Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2886 เข่นฆ่าด้วยมือเปล่า
ตอนที่ 2886 เข่นฆ่าด้วยมือเปล่า
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว จังหวะที่คำว่า “ไสหัวไป” จบลง ฟ้าดินเสมือนหนึ่งระเบิดขึ้นมาอย่างนั้น พลังที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียมพลันพุ่งโจมตีเข้ามา จัดการยิงจนไฟลาวาพิษหายวับไปกับตาในพริบตาเดียว
ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหวนั้น มองเห็นราชาราชสีห์ แรดนอเดียวที่เป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์ทั้งสี่ตัวถูกทำให้พลิกหงายพลิกคว่ำ ร่างกายที่มีขนาดยักษ์ของมันถูกกระแทกจนตัวลอยออกไป และอัดภูเขาจำนวนนับไม่ถ้วนจนแหลกละเอียด
ภายใต้พลังกระแทกที่น่ากลัวยิ่งนี้ มีเพียงหุบเขาของปูคริสตัลที่ไม่ได้เป็นอะไร
ทุกคนล้วนแล้วแต่ตกใจยิ่งนักกับผู้ช่วยที่มาถึงอย่างกะทันหัน เนื่องจากพลังสายนี้นับว่าทรงพลังยิ่งเหลือเกิน พลันกระแทกสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์สี่ตัวจนกระเด็นไปในทันที ลองนึกภาพดู ในบรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดใครเล่าที่มีกำลังความสามารถเช่นนี้ได้
“เป็นใครนะ…” นักศึกษาทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกพลังที่ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้าสายนี้ทำให้หวั่นไหว ถึงกับตระหนกตกใจเป็นอย่ายิ่ง ต่างทยอยกันมองไปด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง
“เป็นหลี่ชิเย่ ดูนั่น เป็นหลี่ชิเย่คนนั้นของสถาบันศึกษาล้างบาป” ในเวลานี้ ทุกคนล้วนแล้วแต่มองเห็นผู้ที่ลงมือกะทันหันได้อย่างชัดเจน ต่างร้องเสียงดังขึ้นมา
“เป็นเขา…” สายตาทั้งหมดพลันตกไปอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่
เวลานี้ ทุกคนมองเห็นหลี่ชิเย่ยืนอยู่บนท้องฟ้า ด้านล่างของเขาก็คือหุบเขาของปูคริสตัล
สำหรับกระบือดำขนาดใหญ่ที่ติดตามมาด้วยนั้น ส่ายหัวทีหนึ่งและบ่นพึมพำขึ้นมาว่า “พวกไร้สมองกลุ่มหนึ่งรนหาที่ตายเอง” จากนั้นก็กระโดดลงไปในหุบเขา ไม่สนใจเรื่องเช่นนี้อีกต่อไป
“มาแล้ว…” ในพริบตาเดียวนั่นเอง พวกของราชันแท้จริงเคอะสือเพ่งสายตามองไปข้างหน้า ราชันแท้จริงจินผู่ที่นั่งอยู่บนหลังของมังกรจรัสทองคำก็พลันลุกขึ้นยืน และดวงตาทั้งสองพลันล็อคเป้าอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่
“เป็นเขา นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไร…” ก่อนหน้านี้ ผู้ที่ยังไม่เคยเห็นหลี่ชิเย่ลงมือถึงกับตกใจ และกล่าวว่า “สถาบันศึกษาล้างบาปมีนักศึกษาที่แข็งแกร่งเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“เป็นเพราะก่อนหน้านั้นเจ้าไม่ได้เห็นกระมัง เขาเคยยิงสังหารเทพธนูม้าบิน กำลังความสามารถลึกซึ้งยากจะหยั่งถึง” นักศึกษาที่เห็นการต่อสู้มากับตาตนเองกล่าวขึ้นช้าๆ
“นี่นับว่าชั่วร้ายสุดๆ แล้ว สถาบันศึกษาล้างบาปถึงกับมีนักศึกษาที่แข็งแกร่งเช่นนี้โผล่ขึ้นมาได้ ไม่เคยได้ยินมาก่อน มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อชัดๆ” นักศึกษาจำนวนมากต่างรู้สึกว่ามันเหลือเชื่อ เนื่องจากพันล้านปีที่ผ่านมา สถาบันศึกษาล้างบาปไม่เคยปรากฏนักศึกษาที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาก่อน
เวลานี้พลันปรากฏนักศึกษาที่แข็งแกร่งเช่นนี้โผล่ขึ้นมา ทำให้นักศึกษาทั้งหมดต่างรู้สึกว่าเหลือเชื่อ และทุกคนไม่ทันตั้งตัว
โฮ่ววว…ในพริบตาเดียวนั่นเอง สัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์สี่ตัวที่ถูกพลิกคว่ำพลิกหงายได้ลุกขึ้นมาแล้ว พวกมันต่างร้องคำรามอย่างบ้าคลั่ง พวกมันอดที่จะคำรามไม่ได้อันเนื่องมาจากถูกคนอื่นทำเสียพลิกคว่ำพลิกหงายในทันที จึงรับกับผลเช่นนี้ไม่ได้
ฮือออ…ในเวลานี้สัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์ทั้งสี่ตัวได้มองตากันและกัน ขณะเดียวกันได้คำรามเสียงดังทีหนึ่ง ตามติดด้วยสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์ทั้งสี่พลันบุกเข้าสังหารหลี่ชิเย่ในทันที
ตูม ตูม ตูมแรดนอเดียวอาศัยความเร็วที่ปราศจากผู้เทียบเทียมพุ่งชนเข้ามา ตูม ตูม ตูมภายใต้การเหยียบฟ้าดินจนแตกละเอียดดังตูมตามนั้น ได้ยินเสียงตึงดังขึ้นเสียงหนึ่ง นอเดียวที่ดั่งดาบสวรรค์ของมันได้ฟาดฟันออกไป
ในขณะเดียวกัน งูหลามยักษ์ที่มีพิษร้ายแรงก็อ้าปากพ่นสิ่งมีพิษออกมเป็นลูกๆ สิ่งมีพิษพลันเทราดลงมาต้องการคลุมหลี่ชิเย่จนมิด ในเวลาเดียวกันนี้ อีกาไฟพันธุ์ประหลาดก็พ่นไฟโลกันตร์ออกมา ได้ยินเสียงตูมดังขึ้นเสียงหนึ่ง มันจุดติดหมอกพิษ และทำการเผาฟ้าต้มทะเล ต้องการให้หลี่ชิเย่ตายอยู่ท่ามกลางทะเลเพลิง
ขณะที่ราชาราชสีห์ส่งเสียงคำรามโฮ่วววอย่างบ้าคลั่งเสียงหนึ่ง ตัดขาดทางหนีของหลี่ชิเย่ คลื่นเสียงที่ดั่งคลื่นที่โหมสาดซัดพุ่งเข้ามาปะทะด้วยท่าทีทลายฟ้าดิน
สัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์ทั้งสี่โจมตีเข้ามาโดยพร้อมเพรียงกัน เสมือนดั่งมีสัญญาใจลับๆ เอาไว้อย่างนั้น การร่วมมือกันของพวกเขามาได้จังหวะพอดี ล้วนแล้วแต่โจมตีใส่หลี่ชิเย่ถึงตัวในพริบตาเดียว ปิดกั้นทุกทิศทุกทางจนสนิท ทำให้หลี่ชิเย่ไม่มีโอกาสที่จะหนีรอดไปได้อยู่แล้ว
ขณะที่ความเป็นความตายอยู่ระหว่างเส้นด้ายเส้นเดียว ร่างของหลี่ชิเย่สั่นไหวแวบหนึ่ง ขณะที่ร่างกายของเขาสั่นไหวแวบหนึ่งนั้น เหมือนเวลาถูกลากออกไปยาวมากๆ คล้ายเป็นภาพเคลื่อนไหวที่ช้ามากเป็นพิเศษฉายให้ทุกคนได้เห็นตรงหน้า
แคว่กกก…เสียงหนึ่งดังขึ้น ตามติดด้วยเสียงร้องที่แหลมดังน่าเวทนาขึ้นมา มองเห็นเลือดสดๆ ที่พุ่งทะลักออกมา ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนต่างมองเห็นมือทั้งสองข้างของหลี่ชิเย่ที่จับฉีก ถึงกับจับขากรรไกรล่างของงูหลามพิษร้ายแรงยักษ์ เริ่มต้นจากปากและฉีกงูหลามพิษร้ายแรงยักษ์ออกเป็นสองซีก
ตัวของงูหลามยักษ์พิษร้ายแรงยักษ์มีขนาดที่ใหญ่โตเพียงใด มีความยาวนับพันลี้ ขณะที่ตัวของพันถูกตวัดขึ้นสูงและฉีกออกเป็นสองซีกนั้น มันช่างเป็นภาพที่อลังการเช่นใด ท้องฟ้าปรากฏฝนเลือดที่เทราดลงมา เครื่องในนับไม่ถ้วนก็ถูกเทราดลงมาด้วย พื้นดินถูกเลือดสดๆ ไหลนองในทันที
อูววว…เสียงร้องน่าเวทนาดังก้องท้องฟ้า ได้ยินเสียงคร๊ากกกที่เป็นเสียงแตกหักดังขึ้น ทุกคนมองเห็นขาข้าหนึ่งของหลี่ชิเย่เหยียบอยู่บนตัวของแรดนอเดียว ขณะที่มือจับหัก จัดการดึงเอานอแรดของแรดนอเดียวออกมาดื้อๆ ขณะเดียวกันกระดูกทั่วทั้งตัวของแรดนอเดียวถูกหลี่ชิเย่เหยียบจนละเอียดด้วยเท้าข้างเดียว
ฮือออ…เสียงร้องที่แหลมดังขึ้นไม่ขาดสาย ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนต่างมองเห็นเชื้อไฟที่อยู่บนมือของหลี่ชิเย่เต้นวูบวาบทีหนึ่ง และถูกดีดไปอยู่บนตัวของอีกาไฟพันธุ์ประหลาด อีกาไฟพันธุ์ประหลาดพลันกลายเป็นลูกบอลไฟ และถูกเผาไหม้จนหายวับไปกับตาในพริบตาเดียว
อ๊ากก…ราชาราชสีห์ร้องเสียงน่าเวทนาออกมาด้วยความเจ็บปวด และหยุดลงกะทันหัน ได้ยินเสีอยงดังฉึกเสียงหนึ่ง เลือดสดๆ แตกกระจาย ทุกคนมองเห็นมือของหลี่ชิเย่ที่ดึงทีหนึ่ง จัดการดึงเอาหัวของราชาราชสีห์ออกมาดื้อๆ โดยที่ส่วนหัวยังพ่วงมาด้วยกระดูกสันหลังจนถึงส่วนเอวของราชาราชสีห์มาด้วย
เหตุนี้เอง ทั่วฟ้าดินเสมือนดั่งถูกหยุดเอาไว้อย่างนั้น เหมือนหลี่ชิเย่สี่คนปรากฏตัวขึ้นสี่ทิศพร้อมๆ กันอย่างนั้น หลี่ชิเย่คนหนึ่งอาศัยมือเปล่าจัดการฉีกงูหลามขนาดยักษ์ที่มีพิษร้อยแรงออกเป็นสองซีก หลี่ชิเย่คนหนึ่งจัดการกระทืบแรดนอเดียวจนตายด้วยเท้าข้างเดียว หลี่ชิเย่คนหนึ่งได้จุดสะเก็ดไฟเผาอีกาไฟพันธุ์ประหลาดจนหายวับไปกันตาในพริบตา และหลี่ชิเย่อีกคนได้ดึงเอาหัวของราชาราชสีห์หลุดติดมือมา
ความจริงแล้วไม่ได้มีหลี่ชิเย่สี่คน มีหลี่ชิเย่เพียงคนเดียวเท่านั้นเอง เพียงแต่ความเร็วของเขารวดเร็วมากเหลือเกิน บนท้องฟ้าจึงยังทิ้งเงาของเขาเอาไว้ เขาสังหารสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์สี่ตัวในพริบตาเดียว ทำให้ผู้คนมองดูแล้วเหมือนมีหลี่ชิเย่สี่คนที่สังหารสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์สี่ตัวนี้พร้อมกันอย่างนั้น
สุดท้าย มองเห็นไหล่ของหลี่ชิเย่แวบหนึ่ง เขายังคงยืนอยู่บนท้องฟ้า และได้ยินเสียงช่าาา และเสียงปัง ปัง ปังดังขึ้นมาไม่ขาดสาย
ในเวลานี้มองเห็นเลือดงูหลามพิษที่มีพิษร้ายแรงที่เทราดลงมา และร่างที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารของราชาราชสีห์ที่คุกเข่าลงและล้มลงโดยโน้มตัวไปข้างหน้าไปกองอยู่กับพื้น
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น กระทั่งเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหมื่นของพริบตาเดียว สัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์สี่ตัวก็ถูกหลี่ชิเย่อาศัยมือเปล่าสังหารไปแล้ว
สุดท้าย ขณะทุกคนมองดูหลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ตรงนั้น เหมือนว่าเขายืนอยู่ที่ตรงนั้นตั้งแต่ต้นจนจบ ดุจดั่งเขาไม่เคยได้กระดิกตัวแม้แต่นิดเดียวตั้งแต่ต้นจนจบอย่างนั้น
ในเวลานี้เหมือนว่าอากาศได้แข็งตัวอย่างนั้น ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรต้องเหม่อลอยขณะมองดูภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า ไม่สามารถเรียกสติกลับมาเป็นเวลานาน
ความเร็วลักษณะเช่นนี้ช่างรวดเร็วเหลือเกิน นับว่าเป็นที่น่าตกใจเหลือเกิน ปราศจากผู้เทียบเทียม ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ สัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์สี่ตัวที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ก็เสมือนดั่งเป็นมดปลวกเท่านั้นเมื่ออยู่ในมือของหลี่ชิเย่
ราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป ได้เห็นการลงมือของหลี่ชิเย่อีกครั้ง ทำให้พวกเขารู้สึกว่ายังคงประเมินหลี่ชิเย่ต่ำเกินไปในพริบตาเดียว
ในเวลานี้ราชันแท้จริงจินผู่ก็นั่งไม่ติดเสียแล้ว สีหน้าบึ้งตึง ดวงตาทั้งสองเผยให้เห็นถึงประกายที่ดุเดือดรุนแรงยิ่งนัก
ตัวเขาที่อยู่ในฐานะราชันแท้จริงแปดลัคนาไม่ได้เจอะเจอศัตรูที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้มานานมากแล้ว แม้ว่าศัตรูที่กล้าแข็งทำให้ทุกคนรู้สึกหวั่นเกรง แต่ว่า ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้คนถึงกับมีเลือดที่ร้อนระอุขึ้นมาเช่นกัน
“นี่ นี่ นี่ออกจะแข็งแกร่งเกินไปแล้วกระมัง” หลังจกผ่านไปครู่ใหญ่ ในที่สุดมีนักศึกษาที่ได้สติกลับมา ได้กลิ่นคาวเลือดที่เข้ามาแตะจมูก ต่างถึงกับหวาดหวั่นพรั่นพรึง และตกใจอย่างยิ่ง ก้าวถอยหลังติดต่อกันหลายก้าว
“เขาเป็นใครมาจากไหนกันแน่ ถึงแข็งแกร่งได้ถึงขั้นนี้ ไม่น่าจะไร้ชื่อไร้เสียงจึงถูก” และมีนักศึกษาที่รู้สึกแปลกใจ
ไม่เพียงแต่นักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ถูกทำให้ตกใจอย่างยิ่ง แม้แต่บรรดาสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์แต่ละตัวที่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ต่างก้าวถอยหลังในเวลานี้ ในฐานะที่เป็นสัตว์ สัญชาตญาณบอกพวกมันว่าหลี่ชิเย่อันตรายมาก
ในเวลานี้ สัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์แต่ละตัวต่างเกิดความวุ่นวายขึ้น กระทั่งมีสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์ที่บังเกิดความคิดที่จะไปจากที่นี่
จนกว่ามังกรจรัสทองคำก้าวเท้าออกไปข้างหนึ่งดังปังจึงได้สยบสถานการณ์เอาไว้ ทำให้ความวุ่นวายในหมู่สัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์พลันสงบลง
หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ตรงนั้น กวาดสายตามองไปตามอารมณ์ มองดูบรรดาสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์ที่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ จากนั้นก็มองดูพวกของราชันแท้จริงจินผู่ แค่มองไปก็รู้แล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยคำพูด
“ทำไม แค่ข้าหันหลังไปเท่านั้นก็ตามมาแล้ว และวางแผนขึ้นมาอีก” หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ตรงนั้น มองดูพวกของราชันแท้จริงเคอะสือตามอารมณ์ทีหนึ่ง
ในเวลานี้ ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้
พวกของราชันแท้จริงจินผู่อยู่ในฐานะที่แข็งแกร่งเพียงใด มาวันนี้พวกเขาร่วมมือกันอยู่ตรงนี้ และรวบรวมสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์มากมายเช่นนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนต้องหลบหลีกไปให้ไกล
แต่ว่าหลี่ชิเย่ในเวลานี้กลับมองดูด้วยความเฉยเมย กระทั่งมองเหมือนไม่มีตัวตน ด้วยท่าทีที่อวดดีเช่นนี้ ทำให้ทุกคนต้องรู้สึกใจหายใจคว่ำ
“บ้าระห่ำ บ้าระห่ำเหลือเฟือ แต่ว่า กำลังความสามารถก็บ้าบิ่นจนเละแทะไปหมด” มีนักศึกษาที่พึมพำขึ้นมา
เวลานี้ พวกของราชันแท้จริงเคอะสือมองตากันและกัน สุดท้ายให้ราชันแท้จริงเคอะสือเป็นคนออกปาก เขาได้กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “สหายหลี่ พวกเราไม่ได้มีประสงค์ร้ายต่อท่าน พวกเราก็ไม่ได้ตั้งใจไปทำร้ายพวกเขา”
เมื่อราชันแท้จริงเคอะสือพูดถึงตรงนี้แล้วได้หยุดนิดหนึ่ง และพูดต่อไปว่า “พวกเราแค่ต้องการไข่นกสาริกาคนละใบเท่านั้นเอง นำไปฟักให้กลายเป็นนกศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ดังนั้น หวังว่าสหายหลี่สามารถส่งเสริมกันบ้าง”
ในฐานะที่เป็นราชันแท้จริง คำพูดนี้ของราชันแท้จริงเคอะสือนับว่ามีความจริงใจเพียงพอ และถ่อมตนมากพอแล้ว กล่าวได้ว่า ไม่ว่าใครก็ตามเมื่อได้ฟังคำพูดเช่นนี้แล้วก็ต้องรู้สึกมีเกียรติ และต่างก็จะให้เกียรติพวกของราชันแท้จริงเคอะสือหลายส่วน
จะอย่างไรเสีย ผู้ที่ยืนอยู่ที่นี่ในเวลานี้ไม่เพียงมีราชันแท้จริงเคอะสือคนเดียวเท่านั้น พวกเขามีราชันแท้จริงสามคน เทพแท้จริงขั้นอมตะคนหนึ่ง ด้วยกำลังความสามารถเช่นนี้นับว่ามีน้ำหนักพออย่างแท้จริงแล้ว
…………………………………………………
Comments