Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2848 สังหารในหนึ่งกระบี่

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2848 สังหารในหนึ่งกระบี่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2848 สังหารในหนึ่งกระบี่

หลี่ชิเย่เพียงยิ้มนิดหนึ่งสำหรับการหัวเราะเยาะเย้ยเหล่านี้ บิดขี้เกียจทีหนึ่ง จากนั้นกล่าวว่า “เอาเถอะ ไปเก็บผลสูงศักดิ์มาสักหลายๆ ลูกลิ้มลองรสชาติดูบ้างก็ดีเหมือนกัน” กล่าวพลางเหยียบลำต้นขึ้นไปมุ่งหน้าไปยังยอดไม้

“ฮึวาจาสามหาวมาก” ทุกคนที่ได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่แล้วต่างรู้สึกไม่สบอารมณ์ มีนักศึกษาที่พูดเหยียดหยามว่า “นึกว่าตัวเองเป็นใคร มีฐานะสูงสุดอย่างนั้นรึ? ถึงกับกล้าบอกว่าจะเก็บผลสูงศักดิ์สักหลายลูกมาลิ้มลองรสชาติ สามารถเก็บได้สักลูกก็ต้องถือว่ามีความดีความชอบจะได้เป็นใหญ่เป็นโตแล้ว”

สิ่งนี้จะเป็นที่สบอารมณ์ของนักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ได้รึ? ในเมื่อผลสูงศักดิ์ดำรงอยู่ในสถานะเช่นใด? ผู้คนจำนวนมากมายเท่าไรได้มันมาเพราะพรหมลิขิต ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะต่างต้องการเก็บผลสูงศักดิ์ให้ได้สักลูกหนึ่ง แม้ว่าจะได้ครอบครองผลสูงศักดิ์เพียงลูกเดียวก็ถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมแล้ว

จะอย่างไรเสีย การที่สามารถเก็บผลสูงศักดิ์ได้สักลูก ไม่เพียงแต่ผลสูงศักดิ์หนึ่งลูกนั้นสามารถเพิ่มพูนพลังวัตรของตนขึ้นอย่างมากมาย ที่สำคัญมากไปกว่าน็คือ การที่สามารถเก็บผลสูงศักดิ์ได้สักลูกมันคือสัญลักษณ์ของกำลังความสามารถ พรสวรรค์และฐานะของตน

ลองนึกภาพดู กระทั่งเวลานี้มีเพียงเด็กมหัศจรรย์สามตา ราชันแท้จริงจินผู่ ราชันแท้จริงหลิงซินที่เป็นสุดยอดราชันแท้จริง เทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลในหล้าเท่านั้นที่สามารเก็บผลสูงศักดิ์มาได้

หากจะกล่าวว่าแม้แต่ตนเองก็สามารถเก็บผลสูงศักดิ์ได้มาสักลูกล่ะก็ มันช่างเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเช่นไร เป็นเรื่องที่สะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนอะไรอย่างนั้น ต่อให้กำลังความสามารถของตนเทียบไม่ได้กับพวกเด็กมหัศจรรย์สามตา แต่ว่า ในเรื่องนี้ก็สามารถเทียบเคียงกับพวกของเด็กมหัศจรรย์สามตาได้แล้ว ซึ่งก็จะเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงฐานะอย่างหนึ่ง

เวลานี้ หลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงนักศึกษาคนหนึ่งจากสถาบันศึกษาล้างบาป ถึงกับบอกว่าจะเก็บมาลองชิมดูสักหลายๆ ลูก คำพูดนี้ออกจากอวดดีเกินไปแล้วกระมัง แม้แต่พวกของเด็กมหัศจรรย์สามตายังไม่กล้าพูดจากโอหังอวดดีถึงเพียงนี้ แล้วจะไม่ให้ผู้คนไม่สบอารมณ์กับหลี่ชิเย่ได้อย่างไรเล่า?

นักศึกษาที่นั่งอยู่บนกิ่งไม้เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ยังคงมุ่งหน้าไปยังยอดไม้ที่สูงขึ้นไป จึงแซวว่า “ดูนี่ ด้านข้างของข้ามิใช่มีผลสูงศักดิ์ที่สุกงอมอยู่รึ? ผลสูงศักดิ์ที่ตรงนี้เก็บได้ง่ายกว่าเสียอีก เจ้าจะลองเก็บสักหลายๆ ลูกหรือไม่?”

“จะเก็บทั้งทีย่อมต้องเก็บลูกที่ดีที่สุด ลูกที่อยู่ด้านบนสุดจึงคู่ควรกับข้า” หลี่ชิเย่กล่าวเอ้อระเหยขึ้น

“ว้าวมีปณิธานไม่เบาเลยนี่” นักศึกษาที่นั่งอยู่บนกิ่งไม้หัวเราะเสียงดัง และกล่าวว่า “คิดจะขึ้นไปยังยอดไม้ เกรงว่าเจ้าจะไม่มีกำลังความสามารถเช่นนี้ ยอดไม้สูงสุดคือบริเวณไกลออกไปในจักรวาล มีพลังสัจธรรมสยบ หากไม่มีกำลังความสามารถของราชันแท้จริงอย่าหวังจะได้ขึ้นไป”

“มันจะไปยากอะไร” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย ยังคงขึ้นไปยังข้างบนต่อไป

“ฮึเจ้าคนที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ อีกสักครู่เขาก็จะรู้ว่ามันยากแค่ไหน ถึงเวลานั้นดูว่าเขาจะหาทางลงอย่างไร” มีนักศึกษาจำนวนไม่น้อยเยาะเย้ยและเหยียดหยาม

มีนักศึกษาอีกผู้หนึ่งกล่าวว่า “ข้อนี้น่ะเจ้าไม่รู้อะไร เจ้าไม่เห็นรึ? ข้างบนนั้นมีศิษย์ของราชันแท้จริงเคอะสือ และราชันแท้จริงงูหลามทองเฝ้าอยู่รึ? ถึงเวลานั้นเขาขึ้นไปไม่ได้แน่ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะมีข้ออ้างว่า ใช่ว่าเขาเก็บผลสูงศักดิ์ไม่ได้ แต่เป็นเพราะราชันแท้จริงเคอะสือและราชันแท้จริงงูหลามทองพวกเขาไม่ยอมให้ขึ้นไป เมื่อเป็นเช่นนี้มันช่างเป็นบันไดลงที่งดงามอะไรอย่างนั้น?”

“ที่แท้เป็นเช่นนี้ ยังคงเป็นรุ่นพี่ที่ฉลาด” ทุกคนต่างเข้าใจในทันทีหลังจากที่ได้ฟังคำของนักศึกาผู้นี้แล้ว จึงมีนักศึกษากล่าวเหยียดหยามว่า “ที่แท้ก็เล่นวิธีฉลาดเกมโกงนั่นเอง”

ท่ามกลางสายตาของผู้คนจำนวนมาก เมื่อหลี่ชิเย่ก้าวไปถึงบริเวณที่สูงแล้ว บรรดาศิษย์ของราชันแท้จริงงูหลามทองและราชันแท้จริงเคอะสือที่เฝ้าอยู่ตรงนั้นก็พลันเข้าขวางทางของหลี่ชิเย่เอาไว้ กล่าวเสียงเย็นชาว่า “รีบกลับไปเสีย เส้นทางนี้ผ่านไปไม่ได้!”

ย่อมไม่ต้องสงสัย บรรดาศิษย์ของราชันแท้จริงงูหลามทองและราชันแท้จริงเคอะสือย่อมมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้อย่างชัดเจน พวกเขาย่อมไม่ชอบในตัวของหลี่ชิเย่ และมีความรู้สึกที่ไม่ดีอยู่แล้ว ดังนั้น ท่าทีที่ปฏิบัติต่อหลี่ชิเย่ย่อมเลวร้ายยิ่ง ด้วยการขับไล่โดยตรง

“ข้าแค่ขึ้นไปเก็บผลสูงศักดิ์” เวลานี้หลี่ชิเย่เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มบนใบหน้าที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม รอยยิ้มดังกล่าวมองดูแล้วเหมือนไม่มีพิษมีภัยกับใครอย่างนั้น

คนอื่นๆ ดูจะไม่รู้สึกอะไรเมื่อเห็นรอยยิ้มลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ แต่ว่า ตู้เหวินรุ่ยกลับส่ายหน้า เนื่องจากเขาได้เข้าใจแล้วในที่สุด เมื่อไรที่หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มเช่นนี้ออกมา เป็นการบ่งบอกว่ามีคนต้องตายอย่างแน่นอน

แน่นอนที่สุด ตู้เหวินรุ่ยก็จะไม่ไปขัดขวาง คนบางคนต้องการรนหาที่ตายเอง เป็นเรื่องที่ใครก็ช่วยอะไรไม่ได้

“ไสหัวไป…” ศิษย์อีกคนดูจะไม่มีความเกรงใจยิ่งกว่า ตวาดเสียงดังน่าเกรงขามขึ้นมา

สำหรับราชันแท้จริงเคอะสือและราชันแท้จริงงูหลามทองนั้น พวกเขานั่งอยู่บนยอดไม้ที่สูงเด่นบรรลุธรรมโดยไม่ได้ให้ความสนใจแม้แต่นิดเดียว ย่อมไม่ต้องสงสัย สิ่งที่ศิษย์ของตนได้กระทำลงไปเป็นการได้รับความเห็นชอบจากพวกเขาโดยปริยาย

“ต้นสูงศักดิ์ใช่เป็นต้นไม้ที่บ้านพวกเจ้าปลูก อาศัยอะไรไม่ให้คนอื่นเก็บเกี่ยว” ท่าทางหลี่ชิเย่เหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างนั้น

“อาศัยสิ่งนี้…” มีศิษย์ได้ชักกระบี่ออกมาดังตึง ประกายกระบี่ข่มผู้คน และกล่าวน่าเกรงขามว่า “ไม่อยากตายก็จงไสหัวไป อย่ามาแกะกะตรงนี้รบกวนการเข้าฌานบรรลุธรรมของฝ่าบาทพวกเรา”

ในเวลานี้ นักศึกษาคนนั้นที่อยู่ใต้ต้นไม้ได้กล่าวเยาะเย้ยว่า “เห็นแล้วใช่มั้ย เวลานี้เขามี่ข้ออ้างแล้ว ดังนั้น เขาก็จะมีทางลง ด้วยการลงมาจากต้นสูงศักดิ์โดยไม่ต้องเก็บผลสูงศักดิ์ แต่ก็รักษาหน้าเอาไว้ได้”

“ลูกไม้ตื้นๆ เช่นนี้นับว่าหลอกรุ่นพี่ไม่ได้จริงๆ” นักศึกษาจำนวนมากทยอยกับมองดูหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีเหยียดหยาม ท่าทางเต็มไปด้วยความสบประมาท

“ทำไมเมื่อครู่ราชันแท้จริงหลิงซินสามารถขึ้นไปได้ แต่ข้าขึ้นไปไม่ได้ อาศัยอะไร?” ท่าทางหลี่ชิเย่เหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม ท่าทางเหมือนไม่พอใจอย่างนั้น

“เจ้านับเป็นตัวอะไร?” ศิษย์ของราชันแท้จริงงูหลามทองกล่าวเหยียดหยามว่า “อาศัยเจ้าหาญกล้าพูดเปรียบเทียบกับราชันแท้จริงหลิงซินได้? ไม่ปัสสาวะแล้วส่องดูเงาของตนว่าเป็นอย่างไร”

“นั่นสิ เจ้านับเป็นตัวอะไร กล้านำมาพูดเปรียบเทียบกับราชันแท้จริงหลิงซิน รีบไสหัวลงมา อย่าได้อับอายขายหน้าผู้คนเลย” นักศึกษาที่อยู่ข้างล่างก็ทยอยกันเอะอะโวยวายขึ้นมา

“ฮึหากเจ้ามีฝีมือจริง ใยจำเป็นต้องขึ้นไปเก็บบนยอดไม้ ตามกิ่งไม้อื่นๆ ก็มีผลสูงศักดิ์ที่สุกงอมอยู่เช่นกัน เก็บให้พวกเขาได้ดูเป็นขวัญตาก็แล้วกัน” นักศึกษาจำนวนมากใต้ต้นไม้ได้กล่าวเยาะเย้ยขึ้นมา

“นี่ ศิษย์ในสำนักของพวกเจ้าไร้เหตุผลเช่นนี้เลยหรือ พวกเจ้าในฐานะที่เป็นราชันแท้จริงสมควรกวดขันดูแลศิษย์ของตนใช่หรือไม่ ทำแบบนี้ยังมีเหตุผลอีกรึ?” เวลานี้ หลี่ชิเย่ส่งเสียงดังไปยังราชันแท้จริงงูหลามทองและราชันแท้จริงเคอะสือ

แต่ว่า ราชันแท้จริงงูหลามทองและราชันแท้จริงเคอะสือไม่ให้ความสนใจอยู่แล้ว พวกเขายังคงนั่งตัวตรงอยู่ตรงนั้น เหมือนว่าไม่ได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่อย่างนั้น

“ไสหัวไป…” ศิษย์ของราชันแท้จริงงูหลามทองและราชันแท้จริงเคอะสือพลันมีดวงตาที่เย็นยะเยือก และเผยให้เห็นถึงปณานการฆ่า เมื่อเห็นหลี่ชิเย่รบกวนการเข้าฌานและบรรลุธรรมของอาจารย์ตน กล่าวน่าครั่นคร้ามขึ้นมาว่า “หากยังไม่ลงไปอีก จะฆ่าเจ้าเสีย!”

“อ้อนี่เป็นการหาเรื่องตายเองของพวกเจ้า” คราวนี้ รอยยิ้มของหลี่ชิเย่ดูลึกซึ้งยิ่งกว่าอีก

“แหะจัดการสั่งสอนเขาสักหน่อยก็ดี ให้เขาได้รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียบ้าง” นักศึกษาที่อยู่ใต้ต้นไม่รู้สึกดีใจที่เห็นคนอื่นได้รับความเดือดร้อน เมื่อเห็นศิษย์ของราชันแท้จริงงูหลามทองและราชันแท้จริงเคอะสือเผยปณิธานการฆ่าออกมา

“เฮ่อเวลานี้ถูกคนอื่นเขาขวางทางเอาไว้แล้ว เจ้าลองว่ามาซิ ควรจะทำอย่างไรดี?” ท่าทางหลี่ชิเย่ที่ทอดถอนใจขึ้นมา และกล่าวว่า “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ยังจัดการไม่ได้ล่ะก็ กระบี่ปฐมบรรพบุรุษอย่างเจ้าก็คงไม่มีประโยชน์อะไรแล้วล่ะ คนเขาต่างก็พูดแบบนี้ไม่ใช่รึ? กระบี่ประจำตัวปฐมบรรพบุรุษเล่มนหนึ่งสามารถเกรียงไกรทั่วหล้าไร้เทียมทานมิใช่รึ? หากเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ยังจัดการไม่ได้ล่ะก็ ข้ายังจะต้องการเจ้าที่เป็นเพียงเศษเหล็กทำไม?” กล่าวพลาง ตบไปที่กระบี่ล้างบาป

ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเองกระบี่ล้างบาปออกจากฝัก ประกายศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่ไพศาล

“ระวัง…” บรรดาศิษย์ของราชันแท้จริงเคอะสือและราชันแท้จริงงูหลามทองตระหนกยิ่งกับกระบี่ล้างบาปที่ออกจากฝักในพริบตาเดียวนั่น พลันเสกเอาของวิเศษ อาวุธต่างๆ ของตนขึ้นมาทันที

ได้ยินเสียงตูมดังสนั่น ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง บรรดาศิษย์เหล่านี้พลันเสกสิ่งป้องกันที่ทรงพลังที่สุดขึ้นมา อาวุธออกจากฝัก และอาศัยท่าทีที่แข็งแกร่งที่สุดฟันใส่หลี่ชิเย่

ฉึก ฉึก ฉึก…แต่ทว่า พวกเขาเพิ่งจะลงมือก็ปรากฏเลือดสดๆ ที่แตกกระจาย มองเห็นหัวแต่ละหัวที่ลอยขึ้นสูง และเลือดสดๆ ที่พวยพุ่งขึ้นไป

ตามติดด้วยเสียงตกลงพื้นปัง ปัง ปังที่ดังขึ้น มองเห็นศพของศิษย์เหล่านี้ตกลงจากต้นไม้ทั้งหมด และกระแทกกับพื้นอย่างแรง

เลือดสดๆ ถูกเทราดลงมา บนท้องฟ้าเหมือนปรากฏฝนเลือดที่ตกลงมา ฝนเลือดซ่าซ่าซ่าย้อมต้นสูงศักดิ์จนกลายเป็นสีแดง ใบไม้จำนวนไม่น้อยถูกเลือดปะพรม และปรากฏเลือดที่หยดลงมาจากปลายใบ และยังมีเลือดที่ไหลรินลงมาจากลำต้นอย่างช้าๆ

ภาพเช่นนี้ที่เกิดขึ้นมาอย่างกะทันหันได้ทำเอาทุกคนตกใจจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก ในเวลานี้ทุกคนต่างมองดูภาพที่อยู่ตรงหน้าด้วยความงุนงง และไม่สามารถเรียกสติกลับมา

แค่คำพูดไม่เข้าหูก็จัดการสังหารศิษย์ของราชันแท้จริงงูหลามทองและราชันแท้จริงเคอะสือทั้งหมด ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ ทั้งราชันแท้จริงงูหลามทองและราชันแท้จริงเคอะสือต่างก็อยู่ที่นี่

ลองนึกภาพดู เป็นการสังหารศิษย์พวกเขาต่อหน้าต่อตาราชันแท้จริงทั้งสอง ช่างเป็นเรื่องที่สร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนเพียงใด

ในเวลานี้ นักศึกษาที่อยู่ใต้ต้นไม้ต่างอ้าปากค้าง และไม่สามารถเรียกสติกลับมาได้เป็นเวลานาน

ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงในใจ แค่คำพูดไม่เข้าหูก็ฆ่าคน กระบี่ล้างบาปเช่นนี้ยังคงเป็นกระบี่ที่ล้างความชั่วร้ายอยู่อีกรึ? นี่มันกระบี่ชั่วร้ายเล่มหนึ่งชัดๆ

“เฮ่อข้าแค่พูดไปอย่างนั้นเอง จำเป็นต้องฆ่าคนด้วยรึ?” ท่าทางหลี่ชิเย่ทำโอดครวญท่าทางเหมือนจนด้วยเกล้าอย่างนั้น เมื่อกระบี่ล้างบาปได้กลับคืนสู่ฝัก

ในเวลานี้ เสียงฮึน่าเกรงขามดังขึ้น เสมือนดั่งฟ้าผ่าอย่างนั้น ทำเอานักศึกษาทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ตกใจกันใหญ่

พริบตาเดียวกันนี้เอง อานุภาพราชันทะลุฟ้า เสมือนดั่งพายุฝนฟ้าคะนอง นักศึกษาทั้งหมดมองตามไป เห็นเพียงราชันแท้จริงงูหลามทองและราชันแท้จริงเคอะสือเวลานี้ได้ลุกขึ้นยืนพร้อมกันสองคน! ดวงตาทั้งสองของพวกเขาพลันส่งประกายเยือกเย็นวูบวาบน่ากลัวออกมา พลันจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่

“เจ้าหนูคนนี้ตายแน่!” มีนักศึกษาที่อยู่ใต้ต้นไม่รู้สึกยินดีที่เห็นผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน เมื่อเห็นว่าถูกราชันแท้จริงสองคนจ้องเขม็งเอาไว้

ในเวลานี้ ทั้งราชันแท้จริงงูหลามทองและราชันแท้จริงเคอะสือต่างมีแววตาที่เผยปณิธานการฆ่าออกมา การสังหารศิษย์ของพวกเขาต่อหน้าพวกเขามันคือการตบหน้าพวกเขาอย่างแรงชัดๆ แล้วความน่าเกรงขามของพวกเขายังจะเหลืออยู่อีกรึ?

“เรื่องนี้จะโทษข้าก็ไม่ถูก” ภายใต้สายตาที่ดุดันน่าเกรงขามของราชันแท้จริงเคอะสือ หลี่ชิเย่ทำท่าผายมือ และกล่าวว่า “เมื่อครู่บอกกับพวกเจ้าแล้ว เป็นพวกเจ้าที่ไม่ได้ดูแลศิษย์ของตนให้ดี ทุกคนต่างก็มองเห็น เป็นพวกเขาที่ต้องการฆ่าข้าก่อน ข้าเองก็แค่ป้องกันตัวเท่านั้นเอง”

ครั้นหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วได้หยุดนิดหนึ่ง แล้วกล่าวต่อไปว่า “อีกอย่าง ข้าไม่ได้เป็นคนฆ่า จะโทษก็โทษกระบี่เล่มนี้ก็แล้วกัน เป็นมันที่ก่อเรื่อง”

………………………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *