Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2981 หินลึกลับ

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2981 หินลึกลับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2981 หินลึกลับ

ผู้ที่อยู่ในงานต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน เมื่อได้ฟังคำเช่นนี้ของไท่อิ๋นสี่ ในฐานะที่ไท่อิ๋นสี่เป็นถึงระดับคงความอมตะตลอดกาลขั้นสูงสุด คำพูดของเขามีน้ำหนักมาก คำบอกเล่านี้ของเขามีน้ำหนักไม่ด้อยไปกว่าปฐมบรรพบุรุษ!

เวลานี้ ไท่อิ๋นสี่ก็บอกแล้วว่า ภัยพิบัติครั้งใหญ่ในอนาคตอาจมีความเป็นไปได้ว่ามาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ สิ่งนี้ย่อมทำให้ทุกคนไม่อาจไม่ให้ความสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น หินอุกาบาดจากนอกโลกในวันนั้นก็มาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่จริงๆ

“อุกาบาดผงาดฟ้าลอยเข้ามา มีเศษที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจำนวนนับไม่ถ้วนบินมาพร้อมกัน” ไท่อิ๋นสี่ได้กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “แม้ว่าเศษที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและหินอุกาบาดทั้งหมดล้วนแล้วแต่พุ่งเข้าไปยังท้องฟ้าด้านทิศเหนือที่สุดลูกหูลูกตา แต่ว่า มีเศษที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยชิ้นหนึ่งตกลงในด่านเทียนสงกวาน”

“มีเศษที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยตกลงในด่านเทียนสงกวาน” ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในงานต่างรู้สึกหวั่นไหวในใจเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ในเวลานี้มีบางคนถึงกับลุกขึ้นยืน

วันนั้น ขณะหินอุกาบาดพุ่งโจมตีเข้ามานั้น มันช่างสั่นสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนเหลือเกิน ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน ในตอนนั้นทุกคนต่างมองเห็นว่า นอกเหนือจากหินอุกาบาดขนาดใหญ่โตมโหฬารลูกนั้นแล้ว ยังมีเศษที่แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจำนวนนับไม่ถ้วนที่บินพุ่งโจมตีตามกันเข้ามากับลูกอุกาบาดดังกล่าว ภาพในครั้งนั้นช่างอลังการเช่นใด สร้างความสะเทือนหวั่นไหวเพียงใด

เวลานี้ไท่อิ๋นสี่ถึงกับบอกว่ามีเศษที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยตกลงสู่ด่านเทียยสงกวานอยู่ชิ้นหนึ่ง แล้วจะไม่สร้างความหวั่นไหวภายในใจของผู้คนได้อย่างไรเล่า จะอย่างไรเสีย ตอนนั้นทุกคนแทบจะวิ่งหนีเอาชีวิตรอดไม่ทัน ยังจะมีใครไปให้ความสนใจบรรดาเศษที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยซึ่งติดตามลูกอุกาบาดที่พุ่งโจมตีเข้ามาเล่า!

เวลานี้จะไม่ทำให้ทุกคนต้องตื่นตระหนกเป็นการใหญ่ได้อย่างไรเล่า เมื่อในขณะนี้ไท่อิ๋นสี่ถึงกับมีเศษหินที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนั่นอยู่ชิ้นหนึ่งในครอบครอง แล้วจะไม่ให้ทุกคนตื่นตระหนกได้อย่างไร

ใต้เท้าอิ๋น เศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยนั่น ใต้เท้าอิ๋นเป็นผู้สกัดจับได้รึ? ” ในเวลานี้มียอดฝีมือลุกขึ้นยืนและเอ่ยถามขึ้นมา

ทุกคนต่างก็รู้ว่า วันนั้นขณะลูกอุกาบาดพุ่งชนเข้ามานั้น ด่านเทียนสงกวานถือเป็นหนังหน้าไฟ เวลานั้นมีการเปิดแนวป้องกันขึ้นไปทั่วเทียนเชี่ยน เสมือนหนึ่งเป็นกำแพงเมืองจีนที่กั้นขวางอยู่ด้านหน้าแดนลัทธิเซียน เพื่อรับกับการพุ่งโจมตีของลูกอุกาบาด

