Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2918 พระอาจารย์จินกวง

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2918 พระอาจารย์จินกวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2918 พระอาจารย์จินกวง

ขณะที่หลี่ชิเย่กำลังสำรวจตรวจสอบเทียนเชี่ยนอยู่นั้น ด้านนอกเทียนเชี่ยนได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น สร้างความฮือฮาไปทั่ว ผู้คนจำนวนมากต่างทอดสายตามองออกไป

ที่ด้านนอกเทียนเชี่ยน ณ ท้องฟ้าที่ห่างไกลออกไป ด้านซ้ายของท้องฟ้าที่ไร้ขอบเขตสิ้นสุด ที่ตรงนั้นคือทะเลปุ๊ตู้ไห่ที่กว้างใหญ่ไพศาลสุดลูกหูลูกตาไม่มีขอบเขตสิ้นสุด

ทันใดนั้น มาวันนี้ได้ปรากฏแสงสีทองที่สาดส่องลงมายังบริเวณชายฝั่งของทะเลปุ๊ตู้ไห่

แรกทีเดียว ทุกคนยังไม่ได้เอะใจ แต่ทว่า แสงสีทองกลับเข้มและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็ได้ทำให้มีผู้คนให้ความสนใจเป็นอันมาก

แรกทีเดียวขณะที่แสงสีทองแต่ละสายสาดส่องลงมาจากบนท้องฟ้า สาดส่องลงชายฝั่งของทะเลปุ๊ตู้ไห่นั้น แสงสีทองแต่ละสายยังจางมาก แสงสีทองทุกๆ สายเสมือนดั่งเป็นใยไหมสีทองที่ตั้งตรงแขวนอยู่บนท้องฟ้า

แต่ว่า จากเวลาที่เคลื่อนผ่านไป แสงสีทองแวบวับและดูจะมีความเข้มและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และแสงสีทองทุกๆ สายก็ได้ก่อเกิดเป็นประกายแต่ละสายขึ้นมา มองเห็นชายฝั่งทะเลของทะเลปุ๊ตู้ไห่ถูกแสงสีทองปกคลุมไปทั้งหมดภายในระยะเวลาอันสั้น

นั่นมันคืออะไร…แรกทีเดียวทุกคนยังไม่ได้ใส่ใจสักเท่าไรเมื่อได้เห็น เพียงรู้สึกแปลกใจเท่านั้นเอง

แต่ว่า หลังจากผ่านไปไม่นาน ได้ยินเสียงแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั้นเอง แสงสีทองแต่ละสายได้แผ่กลิ่นอายผู้มีฐานะสูงสุดไม่มีใครเกินขึ้นมา ทะเลแสงทองทั้งหมดเหมือนกลับกลายเป็นโลกดึกดำบรรพ์และสูงส่งที่สุดในทันทีอย่างนั้น

“กลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษ” แม้ว่าจะกั้นขวางด้วยระยะทางที่ยาวไกลมากจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ขณะที่กลิ่นอายดังกล่าวแผ่กระจายออกมานั้น ผู้คนจำนวนมากต่างสามารถรับรู้ได้ กลิ่นอายลักษณะเช่นนี้เป็นของผู้มีฐานะสูงสุดไม่มีใครเกิน แม้จะเป็นเพียงกลิ่นอายสายหนึ่งเท่านั้น ก็สามารถกดทับเหล่าชั้นฟ้าจนพังทลายลงมาได้ ทำให้ยอดฝีมือทั้งหมดต้องสั่นเทากับสิ่งนี้

ขณะที่แสงสีทองแผ่กระจายกลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษแต่ละสายออกมา ปรากฏดวงตาแต่ละคู่ที่มีการลืมตาขึ้นมาท่ามกลางท้องฟ้า เหมือนยอดฝีมือที่มีฐานะสูงสุดแต่ละคนพลันถูกทำให้ตกใจตื่นขึ้นมาอย่างนั้น

พระอาจารย์จินกวง…มีเสียงที่แก่หง่อมเสียงหนึ่งได้ทอดถอนใจขึ้นมาเบาๆ จากบนท้องฟ้า

ดวงตาแต่ละคู่ที่ลืมตาขึ้นมาท่ามกลางท้องฟ้านั้น บ้างมาจากพื้นที่ดึกดำบรรพของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ บ้างมาจากบริเวณที่ลึกเข้าไปภายในนิกาย และมีบ้างที่มาจากท้องฟ้าดึกดำบรรพ์ที่หลับไหล…

ถ้าหากมียอดฝีมือที่สามารถมองเห็นดวงตาแต่ละคู่ล่ะก็ พวกเขาอดที่จะต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึงไม่ได้ และหวาดผวา ต่อให้ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะก็ต้องถูกคู่สายตาแต่ละคู่เหล่านี้สยบจิตใจเอาไว้ เจ้าของคู่สายตาแต่ละคู่แข็งแกร่งมากเหลือเกิน พวกเขาเหล่านั้นจะต้องเริ่มต้นที่ระดับระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นสมบูรณ์ กระทั่งเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะคงความอมตะตลอดกาลขั้นสูง และคงความอมตะตลอดกาลขั้นสูงสุด

จังหวะที่แสงสีทองตลบอบอวลในบริเวณริมทะเลของทะเลปุ๊ตู้ไห่นั้น มีดวงตาคู่หนึ่งในด่านเทียนสงกวานพลันลืมตาขึ้นมาทันที ดวงตาคู่นี้ลึกล้ำและมีอำนาจบารมีไร้ขีดจำกัด มีพลังที่สูงสุดไม่มีใครเกิน

พระอาจารย์จินกวง…ดวงตาคู่นี้รู้แล้วว่าใครมา เมื่อมองเห็นแสงสีทองที่ตลบอบอวลอยู่เส้นขอบฟ้า ขณะที่เจ้าของดวงตาคู่นั้นก็คือผู้เฝ้าด่านเทียนสงกวานไท่อิ๋นสี่นั่นเอง ระดับเทพแท้จริงขั้นคงความอมตะตลอดกาลที่ลึกซึ้งยากจะหยั่งถึง!

“พระอาจารย์จินกวง พระอาจารย์จินกวงออกจากการกักตน มาที่แนวชายฝั่งทะเลปุ๊ตู้ไห่! ” ในเวลานี้ข่าวที่สะเทือนเลื่อนลั่นได้แพร่กระจายในพื้นที่ห่างไกลและกันดาร และข่าวระเบิดขึ้นที่ด่านเทียนสงกวาน กระทั่งแดนลัทธิเซียนเองก็มีราชันแท้จริงที่แข็งแกร่งปราศจากผู้กรจำนวนมาก และระดับคงความอมตะต่างรับรู้ถึงการปรากฎตัวขึ้นที่แนวชายฝั่งทะเลทะเลปุ๊ตู้ไห่ของพระอาจารย์จินกวงในทันที

“พระอาจารย์จินกวงออกจากการกักตนอีกครั้ง” นาทีนี้ผู้ที่รู้ข่าวเช่นนี้ล้วนแล้วแต่ถูกสยบเอาไว้

ชื่อของพระอาจารย์จินกวงชื่อนี้เปี่ยมด้วยอำนาจเวทมนตร์ เปี่ยมด้วยพลัง กระทั่วกล่าวได้ว่าในแดนลัทธิเซียนคือตัวแทนฐานะสูงสุดไม่มีใครเกิน

พระอาจารย์จินกวงคืออัจฉริยะบุคคลที่ปราดเปรื่องน่าทึ่ง เป็นผู้ที่บรรลุระดับปฐมบรรพบุรุษในยุคปัจจุบัน เรียกได้ว่ายากจะหาใดเทียมใดเทียม ปราศจากผู้ต่อกรได้

“การมาเยือนแนวชายฝั่งทะเลปุ๊ตู้ไห่ของพระอาจารย์จินกวง! ” ไม่ทราบว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกหวั่นไหวในใจยิ่ง เนื่องจากนี่ไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญเด็ดขาด

เมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ ทะเลปุ๊ตู้ไห่เคยมีสิ่งแปลกปลอมบินออกมา สร้างความแตกตื่นไปทั่วแดนลัทธิเซียน กระทั่งไม่ทราบว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ

มาวันนี้ พระอาจารย์จินกวงในฐานะผู้บรรลุเป็นปฐมบรรพบุรุษในยุคปัจจุบัน และเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะผู้แข็งแกร่งที่สุดในยุคปัจจุบัน ถึงกับมาที่แนวชายฝั่งทะเลปุ๊ตู้ไห่ การเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นไม่มีใครคิดว่าเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้นเอง

พระอาจารย์จินกวงมาแล้ว…ในเวลานี้บรรดาคงความอมตะตลอดกาลที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกร ราชันแท้จริงที่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้าต่างทยอยถูกทำให้แตกตื่น ไม่ทราบว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รุดไปถึงเทียนเชี่ยนในนาทีแรก และรุดไปถึงด่านเทียนสงกวาน

เพียงแต่บรรดาคงความอมตะตลอดกาลที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกร ราชันแท้จริงที่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้าเหล่านี้ ส่วนใหญ่ล้วนรุดมากันอย่างลับๆ ไม่ได้มากันอย่างเอิกเกริก หรือวางมาดมีพิธีรีตองอะไรทั้งสิ้น

จะอย่างไรเสีย การมาถึงของพระอาจารย์จินกวง คงความอมตะตลอดกาล และราชันแท้จริงปราศจากผู้ต่อกรจะมาวาดมาดหรือต้องมีพิธีรีตองอีกล่ะก็ ดูจะไม่เจียมตัวเอาเสียเลย เป็นการอวดอ้างความสามารถของตนต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญ

แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น พระอาจารย์จินกวงได้มาถึงแล้ว เขาไม่ได้จงใจให้มีพิธีรีตองอะไร และไม่ได้ตั้งใจอาศัยอานุภาพปฐมบรรพบุรุษไปสยบเหล่าชั้นฟ้า เขามาโดยลำพังคนเดียวเท่านั้นเอง

แม้ว่าพระอาจารย์จินกวงจะมาแบบค่อมต่ำ แต่ว่า ตัวเขามีความแข็งแกร่งเช่นใดในฐานะที่เป็นผู้บรรลุระดับปฐมบรรพบุรุษในยุคปัจจุบัน ทุกๆ ความเคลื่อนไหวของเขาระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารสามารถนำพาให้ลมและฟ้าเคลื่อนตาม สั่นคลอนต่อสุริยันจันทราและดวงดาว

เมื่อพระอาจารย์จินกวงปรากฏตัวขึ้นที่แนวชายฝั่งทะเลปุ๊ตู้ไห่นั้น แสงสีทองเอ่อล้นเต็มพื้นที่ พริบตาเดียวนั่นเอง ต่อให้เป็นท้องฟ้าที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตามากกว่านี้ ก็คล้ายดั่งไม่สามารถจุแสงสีทองที่ไม่มีสิ้นสุดของเขาได้หมด

ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ตัวของพระอาจารย์จินกวงคล้ายมีขนาดใหญ่กว่าพื้นที่ทั้งหมด ทุกสิ่งดูจะเล็กจิ๋วภายใต้ร่างเงาของเขา เหมือนว่าขอเพียงเขาเคลื่อนไหวร่างกาย ทั่วทั้งโลกก็พลันแตกสลายทันทีอย่างนั้น

พระอาจารย์จินกวงมาแล้ว เขาไม่ได้จงใจระเบิดอำนาจปฐมบรรพบุรุษสูงสุดขึ้นมา กระทั่งได้เก็บงำอานุภาพปฐมบรรพบุรุษเอาไว้ แต่แสงสีทองพลันท่วมปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าที่ไร้ขอบเขตสิ้นสุด เอ้อล้นจนเต็มฟ้าดิน

ในพริบตาเดียวนั่นเอง เสมือนหนึ่งคลื่นลูกใหญ่ที่ถาโถมเข้ามา ขณะที่ช่องว่างทั้งหมดก็คล้ายดั่งเป็นอ่างน้ำเล็กๆ ใบหนึ่ง ไม่สามารถจุคลื่นยักษ์เช่นนี้ได้อยู่แล้ว

ขณะที่ท่ามกลางคลื่นยักษ์ได้ซ่อนอานุภาพปฐมบรรพบุรุษที่ไม่มีสิ้นสุดเอาไว้ ดังนั้นในขณะที่แสงสีทองพลันเอ่อล้นท่วมไปทั่วฟ้าดินในพริบตานั้น อานุภาพที่สูงสุดปราศจากผู้เทียบเทียมก็ได้ถาโถมเข้ามาโดยพลัน และเข้าบดขยี้บนตัวของทุกคนในทันที

นี่คืออานุภาพปฐมบรรพบุรุษตัวเป็นๆ คนหนึ่ง หาใช่เป็นอานุภาพปฐมบรรพบุรุษคนใดคนหนึ่งสมัยดึกดำยบรรพ์ซึ่งไม่ได้อยู่บนโลกอีกแล้วได้ทิ้งเอาไว้

ขณะที่อานุภาพปฐมบรรพบุรุษลักษณะเช่นนี้เสมือนดั่งคลื่นยักษ์ที่โหมสาดซัดเข้ามา นั่นเป็นการสยบทุกสิ่งทุกอย่างโดยพลัน น่าสยองขวัญจนปราศจากสิ่งเทียบเทียม

พระอาจารย์จินกวง…ในขณะนี้ ประชาชนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก้มกราบกับพื้น ไม่ว่าจะเป็นที่ด่านเทียนสงกวาน หรือพื้นที่ที่ห่างไกลและกันดาร ต่างร้องเสียงดังขึ้นมาด้วยความเคารพนับถือ

ภายใต้อานุภาพปฐมบรรพบุรุษที่สูงส่งปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้ มีเพียงบรรดาราชันแท้จริง เทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นคงความอมตะตลอดกาลที่แข็งแกร่งโดยแท้จริงเท่านั้นที่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง ส่วนคนอื่นๆ ล้วนถูกสยบเอาไว้ และมอบอยู่กับพื้นดินโดยพลัน เมื่อถูกอานุภาพปฐมบรรพบุรุษเช่นนี้ปกคลุมเข้ามา

“พระอาจารย์จินกวงมาด้วยตนเอง! ” อานุภาพปฐมบรรพบุรุษที่สยบบนตัวช่างดูเหมือนจริงอะไรอย่างนั้น ช่างสูงส่งปราศจากผู้เทียบเทียมอะไรอย่างนั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่เข้าใจ แสงสีทองนี้คือการมาปรากฎตัวด้วยตนเองของพระอาจารย์จินกวง

ในพริบตาเดียวนั่นเอง ไม่ทราบว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่มองไปทางแนวชายฝั่งทะเลปุ๊ตู้ไห่ แต่ว่า ขณะที่สายตาจ้องมองไปนั้น ที่ตรงนั้นได้กลายเป็นทะเลสีทองไปแล้ว ประกายสีทองช่างละลานตาอะไรเช่นนั้น ทำให้ผุ้คนมองเห็นไม่ชัดเจนเสียแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณที่พระอาจารย์จินกวงยืนอยู่นั้น ปรากฏประกายสีทองที่ร้อนแรงละลานตาจนสุดเปรียบเปรย เหมือนว่าที่ตรงนั้นมีดวงตะวันสีทองเป็นพันเป็นหมื่นดวงลอยขึ้นมาพร้อมๆ กันอย่างนั้น อย่าว่าแต่จ้องมองตรงๆ เลย แม้แต่จะอาศัยเนตรฟ้าก็แอบส่องไม่ได้ ถ้าหากผู้ที่มีกำลังความสามารถกล้าแข็งหวังแข็งขืนอาศัยเนตรฟ้ามาแอบส่อง ภายใต้แสงสีทองที่ร้อนแรงและละลานตายิ่ง สามารถทำให้เนตรฟ้าคนผู้นั้นบอดได้ในทันที และจะกลายเป็นความมืดมิดตรงหน้าในพริบตาไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อีก

มีราชันแท้จริงที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกร คงความอมตะตลอดกาลหวังจะฝืนบังคับแอบส่อง ปรากฏว่าล้วนแล้วแต่ถูกพลังที่สูงสุดปราศจากผู้เทียบเทียมดีดกลับมา

ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า พระอาจารย์จินกวงไม่ยินดีให้ผู้คนแอบส่อง ไม่ว่าใครก็ตามคิดจะแอบส่องขณะพระอาจารย์จินกวงยืนอยู่ที่แนวชายฝั่งทะเลปุ๊ตู้ไห่ล่ะก็ ล้วนแล้วแต่ถูกกันให้ต้องกลับไป

กำลังความสามารถของพระอาจารย์จินกวงนับว่าแข็งแกร่งมากเหลือเกิน แม้แต่ดวงตาแต่ละคู่บนท้องฟ้าก็ไม่กล้าไปแอบส่องโดยง่ายดาย

แม้ว่าในบรรดาพวกเขาจะมีผู้ที่มีกำลังความสามารถเพียงพอที่จะไปแอบส่องพระอาจารย์จินกวงได้ แต่ว่า พวกเขาล้วนไม่มีความจำเป็นต้องไปทำเช่นนี้ จะอย่างไรเสียในเมื่อพระอาจารย์จินกวงไม่ต้องการให้ใครไปแอบส่อง พวกเขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปฝืนแอบส่องให้ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะเป็นการล่วงเกินต่อพระอาจารย์จินกวง

ไม่ว่าใครก็ตามต่างเข้าใจได้ว่า การเป็นศัตรูกับพระอาจารย์จินกวงในยุคปัจจุบัน เป็นการกระทำที่ไม่ชาญฉลาดเอาเสียเลย

พระอาจารย์จินกวงยืนอยู่ที่ริมทะเลปุ๊ตู้ไห่นั่นเอง ประกายสีทองเอ่อล้น ทุกคนต่างมองเห็นไม่ชัดเจนว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ราชันแท้จริงที่แข็งแกร่งก็เห็นเพียงร่างเงาที่สูงใหญ่ยิ่งคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเป็นเงาหลังที่มีฐานะสูงสุดปราศจากผู้เทียบเทียมของพระอาจารย์จินกวง

เวลานี้นาทีนี้ พระอาจารย์จินกวงหันหลังให้กับอาณาประชาราษฎร์ทั้งหลาย หันหน้าไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ เขายืนอยู่ตรงนั้นเหมือนหนึ่งกลายเป็นรูปแกะสลักไปแล้ว ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนต่างรู้สึกว่าเสมือนหนึ่งเวลาได้หยุดลงอย่างนั้น

ขณะที่พระอาจารย์จินกวงยืนอยู่ริมทะเลปุ๊ตู้ไห่ เวลาพลันหยุดไหลรินทันที นาทีนี้ เขาก็ได้กลายเป็นผุ้บงการของโลกทั้งโลกอย่างนั้น ขอเพียงตัวเขาไม่เคลื่อนไหว ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล้วนแล้วแต่จับตัวแข็งอยู่ตรงนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล้วนถูกสยบอยู่ตรงนั้น

“พระอาจารย์จินกวงคิดจะทำอะไร? ” เทียบกับบรรดาอาณาประชาราษฎร์ที่หมอบอยู่กับพื้นแล้ว บรรดาคงความอมตะตลอดกาลที่แข็งแกร่ง และราชันแท้จริงที่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้ายังคงสามารถมองเห็นเงาหลังของพระอาจารย์จินกวงได้ในระยะห่างไกล

แต่ว่า ภายในใจของผู้คนจำนวนไม่น้อยก็มีคำถาม เมื่อมองเห็นพระอาจารย์จินกวงยืนอยู่ที่ตรงนั้น

“หรือพระอาจารย์จินกวงวางแผนจะข้ามฟากทะเลปุ๊ตู้ไห่แล้ว” มีราชันแท้จริงได้คาดเดา และรู้สึกหวั่นไหวในใจ

“เกรงจะไม่ใช่” มีคงความอมตะตลอดกาลที่แก่หง่อมและดึกดำบรรพ์ส่ายหน้าและกล่าวว่า “พระอาจารย์จินกวงนั้นมีสัจธรรมที่สูงส่งปราศจากผู้ใดเกิน มีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด การที่เขาสามารถบรรลุเป็นระดับบรรพบุรุษของชั้นแดนลัทธิเซียน เรียกได้ว่ามีพลังแฝงที่ไม่มีสิ้นสุด เขาไม่รีบเร่งในเวลานี้ รอจนกว่าเขากลายเป็นบรรพบุรุษชั้นแดนลัทธิเซียน และบรรลุสัจธรรมในขั้นสมบูรณ์เสียก่อน ค่อยเข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่ก็ยังไม่สาย”

ทุกคนต่างรู้ดีว่า ทะเลปุ๊ตู้ไห่คือที่พักพิงสุดท้ายของปฐมบรรพบุรุษ เมื่อถึงเวลาอันสมควรแล้ว บรรดาปฐมบรรพบุรุษล้วนแล้วแต่ข้ามฟากทะเลปุ๊ตู้ไห่ทั้งสิ้น

ดังนั้น มาวันนี้ขณะพระอาจารย์จินกวงยืนอยู่ริมทะเลปุ๊ตู้ไห่ จึงทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกตื่นตระหนก ต่างเข้าใจว่าพระอาจารย์จินกวงจะข้ามฟากทะเลปุ๊ตู้ไห่แล้ว

น่าเสียดาย ทะเลปุ๊ตู้ไห่ไม่ต้องการให้ใครแอบส่อง ด้วยการกันสายตาทั้งหมดเอาไว้ด้านนอกทะเลแสงทอง ดังนั้น ไม่มีใครรู้ว่าพระอาจารย์จินกวงทำอะไรอยู่ที่ริมทะเลปุ๊ตู้ไห่

แม้แต่คงความอมตะตลอดกาลที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียม ยังทำได้แค่มองดูพระอาจารย์จินกวงที่เดินไปเดินมาอยู่ริมทะเลปุ๊ตู้ไห่อยู่ครู่เดียวจากระยะห่างไกล

………………………………………………………………………………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *