ตอนที่ 2785 เสื้อเกราะเซียน

เมื่อถูกหลี่ชิเย่มองเหมือนไม่มีตัวตนเช่นนี้ ทำให้ทั้งยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางมีสีหน้าที่ดูไม่จืดถึงขีดสุด

ชั่วดีอย่างไรพวกเขาก็คือเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล สมควรทราบว่า ต่อให้ทอดสายตาไปทั่วทั้งแดนลัทธิเซียน เทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลคือผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งเพียงใด นอกเหนือจากปฐมบรรพบุรุษแล้ว เกรงว่าพวกเขาสามารถหมางเมินใต้หล้าอย่างทระนงแล้ว ราชันแท้จริงทั่วไปไม่สามารถต่อกรพวกเขาได้

ปรกติแล้ว กล่าวได้ว่าพวกเขานั้นดำรงอยู่ในฐานะที่สูงเด่น เรียกลมเรียกฝนได้ เหล่าอาณาประชาราษฎร์กราบไหว้ แต่ว่า มาวันนี้กลับถูกหลี่ชิเย่ดูแคลนถึงเพียงนี้ กระทั่งมองพวกเขาประดุจดั่งมดปลวกอย่างนั้น แล้วจะไม่ให้เพลิงแห่งความโกรธลุกโชนขึ้นภายในใจพวกเขาได้อย่างไร

แม้ว่ายันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางต่างก็มีเพลิงแห่งความโกรธลุกโชนขึ้นภายในใจ แต่ว่า พวกเขายังคงอดกลั้นเพลิงแห่งความโกรธลุกโชนขึ้นภายในใจเอาไว้ จะอย่างไรเสียเวลานี้ถูกบังคับด้วยสถานการณ์ ความแข็งแกร่งของคนโหดอันดับหนึ่งเห็นๆ กันอยู่ แม้ว่าภายในใจของพวงเขาจะโกรธมากเพียงใดก็ตามก็ต้องกล้ำกลืนเอาไว้ มีเพียงรอให้พวกเขาเอาชนะคนโหดอันดับหนึ่งให้ได้เสียก่อน และสังหารคนโหดอันดับหนึ่งเสีย จึงสามารถระบายแค้นที่อยู่ในใจนี้ลงได้

ในเวลานี้ ทุกคนต่างมองไปที่ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลาง ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ และรอคอยการโจมตีที่สะเทือนเลื่อนลั่น

“พวกเขาไหวหรือเปล่า? ” ในเวลานี้ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกหวั่นไหวในใจ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกว่ายันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางยากจะสั่นคลอนต่อคนโหดอันดับหนึ่ง แม้ว่าคนโหดอันดับหนึ่งจะรับมือศัตรูด้วยมือเพียงข้างเดียว

ก่อนหน้านั้น ผู้คนจำนวนเท่าไรที่เข้าใจว่าการที่คนโหดอันดับหนึ่งรับมือศัตรูด้วยมือข้างเดียวนั้น เป็นการกระทำที่บ้าระห่ำและอวดดีอะไรอย่างนั้น เวลานี้ทุกคนต่างรู้สึกว่า การที่คนโหดอันดับหนึ่งอาศัยมือข้างเดียวรับมือกับศัตรูเป็นความมั่นใจอย่างหนึ่ง เป็นความแข็งแกร่ง เป็นความไร้เทียมทานอย่างหนึ่ง

ดังนั้น ก่อนหน้านี้ ผู้คนจำนวนมากต่างคิดว่าคนโหดอันดับหนึ่งอาศัยมือข้างเดียวไปรับมือศัตรู จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางอย่างเด็ดขาด แต่ว่านาทีนี้ ความคิด และจุดยืนภายในใจของคนเหล่านี้ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ในเวลานี้พวกเขาต่างคิดว่า การโจมตีที่สะเทือนเลื่อนลั่นของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางเวลานี้ ก็ไม่เห็นจะสั่นคลอนต่อคนโหดอันดับหนึ่งได้

ไม่รู้ว่าผู้คนจำนวนเท่าไรที่ถูกทำให้หวั่นไหวภายในระยะเวลาอันสั้น ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ถูกสยบด้วยความแข็งแกร่งของหลี่ชิเย่อย่างสิ้นเชิงแล้ว

ตูม ตูม ตูมในเวลานี้เอง เสียงที่ดังตูมตามขึ้นเป็นระลอกไม่ขาดสาย พื้นแผ่นดินสว่างไสวขึ้น ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารล้วนสว่างไสวตาม ในผืนแผ่นดินทุกตารางนิ้วของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารล้วนแล้วแต่พวยพุ่งเป็นพลังสัจธรรมขึ้นมา เวลานี้ทุกๆ จุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารล้วนแล้วแต่ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของปฐมบรรพบุรุษ

ต่อให้เป็นยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ไม่สามารถชมศึกครั้งนี้ด้วยตนเอง เมื่อเห็นภาพตรงหน้าแล้ว และรับรู้ถึงทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารถูกตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษนั้น พวกเขาต่างเข้าใจได้ว่าในขณะนี้มีผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งยิ่งกำลังโยกย้ายพลังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารทั้งหมด กำลังควบคุมพลังสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร

กล่าวได้ว่า เวลานี้ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางได้รวบรวมพลังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารมาแล้วทั้งหมด ได้โยกย้ายพลังสัจธรรมที่ยิ่งใหญ่มหาศาลไม่มีสิ้นสุดมา ธาตุแท้ภายในทั้งหมดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร ถูกรวบรวมเอาไว้บนตัวของพวกเขากว่าครึ่ง สิ่งเดียวที่พวกเขาทำไม่ได้ก็คือไม่สามารถควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรม

แน่นอน พวกเขาก็ไม่สามารถควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรมอยู่แล้ว กระทั่งปัจจุบันยังไม่มีใครที่รู้ว่าต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารอยู่ที่ไหน มีคนบอกว่าอยู่ในความควบคุมของวิหารอมตะ

ลองนึกภาพดู ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลสองคนทุ่มสุดกำลังไปควบคุมพลังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร มันคือภาพที่อลังการอะไรอย่างนั้น และสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนเพียงใด ในเวลานี้ พลังสัจธรรมที่ยิ่งใหญ่มหาศาลเสมือนหนึ่งคลื่นที่โหมสาดซัดทะลักมาจากทุกทิศทุกทาง คลื่นที่บ้าคลั่งเหมือนท่วมระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารจนจมมิดในทันทีอย่างนั้น

พลังสัจธรรมที่บ้าคลั่งและพาลเช่นนี้ ทั้งหมดถูกรวบรวมไว้บนตัวของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลาง ในเวลานี้บนตัวของพวกเขาทั้งสองคนได้รวบรวมพลังสัจธรรมที่มากมายมหาศาลและไม่มีสิ้นสุดเอาไว้

ในเวลานี้เอง ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางทั้งสองคนก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก พวกเขาทั้งสองเหมือนว่าได้อ่อนเยาว์ลงหลายพันปีในทันทีอย่างนั้น แม้แต่ผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางที่แลดูเหมือนเหลือลมหายใจเฮือกสุดท้ายก็ดูมีจิตวิญญาณที่มีชีวิตชีวาในเวลานี้ ดูเหมือนเป็นชายวัยกลางคนอย่างนั้น

ในเวลานี้พวกเขาทั้งสองคนได้รวบรวมพลังสัจธรรมปริมาณมหาศาลเอาไว้ พลันทำให้พวกเขาได้กลับคืนสู่ช่วงที่ตนเองอยู่ในท่วงทำนองที่ยอดเยี่ยมที่สุด พลังลมปราณคึกคักมีชีวิตชีวาพลังสัจธรรมยิ่งใหญ่มหาศาล

ในเวลานี้ เห็นเพียงยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางทั้งสองคนขณะยืนอยู่ตรงนั้น ท่วงท่าปรากฏมีเสียงวายุและอัสนี เหมือนว่าพวกเขาแค่หนึ่งฝ่ามือฟาดฟันลงไปก็สามารถทำลายโลกทั้งโลกจนพังพินาศย่อยยับอย่างนั่น ทำให้ผู้พบเห็นถึงกับต้องเคารพยำเกรง

“แข็งแกร่งเหลือเกิน” ยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยรู้สึกขนลุกซู่ในใจ เมื่อมองเห็นยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางทั้งสองสามารถรวบรวมพลังสัจธรรมได้มากมายถึงเพียงนี้

แม้ว่าศิษย์ทุกคนของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารล้วนแล้วแต่สามารถหยิบยืมพลังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารมาใช้ แต่ว่า สามารถทำได้ถึงขั้นยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางเรียกได้ว่ามีอยู่ไม่กี่คน นี่เป็นการหยิบยืมเอาพลังทั้งหมดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารมาให้ตัวเองได้ใช้เลยทีเดียว

“เช่นนั้นแล้วก็มาสู้กัน” ในที่สุดทั้งยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางได้หยุดลงแล้ว หลังจากที่รวบรวมพลังระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารมาอย่างเพียงพอแล้ว และร้องกล่าวเสียงดังขึ้นมา

ในเวลานี้ พวกเขาได้รวบรวมพลังระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารมามากเพียงพอแล้ว หากจะรวบรวมต่อไปก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรวบรวมให้ได้มากกว่านี้อีก พวกเขาในเวลานี้ได้กลับสู่ท่วงท่าที่อยู่ในระดับสูงสุดของตนแล้วมีกำลังวังชาที่แข็งแกร่ง พลังลมปราณที่คึกคักมีชีวิตชีวา เหมือนว่าร่างกายอยู่ในช่วงวัยกลางคนอย่างนั้น ไม่รู้สึกว่าแก่ชราและอ่อนแอ

“รอพวกเจ้านานมากแล้ว” หลี่ชิเย่ยังคงยืนเอามือไพล่หลัง หัวเราะทีหนึ่งและกล่าวว่า “มือข้างเดียวสังหารพวกเจ้า” กล่าวพลาง ยื่นมือออกมาอย่างช้าๆ

มือข้างหนึ่งไพล่อยู่ด้านหลัง อาศัยมือข้างเดียวรับมือกับศัตรู และยังเป็นการรับมือกับระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลถึงสองคน เรื่องเช่นนี้หากเป็นอดีตช่างเป็นเรื่องที่บ้าระห่ำอะไรอย่างนั้น มันเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้คนไม่อยากจะเชื่อ และต้องมีผู้ที่คิดว่าหลี่ชิเย่นั้นเสียสติไปแล้ว

แต่ว่า เวลานี้ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่คิดว่าหลี่ชิเย่เสียสติ ทุกคนต่างมีท่าทีที่หนักแน่นจริงจัง ทุกคนต่างคิดว่ามือข้างนี้ไม่เห็นยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางพวกเขาจะรับมือได้

แม้แต่พวกยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางสองคนก็มีท่าทีที่หนักแน่นจริงจังยิ่งนัก

ขึ้น…นาทีนี้ผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางคำรามเสียงยาวเสียงหนึ่ง ด้านหลังของเขาปรากฎเสียงตูมดังสนั่น ปรากฏแผ่นดินที่กว้างใหญ่ไพศาลลอยขึ้น มองเห็นที่ตรงนั้นมีทิวทัศน์ที่งดงาม ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกเสมือนดั่งเป็นอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ดินแดนเซียนอย่างนั้น

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง…ผู้คนจำนวนมากพลันจดจำขึ้นมาได้ และร้องเสียงดังขึ้นมาเมื่อมองเห็นพื้นแผ่นดินกว้างใหญ่ไพศาลที่ลอยขึ้นด้านหลังของผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลาง

ในขณะนี้ ได้ยินเสียงตูมที่ดังสนั่น มองเห็นบริเวณดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางปรากฎสระน้ำโบราณลอยขึ้นมา น้ำในสระโบราณมีสีดำดั่งหมึก แต่ว่า นาทีนี้ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นขึ้นมา น้ำที่อยู่ในสระน้ำโบราณพลันพวยพุ่งขึ้นมา

เวลานี้ทุกคนจึงได้มองเห็นชัดเจนว่า น้ำสระที่มีสีดำดั่งหมึกนั้นมันหาใช่เป็นน้ำสระอยู่แล้ว แต่เป็นตัวอักขระยันต์ ดังนั้น เมื่ออักขระยันต์ทั้งหมดได้พวยพุ่งขึ้นมานั้น พลันแผดเสียงดังก้องเหมือนย้ายภูเขาพลิกทะเลอย่างนั้น ยิ่งเหมือนคลื่นที่โหมสาดซัด เหมือนว่าสามารถกวาดทุกอย่างให้ราบคาบ

ด้วยจำนวนอักขระยันต์มากมายเช่นนี้ที่แผดเสียงดังก้องเข้ามาในพริบตา เสมือนดั่งมังกรแท้จริงที่ก้าวข้ามผืนแผ่นดินอย่างนั้น แต่ว่า ที่มันแผ่กระจายออกมากลับไม่ใช่กลิ่นอายมังกรแต่เป็นกลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษ ดุจดั่งเป็นมังกรแท้จริงที่กลายร่างมาจากปฐมบรรพบุรุษ กลิ่นอายมังกรที่พวยพุ่งขึ้นมานั้นล้วนแล้วแต่เป็นกลิ่นอายของปฐมบรรพบุรุษ

เสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น ขณะที่อักขระยันต์ทั้งหมดแผดเสียงดังก้องเข้ามาถึงนั้น เห็นเพียงอักขระยันต์ทั้งหมดพลันไปเกาะอยู่บนตัวของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง และหลอมละลายจับตัวกลับกลายเป็นชุดเกราะทั้งชุด เมื่อชุดเกราะชุดนี้คลุมร่างพลันพวยพุ่งประกายเป็นแสงที่ไม่มีสิ้นสุดขึ้นมา แสงทุกๆ สายพลันเหมือนผ่าพสุธาออกมาอย่างนั้น

เสียงตูม…ดังสนั่น นาทีนี้ร่างกายของผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางได้พวยพุ่งประกายของปฐมบรรพบุรุษขึ้นมา นาทีนี้ร่างกายของผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางเหมือนกลับกลายเป็นมีขนาดที่ใหญ่โตมโหฬารอย่างนั้น ที่ทำให้ผู้คนต้องหวาดผวายิ่งกว่าก็คือ ด้านหลังของผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางปรากฎร่างเงาที่สูงใหญ่มากขึ้นมา เมื่อพิจารณาดูร่างเงานี้อย่างละเอียดแล้ว เหมือนกับรูปแกะสลักรูปนั้นที่อยู่ด้านหน้าตำหนักปฐมบรรพบุรุษมากทีเดียว

ปฐมบรรพบุรุษหรือ…ทุกคนต่างรู้สึกหวาดผวา เมื่อมองเห็นร่างเงาที่ปรากฎอยู่ด้านหลังของผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลาง กระทั่งมีผู้คนจำนวนไม่น้อยทยอยกันคุกเข่าลงกับพื้นและคารวะอย่างเต็มรูปแบบ

ตึง ตึง ตึงในเวลานี้เอง มองเห็นมือขนาดใหญ่ของผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางยกขึ้น บริเวณดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางพลันปรากฎประกายกระบี่นับไม่ถ้วยที่พุ่งขึ้นมาในพริบตา ประกายกระบี่ที่มากมายไม่มีสิ้นสุดพลันกลับกลายเป็นทะเลกระบี่ที่ไม่มีขอบเขตสิ้นสุด ท่ามกลางทะเลกระบี่นี้มีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นับล้านล้านเล่ม กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทุกเล่มล้วนแล้วแต่อยู่ในลักษณะหัวท้ายต่อกันแล้วค่อยๆ หมุนขึ้นมา และกลับกลายเป็นไท่เก็ก ไม่มีสิ้นสุด

สุดท้าย ได้ยินเสียงกระบี่ดังตึงเสียงหนึ่งดังก้องไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ท่ามกลางทะเลกระบี่ที่ไม่มีสิ้นสุด ปรากฏกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เล่มหนึ่งที่ลอยขึ้นช้าๆ พลันที่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นมา เป็นใหญ่แต่ผู้เดียว เป็นเอกของกระบี่ หนึ่งกระบี่ปรากฏสามารถแทงทะลุสวรรค์

กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้ได้แผ่กลิ่นอายสูงสุดออกมา พลังกระบี่ที่ผาดโผน มีท่าทีปราศจากผู้ต่อเป็นนิรันดร์

สุดท้าย ได้ยินเสียงตึงที่ดังขึ้นเสียงหนึ่ง กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้ตกไปอยู่ในมือของผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลาง ขณะที่ผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางกำกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวในมือนั้น เสมือนดั่งเป็นปฐมบรรพบุรุษมาด้วยตนเอง มีพลังของปฐมบรรพบุรุษในครอบครอง

“เยี่ยมมาก คำเล่าลือเป็นความจริง” ระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิรู้สึกหวั่นไหวเมื่อเห็นภาพเช่นนี้ และกล่าวว่า “ในครั้งนั้นปฐมบรรพบุรุษได้ประทานสุดยอดชุดเกราะสูงสุด และกระบี่ปฐมบรรพบุรุษสูงสุดให้ กระบี่และชุดเกราะผสานเป็นหนึ่ง เพียงพอที่จะปราศจากผู้ต่อกร”

“สิ่งนี้ไหนเลยแค่ปราศจากผู้ต่อกร มันคือเกียรติยศสูงสุดนะเนี่ย” ไม่รู้ว่ามีผู้ยิ่งใหญ่จำนวนเท่าใดที่รู้สึกอิจฉาริษยา เมื่อมองเห็นผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางที่ในมือถือกระบี่ปฐมบรรพบุรุษ บนตัวสวมใส่ชุดเกราะ มีท่าทีของปฐมบรรพบุรุษที่มาด้วยตนเอง

ลำพังอาศัยเพียงเท่านี้ก็สามารถมองออกว่า ในครั้งนั้นผู้เฒ่าอมตะนั้นมีความโปรดปรานต่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางเพียงใด เขาไม่เพียงประทานชื่อให้กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นยังไม่ประทานอาวุธปฐมบรรพบุรุษที่ยอดเยี่ยมยากจะหาผู้ใดเทียมให้ การที่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ ในครั้งนั้นนอกเหนือจากวิหารอมตะ นิกายหู้ซานจงแล้ว เกรงว่าคงไม่มีสำนักใดสามารถเทียบเคียงได้กระมัง

“กระบี่เป็นกระบี่ที่ดี ชุดเกราะก็เป็นชุดเกราะวิเศษ” หลี่ชิเย่เพียงยิ้มนิดหนึ่งขณะมองดูผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางในเวลานี้ และกล่าวว่า “ดูท่าผู้เฒ่าอมตะนับว่าโปรดปรานในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางพวกเจ้าไม่น้อยทีเดียว เสียดาย พวกเจ้าไร้ความสามารถจริงๆ ”

ตูม ตูม ตูมจังหวะที่ผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางมีชุดเกราะสวมใส่บนตัว ในมือถือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นั้น ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตก่อนหน้านั้นก็ปรากฏเสียงดังตูมตามขึ้นทั่วตัวไม่ขาด ในเวลานี้รอบๆ ตัวของเขาได้ปรากฏกฎเกณฑ์สูงสุดที่ทิ้งตัวลงมา กลิ่นอายของปฐมบรรพบุรุษที่กดทับเหล่าชั้นฟ้าจนพังทลายลง

…………………………………………………………………………………….