แต่ทว่า สุดท้ายแล้วโชคดีที่เป็นเพียงการตื่นตูมไปโดยไม่จำเป็นหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ลูกอุกาบาดแค่วิ่งเฉียดด่านเทียนสงกวานไปเท่านั้น และมุ่งหน้าพุ่งไปยังท้องฟ้าด้านทิศเหนือที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา

“นี่แหละคือสิ่งที่ประหลาด” ไท่อิ๋นสี่กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ของชิ้นเล็กชิ้นน้อยนี้หาได้ถูกสกัดเอาไว้โดยอิ๋นสี่ มันบินตามลูกอุกาบาดมากลับแยกออกจากขบวนของเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยเมื่อบินมาถึงด่านเทียนสงกวาน และพุ่งเข้ามายังด่านเทียนสงกวานโดยลำพัง”

เมื่อไท่อิ๋นสี่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วหยุดนิดหนึ่ง แล้วกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “อีกทั้งของชิ้นเล็กชิ้นน้อยนี้ดูเหมือนสนิทกับแนวป้องกันของด่านเทียนสงกวานโดยไม่ถูกต่อต้าน มันบุกเข้ามาในด่านเทียนสงกวานอย่างราบรื่น อิ๋นสี่ได้มันมาด้วยความไม่เข้าใจอย่างยิ่ง

“ถึงกับมีเรื่องเช่นนี้” ผู้ที่อยู่ในงานต่างรู้สึกตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของไท่อิ๋นสี่ เมื่อด่านเทียนสงกวานเปิดระบบป้องกันภัย ทุกสิ่งทุกอย่างภายนอกก็ต้องถูกกันเอาไว้อยู่ด้านนอกด่านเทียนสงกวาน เศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยกลับสามารถฝ่าเข้ามายังด่านเทียนสงกวานได้ แล้วจะไม่ให้ทุกคนต้องตระหนกในใจได้อย่างไรเล่า

ตูม ตูม ตูมในเวลานี้เอง เสียงสั่นสะเทือนที่ทำให้รู้สึกอึดอัดดังขึ้น เวลานี้บนอากาศด้านนอกหอลอยฟ้าปรากฎแท่นกลมขนาดยักษ์ที่มีหินก้อนยักษ์วางอยู่ค่อยๆ ลอยขึ้นมา และปรากฎอยู่ตรงหน้าทุกๆ คน

“ทุกคนเชิญดู นี่ก็คือเศษชิ้นส่วนที่บินเข้ามายังด่านเทียนสงกวานในวันนั้น” หลังจากที่ไท่อิ๋นสี่ได้ให้ก้อนหันขนาดยักษ์นี้ลอยขึ้นมาแล้ว ได้กล่าวกับทุกคนที่อยู่ภายในงาน

ทุกคนทยอยกันเบิ่งตาจ้องมองไป มองเห็นก้อนหินก้อนนี้มีสีดำทั้งก้อน ไม่ทราบว่าตัวมันเองเป็นสีนี้ตั้งแต่เดิม หรือว่าถูกไฟโลกันตร์เผาผลาญจนกลายเป็นเช่นนี้

พื้นผิวก้อนหินก้อนนี้ไม่เป็นระเบียบ บนก้อนหินมีความขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อจำนวนมก ซึ่งบรรดาขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อเหล่านี้ไม่ทราบว่าเป็นร่องรอยเกิดจากดาบและกระบี่ หรือว่าเป็นร่องรอยเกิดจากการพุ่งชนกัน

จากหินก้อนนี้เมื่อพิจารณาให้ละเอียด บนหินก้อนนี้มีริ้วรอยขนาดจิ่ซอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อดูให้ระเอียด เหมือนมันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หาใช่เกิดจากการแกะสลักของชนรุ่นหลัง

“คือ คือก้อนหินก้อนนี้รึ? ” ในเวลานี้ได้สร้างความผิดหวังให้กับคนบางคน ที่มองเห็นหินก้อนที่ดูไม่สะดุดตา และไม่มีอะไรพิเศษก้อนนี้

จะอย่างไรเสีย ผู้คนจำนวนมากคิดว่าก้อนหินที่สามารถทำให้ไท่อิ๋นสี่ต้องจัดงานเลี้ยงผู้กล้าทั่วหล้าได้นั้น ต้องมีสิ่งที่ทำให้น่าตกใจแน่นอน นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเพียงสิ่งที่มองแล้วไม่มีอะไรสะดุดตา

“อิ๋นสี่ได้พิจารณามาแล้วสำหรับหินก้อนนี้ ในนั้นมีความลึกลับยิ่งนัก การที่มันสามารถบินเข้ามาในด่านเทียนสงกวานไม่ใช่เรื่องของความประจวบเหมาะ และไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” อาศัยความรู้อันตื้นเขินส่วนตัวของอิ๋นสี่ มันน่าจะเป็นสิ่งที่สุดยอดปฐมบรรพบุรุษผู้หนึ่งได้ทิ้งเอาไว้ เป็นความจงใจให้มันบินมาพร้อมๆ กับลูกอุกาบาด เกรงว่าการที่มันสามารถบินเข้ามายังด่านเทียนสงกวานได้ ก็เป็นความจงใจของปฐมบรรพบุรุษผู้นั้น บางทีปฐมบรรพบุรุษผู้นี้อาจจงใจส่งข่าวอะไรบางอย่างให้กับพวกเรา และหรือคงอะไรบางอย่างให้กับพวกเราที่เป็นทายาทรุ่นหลัง”

“เป็นเช่นนี้จริงรึ? ” ภายในใจของบรรดาผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากที่อยู่ในงานต่างหวั่นไหวในใจเมื่อไท่อิ๋นสี่พูดเช่นนี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยทยอยกันลุกขึ้นยืน และเปิดเนตรฟ้าเพื่อพินิจพิเคราะห์หินก้อนนี้อย่างละเอียด

“เป็นเช่นนี้จริงๆ ” ไท่อิ๋นสี่กล่าวด้วยความมั่นใจยิ่ง “การที่มันสามารถบินเข้ามาในด่านเทียนสงกวานได้ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ต้องมีระดับบรรพบุรุษส่งข่าวให้พวกเรา และหรือทิ้งอะไรบางอย่างให้กับพวกเรา ในห้วงหลายล้านปีที่ผ่านมา มีระดับปฐมบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรที่เข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่ ไม่เห็นจะต้องมีแต่ปฐมบรรพบุรุษที่เข้าไปแล้วก็หายไปอย่างไร้ข่าวคราว จะต้องมีปฐมบรรพบุรุษที่ทิ้งอะไรบางอย่างให้กับพวกเราแน่นอน”

“ข่าวนี้มีเหตุผล” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างทยอยกันมองตากันและกันทีหนึ่งเมื่อฟังการคาดการณ์เช่นนี้ของไท่อิ๋นสี่แล้ว ต่างรู้สึกว่าที่ไท่อิ๋นสี่พูดมาใช่จะไม่มีเหตุผล

ในรอบหลายล้านปีที่ผ่านมา มีปฐมบรรพบุรุษจำนวนเท่าไร ผู้ที่มีความปราดเปรื่องน่าทึ่งปราศจากผู้ต่อกรจำนวนเท่าไรที่หนุนเนื่องเข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่ไม่ขาด แต่ว่า ท้ายที่สุดทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่ได้กลับออกมา

แน่นอนที่สุด ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่เชื่อว่าบรรดาปฐมบรรพบุรุษ ผู้ที่มีความปราดเปรื่องน่าทึ่งปราศจากผู้ต่อกรเหล่านี้ล้วนเสียชีวิตทั้งหมดหลังจากเข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่แล้ว และหรือเสมือนดั่งวัวดินที่ลงไปในทะเลแล้วหายต๋อมไม่มีข่าวคราวใดๆ อีกเลย ต้องมีปฐมบรรพบุรุษที่หลังจากเข้าไปแล้ว จะต้องมีอะไรบางอย่างทิ้งเอาไว้ และหรือข่าวคราวบางอย่าง เพื่อเป็นการเตือนสติผู้มาทีหลัง และหรือคำแนะนำบางอย่างให้กับชนรุ่นหลัง

ไท่อิ๋นสี่ได้กล่าวขึ้นมาว่า “อิ๋นสี่ได้พินิจพิเคราะห์หินก้อนนี้มานานมากและไม่เข้าใจ ภายหลังพระอาจารย์จินกวงก็เคยมาสังเกตและศึกษาซึ่งกันและกันแล้วไม่กล้าสรุป เทพสงครามจินเปี้ยน และหมิงหวังฝอก็เคยทำการสังเกตและศึกษาหินก้อนนี้ซึ่งกันและกัน คิดว่าหินก้อนนี้บางทีอาจมีความสัมพันธ์บางอย่างกับลูกอุกาบาด ดังนั้น พวกเขาจึงได้เข้าไปยังท้องฟ้าด้านทิศเหนือก่อนผู้อื่น”

“พระอาจารย์จินกวงก็เคยสังเกตและศึกษาหินก้อนนี้มาก่อนแล้ว” ในเวลานี้ ภายในใจของทุกคนถึงกับหวั่นไหว และจ้องมองตากันและกัน เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของไท่อิ๋นสี่

“หินก้อนนี้ต้องมีความสัมพันธ์ยิ่งใหญ่แน่นอน” ไท่อิ๋นสี่มองดูทุกคนที่อยู่ภายในงาน และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “อิ๋นสี่ไม่เข้าใจ ดังนั้น จึงเชิญผู้คนทั่วหล้ามาร่วมกันไขปริศนาของหินก้อนนี้”

ในเวลานี้ทุกคนต่างก็นิ่งเงียบ ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี เมื่อได้ยินความต้องการของไท่อิ๋นสี่

“พระอาจารย์จินกวง หมิงหวังฝอพวกเขาก็ไขปริศนาไม่ได้ เกรงว่าพวกเราก็คงไม่มีกำลังมากพอจะช่วยอะไรได้ พวกเราจะไปมีความสามารถอะไรเล่า” ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งถึงกับหัวเราะเจื่อนๆ และส่ายหน้า

“เป็นเช่นนี้จริงๆ ” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างพยักหน้าเห็นด้วย และกล่าวว่า “พระอาจารย์จินกวงยอดเยี่ยมยากจะหาใดเทียมก็จนปัญญา เกรงว่าพวกเราก็คงไม่มีกำลังพอที่จะช่วยได้”

สิ่งนี้ใช่ว่าทุกคนจะดูถูกตัวเอง พระอาจารย์จินกวงนั้นอยู่ในฐานะที่แข็งแกร่งเช่นใด เขาเป็นผู้มีความปราดเปรื่องน่าทึ่งเพียงใด เกรงว่ายากจะหาผู้ใดต่อกรในเรื่องความรู้ประสบการณ์ ด้านพรสวรรค์ ด้านทักษะได้

หลังจากที่พระอาจารย์จินกวงสังเกตและร่วมศึกษาหินก้อนนี้แล้วก็ไขปริศนาไม่ได้ ไม่สามารถไขข่าวคราวที่ถูกส่งผ่านโดยหินก้อนนี้ได้ เช่นนั้นแล้ว พวกเขาห่างชั้นกับพระอาจารย์จินกวงมากทีเดียว ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะไขปริศนาของหินก้อนนี้ได้แล้ว

ลองถามดู มีใครบ้างที่อยู่ในงานกล้าบอกว่าตนเองนั้นเหนือกว่าพระอาจารย์จินกวง มีใครบ้างกล้าบอกว่าตนเองนั้นมีความรู้ประสบการณ์เหนือกว่าพระอาจารย์จินกวง ไม่ว่าใครก็ไม่มีความมั่นใจเช่นนี้

“พูดเช่นนี้ก็ไม่ถูก” ไท่อิ๋นสี่ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “ผู้ที่มีความแปลกประหลาด มีความสามารถพิเศษในหล้ามีมากดั่งดอกเห็ด ต่างมีอภินิหารเป็นของตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น หินก้อนดังกล่าวบินมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ มันจะต้องมาจากฝีมือของปฐมบรรพบุรุษท่านใดท่านหนึ่ง บางทีท่านอาจจะเป็นบรรพบุรุษของผู้หนึ่งผู้ใดที่อยู่ภายในงาน พวกเราไม่อาจบรรลุข่าวคราวที่ท่านทิ้งเอาไว้ บางที ในฐานะที่เป็นทายาทรุ่นหลังของท่านอาจเป็นไปได้ที่สามารถเข้าใจในข่าวคราวที่ท่านทิ้งเอาไว้ และบรรลุมันได้”

คำพูดเช่นนี้ของไท่อิ๋นสี่ทำให้ทุกคนถึงกับตะลึงงัน เมื่อได้สติกลับมาก็รู้สึกว่ามีเหตุผล

“มีความเป็นไปได้เช่นนี้” ทุกคนทยอยกันวิพากวิจารณ์ขึ้นมา เวลานี้ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในงานต่างรู้สึกว่าตนเองนั้นอาจมีโอกาสเช่นนี้

ผู้ที่สามารถนั่งอยู่ที่ตรงนี้ได้ล้วนแล้วแต่เป็นหนึ่งในผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งที่สุดของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิแต่ละแห่ง กระทั่งในบรรดาพวกเขามีจำนวนไม่น้อยที่เป็นทายาทรุ่นหลังของปฐมบรรพบุรุษพวกเขาทั้งสิ้น

ในเมื่อหินก้อนนี้มีความเป็นไปได้ที่ปฐมบรรพบุรุษคนใดคนหนึ่งทิ้งเอาไว้ ถ้าหากปฐมบรรพบุรุษผู้นี้จะส่งข่าวคราวให้กับทายาทรุ่นหลัง ย่อมมีจุดเปลี่ยนบางอย่างที่ทำให้สามารถอ่านออกได้ และหรือปฐมบรรพบุรุษผู้นี้ไม่ได้ส่งข้อมูลให้กับผู้อื่น แต่เป็นการส่งข้อมูลให้กับทายาทรุ่นหลังของตนนั่นแหละ

บางที ผู้อยู่ในงานคนใดคนหนึ่งก็คือทายาทของปฐมบรรพบุรุษผู้นี้ ไม่แน่ว่าบางทีเขาอาจสามารถอ่านข้อมูลของปฐมบรรพบุรุษผู้นี้ได้จริงๆ ก็เป็นได้

“ถ้าหากเป็นสิ่งที่ทิ้งเอาไว้ให้โดยปฐมบรรพบุรุษผู้หนึ่ง แล้วเป็นการทิ้งเอาไว้โดยปฐมบรรพบุรุษผู้ใดกันแน่? ” ในเวลานี้ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ทยอยกันวิพากวิจารณ์

“หินก้อนนี้อยู่บนลูกอุกาบาด จะต้องมีประโยชน์มากมายแน่นอน ไขปริศนานี้ได้ต้องนำความผาสุกให้กับแดนลัทธิเซียนแน่นอน” ในเวลานี้ เสียงที่มีความดุเดือดรุนแรงเสียงหนึ่งดังขึ้น

ได้ยินเสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ท่ามกลางหอลอยฟ้าพลันปรากฏร่างเงาสองสาย หนึ่งนั้นเปี่ยมด้วยพระธรรมไร้ขอบเขต อีกหนึ่งนั้นอานุภาพยากมีผู้ใดเทียม ยามที่ร่างเงาทั้งสองปรากฏพลันทำให้ผู้คนรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายที่พุ่งเข้ามาปะทะใบหน้า

“หมิงหวังฝอ เทพสงครามจินเปี้ยน” เมื่อผู้ที่อยู่ในงานมองเห็นร่างเงาที่ปรากฏขึ้นกะทันหันต่างทยอยกันลุกขึ้น และแสดงความเคารพพวกเขาทั้งสอง

“หมิงหวังฝอ และเทพสงครามจินเปี้ยนอาศัยร่างจำแลงกลับมาแล้ว” ไท่อิ๋นสี่พยักหน้า เมื่อมองเห็นร่างเงาทั้งสองสายนี้

เวลานี้ทุกคนจ้องมองไป เป็นร่างจำแลงของหมิงหวังฝอ เทพสงครามจินเปี้ยนจริงๆ ร่างจริงของพวกเขาไม่ได้กลับมา ยังคงอยู่ในท้องฟ้าทางด้านเหนือที่กว้างใหญ่ไพศาลนั่น

แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ต่อให้เป็นเพียงร่างจำแลงของหมิงหวังฝอ เทพสงครามจินเปี้ยนที่มาที่นี่ ยังคงแผ่กลิ่นอายที่แข็งแกร่งและปราศจากผู้ต่อกรขึ้นมา

………………………………………………………………………………………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *