Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2811 รูปปฐมบรรพบุรุษแตก

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2811 รูปปฐมบรรพบุรุษแตก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2811 รูปปฐมบรรพบุรุษแตก

สุดท้าย ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้น เห็นเพียงร่างกายของเติ้งเหรินเซินถึงกับถูกแยกร่างในทันที กลายเป็นอนุภาคแสงจำนวนนับไม่ถ้วนพ่นทะลักออกมา ในพริบตาเดียวนั้นเองร่างของเติ้งเหรินเซินหายวับไปกับตาในพริบตา ไม่เหลือทิ้งร่องรอยใดๆ

ขณะที่อนุภาคแสงพ่นทะลักออกมานั้น เหมือนประกายศักดิ์สิทธิ์ที่โปรยปรายลงมาทุกซอกทุกมุมอย่างนั้น เหมือนว่าร่างของเติ้งเหรินเซินถูกย่อยสลายให้คืนกลับสู่ผืนแผ่นดิน เหมือนว่าเขาได้หลอมรวมเข้าไปในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร

“ข้าไม่ได้แกล้งนะ” หลังจากหลี่ชิเย่อาศัยหนึ่งกระบี่ทำให้เติ้งเหรินเซินบริสุทธิ์แล้ว ได้ทำเหมือนตกใจอย่างยิ่ง

“กระบี่ล้างบาป…” ทุกคนล้วนแล้วแต่ถูกทำให้ตกใจยิ่งนัก เมื่อมองเห็นกระบี่เล่มนั้นที่อยู่ในมือหลี่ชิเย่ พวกเขาไม่เพียงแต่ถูกทำให้ตื่นตระหนกตกใจเท่านั้น ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือรู้สึกเหลือเชื่อ

“ศิษย์พี่ทั้งหลาย ข้ามาช่วยพวกท่านแล้ว” เมื่อหลี่ชิเย่เห็นนักศึกษาคนอื่นๆ ยังติดอยู่ในสระล้างบาปจึงร้องเสียงดังและแกว่งกระบี่ล้างบาปที่อยู่ในมือวิ่งเข้าไปหา

“เจ้า เจ้า เจ้าอย่าเข้ามานะ” บรรดานักศึกษาเหล่านั้นถูกทำให้ตกใจร้องเสียงแหลมขึ้นมา เมื่องมองเห็นหลี่ชิเย่แกว่งกระบี่ล้างบาปวิ่งเข้ามา ท่าทางเหมือนร้อนรนที่จะช่วยคนอย่างนั้น

แต่ว่าทุกอย่างมันสายไปแล้ว แว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น มองเห็นประกายพวยพุ่ง กระบี่ล้างบาปพลันยิงแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา ขณะที่แสงศักดิ์สิทธิ์แต่ละสายยิงออกมานั้น เหมือนเป็นประกายกระบี่แต่ละสายอย่างนั้น

ได้ยินเสียงฉึก ฉึก ฉึกดังขึ้น พริบตาเดียวนั้นเองประกายกระบี่ทั้งหมดพลันยิงถูกนักศึกษาเหล่านั้น และมุดเข้าไปภายในร่างกายของพวกเขา

นาทีนี้เองได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้น หลังจากประกายศักดิ์สิทธิ์ลักษณะเช่นนี้มุดเข้าไปภายในร่างกายของพวกเขาแล้ว ปรากฏประกายศักดิ์สสิทธิ์แต่ละสายบานเบ่งอยู่ภายในร่างกายของพวกเขา นี่ไม่ใช่ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาเบ่งบานออกมาเอง แต่เป็นประกายศักดิ์สิทธิ์แต่ละสายที่มุดเข้าไปในร่างกายพวกเขาเมื่อครู่ และทำให้พวกเขาบริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของพวกเขาหรือร่างกายของพวกเขา และหรือสัจธรรมของพวกเขาล้วนแล้วแต่ถูกทำให้บริสุทธิ์ในพริบตาเดียว

