Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2952 คัมภีร์สือหลันจิง

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2952 คัมภีร์สือหลันจิง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2952 คัมภีร์สือหลันจิง

ระหว่างการประมูลในช่วงครึ่งหลัง เจ้าถังเปิงที่เป็นทายาทเศรษฐีนับว่าน่าสนใจยิ่ง แม้ว่าเขาจะประมูลของวิเศษมาได้ชิ้นสองชิ้น ส่วนใหญ่แล้วกลับจะเป็นการแซะราคาประมูลเหล่านั้นเสียมากกว่า

หลังจากที่เขาจัดการแซะราคาประมูลเหล่านั้นไปจนถึงระดับที่สูงกว่ามาตรฐานแล้ว พลันหยุดเสนอราคาไม่ประมูลต่ออย่างกะทันหัน ทำให้ผู้ที่เสนอราคาตามต่อมาต้องโมโหจนกัดฟันกรอด

แม้ว่าผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้จะมาด้วยสินค้าประมูลเหล่านั้นจริงๆ พวกเขากระทั่งตั้งใจแล้วว่าจะต้องประมูลมาให้ได้กับสินค้าบางรายการ พวกเขาได้มีการเตรียมการมาอย่างดีเพื่อชนะประมูลในสินค้าชิ้นนั้นๆ มีการเตรียมเงินทุนมาอย่างเพียงพอ

แต่ทว่า เมื่อถูกถังเปิงป่วนเช่นนี้ ทำให้ราคาประมูลสุดท้ายสูงขึ้นไปกว่างบประมาณที่ผู้ซื้อได้ประเมินเอาไว้มากทีเดียว กระทั่งสูงกว่าหลายเท่าตัว บางอย่างสูงถึงสิบเท่าอย่างไร้เหตุผล

แล้วจะไม่ให้ผู้ซื้อเหล่านี้แค้นเคืองจนกัดฟันกรอดได้อย่างไร เมื่อเงินทองต้องไหลออกขนาดนี้

แต่ว่า ที่ตรงนี้กลับจะเป็นสถานที่ประมูลของห้างเจียวเหิง ทุกคนจึงทำอะไรกับทายาทเศรษฐีผู้นี้ มิฉะนั้นล่ะก็ หากเปลี่ยนเป็นที่อื่น ไม่แน่นักถังเปิงอาจถูกคนอื่นตัดแบ่งเป็นแปดชิ้นไปนานแล้ว

ถังเปิงที่เป็นทายาทเศรษฐีมีท่าทางที่เรียกได้ว่าข้านี่แหละมีเงิน ไม่เกรงกลัวใครทั้งสิ้น ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นราคาของใครเขาก็กล้าแซะ แม้แต่ขณะราชันแท้จริงหวงจุน ราชันแท้จริงเซิ่นซวงเข้าร่วมประมูล เขาก็จะเข้าไปแซะราคาให้สูงขึ้นทีหนึ่ง

แต่ว่า เจ้าหนูที่ดูเหมือนเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืนผู้นี้ก็มีไหวพริบอยู่นิดหนึ่งเหมือนกัน เขาเพียงแค่แซะราคาเพิ่มขึ้นน้อยๆ ไม่ได้แซะให้เพิ่มขึ้นอย่างไร้เหตุผล สำหรับการเข้าร่วมประมูลของราชันแท้จริงหวงจุน ราชันแท้จริงเซิ่นซวง

“ข้ายังรู้สึกสงสัยว่า ห้างเจียวเหิงเป็นผู้จ้างเจ้าหมอนี่มา” เมื่อกระบือดำขนาดใหญ่มองเห็นถังเปิงที่เป็นทายาทเศรษฐีเข้ามาป่วน ถึงกับพึมพำขึ้นมา

หลี่ชิเย่แค่ยิ้มๆ นิดหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ชิ้นที่จะประมูลต่อไปคือคัมภีร์โบราณที่หาได้ยากยิ่ง” จังหวะที่กระบือดำขนาดใหญ่กำลังพูด สินค้าชิ้นใหม่ถูกนำออกประมูลแล้ว

ในเวลานี้ มองเห็นจานรองที่งดงามเรียบง่ายแบบโบราณ มีคัมภีร์โบราณวางอยู่เล่มหนึ่ง โดยที่คัมภีร์โบราณเล่มนี้มีความเก่าแก่ยิ่งนัก คัมภีร์ทั้งเล่มออกเป็นสีเหลือง เหมือนว่าผ่านกาลเวลาที่นับไม่ถ้วน และจมอยู่ท่ามกลางกาลเวลาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

ด้วยคัมภีร์โบราณที่เก่าแก่โบราณยิ่งเล่มนี้เอง มันดูเหมือนจะสืบทอดพลังพุทธที่ไม่หาที่สุดไม่ได้ เหมือนว่าภายในคัมภีร์โบราณเล่มนี้แหละได้ซ่อนพระพุทธรูปสูงสุดเอาไว้ มันพร้อมจะทะลุออกมาจากกระดาษ

แม้ว่าคัมภีร์โบราณเล่มนี้ไม่ได้แผ่กระจายพลังพุทธะที่ปราศจากผู้ต่อกรออกมา แต่ว่า ขณะที่คัมภีร์โบราณเล่มนี้วางนอนอยู่กับจานรองเงียบๆ นั้น ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ว่ามีพุทธรูปโบราณนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้นอย่างนั้น

“คัมภีร์โบราณเล่มนี้มีชื่อว่า ‘คัมภีร์สือหลันจิง’ มันคือหนึ่งในสามคัมภีร์โบราณ” เวลานี้ผู้ดำเนินการประมูลหญิงได้กล่าวขึ้นช้าๆ

“ว่าไงนะ ‘คัมภีร์สือหลันจิง’ ! ” บรรดาผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในเหตุการณ์ซึ่งเป็นศาสนาพุทธต่างตกใจยิ่ง และกล่าวว่า “เป็น ‘คัมภีร์สือหลันจิง’ จริงรึ”

“ยินดีเปลี่ยนหากไม่แท้” ผู้ดำเนินการประมูลหญิงได้กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ ‘คัมภีร์สือหลันจิง’ คือหนึ่งในคัมภีริ์โบราณแรกเริ่มของศาสนาพุทธ ประเมินค่าไม่ได้ เก่าแก่โบราณยิ่งกว่าพระลังกาเสียอีก เคยมีตำนานว่า ก่อนที่พระลังกาจะบรรลุมรรค เคยศึกษา ‘คัมภีร์สือหลันจิง’ ฉบับที่ไม่สมบูรณ์ ภายหลังได้กลายเป็นปฐมบรรพบุรุษแห่งยุคที่ปราศจากผู้เทียบเทียม ก่อตั้งแดนพุทธ ดังนั้น คุณค่าของ ‘คัมภีร์สือหลันจิง’ เล่มนี้จึงไม่ต้องกล่าวมากความ”

บรรดาผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองตากันและกัน หลังจากฟังคำจากผู้ดำเนินการประมูลหญิงผู้นี้แล้ว โดยเฉพาะผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในศาสนาพุทธ มองดู ‘คัมภีร์สือหลันจิง’ เล่มนี้แล้วต่างอดที่จะดวงตาทั้งสองเป็นวาว และมีแววตาที่ร้อนผ่าว ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า พวกเขาก็มุ่งหมายมาที่ ‘คัมภีร์สือหลันจิง’

กล่าวสำหรับผู้ยิ่งใหญ่ของศาสนาพุทธแล้ว ‘คัมภีร์สือหลันจิง’ คือคุมภีร์โบราณสูงสุดของศาสนาพุทธ เป็นหนึ่งในสามคัมภีร์โบราณของศาสนาพุทธ มีผู้กลาวว่าศาสนาพุทธมีสามนิกาย หนึ่งในนิกายก็ถือกำเนิดมาจาก ‘คัมภีร์สือหลันจิง’

ลองจินตนาการดู ขณะพระลังกายังอยู่ในวัยเยาว์ ก็เคยทำความบรรลุ ‘คัมภีร์สือหลันจิง’ มา อีกทั้งยังเป็นเล่มที่ไม่สมบูรณ์ เขาก็ได้บวชเป็นพระ กลายเป็นปฐมบรรพบุรุษที่ยากจะหาผู้ใดเทียม สร้างแดนพุทธสูงสุดขึ้นมา

ลำพังด้านนี้ก็สามารถมองออกว่า ‘คัมภีร์สือหลันจิง’ เล่มนี้มีคุณค่าเช่นใด

แน่นอน เทียบกับระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิอื่นๆ แล้ว ความสนใจของพวกเขาที่มีต่อ ‘คัมภีร์สือหลันจิง’ ย่อมลดลงไม่น้อย จะอย่างไรเสีย ศาสนาพุทธมีเคล็ดวิชาที่ขัดแย้งกับระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจำนวนมาก

‘คัมภีร์สือหลันจิง’ เป็นสินค้าฝากประมูล ผู้ขายต้องการศิลาแกร่งเฉพาะระดับคงความอมตะตลอดกาลขั้นสมบูรณ์! ”

เริ่มต้นการประมูลด้วยราคายี่สิบล้าน เสนอเพิ่มครั้งละหนึ่งแสนขึ้น” ในเวลานี้ ผู้ดำเนินการประมูลหญิงได้แจ้งราคาประมูลขึ้นมา

“ยี่สิบล้าน เฉพาะศิลาแกร่งคงความอมตะตลอดกาล ขั้นสมบูรณ์ เพิ่มขึ้นครั้งละหนึ่งแสนขึ้น” ผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อยต่างส่ายหน้า

แม้ว่าจะมีผู้ยิ่งใหญ่บางคนสนใจใน ‘คัมภีร์สือหลันจิง’ เล่มนี้ แต่ว่า ด้วยราคาเช่นนี้นับว่าเกินไปแล้ว

ดูจากตรงนี้พอจะมองออกได้ว่า มีความเป็นไปได้ว่าผู้ขายจะเป็นระดับคงความอมตะตลอดกาลขั้นสมบูรณ์ หาไม่แล้วคงไม่มีเงื่อนไขเป็นศิลาแกร่งเช่นนี้

“ยี่สิบล้านหนึ่งแสน” แม้ว่าราคา ‘คัมภีร์สือหลันจิง’ เล่มนี้จะเกินเลยไปนิด แต่ว่า ยังคงมีผู้ยิ่งใหญ่ของศาสนาพุทธสนใจมัน

จะอย่างไรเสีย ‘คัมภีร์สือหลันจิง’ คือหนึ่งในคัมภีร์โบราณที่เป็นจุดเริ่มต้นของศาสนาพุทธ มันจึงมีมูลค่าสูงมาก

“ยี่สิบเอ็ดล้าน! ” ผู้ซื้อผู้นี้เพิ่งจะพูดขาดคำ ถังเปิงก็เสนอราคาไปทันที

ผู้ซื้อผู้นี้จ้องมองไปยังถังเปิงทันที แววตาที่จ้องเขม็งไปนั้นดุเดือดรุนแรงยิ่ง ถ้าหากที่นี่สามารถฆ่าคนได้ล่ะก็ เขาจะไม่ลังเลเลยที่จะจัดการเชือดเจ้าทายาทเศรษฐีนี่เสีย

“จ้องหน้าข้าทำไม” ถังเปิงยิ้มแต้และกล่าวว่า “ที่นี่คือห้างประมูล ใครเงินมาก คำพูดของคนนั้นก็ใช้ได้ หรือว่าเจ้าคิดจะแลกหมัดอย่างนั้น? คิดจะแลกหมัดกันก็ลองถามห้างเจียวเหิงก่อน”

ผู้ซื้อคนนี้พลันหมดอารมณ์ไปทันที มีไม่กี่คนที่กล้าทำกำเริบเสิบสานในห้างเจียวเหิง จะอย่างไรเสียห้างที่เชื่อมโยงไปทั่วแดนสามเซียนนี้ กำลังความสามารถลึกซึ้งยากจะหยั่งถึง ไม่ด้อยไปกว่าระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใดๆ

“ยี่สิบสองล้าน” หลังจากที่ถังเปิงเพิ่งจะเสนอราคาไป มองเห็นกุมารซ้ายหมิงหวังได้ถ่ายทอดคำพูดขึ้นมา นี่คือการเสนอราคาของหมิงหวังฝอ

ก่อนหน้านี้ เงาสะท้อนของหมิงหวังฝอไม่เคยร่วมประมูลเลยมาโดยตลอด นิ่งเงียบตลอดมา เวลานี้พลังออกปากเสนอราคาประมูล ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า หมิงหวังฝอมาด้วยเรื่องของ ‘คัมภีร์สือหลันจิง’

“ยี่สิบสองล้านหนึ่งแสน” ผู้ซื้ออีกคนได้เสนอราคา

“ยี่สิบห้าล้าน” ถังเปิงกล่าวด้วยท่าทียิ้มแต้

เสนอราคาเพิ่มขึ้นรวดเดียวสองล้านกว่า พลันทำให้ถังเปิงล่อสายตามาได้ไม่น้อย และเป็นสายตาที่จ้องมองถังเปิงอย่างไม่เป็นมิตร พวกเขาเคยเสียเปรียบมากมายด้วยฝีมือของถังเปิง

“ยี่สิบหกล้าน” เทียบกับถังเปิงที่เป็นทายาทเศรษฐีเช่นนี้ ด้านของหมิงหวังฝอระงับอารมณ์ได้ ได้เสนอราคาออกไปด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

“ยี่สิบเจ็ดล้าน” เขายังคงมีท่าทางเหมือนร่ำรวยเพียงชั่วข้ามคืนอย่างนั้น แม้จะประมูลแข่งกับหมิงหวังฝอแล้ว ข้าน่ะมีเงิน ไม่เห็นต้องกลัวใคร

“ยี่สิบแปดล้าน” ด้านของหมิงหวังฝอยังคงเรียบเฉยอย่างยิ่ง

“ยี่สิบเก้าล้าน” ถังเปิงยิ้มแต้และกล่าวว่า “คุณย่าบ้านข้าสวดมนต์ทุกวัน ข้าซื้อกลับไปเล่มหนึ่งให้ท่านได้ท่องดู”

“สามสิบล้าน” ด้านหมิงหวังฝอยังคงเปี่ยมด้วยความมั่นใจ แม้ว่าถังเปิงที่เป็นทายาทเศรษฐีและมีเงินมากกว่านี้ พวกเขาก็เรียบเฉยยิ่ง

“เจ้าคนร่ำรวยชั่วข้ามคืน เกรงว่าพวกเขารู้แล้วสิว่าที่ตนเองเผชิญคือวัดลังกาทั้งหมดกระมัง” มีผู้มองเห็นถังเปิงต้องการแข่งเสนอราคากับหมิงหวังฝอ มีผู้ถึงกับกล่าวและส่ายหน้า

“สามสิบเอ็ดล้าน” ถังเปิงยังคงเหมือนเป็นผู้มีเงินอย่างนั้น หันไปด้านของหมิงหวังฝอกล่าวพลางหัวเราะพลางว่า “พระโพธิสัตว์ พวกท่านล้วนแล้วแต่บรรลุมรรคแล้ว ใยจะต้องมาแย่งชิงคัมภีร์เล่มหนึ่งกับข้า”

กุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังมองถังเปิงอย่างดูแคลนสำหรับคำพูดของเขา กุมารซ้ายหมิงหวังเสนอราคาน้ำเสียงเย็นชา “สามสิบสองล้าน”

แม้ว่าราคานี้จะสูง แต่ว่า กล่าวสำหรับวัดลังกาแล้วยังรองรับมันได้ สมควรทราบว่าพวกเขาคือระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ หนึ่ง

“สามสิบสามล้าน” ถังเปิงกัดไม่ปล่อย

“หนึ่งร้อยล้าน…” ในขณะที่ถังเปิงเพิ่งจะเสนอราคาไป เสียงเชื่องช้าดังขึ้น

“อ้ายบ้า รวยล้านล้านลงมืออีกแล้ว” พลันที่ได้ยินร้อยล้านแล้ว ทุกคนไม่ต้องดูว่าเป็นใครแล้ว คนที่อ้าปากก็คือร้อยล้านนั้นทั้งลานมีเพียงคนเดียวเท่านั้นก็คือ หลี่ชิเย่

ทุกคนมองไป เป็นจริงตามคาด ผู้เสนอราคาก็คือหลี่ชิเย่ ทุกคนพลันมองไปด้วยความงุนงง

ในเวลานี้ หลี่ชิเย่ได้ฉายาที่ใหม่เอี่ยมอีกแล้ว รวยล้านล้าน เนื่องจากเขาเอะอะอ้าปากก็คือหนึ่งร้อยล้าน เรียกวาฆ่าทุกคนในพริบตาเดียว

“ว้าวเจ้าหนูคนนี้บ้าบิ่นเหลือเกิน เหมือนว่าเงินของเขาไม่มีจบไม่มีสิ้นอย่างนั้น” ทุกกคนล้วนแล้วแต่ตกใจ ถึงกับฮือฮาขึ้นมา

ในเวลานี้ ขณะผู้คนจำนวนมากมองไปที่หลี่ชิเย่ ในใจล้วนแล้วแต่รู้สึกงุนงง ทุกคนต่างคาดเดาว่าเจ้าหนูคนนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันแน่

“พี่ใหญ่ ข้ายอมท่านแล้ว” ถังเปิงตกมือทันที และกล่าวว่า “ข้า ถังเปิงมีแต่เงิน แต่ว่า เมื่อเปรียบกับพี่ใหญ่แล้ว เงินน้อยนิดของข้าไม่ไม่สามารถนับเป็นอะไรได้ ท่านเก่ง หนึ่งร้อยล้าน ข้าไม่สู้แล้ว

ในเวลานี้ กุมารซ้ายหมิงหวังและกุมารขวาหมิงหวังต่างจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ คราวก่อนขณะอยู่ในร้าน เป็นพวกเขาที่ถูกหลี่ชิเย่แย่งเอาพระพุทธรูปองค์หนึ่งไป เวลานี้หลี่ชิเย่ก็จะมาแย่งคัมภีร์สือหลันจิงอีก แล้วจะไม่ให้พวกเขาต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้อย่างไรเล่า

“เจ้าหนู ต่อให้เจ้ามีเงินก็เทียบไม่ได้กับวัดลังกาของพวกเรา” ในเวลานี้กุมารขวาหมิงหวังอดกลั้นไม่ไหว กล่าวน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมา

“สามร้อยล้าน” พลันที่กุมารขวาหมิงหวังพูดขาดคำ หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉย

“สามร้อยล้าน เจ้าหนูนี่บ้าไปแล้วกระมัง” ทุกคนต่างลิ้นจุกปากพูดอะไรไม่ออก ในเวลานี้ทุกกคนต่างงงงัน

“สามร้อยล้าน สามร้อยล้าน ยังมีผู้เสนอราคาหรือไม่? ” ในเวลานี้ ผู้ดำเนินการประมูลหญิงก็ตื่นเต้นจนจะไม่ไหวแล้ว เนื่องจากการลงมือทุกครั้งของหลี่ชิเย่ล้วนแล้วแต่สะเทือนเลื่อนลั่นทั้งสิ้น งานการประมูลครั้งนี้ ผลงานของนางเรียกว่าเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

เจ้า…เวลานี้ สีหน้าของกุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังแดงก่ำ กุมารซ้ายหมิงหวังกล่าวเสียงเย็นชาว่า “สิ่งนี้คือคัมภีร์โบราณของศาสนาพุทธของข้า ควรต้อนรับกลับไปยังวัดรังกา

“ห้าร้อยล้าน” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉย

“แม่จ๋า นี่ยังเป็นคนอีกรึ? เงินไม่ใช่เงินรึ? ” ในเวลานี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่อยู่ในลานประมูลลุกขึ้นยืน สถานการณ์ทั้งหมดพลันเดือดพล่านขึ้นมา

“ห้าร้อยล้าน ห้าร้อยล้าน ยังมีผู้เสนอราคาสูงกว่านี้หรือไม่? พุทธองค์ จะเสนอราคาอีกหรือไม่? ” ในเวลานี้ ผู้ดำเนินการประมูลหญิงตื่นเต้นจนใบหน้าแดงก่ำ อกที่อวบอัดยิ่งขึ้นลงไม่หยุด ยิ่งทำให้ดูหยบาดเยิ้มมากขึ้น แทบจะหลอมละลายแล้ว

ในขณะนี้ ทั้งกุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังถูกยั่วโมโหจนสีหน้าม่วงคล้ำ พูดไม่ออกเป็นเวลานาน เกือบจะกระอักเป็นเลือดออกมา

พลันที่เสนอราคาห้าร้อยล้านขึ้นมา ทำให้สถานการณ์แทบระเบิดขึ้นมา

………………………………………………………………………………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *