Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2818 เก็บผลไม้ศักดิ์สิทธิ์กันเถอะ
ตอนที่ 2818 เก็บผลไม้ศักดิ์สิทธิ์กันเถอะ
นักศึกษาอื่นๆ ต่างทยอยมองไปที่ตู้เหวินรุ่ย เมื่อได้ยินคำพูดของเขา มีนักศึกษาอดที่จะเอ่ยถามขึ้นมาไม่ได้ว่า “ผลสูงศักดิ์มีความแข็งแกร่งเพียงใดเล่า?”
ตู้เหวินรุ่ยมองหน้าเขาทีหนึ่ง ยิ้มกล่าวว่า “ช่วยเจ้าขึ้นสู่ระดับเทพแท้จริงได้โดยไม่มีปัญหาอย่างสิ้นเชิง หากว่าเจ้ามีพื้นฐานสัจธรรมแน่นหนา ยังมีโอกาสได้ก้าวถึงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ จะอย่างไรเสียเจ้าเกิดที่นี่เติบโตที่นี่ มีรากฐานของแสงสว่างอยู่แล้ว”
“ก้าวเดียวขึ้นสู่เทพ!” นักศึกษาทุกคนต่างหวั่นไหวในใจ เมื่อได้ยินคำพูดของตู้เหวินรุ่ย ในเวลานี้ พวกเขาล้วนแล้วแต่มองหน้าซึ่งกันและกัน
กล่าวสำหรับนักศึกษาจำนวนมากแล้ว ชั่วชีวิตของพวกเขาสามารถกลายเป็นระดับเทพแท้จริงได้ก็นับว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากแล้ว ถ้าหากสามารถก้าวไปถึงระดับเทพแท้จริง ขั้นขึ้นสู่สวรรค์ก็ยิ่งสุดยอดมาก เกรงว่าชั่วชีวิตนี้ของพวกเขาก็คงสุดอยู่เพียงเท่านี้แล้วล่ะ
เวลานี้ ผลสูงศักดิ์ผลเดียวก็สามารถทำให้พวกเขาก้าวสู่เทพแท้จริงในก้าวเดียว มันช่างเป็นเทพนิยายอะไรอย่างนั้น มันคือผลไม้เซียนที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองในหล้าทีเดียว จะอย่างไรเสียการฝึกฝนเป็นเรื่องที่จริงแท้แน่นอนอยู่แล้ว ผลไม้เซียนที่ทำให้ก้าวขึ้นสู่ระดับเทพแท้จริงในก้าวเดียวนั้น เรียกว่ามีน้อยมาก
แน่นอน กล่าวสำหรับหอจรัสศักดิ์สิทธิ์แล้วมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จะอย่างไรเสียนักศึกษาที่ถือกำเนิดขึ้นมาก็อาบเอิบอยู่ท่ามกลางแสงสว่าง ผลสูงศักดิ์เช่นนี้สามารถทำให้พวกเขาได้รับประโยชน์ไร้ขีดจำกัดไปชั่วชีวิต กระทั่งก้าวสู่ระดับเทพแท้จริงในก้าวเดียว
“ผลไม้เซียนนะเนี่ย” เวลานี้ มีนักศึกษาอดที่จะกัดกินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเองเพิ่งจะเก็บมาได้ไปคำหนึ่ง และเติบโต เมื่อผลไม้ศักดิ์สิทธิ์เข้าปาก น้ำผลไม้ที่แตกกระเซ็นเสมือนดั่งระเบิดขึ้นในต่อมรับรสอย่างนั้น รสชาติของแสงสว่างวนเวียนอยู่ที่ปลายลิ้น กล่าวสำหรับนักศึกษาที่ฝึกฝนเคล็ดวิชาจรัสแล้ว มันมีความเย้ายวนสูงสุดที่ทำให้อดจะกัดกินอีกคำไม่ได้
ในเวลานี้ นักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปถึงกับใฝ่หาเพื่อให้ได้มา เมื่อนึกถึงว่าแค่ผลสูงศักดิ์ลูกหนึ่งก็สามารถทำให้เป็นเทพแท้จริงได้ กระทั่งเป็นเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์
“เอาล่ะ วางความเพ้อฝันเอาไว้ก่อน ผลสูงศักดิ์ไหนเลยสามารถเก็บได้ง่ายดาย โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่สามารถเคาะให้ผลสูงศักดิ์ร่วงลงมาได้นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นระดับราชันแท้จริง และหรือผู้ที่ดำรงอยู่ในระดับเดียวกันนี้ มีเพียงส่วนน้อยมากที่ยกเว้นเป็นกรณีพิเศษที่สามารถเคาะเอาผลสูงศักดิ์ลงมาได้” ตู้เหวินรุ่ยหัวเราะและส่ายหน้า ในเวลานี้เอง เขาได้มองไปที่หลี่ชิเย่แวบหนึ่งเหมือนไม่ตั้งใจ
ท่าทางหลี่ชิเย่สบายอกสบายใจเป็นอิสระเสรี เหมือนไม่ได้ยินอย่างนั้น และไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากนักกับผลสูงศักดิ์ลักษณะเช่นนี้
‘ผลสูงศักดิ์’ แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ยังคงมีนักศึกษาที่ถึงกับน้ำลายไหลยืด
ตู้เหวินรุ่ยเพียงยิ้มนิดหนึ่ง และกล่าวว่า “เก็บต่อไปเถอะ เดินไปพลางเก็บไปพลาง เรื่องผลสูงศักดิ์ก็ไม่ต้องไปคิดมากแล้ว ต่อให้พวกเจ้าสามารถเก็บได้สักลูกหนึ่ง ก็ต้องอาศัยระยะเวลาที่ยาวนานมากมาย่อยสลายมัน ถ้าหากกลืนเข้าไปหมดทีเดียว ด้วยพลังจรัสที่ทรงพลังยิ่งจะระเบิดร่างพวกเจ้าจนแหลกละเอียด”
คำพูดเช่นนี้ได้ทำให้ทุกคนเลิกล้มความคิดต่อผลสูงศักดิ์ไป ยังไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขามีกำลังความสามารถที่จะรับประทานผลสูงศักดิ์หรือไม่ แม้แต่เก็บผลสูงศักดิ์ยังไม่มีสิทธิ์ กำลังความสามารถชั้นราชันแท้จริงอย่าว่าแต่พวกเขาเลย ทั่วทั้งสถาบันศึกษาล้างบาป รวมทั้งอาจารย์ กระทั่งถึงอธิการบดีของพวกเขาก็ไม่มีใครสักคนที่มีกำลังความสามารถระดับราชันแท้จริงในครอบครอง
ในกลุ่มของนักศึกษานั้น สามารถมีกำลังความสามารถระดับราชันแท้จริงได้จะต้องเป็นสี่สถาบันศึกษาใหญ่ ซึ่งมีเพียงเป่ยเยี่ยน สู่กวงพายับ เซิ่นถัวประจิม หลีหมิงทักษิณที่เป็นสี่สถาบันศึกษานี้เท่านั้นจึงมีนักศึกษาที่มีกำลังความสามารถระดับราชันแท้จริง
ตู้เหวินรุ่ยนำพานักศึกษาก้าวเดินไปข้างหน้าพลาง เก็บผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ไปพลาง ระหว่างทาง มีผลไม้ศักดิ์สิทธิ์หลากหลายรูปแบบ บ้างมีขนาดใหญ่เท่าแตงโม บ้างเล็กเท่าเมล็ดงา แต่ว่า ลำดับชั้นของผลสูงศักดิ์สูงหรือต่ำไม่ได้วัดกันที่ขนาดของผล
ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีขนาดเล็กเท่าเมล็ดงากลับเป็นผลสูงศักดิ์ชั้นสาม ขณะที่ผลสูงศักดิ์ที่มีขนาดเท่าลูกแตงโมกลับเป็นเพียงผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ชั้นหนึ่งเท่านั้นเอง
ขณะที่แรกเริ่มทีเดียว พวกของจ้าวชิวสือยังมีความรู้สึกว่าผลไม้ศักดิ์สิทธิ์นั้นนับว่าสามารถเก็บได้ง่าย แม้จะใช่ว่าพวกเขาสามารถเคาะเก็บผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่สุกงอมได้ทุกลูก แต่ว่า อย่างน้อยที่สุด ทุกครั้งที่พบต้นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์สักต้นก็สามารถเคาะเก็บผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้หลายลูก
แต่ทว่า จากการที่ก้าวเดินไปข้างหน้าและลึกเข้าไปภายในสวนผลไม้ศักดิ์สิทธิ์เรื่อยๆ พวกเขาจึงได้พบว่า ยิ่งผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ลึกเข้าไปยิ่งเคาะให้ตกลงมาได้ยากมากยิ่งขึ้น ต้นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์บางต้น นักศึกษาอย่างเช่นพวกเขาได้ทดลองเคาะกันครบทุกคนแล้วก็ไม่สามารถเคาะลงมาได้แม้แต่ลูกเดียว
ระหว่างทาง พวกนักศึกษาอย่างจ้าวชิวสือก็ได้พบกับนักศึกษาจากสถาบันศึกษาอื่นๆ บรรดานักศึกษาที่มีชาติกำเนิดมาจากสถาบันศึกษาใหญ่และมีกำลังความสามารถกล้าแข็ง พวกเขาล้วนแล้วแต่ไม่ได้หยุดหรือรั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นโซนด้านนอกเช่นนี้ เพียงจ้องมองพวกเขาด้วยท่าทีเย็นชาแวบหนึ่ง แล้วก็ลิ่วไปไกลโดยไม่รั้งอยู่บริเวณนี้ให้เสียเวลา
ขณะที่นักศึกษาที่มีกำลังความสามารถไม่เลวนัก แต่ไม่ได้มีชาติกำเนิดมาจากสถาบันศึกษาใหญ่ แต่ว่ากำลังความสามารถของพวกเขาเหนือกว่าพวกจ้าวชิวสือมากทีเดียว ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาเก็บได้มานั้น ไม่ว่าจะเป็นด้านของระดับชั้นหรือจำนวนก็มากกว่าพวกของจ้าวชิวสือมากทีเดียว
ดังนั้น บรรดานักศึกษาที่มีกำลังความสามารถไม่เลวเหล่านี้จึงแสดงความไม่พอใจต่อพฤติกรรมของพวกของจ้าวชิวสือที่ค้นหาผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ไปทั่วทั้งเขา เหลือบมองด้วยท่าทีเย็นชาต่อพวกของจ้าวชิวสือทีหนึ่งและกล่าวว่า “ด้วยกำลังความสามารถเช่นนี้ของพวกเจ้า ยังคงไปอยู่บริเวณด้านนอกเก็บผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ชั้นที่หนึ่งแต่โดยดีจะดีกว่า”
ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อพบต้นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีลำดับชั้นสูงกว่า นักศึกษาจากสถาบันศึกษาอื่นๆ ก็จะกีดกันพวกของจ้าวชิวสือทันทีแม้ว่าพวกของจ้าวชิวสือจะเป็นฝ่ายที่ไปถึงก่อนก็ตาม นักศึกษาเหล่านี้ก็จะแย่งกันขึ้นไปก่อน กระทั่งกล่างเหยียดหยามว่า “พวกเจ้าหลบไปอยู่ข้างๆ ก่อน รอให้พวกเราเก็บจนหมดแล้วค่อยถึงคิวพวกเจ้า พวกเจ้าปีนขึ้นไปก็เก็บไม่ได้ เป็นการทำให้พวกเราเสียเวลา”
ภายในใจของพวกจ้าวชิวสือแม้ว่าจะรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เมื่อถูกพวกนักศึกษาจากสถาบันศึกษาเหล่านั้นกีดกัน แต่ว่า พวกเขาก็จนด้วยเกล้า นักศึกษาของสถาบันศึกษาเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนเหนือกว่าพวกเขา และเป็นความจริงที่ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาเก็บมาได้นั้นเทียบพวกเขาไม่ได้จริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ลำดับชั้นสูงกว่า นักศึกษาจากสถาบันศึกษาอื่นสามารถเก็บเกี่ยวได้คนละสามถึงห้าลูก ขณะที่แต่ละคนของพวกเขาสามารถเคาะลงมาได้สักลูกก็ถือเป็นผลงานที่ไม่เลวนักแล้ว หากพบต้นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ลำดับชั้นสูงมากกว่าชั้นสามขึ้นไป พวกเขาจะมีสักศึกษากว่าครึ่งที่ไม่สามารถเคาะผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ลงมาได้แม้แต่ลูกเดียว เป็นที่หัวเราะเยาะของนักศึกษาคนอื่นๆ
“พวกเจ้ายังคงไปเก็บผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่งให้จริงๆ จังๆ จะดีว่า” นักศึกษาจากสถาบันศึกษาอื่นๆ กล่าวเยาะเย้ยขึ้นมา
พวกของจ้าวชิวสือได้แต่นิ่งเงียบ หลังจากที่พวกเขาเวียนเก็บจนเสร็จสิ้นแล้วได้แต่เดินจากไปเงียบๆ พวกเขามีเพียงนักศึกษาไม่กี่คนที่สามารถเก็บผลไม้ศักดิ์สิทธิ์จากต้นผลศักดิ์สิทธิ์ต้นนี้ได้
ตู้เหวินรุ่ยไม่ได้พูดอะไรขณะเดินไปตามทางของภูเขา เพียงก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ และไม่เข้าไปก้าวก่าย อย่างมากก็แค่ยิ้มๆ เท่านั้นเอง
ขณะที่พวกเขาก้าวข้ามเขาลูกหนึ่งนั้น หลี่ชิเย่และตู้เหวินรุ่ยนั่งพักผ่อนอยู่ที่ลำธารระหว่างซอกเขา หลังจากที่นักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปล้วนแล้วแต่ติดตามมาทันแล้ว เขาเงยหน้ามองไปข้างหน้าและชี้ไปยังภูเขาลูกหนึ่งที่อยู่ข้างหน้า และกล่าวว่า “ที่หุบเขาตรงนั้นมีต้นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ชนิดผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ห้าอยู่ต้นหนึ่ง มีชื่อว่าต้นโอมขนขาว ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้จะเป็นระดับชั้นเลิศของขั้นที่ห้า หนึ่งลูกเทียบได้กับขั้นห้าอื่นๆ ราวสองถึงสามลูก พวกเจ้าไปลองดูได้”
“ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ห้า” พวกนักศึกษาอย่างจ้าวชิวสือถึงกับตาลุกวาวเมื่อได้ยินคำพูดของตู้เหวินรุ่ย กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว สามารถค้นหาต้นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ชนิดผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ห้าให้พบนั้น นับว่ายากเหลือเกิน
พวกเขาเข้ามาอยู่ในสวนผลไม้ศักดิ์สิทธิ์นานขนาดนี้เพิ่งจะพบต้นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์สองถึงสามต้นเท่านั้นเอง แน่นอน ในบรรดาพวกเขามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเก็บผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้หนึ่งถึงสองลูกเท่านั้นเอง
“พวกเราไปทดลองดู” แม้ว่าโอกาสที่พวกเขาจะเก็บผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ห้ามีอยู่ไม่มาก แต่ว่า พวกจ้าวชิวสือเหล่านี้ยังไม่ยอมละทิ้ง ยังคงต้องการทดลองดู จะอย่างไรเสียคนของพวกเขามีอยู่มาก ย่อมต้องมีสักคนที่มีโอกาสอยู่แล้ว
“ถ้าเช่นนั้นก็ไปลองดูก็แล้วกัน” ที่ตู้เหวินรุ่ยคาดหวังจะได้เห็นก็คือความกระตือรือร้น รบร้อยครั้งก็ไม่ท้อ
ตู้เหวินรุ่ยนำพานักศึกษาทั้งหมดก้าวเดินไปข้างหน้า พวกเขาปีนขึ้นไปบนยอดเขาลูกนั้น เข้าสู่หุบเขาของภูเขาลูกนี้
ขณะที่พวกเขาเข้าไปในหุบเขาแห่งนี้นั้น ข้างในหุบเขาได้เออัดยัดเยียดไปด้วยผู้คนแล้ว นักศึกษาจำนวนไม่น้อยได้มารออยู่ที่นั่นกันแล้ว
ภายในหุบเขา มองเห็นต้นไม้ขนาดใหญ่ต้นหนึ่งขึ้นอยู่ ต้นไม้ต้นนี้มีขนาดที่ใหญ่มากๆ ต้องอาศัยคนสิบกว่าคนจับมือกันสถึงจะโอบได้รอบ ด้วยต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้เกือบจะบดบังหุบเขาเอาไว้ได้ทั้งหมด
ต้นไม้ขนาดใหญ่ต้นนี้มีลำต้นและกิ่งก้านที่โล้น ใบของมันเป็นสีเขียวอมแดง แลดูเสมือนดั่งเป็นหยกเขียวอมแดง บนต้นไม้มีผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ติดอยู่เต็มต้น ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์มีขนาดใหญ่ ถ่วงน้ำหนักจนกิ่งหนักอึ้ง
เหมือนดั่งที่ตู้เหวินรุ่ยได้พูดเอาไว้อย่างนั้น ต้นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ต้นนี้มีชื่อว่าต้นโอมขนขาว ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ของต้นโอมขนขาวดูไปแล้วคล้ายเป็นหยกชิ้นงามแต่ละต้น
ผลของต้นโอมขนขาวมีขนาดเพียงหัวแม่มือเท่านั้น ผลโอมขนขาวทุกลูกดูคล้ายเป็นหยกแดงพันธุ์กระจกอย่างนั้น เพียงแต่ที่แตกต่างไปจากหยกแดงคือ ผลโอมขนขาวแต่ละลูกจะมีขนสีขาวเล็กๆ และสั้นๆ คล้ายเข็มเงินขนาดจิ๋วปกคลุม มองดูเหมือนคลุมด้วยหิมะอย่างนั้น งดงามยิ่งนัก
ผลของต้นโอมขนขาวต้นนี้นับว่าได้รับความนิยมจากบรรดาเหล่านักศึกษามากเหลือเกิน ภายในหุบเขามีการเข้าแถวยาวมากเสมือนหนึ่งเป็นงูอย่างนั้น ทุกคนต่างรอคอยที่จะได้ขึ้นต้นไม้ไปเก็บผลโอมขนขาว แม้ว่าจะมีผู้ที่ได้ขึ้นต้นไม้หลายสิบคนในแต่ละรอบ แต่คิวรอยังคงยาวไปจนถึงปากทางเข้าหุบเขาแล้ว
การที่ต้นโอมขนขาวต้นนี้ได้รับการต้อนรับมากมายขนาดนี้ก็หาใช่เป็นเรื่องที่เหนือความคาดคิด จะอย่างไรเสีย นี่เป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ระดับชั้นเลิศของขั้นที่ห้า เก็บผลโอมขนขาวได้ลูกหนึ่งคุ้มค่ามากว่าผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้าอื่นๆ หนึ่งลูกเทียบได้กับสามลูก
“เวรเอ๊ย โชคไม่ดีเลย” มีนักศึกษาที่ปีนขึ้นไปบนต้นโอมขนขาวและเคาะผลโอมขนขาวที่สุกงอมแล้วเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีหล่นลงมาแม้แต่ลูกเดียว ในเวลานี่จึงทำให้นักศึกษาผู้นี้โมโหร้องด่าเสียงดังขึ้นมา
มีนักศึกษาที่ลงมือได้รวดเร็วมาก ได้ยินเสียงเคาะดังต๊อก ต๊อก ต๊อกแต่ละครั้งที่ดังขึ้น เคาะเอาผลโอมขนขาวลงมาได้แปดถึงสิบลูกในรวดเดียว
“ชิงฟง เจ้ายั้งมือด้วย เหลือไว้ให้กับนักศึกษาที่อยู่ข้างหลังบ้าง” มีนักศึกษาที่บ่นอุบเสียงดังขึ้นมา เมื่อมองเห็นนักศึกษาผู้นี้สามารถเก็บผลโอมขนขาวรวดเดียวได้เป็นจำนวนมาก
“แน่นอน แน่นอน ผลโอมขนขาวเต็มต้นไปหมด พวกเจ้าเกรงจะไม่ได้อย่างนั้นรึ?” นักศึกษาที่มีชื่อว่าชิงฟงยิ้มหน้าบานด้วยความปิติยินดี นำเอาผลโอมขนขาวจากไปด้วยความพึงพอใจ
“ถึงเวลาแล้ว เปลี่ยนคน รีบเปลี่ยนคนเร็ว” ขณะที่นักศึกษาที่เข้าแถวรออยู่ใต้ต้นไม้เรียกได้ว่าจับเวลาอย่างแม่นยำ เมื่อถึงเวลาก็จะร้องเอะอะขึ้นมา
นักศึกษาที่อยู่บนต้นไม้ ไม่ว่าจะเก็บได้หรือไม่ได้ก็ได้แต่ลงมาเมื่อถึงเวลา นักศึกษาที่เก็บได้ย่อมหน้าบานด้วยความปิติยินดี ขณะที่นักศึกษาที่เก็บไม่ได้นั้นได้แต่ยอมรับ และจากไปอย่างหน้าม่อยคอตก
“ถึงคิวพวกเราแล้ว” นักศึกษากลุ่มนี้ที่จับเวลาอย่างแม่นยำได้อาศัยความเร็วที่รวดเร็วที่สุดขึ้นไปยังต้นโอมขนขาว ขณะที่นักศึกษาที่อยู่ด้านหลังเริ่มนับเวลา
เนื่องจากนักศึกษาที่มาเก็บผลโอมขนขาวมีจำนวนมากเหลือเกิน ทุกคนได้แต่เข้าคิวรอ จะมายึดครองต้นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ไว้ตลอดเวลาไม่ได้
พวกของจ้าวชิวสือได้แต่ติดตามอยู่ด้านหลังขบวนแต่โดยดี เมื่อเห็นสภาพเช่นนี้ และเข้าแถวตามทุกคน
…………………………………………………
Comments