“ไม่…” นาทีนี้ นักศึกษาเหล่านี้ร้องเสียงแหลมขึ้นมา ใบหน้าขาวซีด แต่ล้วนแล้วแต่ไม่มีประโยชน์แล้ว

ได้ยินเสียงปุดังขึ้น ในเวลาเดียวกันนี้ประกายศักดิ์สิทธิ์ได้ระเบิดขึ้นในร่างกายของพวกเขา ร่างกายของพวกเขาล้วนแล้วแต่ถูกแยกออกกลับกลายเป็นอนุภาคแสงจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง มันพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า สุดท้ายปลิวกระจายออกไปและโปรยปลายลงไปทุกซอกทุกมุม

ทำไปถึงเป็นเช่นนั้น…หลี่ชิเย่ท่าทางเหมือนตกใจอย่างยิ่ง มองดูกระบี่ล้างบาปที่อยู่ในมืออย่างไม่น่าเชื่อ

ในเวลานี้เอง พวกนักศึกษาอย่างลู่ซื่อเม่าทั้งหมดล้วนแล้วแต่ปลิวกระจายออกไป หายวับไปกับตาในพริบตา เหมือนว่าไม่เคยปรากฏตัวบนโลกนี้มาก่อน เพียงชั่วพริบตาก็ละเหยหายไป

นักศึกษาทั้งหมดของสถาบันศึกษาล้างบาปต่างมองดูจนเหม่อลอย ไม่สามารถเรียกสติกลับมาเป็นเวลานาน เมื่อมองเห็นพวกเติ้งเหรินเซินและลู่ซื่อเม่าล้วนแล้วแต่ปลิวกระจายตามกันไป

“ศิษย์น้องรีบขึ้นมา” ผ่านไปชั่วครู่ใหญ่ในที่สุดจ้าวชิวสือได้สติคืนกลับมา ร้องกล่าวเสียงดังกับหลี่ชิเย่

หลี่ชิเย่จึงได้ขึ้นมาจากสระล้างบาป แต่ว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของสระล้างบาปไม่มีผลกับเขาแม้แต่น้อย ไม่เหมือนเช่นเติ้งเหรินเซินอย่างนั้น ถูกน้ำศักดิ์สิทธิ์ของสระล้างบาปสยบเอาไว้

ขณะที่หลี่ชิเย่ขึ้นมาจากสระล้างบาป เป็นการไปมาอย่างอิสระเสรีโดยสิ้นเชิง เหมือนว่านี่เป็นน้ำสระที่ธรรมดาๆ จนไม่รู้จะธรรมดาอย่างใดเท่านั้นเอง

ความจริงแล้ว นั่นเป็นเพราะว่าจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่แข็งแกร่งมากเหลือเกิน แม้ว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของสระล้างบาปจะมีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ปราศจากผู้เทียบเทียม แต่ไม่สามารถสั่นคลอนจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ได้อยู่แล้ว ไม่สามารถยิงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ให้เปิดออกมาได้อยู่แล้ว แม้แต่จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรยังเปิดไม่ออกแล้วจะมีความเป็นไปได้ที่จะชำระล้างความคิดชั่วร้ายที่อยู่ในใจของหลี่ชิเย่ได้อย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้นหากจะพูดถึงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ ดีหรือร้ายมันก็แค่การนึกคิดเท่านั้น ต่อให้น้ำศักดิ์สิทธิ์ไหลรินอยู่ภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขา แค่เขาคิดดีก็จะไม่มีความคิดชั่วร้ายใดๆ ให้ชำระล้างได้

“เจ้า เจ้า เจ้าได้กระบี่ล้างบาปมาแล้ว” หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ จ้าวชิวสือมองดูกระบี่ล้างบาปในมือของหลี่ชิเย่ด้วยท่าทางงุนงง

กระบี่ล้างบาปเล่มนี้อยู่ในสระล้างบาปมาโดยตลอด แม้ว่าเคยมีผู้ที่สามารถหยิบยกมันขึ้นมาได้ แต่ว่าล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะมีชื่อเสียงโดงดังทั้งสิ้น เช่นราชันแท้จริงเซิ่นซวง ราชันแท้จริงฉุงหัวเป็นต้น

ขณะที่หลี่ชิเย่เป็นเพียงนักศึกษาธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น เขาไม่เพียงหยิบยกกระบี่ล้างบาปขึ้นมาได้ ยังนำมันออกมาจากสระล้างบาปอีกด้วย

“นั่นสิ” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย แกว่งกระบี่ล้างบาปที่อยู่ในมือและกล่าวว่า “กระบี่เล่มนี้นับว่าแหลมคมยิ่งนัก”

ทำเอาจ้าวชิวสือตกใจยิ่งนักถึงกับก้าวถอยหลังไปหลายก้าว เมื่อครู่นี้ขณะหลี่ชิเย่แกว่งกระบี่ล้างบาปนั้น พลันสังหารพวกลู่ซื่อเม่าไปในทันที เขาเกรงว่ากระบี่ล้างบาปนี้จะพวยพุ่งประกายศักดิ์สทธิ์ออกมากะทันหัน โชคดีที่ขณะหลี่ชิเย่แกว่งกระบี่ล้างบาปแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงทำให้จ้าวชิวสือหายใจด้วยความโล่งอก

“เจ้า เจ้าทำไมไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำศักดิ์สิทธิ์ของสระล้างบาป” มีนักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปถึงกับพิจารณาหลี่ชิเย่ด้วยความงุนงง

แม้ว่าหลี่ชิเย่จะดูซื่อๆ อยู่บ้างแต่ไม่เหมือนคนปัญญาอ่อน เมื่อเป็นเช่นนั้นเพราะอะไรเขาถึงไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำศักดิ์สิทธิ์ของสระล้างบาป?

“เพราะว่าหน้าตาข้าหล่อ” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง เอากระบี่ล้างบาปสะพายไว้บนหลัง

นักศึกษาคนอื่นๆ ต่างพิจารณาดูหลี่ชิเย่ทีหนึ่ง รู้สึกว่าหลี่ชิเย่ไม่เห็นหล่อตรงไหน แต่ว่าในใจของทุกคนล้วนแล้วแต่อึดอัด เพราะอะไรน้ำศักดิ์สิทธิ์ในสระล้างบาปถึงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ต่อหลี่ชิเย่เล่า

คร๊ากกก คร๊ากกก ครากกก…ในเวลานี้เอง เสียงแตกละเอียดดังขึ้นเป็นระยะ พวกจ้าวชิวสือต่างรีบหันไปมองด้วยความตกใจยิ่ง

ในเวลานี้มองเห็นรูปแกะสลักปฐมบรรพบุรุษปราชญ์ไกรกันดารปรากฏรอยร้าวเป็นริ้วๆ เหมือนแตกลายงาเต็มไปหมด

“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” สิ่งนี้ทำให้ในใจของนักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปทั้งหมดรู้สึกตกใจยิ่ง กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว การที่รูปแกะสลักปฐมบรรพบุรุษเกิดแตกร้าวขึ้นกะทันหันนั่นมันไม่ใช่เรื่องดี เป็นลางบอกเหตุที่ไม่ดีอย่างหนึ่ง

จังหวะที่นักศึกษาทั้งหมดยังไม่ทันได้สติกลับมาได้ยินเสียงปังดังขึ้น รูปแกะสลักปราชญ์ไกรกันดารพลันแตกละเอียด

ตามติดด้วยเสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว รูปแกะสลักที่แตกละเอียดถึงกับมีลำแสงมหาประลัยสีดำสายหนึ่งพุ่งขึ้นมา ลำแสงมหาประลัยสีดำสายนี้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรุนแรง กลายเป็นวังวนขนาดยักษ์บนท้องฟ้า

ตูม ตูม ตูมในเวลานี้เอง เสียงตูมตามดังขึ้นไม่ขาดสายฟ้าดินสะเทือนหวั่นไหว พลังความมืดที่น่าสยองขวัญพลันลอยอยู่เหนือศีรษะของทุกคน

“นั่นมันคืออะไร…” นักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปล้วนแล้วแต่ตกใจจนหน้าขาวซีด นักศึกษาจำนวนมากต่างถูกพลังความมืดที่ปราศจากผู้ต่อกรนี้สยบไว้กับพื้นไม่สามารถลุกขึ้นมาได้เป็นเวลานาน

เมื่อพลังความมืดลักษณะเช่นนี้พุ่งขึ้นท้องฟ้าแล้วกลายเป็นวังวน พริบตาเดียวนั้นเองพลังความมืดได้ตลบอบอวลไปทั่วทั้งสถาบันศึกษาล้างบาป ทุกคนล้วนแล้วแต่รับรู้ถึงพลังความมืดสายนี้ พลังความมืดสายนี้ช่างโบราณและช่างดึกดำบรรพ์อะไรอย่างนั้น ทั้งยังบริสุทธิ์อะไรอย่างนั้น

หากจะกล่าวว่าพลังจรัสของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์มีความบริสุทธิ์ยิ่งนัก พลังความมืดก็มีความบริสุทธิ์เช่นนี้เช่นกัน เมื่อพลังความมืดนี้พุ่งขึ้นท้องฟ้า เหมือนว่ามันกับพลังจรัสของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ตอบสนองซึ่งกันและกัน ดูเหมือนพลังความมืดกับพลังจรัสในเวลานี้จะส่งเสริมซึ่งกันและกัน พวกมันคล้ายถือกำเนิดจากต้นกำเนิดเดียวกัน

ครั้นพลังความมืดนี้กลายเป็นวังวนบนท้องฟ้า พลันทำให้ทุกคนที่มีพลังจรัสแตกตื่นทันที ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาที่กลายเป็นราชันแท้จริงแล้ว หรือว่าบรรดาอาจารย์ที่ปราศจากผู้ต่อกรและปลีกตัวไม่ยุ่งหรือปรากฎตัวทางโลกอีก ล้วนแล้วแต่ถูกพลังอำนาจสายนี้ทำให้แตกตื่น

ในเวลานี้ สายตาแต่ละคู่จ้องมองไปในผืนแผ่นดินที่กว้างใหญ่ไพศาลของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ และมีคู่สายตาแต่ละคู่ที่นอนหลับใหลต่างทยอยลืมตาขึ้นในเวลานี้

ภายในใจของพวกเขาล้วนแล้วแต่หวั่นไหวขณะมองดูวังวนความมืดบนท้องฟ้า

ไม่ว่าจะเป็นราชันแท้จริงเซิ่นซวงแห่งสถาบันศึกษาเป่ยเยี่ยน หรือว่าราชันแท้จริงจื่อหลงแห่งสู่กวงพายับ และหรือเทพสงครามจินเปี้ยนแห่งหลีหมิงทักษิณ หรือหมิงหวังฝอแห่งเซิ่นถัวประจิม เมื่อมองเห็นพลังความมืดสายนี้ที่กลับกลายเป็นวังวนบนท้องฟ้า ล้วนแล้วแต่มีท่าทีสะท้าน

“พลังความมืดที่แข็งแกร่งมาก…” แม้แต่เทพสงครามจินเปี้ยนที่ชื่นชอบการสู้รบ เมื่อเห็นวังวนความมืดเช่นนี้แล้วก็มีท่าทีที่หนักแน่นจริงจังอย่างยิ่ง

“เริ่มจากป่ารกร้างถูกทำให้กลายเป็นแดนมารก่อน เวลานี้ก็มีพลังความมืดที่บริสุทธิ์ขนาดนี้ นี่คือลางบอกเหตุแบบไหนกันนะ” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงมองดูวังวนความมืดที่อยู่บนท้องฟ้านี้แล้ว อดที่จะรู้สึกกลัดกลุ้มใจอย่างยิ่ง

ในขณะนี้ วังวนความมืดวที่อยู่บนท้องฟ้าได้หมุนวนขึ้นมา และยิ่งหมุนยิ่งเร็ว ส่งเสียงตูม ตูม ตูมดังสนั่นหวั่นไหว จากการที่วังวนความมืดบนท้องฟ้าหมุนด้วยความเร็วสูงนั้น เสมือนหนึ่งต้องการนำพาฟ้าดินทั้งหมดหมุนตามอย่างนั้น

แม้ว่าฟ้าดินทั้งหมดไม่ได้ถูกวังวนความมืดพาให้หมุนตาม อย่างใดก็ตามในเวลานี้ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์พลันพุ่งขึ้นท้องฟ้าอย่างรุนแรง เสมือนดั่งคลื่นยักษ์ที่โหมสาดซัดสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า และหมุนตามขึ้นมา

ขณะที่พลังจรัสหมุนวนอยู่บนท้องฟ้านั้นยิ่งหมุนยิ่งเร็ว ท้ายที่สุดแล้วจังหวะของมันถึงกับเหมือนกันอย่างกับแกะกับวังวนความมืด เหมือนว่าความมืดและความสว่างร่ายรำพร้อมกัน

เวลานี้ความสว่างและความมืดถึงกับมีอัธยาศัยไมตรีต่อกันยิ่ง ไม่มีความขัดแย้งใดๆ ไม่มีการฆ่าฟันในจินตนาการ ยิ่งกว่านั้นยังไม่มีความสว่างไปทำให้ความมืดบริสุทธิ์ เมื่อวังวนทั้งสองหมุนวนไปด้วยกันนั้น เสมือนดั่งได้กลายเป็นไท่เก็ก ไม่เพียงกำเนิดจากสายเดียวกันยังดำรงอยู่ด้วยกันสืบไป

ไม่ว่าจะเป็นราชันแท้จริงหรือจอมคนที่เก่าแก่โบราณล้วนแล้วแต่มองดูด้วยความงงงัน ทุกคนล้วนแล้วแต่ใม่รู้ว่าสิ่งนี้บ่งบอกถึงสิ่งใด ล้วนแล้วแต่ไม่รู้ว่ามันบอกเหตุล่วงหน้าถึงสิ่งใด

จะอย่างไรเสียที่ตรงนี้คือหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ คือสถานที่ที่รัศมีแสงสว่างส่องสว่างทั่วหล้าอย่างเสมอภาค ความมืดไม่มีที่ให้หลบซ่อนตัวได้อยู่แล้ว ความสว่างพร้อมที่จะทำให้ความมืดกลายเป็นบริสุทธิ์ได้ทุกเวลา

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ภาพที่ไม่น่าเชื่อได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน ดูเหมือนว่าความมืดและความสว่างอิงแอบอยู่ด้วยกัน กำเนิดมาจากสายเดียวกันอย่างนั้น

เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อวังวนความมืดบนท้องฟ้าหมุนจนถึงขีดสุด พลันกลายเป็นลำแสงมหาประลัยที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียมสายหนึ่ง พุ่งโจมตีเข้าไปยังวังวนจรัสเหมือนสายฟ้าแลบ

เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ฟ้าดินสั่นสะเทือนเสมือนดั่งโลกทั้งโลกถูกระเบิดแตกออกอย่างนั้น

ขณะที่ทุกคนได้สติกลับมา ทุกอย่างล้วนแล้วแต่หายวับไปกับตาในพริบตา ท้องฟ้ามีแต่ความปลอดโปร่ง ไม่มีความมืดและไม่มีความสว่าง เสมือนว่าไม่เคยเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

…………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *