Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2830 ใครมาก็ช่วยเจ้าไม่ได้

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2830 ใครมาก็ช่วยเจ้าไม่ได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2830 ใครมาก็ช่วยเจ้าไม่ได้

ทุกคนต่างมองไปที่หลี่ชิเย่ ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกว่าแม้แต่ราชันแท้จริงเคอะสือก็ได้ออกปากขอร้องแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะไม่มีน้ำใจให้กับราชันแท้จริงสักคน ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องให้เกียรติราชันแท้จริง

สามารถผูกวาสนาต่อกันกับราชันแท้จริงคนหนึ่ง สามารถสร้างความรู้สึกผูกพันและวาสนาต่อกันกับราชันแท้จริงสักคน สำหรับผู้คนจำนวนเท่าไรนับเป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่ง ไม่ต้องพูดถึงสถาบันศึกษาที่ถูกทอดทิ้งอย่างสถาบันศึกษาล้างบาป แม้แต่นักศึกษาจากสี่สถาบันศึกษาใหญ่อื่นๆ ก็ยินดีที่จะผูกความรู้สึกผูกพันและวาสนาต่อกันอย่างยิ่ง จะอย่างไรเสีย ไม่แน่นักสักวันหนึ่งราชันแท้จริงเคอะสืออาจสามารถกลายเป็นปฐมบรรพบุรุษในอนาคตก็เป็นได้ มันช่างเป็นเรื่องที่มีค่าเพียงใดสำหรับความรู้สึกผูกพันและวาสนาเช่นนี้

“เสียดาย ข้าช่วยอะไรไม่ได้” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ และทำท่าเอ้อระเหยผายมือ และกล่าวว่า “ในเมื่อพ่ายแพ้ก็ได้แต่ยอมรับชะตากรรมแล้ว”

คำพูดลักษณะเช่นนี้เท่ากับเป็นการปฏิเสธแล้ว ซึ่งทำให้บรรดานักศึกษาทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกงงงัน และนักศึกษาจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน

“เจ้าหนูคนนี้คงมีสมองที่ดื้อรั้นกระมัง ไม่ให้เกียรติแม้แต่ราชันแท้จริง ในฐานะที่เป็นนักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปถึงกับไม่คว้าโอกาสนี้เอาไว้ให้ดี” มีนักศึกษาที่รู้สึกว่าเหลือเชื่อ

“เจ้าหนูคนนี้มีจิตใจที่หยิ่งยโสเหลือเกิน คงมีสักวันจะต้องเสียเปรียบแน่ ถ้าหากวันนี้เขาสามารถผู้สัมพันธ์ไมตรีกับราชันแท้จริงเคอะสือ ไม่แน่นักอนาคตอาจใช้ประโยชน์ได้” นักศึกษาอีกคนก็ส่ายหน้า รู้สึกว่าท่าทีเช่นนี้ของหลี่ชิเย่นั้นนับว่าจองหองเหลือเกิน

เวลานี้ แม้แต่พวกของจ้าวชิวสือที่เป็นนักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปต่างพยายามอย่างเต็มที่ในการส่งสายตาให้กับหลี่ชิเย่ ให้รีบตอบตกลงกับราชันแท้จริงเคอะสือ

ในสายตาของพวกนักศึกษาอย่างจ้าวชิวสือมองว่า จะอย่างไรเสียสถาบันศึกษาล้างบาปของพวกเขาอ่อนแอ ไม่มีนักศึกษาที่แข็งแกร่งอะไร ถ้าหากวันนี้หลี่ชิเย่สามารถคบหากับราชันแท้จริงเคอะสือได้ ในอนาคตอาจมีส่วนช่วยหลี่ชิเย่มากทีเดียวก็เป็นได้

ดังนั้น พวกจ้าวชิวสือจึงพยายามอย่างยิ่งในการส่งสายตาให้กับหลี่ชิเย่ ให้รีบตกปากรับคำกับราชันแท้จริงเคอะสือ ซึ่งก็นับว่าเป็นความหวังดี แต่ว่า หลี่ชิเย่ทำเป็นมองไม่เห็นอย่างนั้น

ราชันแท้จริงเคอะสือจ้องมองหลี่ชิเย่เมื่อถูกหลี่ชิเย่ปฏิเสธทันควัน และกล่าวว่า “หนทางยาวไกล อนาคตมีแต่ความไม่แน่นอนมากมาย สักวันหนึ่งศัตรูก็อาจกลายเป็นมิตร ศิษย์น้อง ทุกอย่างควรเว้นทางหนีทีไล่เอาไว้บ้าง อนาคตก็จะราบรื่นกว่านี้”

ใช่ว่าราชันแท้จริงเคอะสือจะถือโอกาสตามน้ำส่งมอบเป็นน้ำใจให้กับราชันหญิงจื่อหลงเพียงอย่างเดียว ที่เขาพูดมาก็นับเป็นความจริงถือเป็นความปรารถนาดี

จะอย่างไรเสีย อู๋เคอเป็นสมาชิกของกองทัพสัตว์เทพเทียนหรง สิ่งนี้กล่าวสำหรับหลี่ชิแล้วใช่จะเป็นเรื่องดีอะไรหากสังหารเขา อนาคตต้องมีคนมาตามแก้แค้นให้เขาอย่างแน่นอน

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับข้าแล้วล่ะ” หลี่ชิเย่ทำท่ายักไหล่ทีหนึ่งและกล่าวเอ้อระเหยขึ้นว่า “กระบี่อยู่ตรงนั้นเอง ช่วยหรือไม่ช่วยอยู่ที่ความคิดเพียงแวบเดียวของท่าน”

พวกนักศึกษาอย่างจ้าวชิวสือถึงกับงงงันเมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่ หลี่ชิเย่ไม่เพียงไม่ให้เกียรติแก่ราชันแท้จริงเคอะสือเท่านั้น คำพูดเช่นนี้ฟังไปแล้วเหมือนมีลักษณะของการท้าทายอยู่หลายส่วน

“เจ้าหนูคนนี้อวดดีมากเหลือเกิน ไม่ให้เกียรติราชันแท้จริงเคอะสือก็ช่างเถอะ ยังจะท้าทายต่อราชันแท้จริงเคอะสืออีก เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกันนะเนี่ย” มีนักศึกษาที่ดูชมในที่ที่ห่างไกลอดที่จะซุบซิบด้วยความกังขาไม่ได้

“เขาเป็นประเภทไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ คิดว่าตัวเองมีกระบี่ปฐมบรรพบุรุษในครอบครองก็ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้าแล้ว จิตใจหยิ่งยโสเหลือเกิน ช้าเร็วสักวันจะต้องเจอดีแน่” นักศึกษาอีกคนก็กล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา

สำหรับคำพูดของหลี่ชิเย่นั้น ราชันแท้จริงเคอะสือจ้องมองดูหลี่ชิเย่แล้วสายตาตกไปอยู่ที่กระบี่ล้างบาป สุดท้ายเขาได้เอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “กระบี่ล้างบาป กระบี่ปฐมบรรพบุรุษ คือจิตของปฐมบรรพบุรุษ ได้แต่ล่วงเกินแล้ว”

ราชันแท้จริงเคอะสือกล่าวขาดคำมือขนาดใหญ่กางออก ได้ยินเสียงตูมดังตูมตามขึ้นมา เห็นท่อนแขนของราชันแท้จริงเคอะสือปรากฎอักขระยันต์ล้อมรอบ เสมือนสัจธรรมสูงสุดที่ล้อมรอบฝ่ามือของเขา

มีผู้ที่สามารถรับรู้ได้ว่า ภายใต้สัจธรรมที่ล้อมรอบลักษณะเช่นนี้ แขนของราชันแท้จริงเคอะสือคล้ายเป็นมังกรแท้จริงอย่างนั้น เหมือนว่าแขนข้างนี้ของเขามีพลังสูงสุดของมังกรแท้จริง ต่อให้เป็นเทือกเขาที่ยาวเป็นแสนลี้เขาก็สามารถถอนขึ้นมาได้ในทันที

พริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้เมื่อเห็นมือขนาดใหญ่ของราชันแท้จริงเคอะสือยื่นคว้าไปที่กระบี่ล้างบาป มองว่าราชันแท้จริงเคอะสือสามารถถอนเอากระบี่ล้างบาปเล่มนี้ขึ้นมาได้หรือไม่

แต่ว่า จังหวะที่มือขนาดใหญ่ของราชันแท้จริงเคอะสือยังไม่ทันคว้าจับกระบี่ล้างบาปได้นั้น กระบี่ล้างบาปได้เปล่งประกายที่ร้อนแรงมากขึ้นมาโดยพลัน ดุจดั่งส่องสว่างไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินอย่างนั้น โลกทั้งโลกล้วนแล้วแต่ถูกรัศมีประกายศักดิ์สิทธิ์นี้ส่องสว่างอย่างเสมอภาค

ได้ยินเสียงปังดังขึ้น มือขนาดใหญ่ของราชันแท้จริงเคอะสือที่คว้าไปนั้น ถูกพลังจรัสที่มีความศักดิ์สิทธิ์สูงสุดกระแทกออกไป

ทุกคนต่างรู้สึกตระหนกตกใจเมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว นักศึกษาทั้งหมดล้วนแล้วแต่รู้สึกใจหายใจคว่ำ เมื่อพลังจรัสของกระบี่ล้างบาปสามารถกระแทกมือของราชันแท้จริงเคอะสือออกไปได้ มันช่างเป็นพลังที่แข็งแกร่งอะไรปานนั้น

“กระบี่เล่มนี้มีจิตวิญญาณแล้ว ตัวกระบี่ก็คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของปฐมบรรพบุรุษในครอบครอง” มีนักศึกษาที่มีกำลังความสามารถก้าวไปถึงระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะแล้วถึงกับตกใจยิ่งนัก เมื่อมองเห็นภาพเช่นนี้

มือใหญ่ถูกกระบี่ล้างบาปกระแทกกลับไป ทำให้ราชันแท้จริงเคอะสือเพ่งสายตาไปข้างหน้าและมองดูกระบี่ล้างบาปเล่มนี้โดยไม่ได้ลงมืออีก เขาเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “กระบี่เล่มนี้คือปณิธานของปฐมบรรพบุรุษ ดูท่าเป็นข้าที่บุ่มบ่ามไปแล้ว ผลกรรมนี้ข้ายากจะตัดสิน”

“ทุกท่าน ลากันตรงนี้แหละ” ราชันแท้จริงเคอะสือพยักหน้ากับพวกของตู้เหวินรุ่ย สุดท้ายยังมองไปที่หลี่ชิเย่แวบหนึ่ง แล้วล่องลอยจากไป

“ฝ่าบาท ฝ่าบาท ช่วยข้าเร็ว รีบช่วยข้าเร็ว…” อู๋เคอตกใจจนแทบสลบ ร้องเสียงแหลมขึ้นมาเมื่อเห็นราชันแท้จริงเคอะสือล่องลอยจากไป ราชันแท้จริงเคอะสือเป็นผู้ช่วยชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของเขา

เสียดายในเวลานี้ราชันแท้จริงเคอะสือทำเป็นหูทวนลม ได้หายตัวไปบนเส้นขอบฟ้า

“ไม่…” อู๋เคอถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมาแต่ไร้ประโยชน์ เมื่อมองเห็นราชันแท้จริงเคอะสือได้หายไปบนเส้นขอบฟ้าแล้ว

“แค่นี้รึ?” สิ่งนี้ทำให้ผู้คนจำนวนมากรู้สึกเหนือความคาดคิด เมื่อเห็นราชันแท้จริงเคอะสือล่องลอยจากไป มีนักศึกษาซุบซิบขึ้นมาว่า “จิตใจของราชันแท้จริงเคอะสือกว้างเกินไปแล้วกระมัง”

“กระบี่ล้างบาปเชื่อมต่อถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว มันมีพลังที่ปราศจากผู้ต่อกรของปฐมบรรพบุรุษอยู่ในครอบครอง คิดจะสั่นคลอนกระบี่เล่มนี้ไม่ง่ายนัก ในเมื่อกระบี่ล้างบาปต้องการล้างความชั่วร้ายทั้งหมดของอู๋เคอมันก็ต้องทำให้ได้ ไม่ถึงคราวจำเป็นจริงๆ ราชันแท้จริงเคอะสือก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปสั่นคลอนต่อกระบี่ล้างบาปดื้อๆ ไปต่อต้านพลังของปฐมบรรพบุรุษ จะอย่างไรเสียเขากับอู๋เคอไม่ได้เป็นญาติเป็นมิตรเพียงได้พบหน้ากันครั้งเดียวเท่านั้น” มีนักศึกษาที่แข็งแกร่งทราบถึงความลึกซึ้งของเรื่องราวเรื่องนี้”

“ที่พูดมาก็ถูก การที่ไปสั่นคลอนพลังปฐมบรรพบุรุษดื้อๆ หาใช่เป็นเรื่องง่ายดาย ต่อให้สั่นคลอนได้แล้วเกรงว่าต้องแลกมาด้วยค่าตอบแทน เพื่อคนที่ใช่ญาติเป็นมิตรคนหนึ่ง ใยต้องทำเช่นนี้” ทุกคนต่างเข้าใจเมื่อรุ่นพี่ชี้ให้เห็นเรื่องนี้ และสามารถเข้าใจได้ว่าเพราะอะไรราชันแท้จริงเคอะสือจึงล่องลอยจากไป

“ราชันแท้จริงเคอะสือเป็นผู้ที่พูดคุยได้ง่ายเหลือเกิน เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเมื่อครู่นี้หลี่ชิเย่ยั่วยุต่อเขา เขาถึงกับไม่ถือสา เพียงยิ้มๆ และไม่ให้ความสนใจ” มีนักศึกษาอดที่จะซุบซิบขึ้นมาด้วยความกังขา

“นี่แหละคือข้อแตกต่างระหว่างเจ้าที่เป็นเจ้า ขณะที่เขาเป็นราชันแท้จริง” นักศึกษาที่อาวุโสมากกว่าหัวเราะ ส่วยหน้า และกล่าวว่า “เรื่องเช่นนี้กล่าวสำหรับราชันแท้จริงเคอะสือแล้ว มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น คนที่ยั่วยุเขามีมากมาย เขายังจะแคร์นักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปคนหนึ่งที่ยั่วยุเขาอย่างนั้นรึ…”

“…ถ้าหากต้องไปให้ความสนใจในทุกๆ การยั่วยุ เช่นนั้นแล้วในฐานะราชันแท้จริงมิเหนื่อยตายรึ ยังจะต้องทำงานทำการาอย่างอื่นรึ? หลี่ชิเย่ของสถาบันศึกษาล้างบาปผู้นี้ก็แค่ได้รับการยอมรับจากกระบี่ล้างบาปเท่านั้นก็ทำเป็นพองโตขึ้นมา คิดว่าตนเองนั้นคือลูกรักของสวรรค์ ดังนั้น จึงไปยั่วยุราชันแท้จริงเคอะสือ แต่ว่า ในสายตาของราชันแท้จริงเคอะสือมองว่า เขาก็แค่มดปลวกที่มีอาวุธปฐมบรรพบุรุษคนหนึ่งเท่านั้นเอง ใยจะต้องไปแคร์เล่า?”

ทุกคนต่างรู้สึกว่ามีเหตุผล เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว

“นั่นสิ ช้างเชือกหนึ่งไหนเลยจะไปให้ความสนใจต่อการยั่วยุของมดปลวกตัวหนึ่ง?” นักศึกษาอีกผู้หนึ่งก็รู้สึกซาบซึ้งอย่างลึกซึ้ง พยักหน้าและกล่าวชื่นชม

“เจ้าแพ้แล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้จ้องมองอู๋เคอที่ใบหน้าซึดเผือด

“ไม่…” ในเวลานี้ อู๋เคอรับรู้ได้ว่าชีวิตของตนกำลังไหลเคลื่อนไป ร้องกล่าวเสียงดังด้วยความหวาดผวา

ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่อู๋เคอพูดขาดคำ ร่างของเขาพลันระเบิดขึ้นมา ร่างกายของเขาได้กลายเป็นอนุภาคแสงปลิวและโปรยปรายบนท้องฟ้า สุดท้าย ได้ปลิวไปตกตามที่ต่างๆ กลับคืนสู่พสุธา

ครั้นทุกคนได้สติคืนกลับมานั้น หลี่ชิเย่ได้เก็บคืนกระบี่ล้างบาปและสะพายอยู่บนหลังแล้ว

“พวกเราไปกันเถอะ” ตู้เหวินรุ่ยยิ้มๆ ขณะกล่าวต่อนักศึกษาทุกคน และออกเดินนำไปข้างหน้า

“เมื่อครู่เจ้าสมควรให้เกียรติราชันแท้จริงเคอะสือสักหน่อยนะเนี่ย” ในเวลานี้ มีนักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปได้เบียดเข้ามา และกล่าวเสียงแผ่วเบาต่อหลี่ชิเย่ว่า “จะอย่างไรเสีย ราชันแท้จริงเคอะสือรู้จักผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมาก ถ้าหากเจ้าให้เกียรติเขาเมื่อครู่ ไม่แน่นักอนาคตเขาสามารถส่งเสริมเจ้าสักหน่อย มีประโยชน์ยิ่งต่อเจ้าในอนาคต เสียดาย เวลานี้เจ้าไม่ให้เกียติเขาทำให้เขาสุดจะทน เกรงว่าอนาคตจะไม่เป็นผลดีต่อเจ้า”

นักศึกษาผู้นี้นับว่าหวังดีต่อหลี่ชิเย่ หลี่ชิเย่เพียงยิ้มนิดหนึ่ง โดยไม่พูดอะไร

นักศึกษาจากหอจรัสศักดิ์สิทธิ์จำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกอิจฉาอย่างยิ่ง ขณะมองดูเงาหลังที่ไกลออกไปของพวกหลี่ชิเย่

“กระบี่ล้างบาป กระบี่ประจำกายของปฐมบรรพบุรุษนะเนี่ย ถ้าหากข้าได้มันมาก็คงสุดยอดมากเลย” มีนักศึกษาที่อดจะกลืนน้ำลายลงคอเอือกหนึ่ง กระบี่ปฐมบรรพบุรุษเล่มหนึ่งที่เชื่อมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ มันช่างเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังเช่นใด

“เสียดาย ข้าไม่เข้าใจจริงๆ เพราะอะไรกระบี่ล้างบาปถึงได้ให้การยอมรับนักศึกษาเช่นนี้ของสถาบันศึกษาล้างบาป” นักศึกษาอีกผู้หนึ่งครุ่นคิดเท่าไรก็ไม่เข้าใจ และกล่าวว่า “ได้ยินมาว่า ในครั้งนั้นราชันแท้จริงเซิ่นซวงก็แค่สามารถหยิบยกกระบี่ล้างบาปขึ้นมาได้เท่านั้น ไม่ได้รับการยอมรับจากกระบี่ล้างบาป มันกลับไปให้การยอมรับต่อนักศึกษาที่อ่อนด้อยและไร้ชื่อเสียงคนนี้ของสถาบันศึกษาล้างบาป มันช่างแปลกประหลาดมากเหลือเกิน”

“วาสนา เรื่องของผลกรรมไม่ว่าใครก็บอกไม่ถูก” มีนักศึกษาที่อาวุโสได้เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “บางที การที่กระบี่ล้างบาปไม่ได้ให้การยอมรับราชันแท้จริงเซิ่นซวง อาจเป็นเพราะว่าราชันแท้จริงเซิ่นซวงนั้นแข็งแกร่งมากเกินไป จะอย่างไรเสียราชันแท้จริงเซิ่นซวงคือราชันแท้จริงที่มีสิบเอ็ด หรือสิบสองลัคนาแล้ว นางมีโอกาสที่จะกลายเป็นปฐมบรรพบุรุษ ในอนาคตนางก็สามารถสร้างกระบี่ประจำกายเช่นนี้ขึ้นมาได้”

“ที่พูดมาก็ถูก ถ้าหากราชันแท้จริงเซิ่นซวงได้กลายเป็นปฐมบรรพบุรุษจริงๆ ล่ะก็ กระบี่ล้างบาปกล่าวสำหรับนางแล้วเรียกว่ามีหรือไม่มีก็ได้ กล่าวสำหรับกระบี่ล้างบาปแล้ว การตกไปอยู่ในมือของปฐมบรรพบุรุษคนหนึ่งคงไม่มีช่องว่างที่จะสำแดงอะไรได้มากมายนักในอนาคต จะอย่างไรเสีย ยังมีอาวุธปฐมบรรพบุรุษมากยิ่งกว่าที่สามารถแทนที่มันได้” ทุกคนต่างรู้สึกมีเหตุผลและทยอยกันพยักหน้าเห็นด้วย

…………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *