเขายังคงมีความมั่นใจอยู่

“คนโหดอันดับหนึ่งมาแล้ว” จังหวะที่ผู้คนจำนวนมากต่างสนใจว่าทางวิหารอมตะจะมีใครมาอยู่นั้น ไม่รู้ว่าเป็นใครที่ร้องออกมาคำหนึ่ง ทุกคนต่างทยอยมองไปที่นั่น

มองเห็นด้านนอกเมืองจู่เฉิงมีคนกลุ่มหนึ่งเดินมาช้าๆ ด้านหน้าสุดก็คือคนโหดอันดับหนึ่งหลี่ชิเย่ที่นั่งมากับเก้าอี้ล้อเลื่อน เพียงแต่บนตักของคนโหดอันดับหนึ่งเวลานี้ไม่ได้มีกระบี่ยาวที่วางเอาไว้

ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร ในใจของทุกคนเหมือนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อมองเห็นบนตักของคนโหดอันดับหนึ่งไม่ได้มีกระบี่ยาววางอยู่

มองเห็นเพียงคนโหดอันดับหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อน หลับตาพักผ่อนกายา เหมือนนอนหลับไปแล้วอย่างนั้น

แม้ว่าในขณะนี้คนโหดอันดับหนึ่งจะนั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อน ในสายตาของผู้อื่นมองว่าเหมือนเป็นคนพิการคนหนึ่ง แต่ว่า นาทีนี้ไม่มีใครกล้าไปดูถูกเขา ไม่มีใครไปเข้าใจว่าเขาคือคนพิการคนหนึ่ง

ทุกคนต่างรู้ดีว่า แม้ว่าคนโหดอันดับหนึ่งจะนั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อนไม่เคลื่อนไหวอะไร เขาก็สามารถเข่นฆ่ามารสังหารเทพได้ แค่มือที่สะบัดออกไปก็สามารถสังหารสิ้นนับหมื่นนับพัน

ดังนั้น เวลานี้เมื่อเก้าอี้ล้อเลื่อนของคนโหดอันดับหนึ่งถูกเข็นเข้าเมืองจู่เฉิงอย่างช้าๆ บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดภายในเมืองจู่เฉิงต่างหลีกเป็นทางขึ้นมาอย่างเงียบๆ ไม่ว่าจะเป็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคลของสำนักเจ้าลัทธิใด หรือจะเป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะอะไรก็ตาม นาทีนี้ไม่มีใครกล้าขวางทางของคนโหดอันดับหนึ่ง ทุกคนต่างเหมือนน้ำขึ้นน้ำลงที่ล่าถอยออกไปยังสองข้างทางซ้ายขวา

หลังจากที่คนโหดอันดับหนึ่งเข้าสู่เมืองจู่เฉิงแล้ว ไม่ได้แวะพักตามสถานที่ต่างๆ เก้าอี้ล้อเลื่อนของเขาตรงเข้าไปในเมือง เพียงชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงด้านหน้าตำหนักปฐมบรรพบุรุษ

ตำหนักปฐมบรรพบุรุษมีขนาดที่ใหญ่โตมาก ประตูตำหนักเปิดกว้างเอาไว้ มีบันไดหินขึ้นไปเป็นขั้นๆ บนจุดที่สูงที่สุดของตำหนักจะเป็นบัลลังก์เก่าแก่โบราณตัวหนึ่ง บัลลังก์ตัวนี้ไม่รู้ว่าไม่มีคนนั่งมันมาแล้วกี่ปี แต่ว่า มันยังคงมีประกายวูบวาบ ยังคงไม่เปรอะเปื้อนแม้แต่น้อย

ด้านน้าตำหนักปฐมบรรพบุรุษมีรูปแกะสลักที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารรูปหนึ่ง โดยที่รูปสลักดังกล่าวสูงเทียมฟ้า ไม่ว่าใครก็ตามเมื่อมายืนอยู่ด้านหน้าของรูปแกะสลักนี้แล้ว อดที่จะแหงนหน้ามองขึ้นไปไม่ได้

รูปแกะสลักรูปนี้คือผู้เฒ่าอมตะ เพียงแต่หน้าตาของผู้เฒ่าอมตะถูกความลึกซึ้งยอดเยี่ยมสูงสุดปิดบังเอาไว้ ทำให้ผู้คนมองไปแล้วดูเลือนรางไม่ชัดเจน ทำให้ไม่สามารถมองเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงได้อย่างชัดเจน

กล่าวได้ว่า บริเวณด้านหน้าของรูปแกะสลักนี้ เคยมียอดฝีมือนับไม่ถ้วนเปิดเนตรฟ้า เพื่อต้องการมองเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของผู้เฒ่าอมตะให้ได้ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ

รูปแกะสลักลักษณะเช่นนี้ได้ตั้งตระหง่านอยู่ที่ตรงนี้มานานนับไม่ถ้วนแล้ว แต่ยังคงมีพลังที่ยิ่งใหญ่มหาศาล มีกลิ่นอายที่สูงสุด เหมือนว่าพันล้านปีที่ผ่านไปนั้น กลิ่นอายที่สูงสุดนี้ไม่เพียงไม่จางหายไป ตรงกันข้ามกลับดูเข้มข้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ เหมือนว่าบนตัวของรูปแกะสลักได้รวบรวมเอาความสำเร็จของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารเอาไว้อย่างนั้น

ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่มีอารมณ์พลุ่งพล่านอยากจะทำความเคารพสูงสุด เมื่อมองเห็นรูปแกะสลักของผู้เฒ่าอมตะรูปนี้ ความจริงแล้ว ผู้คนจำนวนมากที่มาถึงตำหนักปฐมบรรพบุรุษก็จะคุกเข่ากราบรูปแกะสลักรูปนี้ของผู้เฒ่าอมตะ

เก้าอี้ล้อเลื่อนหยุดอยู่ด้านน้าของรูปแกะสลักขนาดยักษ์ นาทีนี้หลี่ชิเย่ที่เสมือนหนึ่งนอนหลับไปแล้วได้ลืมตาขึ้นมา มองดูรูปแกะสลักขนาดใหญ่โตมโหฬารนี้อย่างเงียบๆ นาทีนี้ สายตาของเขาได้กลับกลายเป็นลึกล้ำยิ่งนัก ทะลุผ่านความลึกล้ำยอดเยี่ยมของรูปแกะสลักรูปนี้ มองตรงไปถึงโฉมหน้าของผู้เฒ่าอมตะ

หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ สายตาของหลี่ชิเย่ได้ตกลงไปบนบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษตัวนั้นที่อยู่ในตำหนักปฐมบรรพบุรุษ

………………………………………………………

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *