Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2820 จน ไม่ต้องพนันกับข้า

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2820 จน ไม่ต้องพนันกับข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2820 จน ไม่ต้องพนันกับข้า

“พนันเลยสิ พนันกับเขา” ในเวลานี้ นักศึกษาที่ต่อแถวอยู่ด้านหลังทยอยกันส่งเสียงเอะอะโวยวายขึ้นมา ต่างเรียกร้องให้หลี่ชิเย่พนันกับนักศึกษาจากสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพคนนี้

หลี่ชิเย่อมยิ้มไม่พูดอะไรออกมา ขณะที่ตู้เหวินรุ่ยที่อยู่ด้านข้างก็อมยิ้มไม่พูดเช่นกัน ตัวเขาในฐานะที่เป็นอธิการบดีย่อมไม่เข้าไปผสมโรงกับเรื่องราวของผู้เยาว์ แต่เขารู้ว่ามีคนที่ต้องโชคร้ายหนักแล้ว

“กล้าพนันหรือเปล่า…” เวลานี้ ท่าทีของนักศึกษาจากสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพผู้นี้บีบคั้นผู้คน กำแหง ก้มมองหลี่ชิเย่และกล่าวว่า “ความกล้าหาญเมื่อครู่ของเจ้าล่ะ? ควักออกมาเลยซิ มาพนันกับข้าสักตั้งสิ”

หลี่ชิเย่ยังคงยืนอมยิ้มอยู่ตรงนั้นเงียบๆ โดยไม่พูดอะไรออกมา ท่าทางเหมือนแกล้งโง่อย่างนั้น

“ไม่กล้าพนันแล้วสิ” นักศึกษาที่ต่อแถวอยู่ด้านหลังรู้สึกไม่สบอารมณ์กับหลี่ชิเย่มานานแล้ว เวลานี้หัวเราะเยาะทีหนึ่ง และกล่าวว่า “วุ่นวายไปครึ่งค่อนวัน ที่แท้ก็แค่แสร้างทำท่าทำทางไปอย่างนั้น”

“นั่นสิ นักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปมีกันหลายสิบคน พวกเจ้ายังจะกลัวอะไร ยังจะกลัวว่าหลายสิบคนเดิมพันเอาชนะคนหนึ่งไม่ได้เชียวรึ?” มีนักศึกษาอีกคนก็ทำเอะอะโวยวายขึ้นมาบ้าง และกล่าวว่า “แบบนี้ออกจะขี้กลัวมากเกินไปแล้วกระมัง”

“พวกเราไปกันเถอะ” ในเวลานี้จ้าวชิวสือดึงแขนเสื้อหลี่ชิเย่เบาๆ ขณะที่นักศึกษาคนอื่นๆ ของสถาบันศึกษาล้างบาปก็ทยอยมองไปที่หลี่ชิเย่ พวกเขาเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์กับสถานการณ์เช่นนี้ รู้สึกขลาดกลัวอยู่ในใจเช่นกัน ในเวลานี้ ภายในใจของพวกเขาต่างคิดจะถอยแล้ว

“ไสหัวไป” นักศึกษาจากสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพผู้นี้รู้สึกลำพองใจยิ่ง เมื่อเห็นพวกของจ้าวชิวสือมีความคิดที่จะถอยหนีแล้ว หัวเราะเสียงดังและกล่าวว่า “ขี้แพ้ก็คือขี้แพ้ ยังจะทำการอะไรได้ หลายสิบคนยังสู้ข้าคนเดียวไม่ได้ ยังกลัวจนไม่กล้าพนันด้วย เช่นนั้นแล้วถือโอกาสไสหัวไปเสียตอนนี้ ไม่ต้องอยู่ให้อับอายขายหน้าคนอื่น”

ภายในใจของนักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปต่างบังเกิดเพลิงแห่งความโกรธขึ้นมา เมื่อถูกสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพผู้นี้ด่าทอ เยาะเย้ยเช่นนี้ ถึงกับจ้องมองสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพผู้นี้ด้วยสายตาที่โกรธแค้น แต่ ก็จนด้วยเกล้า จะอย่างไรเสียฝ่ายตรงข้ามนั้นแข็งแกร่งมากกว่าตนมากนัก

“มองอะไร ไม่ยอมรึ ไม่ยอมก็มาพนันกันสิ” สถาบันศึกษาจากสู่กวงพายัพไม่รู้สึกหวาดหวั่นแม้แต่น้อย เมื่อมองเห็นนักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปต่างจ้องมองมาด้วยความโกรธ กลับยิ่งลำพองใจมากยิ่งขึ้น และกล่าวว่า “พวกขี้แพ้อย่างพวกเจ้า ข้าคนเดียวสู้กับพวกเจ้าทั้งหมด”

สถาบันศึกษาสู่กวงพายัพผู้นี้ทำการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของนักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปโดยสิ้นเชิง ส่งผลให้นักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปทั้งหมดต่างบังเกิดเพลิงแห่งความโกรธขึ้นมา

“แค่นี้ยังไม่กล้าพนันด้วยก็ไปเสีย อย่าได้อยู่ต่อไปทำทุกคนเสียเวลา จะอย่างไรเสียต่อให้ถึงเวลาที่พวกเจ้าได้ขึ้นต้นไม้ พวกเจ้าก็เก็บผลโอมขนขาวไม่ได้” มีนักศึกษาที่ต่อแถวอยู่ด้านหลังเร่งรัดมาด้วยความรำคาญ

“ถูกต้อง ไม่กล้าพนันด้วยก็ไสหัวไป” นักศึกษาคนอื่นๆ ที่ต่อแถวด้านหลังต่างทยอยกันคล้อยตาม และเอะอะโวยวายขึ้นมา

หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มขึ้นมา ทำเอาจ้าวชิวสือตกใจยิ่งนัก ในเวลานี้หลี่ชิเย่ได้กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยขึ้นมาว่า “พนันสิ เดิมพันด้วยอะไร?”

“ว้าว ในที่สุดก็กล้าพนันด้วยแล้ว” นักศึกษาจากสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพยังคงอวดดีเช่นนั้นเมื่อเห็นหลี่ชิเย่เปิดปากแล้ว หัวเราะเสียงดังทีหนึ่ง ก้มมองพวกของหลี่ชิเย่ และกล่าวด้วยท่าทีทระนงว่า “ขอเพียงพวกเจ้าเดิมพันด้วยอะไรข้าก็เล่นด้วย ของวิเศษ โอสถยาเม็ด ของล้ำค่า พวกเจ้าว่ามาเลย ขอเพียงเป็นสิ่งที่พวกเจ้าสามารถเอาออกมาได้ ข้ากล้าเดิมพันด้วยทั้งนั้น”

ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว เขาหัวเราะเยาะทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ข้าก็จะไม่ทำให้เจ้าต้องลำบากใจ จะอย่างไรเสียหากข้าเป็นคนเอ่ยปากเรื่องสิ่งของที่เดิมพันก่อน เกรงว่าพวกเจ้าจะเอาออกมาไม่ได้ ดังนั้น ข้าใจกว้างให้พวกเจ้าเป็นผู้เสนอของเดิมพันก่อน”

“ถ้าหากรุ่นพี่เสนอของเดิมพันก่อน เกรงว่าพวกเขาจะไม่ไหว” นักศึกษาที่อยู่ด้านหลังหัวเราะเสียงดัง และกล่าวว่า “เกรงว่าของเดิมพันที่พวกนักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปหลายสิบคนรวบรวมมาได้ยังไม่เท่านิ้วมือนิ้วเดียวของรุ่นพี่”

“ไง พวกเจ้ามีของมีค่าอะไรเอาออกมาให้หมด ข้ารับคำท้าก็แล้วกัน” สถาบันศึกษาสู่กวงพายัพผู้นี้หัวเราะอย่างบ้าคลั่งทีหนึ่ง

จังหวะที่หลี่ชิเย่กำลังจะปริปากพูดนั้น จ้าวชิวสือรีบส่ายหน้าให้กับหลี่ชิเย่ ส่งสัญญาณให้หลี่ชิเย่อย่าพนันด้วย เนื่องจากพวกเขาเอาชนะไม่ได้อยู่แล้ว

“อ๋อ เจ้าสามารถเดิมพันได้ทุกสิ่งทุกอย่างจริงรึ เจ้าสามารถควักทุนเดิมพันทุกอย่างออกมาได้จริงรึ?” หลี่ชิเย่แสดงท่าทางประหลาดใจขึ้นมา

“ถูกต้อง ไม่ว่าพวกเจ้าต้องการเดิมพันด้วยอะไร ข้าก็ยินดีเสมอ เกรงว่าพวกเจ้าจะเอาของมีค่าออกมาไม่ได้นะสิ” นักศึกษาจากสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพผู้นี้หยิ่งทระนง

“ก็ดี ข้ามีกระบี่อยู่เล่มหนึ่งพอดี พอจะมีค่าอยู่บ้าง” หลี่ชิเย่เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่ลึกซึ้ง หยิบเอากระบี่ล้างบาปที่สะพายอยู่บนหลังออกมาด้วยท่าทางเอ้อระเหย ชักออกจากฝัก ปรากฎพลังกระบี่ยิ่งใหญ่ และกล่าวว่า “กระบี่เล่มนี้ของข้ามีชื่อว่าล้างบาป ยังพอจะมีค่าอยู่บ้าง อ้อ ข้านึกออกแล้ว กระบี่เล่มนี้ของข้าเหมือนว่าจะเป็นปฐมบรรพบุรุษปราชญ์ไกลกันดารทิ้งเอาไว้ให้ เจ้าดูสิ มันมีค่าเท่าไหร่เล่า”

กล่าวพลาง หลี่ชิเย่ดีดบนตัวกระบี่ล้างบาปเบาๆ ทีหนึ่ง ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงกระบี่คำรามดั่งมังกรที่กระโจนอยู่เหนือท้องฟ้า ฉับพลันนั้นพลังกระบี่ปรากฏขึ้นมากมาย เสมือนดั่งหมื่นกระบี้ที่พุ่งขึ้นท้องฟ้าอย่างนั้น

“กระบี่ล้างบาป…” นักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดต่างจ้องมองไป เมื่อได้ยินคำๆ นี้จากหลี่ชิเย่ นักศึกษาบางคนที่มีอายุค่อนข้างมากจึงรู้จักกระบี่ล้างบาป และกล่าวว่า “กระบี่วิเศษประจำสถาบันศึกษาล้างบาป”

การที่หลี่ชิเย่นำกระบี่ล้างบาปมาเป็นเดิมพัน ทำเอาพวกนักศึกษาอย่างจ้าวชิวสือตื่นตระหนกกันใหญ่ นี่มันกระบี่วิเศษประจำสถาบันศึกษาล้างบาปของพวกเขาเลยนะ ในเวลานี้ จ้าวชิวสือกระตุกแขนเสื้อของหลี่ชิเย่ และพยายามส่ายหน้าส่งสัญญาณให้หลี่ชิเย่อย่าพนันด้วย

“ของจริงหรือของปลอม” ในเวลานี้ ทุกคนต่างทยอยกันยืดคอออกไป เพื่อมองดูกระบี่ล้างบาป และกล่าวว่า “นี่คือกระบี่วิเศษที่ปฐมบรรพบุรุษทิ้งเอาไว้ให้จริงหรือ?”

“พลังกระบี่ยิ่งใหญ่ เกรงว่าจะเป็นของจริง” มีนักศึกษาที่แข็งแกร่งและมีความรู้กล่าว

ในเวลานี้ ตู้เหวินรุ่ยที่ยืนอยู่ข้างๆ ตลอดมาทำเสียงไอกระแอมทีหนึ่ง กละกล่าวว่า “บุญคุณความแค้นของผู้เยาว์ข้าจะไม่เข้าไปก้าวก่าย แต่ว่า สำหรับกระบี่เล่มนี้ ข้าขอรับประกันด้วยฐานะของสถาบันศึกษาล้างบาป มันคือกระบี่ประจำตัวของปฐมบรรพบุรุษโดยแท้จริง”

ทุกคนทยอยหันไปมอง เมื่อได้ยินคำพูดของตู้เหวินรุ่ยแล้ว แม้แต่ตู้เหวินรุ่ย อธิการบดีของสถาบันศึกษาล้างบาปยังพูดเช่นนี้ ย่อมบ่งบอกว่ากระบี่ล้างบาปเล่มนี้เป็นของจริงแล้ว

“กระบี่ประจำตัวของปฐมบรรพบุรุษนะเนี่ย” ทุกคนถึงกับร้องเสียงหลงขึ้นมา เมื่อได้สติคืนกลับมา ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้ว่ากระบี่ประจำตัวของปราชญ์ไกลกันดารบ่งบอกถึงสิ่งใด มันเป็นการบ่งบอกว่ากระบี่ล้างบาปคืออาวุธปฐมบรรพบุรุษเล่มหนึ่ง เป็นอาวุธปฐมบรรพบุรุษที่ยอดเยี่ยมมากเล่มหนึ่ง

กล่าวสำหรับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ หนึ่งแล้ว อาวุธปฐมบรรพบุรุษล้วนแล้วแต่ล้ำค่าอย่างยิ่ง อย่าว่าแต่ศิษย์ธรรมดา หรือนักศึกษาธรรมดาของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ หนึ่งเลย ต่อให้เป็นศิษย์ที่โดดเด่นที่สุด แข็งแกร่งที่สุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิก็ไม่แน่ว่าจะมีสิทธิ์ได้ครอบครองอาวุธปฐมบรรพบุรุษ

เวลานี้ กระบี่ล้างบาปเล่มนี้ในมือของหลี่ชิเย่ก็คืออาวุธปฐมบรรพบุรุษเล่มหนึ่ง มันช่างเป็นเรื่องที่สร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนเช่นใด ในเวลานี้ สายตาของทุกคนล้วนแล้วแต่ตกไปอยู่บนกระบี่ล้างบาป กระทั่งแววตาของนักศึกษาบางคนเผยให้เห็นประกายของความโลภแวบวับออกมา ใครบ้างล่ะไม่อยากได้อาวุธปฐมบรรพบุรุษ? ยิ่งไปกว่านั้น นี่คืออาวุธประจำตัวของปฐมบรรพบุรุษ เกรงว่าจะทรงพลังยิ่งกว่าอาวุธปฐมบรรพบุรุษทั่วไปอยู่เท่าใด

“อืมม ข้าเดิมพันพนันด้วยกระบี่ล้างบาปเล่มนี้ก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “เจ้าจะเอาอะไรมาเป็นทุนเดิมพันเล่า?”

ตุบหลี่ชิเย่จัดการวางกระบี่ล้างบาปเป็นเดิมพันอยู่ตรงนั้น ในเวลานี่ทุกคนต่างจ้องมองไปที่นักศึกษาจากสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพผู้นั้น

เวลานี้ นักศึกษาจากสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพผู้นี้ใบหน้าแดงก่ำ แม้ว่าในบรรดานักศึกษาของสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพนั้น ตัวเขานับเป็นนักศึกษาที่มีความโดดเด่นคนหนึ่ง และตระกูลของเขาก็ไม่เลวนัก ตระกูลของเขาถือเป็นตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่ง แต่ทว่า ให้เขาและหรือทั้งตระกูลของเขาเอาอาวุธปฐมบรรพบุรุษออกมาสักชิ้น เขาไม่สามารถทำได้จริงๆ

เมื่อตนเองนั้นไม่สามารถนำทุนเดิมพันออกมาลงขันในนั้นได้ แล้วจะพนันกับหลี่ชิเย่ได้อย่างไร?

นักศึกษาสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพผู้นี้ถึงกับตะลึงลาน เขาไม่นึกไม่ฝันเลยว่าหลี่ชิเย่ถึงกับสามารถนำกระบี่ล้างบาปเล่มนี้ออกมาได้ ที่อวดดียิ่งกว่าก็คือ ถึงกับนำอาวุธปฐมบรรพบุรุษออกมาเดิมพันได้

“นับว่าเป็นคนบ้าจริงๆ กระทั่งอาวุธปฐมบรรพบุรุษก็กล้านำมาวางเดิมพัน” ทำให้นักศึกษาที่มีอายุมากสักนิดต่างส่ายหน้าเมื่อเห็นหลี่ชิเย่วางกระบี่ล้างบาปลงตุบเป็นทุนเดิมพัน

ลองนึกภาพดู ทั่วทั้งหอจรัสศักดิ์สิทธิ์จะมีสักกี่คนที่กล้านำอาวุธปฐมบรรพบุรุษออกมาเป็นทุนเดิมพันได้? เรื่องเช่นนี้หากให้ผู้อาวุโสของตนทราบเรื่องต้องหัวหลุดจากบ่าแน่นอน

สำหรับพวกจ้าวชิวสือนั้น พวกเขาถูกทำให้ตระหนกจนใบหน้าขาวซีด กระบี่ล้างบาปคือของวิเศษประจำนักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปของพวกเขา หากแพ้พนันพวกเขามิเท่ากับกลายเป็นคนบาปของสถาบันศึกษาล้างบาปแล้วรึ?

“ว่าอย่างไร เดิมพันด้วยอะไรล่ะ?” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหย และมองดูนักศึกษาจากสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพ

ในเวลานี้นักศึกษาสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพผู้นี้สีหน้ากลายเป็นสีแดงเข้ม พูดอะไรไม่ออกอยู่นาน เขาทำท่าจะพูดแต่ก็พูดไม่ออกสักคำ เนื่องจากต่อให้เอาตัวเขาไปขายก็แลกกับอาวุธปฐมบรรพบุรุษไม่ได้

“ไม่มีปัญหา ควักอาวุธปฐมบรรพบุรุษออกมาไม่ได้ข้าไม่มีความเห็นอะไร เจ้าสามารถเอาอะไรมาจำนองก็ได้นี่” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “เป็นต้นว่าศิษย์น้องสาวตระกูลของเจ้า ที่ดินตระกูลของเจ้า ทรัพย์สินของเหล่าบรรพบุรุษของเจ้าเป็นต้นล้วนสามารถนำมาจำนองได้ ศิษย์น้องสาวคนหนึ่งไม่พอ ก็รวบรวมสักหนึ่งร้อยคน ที่ดินผืนหนึ่งไม่พอก็เอาที่ดินของตระกูลมาจำนองให้หมด คนอย่างข้าน่ะ รับได้หมดไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินประเภทใด ขอเพียงมีทรัพย์สินมาจำนองทุกอย่างก็ง่าย”

“เจ้า เจ้า เจ้า…” เมื่อนักศึกษาสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพผู้นี้ถูกหลี่ชิเย่พูดจาถากถางถึงเพียงนี้ เขาโกรธจนตัวสั่นไปทั้งตัว เกือบจะกระอักเลือดออกมา

“ดูท่า ต่อให้เอาตระกูลเจ้าทั้งตระกูลไปขายก็ไม่เท่าอาวุธปฐมบรรพบุรุษเล่มนี้แล้ว” หลี่ชิเย่ส่ายหน้า และกล่าวว่า “เสียเวลาไปครึ่งค่อนวัน คุยโม้ไปครึ่งค่อนวัน ทำเก่งไปครึ่งค่อนวัน แท้จริงแล้วก็แค่คนยากจนสุดๆ คนหนึ่งเท่านั้น เสียเวลาของข้า”

“เจ้า เจ้า เจ้าอย่าข่มเหงคนมากเกินไป!” นักศึกษาสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพผู้นี้ถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมา

“อ้อ ข้าข่มเหงคนมากเกินไปตรงไหน?” หลี่ชิเย่ทำท่าแปลกใจ และกล่าวว่า “เจ้าไม่พอใจก็มาพนันกันสิ กระบี่ล้างบาปของข้าอยู่ที่นี่ เจ้าชนะ ก็เป็นของเจ้า!”

นักศึกษาสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพผู้นี้พลันฝ่อทันทีเมื่อถูกคำพูดนี้อัดเข้ามา ปัญหาก็คือเขาไม่สามารถเอาอาวุธปฐมบรรพบุรุษออกมาวางเดิมพันได้

ต่อให้เขามีอาวุธปฐมบรรพบุรุษในครอบครองจริงๆ เขาก็ไม่กล้าเอามาเดิมพันด้วย มิฉะนั้นล่ะก็ ผู้อาวุโสของเขาตัดเอาศีรษะของเขาออกมาแน่นอน

ผู้ที่กล้าเอาอาวุธปฐมบรรพบุรุษออกมาเป็นเดิมพันล้วนแล้วแต่เป็นคนบ้าทั้งนั้น เป็นคนบ้าที่จริงแท้แน่นอน

“เจอะเจอกับคนบ้าไม่ยอมแพ้ก็ไม่ได้แล้ว” มีนักศึกษาที่ส่ายหัวและรู้สึกว่าหลี่ชิเย่นั้นบ้าบิ่นเหลือเกิน ถึงกับควักเอากระบี่ล้างบาป ซึ่งเป็นของวิเศษประจำสถาบันศึกษาล้างบาปมาเป็นเดิมพันโดยตรง คนที่บ้าบิ่นขนาดนี้นับว่าพบเห็นได้น้อยมาก

“ยังจะพนันต่อหรือไม่?” หลี่ชิเย่มองดูนักศึกษาผู้นี้ กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “เวลานี้ไม่ใช่ข้าที่ขี้แพ้นะเนี่ย”

…………………………………………………

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *