ตอนที่ 2947 จักรพรรดิซีหวง

การมีระดับปฐมบรรพบุรุษมาร่วมงานประมูลในครั้งนี้ ย่อมเป็นที่ฮือฮากับทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ผู้คนจำนวนไม่น้อยพลันแหงนหน้าขึ้นมอง ทุกคนต่างมองไปที่ตำหนักโบราณที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า โดยตำหนักโบราณหลังนี้เรียกได้ว่ามีประกายที่แวบวับออกมา

แม้ว่าประตูใหญ่ของตำหนักโบราณจะยังคงปิดสนิท ไม่มีใครมองออกว่าผู้ที่อยู่ด้านในเป็นผู้ใดกันแน่ แต่ทว่า ที่สามารถยืนยันได้ก็คือ มีระดับปฐมบรรพบุรุษมาเข้าร่วมงานประมูลในครั้งนี้

“คือปฐมบรรพบุรุษผู้ใดเล่า?” ในเวลานี้ บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนต่างคาดเดากันอยู่ ทุกคนคิดว่าในยุคนี้ผู้ที่มีความเป็นไปได้ก็คือพระอาจารย์จินกวง และหรือปราชญ์อัจฉริยะหลันซูแล้ว

“ดูท่าน่าจะเป็นพระอาจารย์จินกวง” มีผู้บำเพ็ญตนอดที่จะคาดเดาว่า “ไม่นานมานี้ พระอาจารย์จินกวงก็ได้ไปที่ชายหาดของทะเลปุ๊ตู้ไห่ด้วยตนเอง เกรงว่าพระอาจารย์จินกวงได้มาถึงด่านเทียนสงกวานแล้ว”

“ก็ไม่แน่เสมอไป” ผู้บำเพ็ญตนเฒ่าอีกคนส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “ข้าได้รับข่าวที่น่าเชื่อถือได้ ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูได้ออกท่องไปทั่วเพื่อศึกษาหาความรู้ เพียงแต่ทุกคนต่างก็ไม่ทราบร่องรอยของเขาเท่านั้นเอง มาวันนี้งานการประมูลของห้างเจียวเหิงที่มีความยิ่งใหญ่เช่นนี้ ไม่แน่นักอาจดึงดูดปราชญ์อัจฉริยะหลันซูได้”

ในเวลานี้ ทุกคนต่างรู้สึกอยากรู้อยากเห็น ต่างทยอยกันคาดเดาว่าจะเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษผู้ใดมาร่วมงานกันแน่ เพียงแต่ทางด้านของห้างเจียวเหิงก็ไม่ได้มีข่าวคราวใดๆ ปรากฏออกมา พวกเขาก็ไม่ได้ประกาศว่าจะเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษผู้ใดที่มาร่วมงานประมูล

ขณะที่ผู้คนจำนวนมากกำลังคาดคะเนอยู่นั้น ได้ยินเสียงเอี๊ยดดดดังขึ้นเสียงหนึ่ง ประตูของตำหนักโบราณได้เปิดออก ภายในวิหารปรากฏสาวใช้สองนางก้าวเดินออกมา ขณะที่สาวใช้ทั้งสองก้าวเดินออกมานั้น ทำให้ผู้คนจำนวนมากต่างมีดวงตาลุกวาว แม้ว่าแม่นางทั้งสองจะมีฐานะเป็นเพียงสาวใช้ แต่ยังคงมีรูปโฉมที่งดงามทีสุดในแผ่นดิน ไม่รู้ว่างดงามยิ่งกว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ และองค์หญิงอยู่จำนวนเท่าใด

“พระอาจารย์จินกวง เป็นพระอาจารย์จินกวง” มียอดฝีมือรุ่นอาวุโสที่ตาแหลมมองเห็นเครื่องหมายที่ติดอยู่บริเวณอกด้านซ้ายของสาวใช้ทั้งสองแล้ว สามารถจดจำประวัติความเป็นมาได้

“พระอาจารย์จินกวงมาด้วยตนเองรึ?” ภายในใจของยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากต่างสะดุ้งในใจ เมื่อได้ยินคำพูดคำนี้

กล่าวสำหรับผู้คนจำนวนมากแล้ว ถ้าหากว่าพระอาจารย์จินกวงมาด้วยตนเอง การมางานประมูลในครั้งนี้ ต่อให้ไม่สามารถประมูลสิ่งของได้แม้แต่ชิ้นเดียว ก็ยังคุ้มค่ากับค่าบัตรผ่านประตูในครั้งนี้

ช่าาา…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง มองเห็นตำหนักโบราณได้มีการแขวนผ้าม่านขึ้น และปล่อยผ้าม่านลงปิดบังสภาพภายในตำหนักเอาไว้สิ้น

ผ้าม่านที่แขวนอยู่ด้านหน้าประตูตำหนักโบราณเป็นสีขาว โดยที่บนผ้าม่านสีขาวได้ปักรูปลำธารที่มีสายน้ำใหลเอื่อยๆ ดูสงบเงียบและงดงามยิ่ง พลันที่มองเห็น ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงกลิ่นอายที่สดใหม่เข้ามาปะทะใบหน้า

“ใช่พี่สาวรึ?” กระบี่เหินเทียนเจียวที่กำลังเช็ดกระบี่อยู่มองเห็นผ้าม่านขาวที่ถูกแขวนขึ้นมา จึงได้ลุกขึ้นและคำนับ กล่าวคำทักทาย

“เป็นจักรพรรดิซีหวง เป็นจักรพรรดิซีหวงมาด้วยตนเอง ไม่ใช่พระอาจารย์จินกวง” ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกตระหนกในใจเมื่อได้ยินคำพูดของกระบี่เหินเทียนเจียว มีผู้คนจำนวนไม่น้อยมองตากันและกัน

“ลุกขึ้น น้องสาว” ในเวลานี้ภายในตำหนักโบราณปรากฏเสียงที่ไพเราะเสนาะหูยิ่งเสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงดังกล่าวเปี่ยมด้วยจังหวะจะโคน แต่ในน้ำเสียงก็ได้เผยให้เห็นถึงความเข้มงวดสูงสุด เสมือนหนึ่งเป็นจักพรรดินีที่มีอำนาจสูงสุดนั่งอยู่ที่นั่น

“ภารกิจรัดตัวไม่ได้มาด้วยตนเองไม่จำเป็นต้องมากพิธี” เสียงผู้หญิงที่เปี่ยมด้วยจังหวะจะโคนที่ล้ำเลิศหนึ่งไม่มีสอง แม้ไม่เห็นตัวแต่ยังคงสามารถฟังออกว่ามีความสูงส่งเพียงใด ลำพังแค่น้ำเสียงของนางก็สามารถจินตนาการได้ว่าเป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมปรากศจากผู้เทียบเทียมในหล้า ช่างเป็นผู้หญิงที่มีความเป็นกษัตริย์อย่างไร

“เป็นเพียงเงาสะท้อนของจักรพรรดิซีหวงเท่านั้นเอง หาได้เป็นตัวจริงมาด้วยตนเอง” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้ากันและกันเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ และมีคนบางส่วนรู้สึกผิดหวัง

แรกทีเดียวทุกคนเข้าใจว่าเป็นพระอาจารย์จินกวงมาด้วยตนเอง ไม่นึกเลยว่าเป็นเพียงเงาสะท้อนของจักรพรรดิซีหวงเท่านั้นเอง แม้แต่ร่างจริงก็ไม่ได้มาด้วย

“สิ่งนี้สามารถเข้าใจได้ จะอย่างไรเสียจักรพรรดิซีหวงก็ปกครองทั่วหล้า ไหนเลยมีเวลาว่างเช่นนี้” ผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้ยินว่าเป็นเงาสะท้อนของจักรพรรดิซีหวงที่มาก็สามารถเข้าใจได้

ผู้คนทั่วหล้าต่างก็รู้ว่า พระอาจารย์จินกวงนั้นคือผู้ที่ได้รับโชคมา บรรลุถึงขั้นสูงสุด เขากระทั่งไม่สนใจเรื่องราวทางโลก มักจะเป็นจักรพรรดิซีหวงในฐานะภรรยาเป็นผู้กุมอำนาจปกครองแทนพระอาจารย์จินกวง ด้วยการปกครองทั่วหล้าปกครองกองกำลังทหารเป็นหมื่นพัน

ดังนั้น การที่ร่างจริงของจักรพรรดิซีหวงไม่ได้เข้าร่วมในงานการประมูลครั้งนี้ ทุกคนก็สามารถเข้าใจได้

แม้จะเป็นเพียงเงาสะท้อนของจักรพรรดิซีหวง กระบี่เหินเทียนเจียวก็โค้งคำนับด้วยท่าทางเคารพนอบน้อม กล่าวได้ว่ากระบี่เหินเทียนเจียวนั้นเป็นคนที่มีลักษณะท่าทีหยิ่งผยอง แต่ว่ากับจักรพรรดิซีหวงแล้ว นางมีความเคารพนอบน้อมอย่างยิ่ง

แม้ว่าจักรพรรดิซีหวงหาใช่พี่สาวแท้ๆ ของกระบี่เหินเทียนเจียว เป็นเพียงลูกพี่ลูกน้อง แต่ว่าในด้านการบำเพ็ญเพียรนั้น จักรพรรดิซีหวงได้ให้ความช่วยเหลือกับกระบี่เหินเทียนเจียวมากมาย

โดยเฉพาะขณะที่กระบี่เหินเทียนเจียวต้องการทะลุคอขวดก้าวสู่ระดับคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้นนั้น เป็นจักรพรรดิซีหวงที่ออกหน้า ทำให้พระอาจารย์จินกวงลงมือช่วยเหลือนางอีกแรง ทำให้นางได้ก้าวสู่ระดับคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้นอย่างสะดวกโยธิน

ไม่เพียงแต่กระบี่เหินเทียนเจียวที่โค้งคำนับ ดูให้ความเคารพนอบน้อมเท่านั้น แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้งผู้เป็นใหญ่แห่งอาณาจักร หัวหน้าพรรค กระทั่งบรรดาคงความอมตะตลอดกาลบางส่วนก็ลุกขึ้นแสดงความเคารพต่อจักรพรรดิซีหวง

“ไม่ได้มาด้วยตนเอง ไม่ได้พบกับบรรดาผู้อาวุโส โปรดอภัย” เสียงของจักรพรรดิซีหวงดังออกมาจากตำหนักโบราณ น้ำเสียงของนางทำให้ผู้ที่ได้ยินรู้สึกสบายเป็นพิเศษ และทำให้รู้สึกเบิกบานใจในใจ

บรรดาผู้ที่แสดงความเคารพต่อจักรพรรดิซีหวงล้วนแล้วแต่สยบทั้งกายและใจ

การที่จักรพรรดิซีหวงมีฐานะเช่นวันนี้หาใช่เป็นเพราะนางเป็นภรรยาของพระอาจารย์จินกวงเท่านั้น ขณะเดียวกันตัวของนางเองก็มีความแข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกร สมควรทราบว่า นางยังไม่ได้แต่งงานกับพระอาจารย์จินกวง นางก็คือผู้กุมอำนาจปกครองของสี่ซี ได้รับการยกย่องจากผู้คนว่า ‘จักรพรรดิซีหวง’ ทักษะยุทธของนางก็ลึกล้ำยากจะหยั่งถึง

ดังนั้น แม้จักรพรรดิซีหวงจะไม่ใช่ภรรยาของพระอาจารย์จินกวง นางก็สามารถมีบารมีสยบใต้หล้าได้เช่นกัน และได้รับการเคารพนอบน้อมจากผู้คนทั่วหล้าเหมือนกัน

หลังจากการปรากฏตัวของจักรพรรดิซีหวง ทำให้สถานที่ประมูลที่มีผู้คนล้นหลามดูจะสงบเงียบอย่างยิ่ง จะอย่างไรเสีย วันนี้มีผู้ยิ่งใหญ่มากมายอยู่ในเหตุการณ์ ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าทำกำเริบเสิบสาน

หลังจากที่เงาสะท้อนของจักรพรรดิซีหวงปรากฏแล้ว ก็มีผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆ เข้าร่วมงานการประมูลครั้งยิ่งใหญ่ มีราชันแท้จริงระดับล่าง คงความอมตะตลอดกาล…ต่างก็เข้าร่วมงานการประมูลของห้างเจียวเหิงในครั้งนี้

เทพสงครามจินเปี้ยนที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็ได้เข้าร่วมงานการประมูลในครั้งนี้ด้วย เพียงแต่เจ้าตัวเองก็ไม่ได้มาด้วยตนเองเช่นกัน แต่เป็นเงาสะท้อนเช่นเดียวกับพวกหมิงหวังฝอเหล่านั้น

ครั้นมองเห็นไฟของหอแต่ละหลังสว่างไสวขึ้น ทำให้งานการประมูลในครั้งนี้ดูมีความยิ่งใหญ่มากขึ้น

สืบเนื่องจากการปรากฏตัวของจักรพรรดิซีหวง แม้ว่าภายหลังจะมีผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อยได้ปรากฎตัว แต่ก็ไม่ได้สร้างความตระหนกตกใจอะไรมากมาย กระทั่งค่อยๆ เคยชินกับสิ่งนี้แล้ว

แน่นอน การได้เห็นผู้ยิ่งใหญ่มากมายเช่นนี้มาร่วมงานประมูลครั้งนี้ด้วยตนเอง ส่งผลให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนบางคนที่ตั้งใจจะประมูลของวิเศษบางชิ้นรู้สึกหนักอึ้งในใจ เมื่อมีผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากเช่นนี้มาร่วมงาน จะทำให้การแข่งขันทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ยังไม่ต้องพูดถึงสถานะของจักรพรรดิซีหวงที่เป็นตัวแทนของพระอาจารย์จินกวง แม้แต่พวกของราชันแท้จริงจุนหวงที่มาร่วมงานประมูลครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้ด้วยตนเอง ก็เพียงพอที่จะมองออกได้ว่า ในบรรดาสินค้าที่ประมูลมีสิ่งที่พวกเขาหมายตาเอาไว้

มิฉะนั้นแล้ว เฉกเช่นจักรพรรดิซีหวง ราชันแท้จริงจุนหวง พวกเขาคงไม่เดินทางมาร่วมงานประมูลในครั้งนี้อยู่แล้ว

แม้ว่าระดับผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆ แม้ว่าพวกเขาจะได้ตระเตรียมเงินทองอย่างเพียงพอก่อนที่จะเดินทางมาร่วมงานแล้วก็ตาม เมื่อนึกถึงว่าตนเองจะต้องแข่งกับพวกของราชันแท้จริงจุนหวง เทพสงครามจินเปี้ยน นาทีนี้พวกเขาพลันไม่มีความมั่นใจ พลันไม่มีความมั่นใจอย่างเพียงพออีก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เฉกเช่นผู้ดำรงอยู่ในฐานะเช่นจักรพรรดิซีหวงเช่นนี้ เกรงว่านางจะเป็นตัวแทนของพระอาจารย์จินกวงมาร่วมงานประมูลในครั้งนี้ ลำพังแค่กำลังความสามารถ กำลังทรัพย์ของจักรพรรดิซีหวงเอง ผู้อยู่ในเหตุการณ์ก็ยากที่จะต่อกรได้แล้ว บวกกับระดับปฐมบรรพบุรุษเช่นพระอาจารย์จินกวงเข้าไปอีกคน ลองถามดูว่า ยังจะมีผู้ใดกล้าต่อกรกับเขา?

ดังนั้น สิ่งที่จักรพรรดิซีหวงต้องการ มีไม่กี่คนที่กล้าแย่งชิงกับนางแล้ว เกรงว่านางต้องได้ไปแล้วล่ะ

“ในครั้งนี้จะต้องเป็นการศึกสงครามที่ไร้เสียง” มีผู้ที่มองเห็นผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากมายมาเข้าร่วมงานประมูล อดที่จะพูดเสียงแผ่วเบาว่า “พวกเราจะประมูลแค่ช่วงของครึ่งเวลาแรกก็แล้วกัน ช่วงครึ่งหลังแค่ดูชม”

เวลานี้ แม้ว่าหัวหน้าพรรคเหล่านั้นจะขนเงินทุนมาเต็มที่หลายสิบเท่า แต่ว่า นาทีนี้พลันไม่มีความมั่นใจอีกแล้ว พวกเขาต่างคิดจะเปลี่ยนแปลงนโยบายการประมูลอย่างเร่งด่วนแล้ว จะอย่างไรเสีย เทียบกับราชันแท้จริง และระดับคงความอมตะตลอดกาลแล้ว พวกเขาไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะต่อกรได้อยู่แล้ว

ในเวลานี้ บรรยากาศของลานประมูลก็ดูจะหนักแน่นขึ้นไม่น้อย ที่สบายๆ ก็คือบรรดาผู้ที่ไม่ได้คิดจะเข้าร่วมการประมูลเหล่านั้น พวกเขาไม่มีเงินเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว กระทั่งบางคนมีเงินเพียงพอที่จะซื้อบัตรผ่านประตูได้ใบหนึ่งเท่านั้น

กล่าวสำหรับพวกเขาที่เป็นเพียงคนที่เข้ามาชมดูความคึกครื้นล้วนๆ แล้ว ในใจของพวกเขาจะรู้สึกดีใจมากขึ้น เมื่อมีผู้ยิ่งใหญ่มาร่วมงานประมูลมากขึ้น และรู้สึกว่าคุ้มค่ากับบัตรผ่านประตูมากยิ่งขึ้น

ผ่าง ผ่าง ผ่าง…หลังจากผ่านไปชั่วครู่ใหญ่ เวทีประมูลปรากฏเสียงฆ้องดังขึ้นมาเป็นระลอก นาทีนี้หญิงสาวผู้ทำหน้าที่ดำเนินการประมูลที่มีบุคลิกลักษณะอันมีเสน่ห์ได้เดินนวยนาดขึ้นบนเวที ท่ามกลางทุกๆ อากัปกิริยาของนางล้วนแล้วแต่แลดูเป็นที่ดึงดูดใจอย่างยิ่ง ในสายตาของชายหนุ่มมองว่า ท่าทางที่สวยหยาดเยิ้มของนางเป็นการดึงเร้าวิญญาณ ถึงกับบังเกิดความกระสับกระส่ายสายหนึ่งที่ไม่อาจควบคุมได้ขึ้นในใจ

“ทุกท่าน งานการประมูลห้าปีครั้งของห้างเจียวเหิง เริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้” ทุกๆ อากัปกิริยาของหญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลเป็นที่ดึงดูดใจอย่างยิ่ง น้ำเสียงเปี่ยมด้วยแม่เหล็กรู้สึกสยิว ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ได้ยินน้ำเสียงของนางแล้วล้วนแล้วแต่รู้สึกอ่อนระทวยไปหมด ทำให้รู้สึกอยากจะลองสักหน่อย

กระทั่งมีกลุ่มคนรุ่นใหม่บังเกิดอาการต้องการกดตัวนางลงกับพื้นเวทีประมูลทันที

เป็นความจริงที่หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลผู้นี้มีเสน่ห์ที่ชวนให้หลงใหล เสมือนดั่งเป็นชนวนเหตุนำมาซึ่งความล่มสลายอย่างนั้น

“ช่วงครึ่งเวลาแรกเริ่มต้นขึ้น เชิญสินค้าประมูลชิ้นแรก” หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลทำหน้าเข้มดุดัน ท่าทางดูงดงามน่ารัก ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยมองเห็นแล้วต้องใจเต้นตูมตาม

ในเวลานี้เอง สินค้าประมูลขายชิ้นแรกถูกนำขึ้นมาแล้ว เป็นเตาสามขาโบราณชิ้นหนึ่ง

“เตาสามขานี้มาจากตระกูลขุนนางโบราณอันหยาง เป็นเตาสามขาวิเศษที่หลอมสร้างขึ้นโดยเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นสิบล้านชาติ ตัวของเตาสามขาทำจากโลหะปาเลี่ยนเชอะจิน ขาตั้งทำจากหยกเย็นม้อไป๋ หลอมสร้างโดยอาศัยเพลิงอันซิ เป็นสินค้าประมูลขายฝากโดยตระกูลขุนนางโบราณอันหยาง สนนราคาเริ่มต้นหนึ่งแสนศิลาแกร่ง รับเฉพาะศิลาแกร่งอมตะสิบล้านชาติ! เสนอราคาเพิ่มขึ้นครั้งละหนึ่งหมื่น” หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลพูดเสียงเจื้อยแจ้วไพเราะน่าฟัง

นี่แหละคือข้อดีของห้างเจียวเหิง สินค้าทุกชิ้นของห้างเจียวเหิงล้วนยืนยันได้ว่า จะไม่อาศัยสินค้าต่ำกว่ามาตรฐานมาเป็นของดี อาศัยของปลอมมาลวงว่าเป็นของแท้อย่างเด็ดขาด

กล่าวได้ว่า ขอเพียงเป็นสินค้าที่ออกจากห้างเจียวเหิงจะไม่มีของปลอม และไม่มีของที่ต่ำกว่ามาตรฐาน พันล้านปีที่ผ่านมา สินค้าของห้างเจียวเหิงล้วนแล้วแต่ยึดถือคำที่ว่า สินค้าแปรผันตามราคาสินค้า ราคาถูกไม่ได้ของดี ของดีราคาก็จะไม่ถูก

………………………………………………………….