Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2993 สร้างอาวุธ

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2993 สร้างอาวุธ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2993 สร้างอาวุธ

ทอดสายตามองออกไป มีแต่เพลิงเคลื่อนอยู่ทุกที่ ซึ่งก็คือเพลิงยันต์แห่งชีวิตนั่นเอง ที่ตรงนี้ก็คือโลกของเพลิงยันต์แห่งชีวิต เหมือนว่าเพลิงยันต์แห่งชีวิตทั่วหล้าล้วนแล้วแต่กำเนิดขึ้นจากที่ตรงนี้

ขณะที่ทอดสายตามองไปข้างหน้า ทุกๆ ที่ที่สายตาสามารถมองเห็นได้ล้วนมีแต่เพลิงยันต์แห่งชีวิตนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลิงยันต์แห่งชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนถึงกับคล้ายดั่งกิ้งกือที่เดินขยุกขยิกแล้ว ภาพเช่นนี้ช่างทำให้รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงมากเหลือเกิน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เท้าเหยียบเพลิงยันต์แห่งชีวิตที่หนาเตอะ ซึ่งเพลิงยันต์แห่งชีวิตบนพื้นอาจหนาถึงหลายสิบ หลายร้อยจ้าง กระทั่งหลายหมื่นจ้าง ด้วยเพลิงยันต์แห่งชีวิตมากมายขนาดนี้ใต้ฝ่าเท้านี้ที่ทั้งหมดเสมือนดั่งกิ้งกืออย่างนั้น การรับรู้กับสิ่งเหล่านี้ด้วยตนเองเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้คนรู้สึกสยองขวัญอย่างยิ่ง

เนื่องจากจะทำให้เกิดมโนภาพขึ้นมาว่า สิ่งที่เท้าของตนเหยียบอยู่นั้นก็คือภูเขาหนอนนับล้านล้านตัว มันช่างเป็นเรื่องที่น่าสยองขวัญเช่นใด? ผู้คนจำนวนมากที่ก้าวเดินอยู่บนพื้นดินที่แห้งผาก และหรือก้าวเดินบนเพลิงยันต์แห่งชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนแล้ว มันเป็นเรื่องที่ทำให้ขาทั้งสองข้างอดที่จะสั่นเทาตลอดเวลาไม่ได้ และหรือรู้สึกสะอิดสะเอียน

แต่ว่า เมื่อคุ้นเคยกับการดำรงอยู่ของเพลิงยันต์แห่งชีวิตแล้ว ก็จะรู้สึกถึงความแตกต่างเป็นพิเศษ รู้สึกสบายเป็นพิเศษ

เพลิงยันต์แห่งชีวิตเป็นเชื้อไฟชนิดหนึ่งที่พบเห็นได้ยากมาก มีอยู่น้อยมาก กระทั่งกล่าวในระดับหนึ่งได้ว่า มันคือเชื้อไฟที่นิยมความรุนแรงอย่างยิ่ง

ทว่า เมื่อพาตัวมาอยู่ ณ พื้นที่แห้งผากที่กว้างไกลเป็นพันเป็นหมื่นลี้ จะพบว่าไม่ได้รู้สึกร้อนแผดเผาอะไรนัก โดยเฉพาะขณะที่ก้าวเดินอยู่บนเพลิงยันต์แห่งชีวิตที่หนาเตอะนั้น จะไม่รู้สึกร้อนแผดเผาอะไร

ขณะที่ก้าวเดินบนเพลิงยันต์แห่งชีวิตที่หนาเตอะนั้น จะไม่รู้สึกว่าตนเองกำลังก้าวเดินอยู่บนเปลวไฟจำนวนนับไม่ถ้วน ตรงกันข้าม กลับจะรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนหาดทรายที่อ่อนนุ่มอย่างนั้น

เพลิงยันต์แห่งชีวิตที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าไม่เพียงไม่รู้สึกถึงร้อนแผดเผาแม้แต่น้อยเท่านั้น ตรงกันข้ามกลับรู้สึกเย็นสบายน้อยๆ และรู้สึกถึงความอ่อนนุ่ม เหมือนกำลังก้าวเดินอยู่บนหาดทราย ลมทะเลที่พัดมาเบาๆ รู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

ที่ยอดเยี่ยมเป็นพิเศษก็คือ ขณะที่ก้าวเดินอยู่บนเพลิงยันต์แห่งชีวิตนั้น ไม่เหมือนเป็นการเหยียบลงบนเปลวไฟ ไม่มีการตกหลุมอากาศ การเหยียบลงบนเพลิงยันต์แห่งชีวิตจะรู้สึกเหมือนเหยียบลงบนวัตถุจริงๆ มีพลังสะท้อนกลับที่นุ่มนวลคอยรองรับกับฝ่าเท้า ทำให้การก้าวเดินดูจะสบายเท้าเป็นพิเศษ

การก้าวเดินบนพื้นดินที่แห้งผากของหลี่ชิเย่ก็เป็นการเสพสุขกับความรู้สึกเช่นนี้ ก้าวเดินกันไปกระทั่งเหมือนหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับพื้นแผ่นดินแห้งผากไปแล้ว ด้วยเหตุนี้เอง ภายในระยะเวลาอันสั้น เพลิงยันต์แห่งชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนก็ได้ปีนป่ายไปทั่วร่างของหลี่ชิเย่ไปแล้ว

เป็นความจริงที่เพลิงยันต์แห่งชีวิตคือเชื้อไฟประเภทหนึ่ง แต่ว่า มันก็ดำรงอยู่ในฐานะสิ่งมีชีวิตอย่างนั้น

ถ้าหากว่าเจ้าไม่ให้การต้อนรับเพลิงยันต์แห่งชีวิต และหรือไม่ชอบในเพลิงยันต์แห่งชีวิต มันก็จะออกห่างเจ้าไปให้ไกล ไม่มาใกล้ชิดสนิทสนมด้วย แต่ว่า เมื่อเจ้าชื่นชอบในเพลิงยันต์แห่งชีวิต และหรือสนิทสนมกับเพลิงยันต์แห่งชีวิต เพลิงยันต์แห่งชีวิตก็สามารถรับรู้ได้เป็นพิเศษ พวกมันก็สามารถให้ความสนิทสนมยิ่ง ภายในระยะเวลาอันสั้น เพลิงยันต์แห่งชีวิตจำนวนมากก็จะไต่ขึ้นบนตัวของเจ้า

เฉกเช่นหลี่ชิเย่อย่างนั้น เวลานี้ใช่เพียงแต่เพลิงยันต์แห่งชีวิตทั้งหมดเมื่อขึ้นไปอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่แล้วก็ไม่ไปไหนอีกแล้ว เพลิงยันต์แห่งชีวิตได้ไต่จากด้านหน้าของหลี่ชิเย่แล้วไต่ลงจากด้านหลัง

จากการก้าวเดินไปของหลี่ชิเย่ ตลอดทางที่ก้าวเดินไปนั้น เพลิงยันต์แห่งชีวิตปกคลุมตัวของเขาได้รวดเร็วมาก เมื่อมองดูจากระยะไกลๆ ก็จะพบว่า เปลวไฟเสมือนดั่งสายน้ำไหลที่เหลผ่านบนตัวของหลี่ชิเย่อย่างนั้น

ขณะที่เพลิงยันต์แห่งชีวิตไหลผ่านบนตัวของหลี่ชิเย่นั้น หากจะบอกว่าพื้นแผ่นดินแห้งผากเปรียบเสมือนดั่งแม่น้ำสายหนึ่งล่ะก็ เช่นนั้นแล้วหลี่ชิเย่ก็เสมือนหนึ่งเป็นก้อนหินที่อยู่ท่ามกลางแม้น้ำด้วยความมั่นคงไม่หวั่นไหว รองรับการชะล้างของน้ำในแม่น้ำจำนวนนับไม่ถ้วน

แน่นอนที่สุด หากเดินเข้าไปใกล้แล้วเห็นเพลิงยันต์แห่งชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนที่ไต่อยู่บนตัวของหลี่ชิเย่แล้ว บางทีอาจต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึง เหมือนเป็นหนอนนับพันนับหมื่นตัวที่คืบคลานอยู่บนตัว ทำให้มีอาการตัวชาไปทั้งตัว และขนลุกซู่ไปทั่วตัว

แต่ว่า หลี่ชิเย่ดูจะเสพสุขกับขั้นตอนเช่นนี้ จากการที่เพลิงยันต์แห่งชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนไต่ข้ามตัวของเขาไปนั้น เขาไม่เพียงเหมือนได้หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับผืนแผ่นดินแห้งผากทั้งหมดเท่านั้น แม้แต่เพลิงยันต์แห่งชีวิตทั้งหมดก็ไม่ได้ถือว่าเขาเป็นบุคคลภายนอก และหรือเป็นผู้บุกรุก

ไม่ว่าจะเป็นเพลิงยันต์แห่งชีวิตกองไหนที่ไต่ข้ามร่างกายของหลี่ชิเย่ไป ล้วนแล้วแต่ดูเป็นธรรมชาติอะไรอย่างนั้น เหมือนว่าภาพเช่นนี้แหละจึงสอดคล้องกับคำว่าฟ้าคนรวมเป็นหนึ่ง บรรลุมรรคโดยธรรมชาติ

หลี่ชิเย่ที่ก้าวเดินอยู่บนผืนแผ่นดินแห้งผากไม่รู้ว่านานเท่าไรแล้ว ในที่สุดเขาก็ได้มาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว

นี่คือภูเขาที่สูงใหญ่ยิ่งลูกหนึ่ง เพลิงยันต์แห่งชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนก็คลานออมาจากภูเขาลูกที่สูงใหญ่ลูกนี้แหละ

เมื่อขึ้นไปบนยอดเขาก็จะพบว่า ภูเขาลูกนี้คล้ายเป็นภูเขาไฟลูกหนึ่ง บนยอดเขามีถ้ำแห่งหนึ่ง เพลิงยันต์แห่งชีวิตที่ไม่มีสิ้นสุดได้ทะลักออกมาจากถ้ำลักษณะเช่นนี้นั่นแหละ

จากระยะที่ห่างไกลมากๆ มองออกไป ภูเขาที่สูงใหญ่ลูกนี้ดูไปแล้วบางทีอาจคิดว่ามันคือภูเขาไฟลูกหนึ่ง มันได้พวยพุ่งลาวาสีแดงนับไม่ถ้วนออกมา และลาวาที่แดงชาดได้ไหลรินไปทั่วพื้นปฐพี และลาวาที่ไม่มีสิ้นสุดได้ไหลนองท่วมผืนแผ่นดินจนจมมิด

แต่ว่า หากเจ้าเดินเข้าไปดุใกล้ๆ ก็จะรู้สึกว่ามันน่าสยองขวัญยิ่งนัก และรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง

จะพบว่าบนยอดเขาของภูเขาลูกนี้มีหนอนสีแดงชาดตัวน้อยๆ จำนวนนับไม่ถ้วนที่คลานออกมา ถ้ำหินบนยอดเขาก็คล้ายดั่งเป็นรังของหนอนตัวน้อยอย่างนั้น หนอนตัวน้อยๆ ล้วนแล้วแต่ถือกำเนิดขึ้นจากภายในถ้ำแห่งนี้ จากนั้นคลานไปทั่วพื้นที่ทั้งไหมด

การที่มองเห็นเพลิงยันต์แห่งชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนที่คล้ายดั่งหนอนตัวเล็กๆ คลานออกมาจากถ้ำหินนั่น ไม่เพียงส่งผลให้ผู้คนต้องขนหัวลุกเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ทำให้ในใจของผู้คนอยากรู้ออยากเห็นขึ้นมา ด้านล่างถ้ำหินที่เหมือนเป็นรังของหนอนแห่งนี้มีขนาดใหญ่แค่ไหนกันแน่นะ และมีไข่หนอนอยู่จำนวนเท่าไรก็แน่

ในเวลานี้บางทีอาจมีผู้ที่จินตนาการไปแล้วว่า บางทีใต้พื้นดินทั้งหมดได้กลายเป็นรูของหนอนที่น่ากลัวไปจนหมดสิ้นแล้ว หนอนที่ไม่มีสิ้นสุดล้วนคลานออกมาจากที่ตรงนั้น

ยืนอยู่ด้านหน้าถ้ำหิน มองดูเพลิงยันต์แห่งชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนที่ทะลักออกมาจากถ้ำหิน หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “นี่แหละคือต้นกำเนิดพลังของเทียนเชี่ยน มีเพียงการเคลื่อนไหวของเพลิงยันต์แห่งชีวิตที่ไม่มีสิ้นสุดนี้ จึงสามารถค้ำยันให้เทียนเชี่ยนยืนหยัดอยู่ได้เป็นพันล้านปีโดยไม่ล้มลง”

ในยุคสมัยที่ยาวนานมาก ขณะปรัชญาเมธีก่อสร้างเทียนเชี่ยนนั้น พวกเขาเลือกทำเลที่ตั้งที่พื้นที่ไกลกันดาร นั่นเป็นเพราะมีสาเหตุหลายๆ ประการ หนึ่งในนั้นที่สำคัญที่สุดก็คือ ที่ตรงนี้มีต้นกำเนิดของเพลิงยันต์แห่งชีวิต เมื่อมีพลังลักษณะเช่นนี้คอยค้ำยันเอาไว้ จึงทำให้เทียนเชี่ยนยืนหยัดได้เป็นล้านล้านปี ผ่านกาลเวลามานับไม่ถ้วนก็ยังคงยืนหยัดได้ไม่ล้มลง

ในเวลานี้ หลี่ชิเย่ได้นั่งอยู่ด้านหน้าของถ้ำหิน และหยิบสิ่งของสิ่งหนึ่งออกมา วางมันเข้าไปในถ้ำหิน

สิ่งของชิ้นนี้ปรากฏประกายแวบวับ เหมือนมีประกายที่ไม่มีสิ้นสุดต้องการพุ่งทะลุออกมาจากด้านใน เหมือนว่าด้านในของชิ้นนี้มีสิ่งมีชีวิตกำลังบ่มฟักอยู่

เมื่อสิ่งของชิ้นนี้ได้ตกลงไปในถ้ำแล้ว ทันใดนั้นเอง เพลิงยันต์แห่งชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนได้ลุยเข้าไป เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น บนสิ่งของชิ้นนี้ก็เต็มไปด้วยเพลิงยันต์แห่งชีวิต ทีละชั้นๆ เหมือนว่าเพลิงยันต์แห่งชีวิตต้องการห่อหุ้มมันเป็นชั้นๆ เอาไว้ โดยตลอดขั้นตอนดังกล่าวไม่มีทีท่าว่าจะหยุดนิ่ง

ภายในระยะเวลาอันสั้น หลังจากที่สิ่งของชิ้นนี้ถูกเพลิงยันต์แห่งชีวิตห่อหุ้มเอาไว้แล้ว กลับกลายเป็นมีขนาดใหญ่ขึ้น ๆ ดูไปแล้วเหมือนเป็นลูกบอลไฟขนาดยักษ์อย่างนั้นและลูกบอลไฟลูกนี้ยังขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

จากการที่สิ่งของสิ่งนี้ถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยเพลิงยันต์แห่งชีวิตนับไม่ถ้วน เหมือนว่าสิ่งของสิ่งนี้กำลังเริ่มหลอมละลายอย่างนั้น กระทั่งสามารถได้ยินเสียงเผาไหม้ดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดขึ้นมาลางๆ

ภายใต้การห่อหุ้มด้วยเพลิงยันต์แห่งชีวิตนับไม่ถ้วน เหมือนว่าเพลิงยันต์แห่งชีวิตต้องการเผาเปลือกนอกของสิ่งของสิ่งนี้ทิ้งไป

จากการที่เปลือกนอกของสิ่งของชิ้นนี้ถูกเผาไหม้ไปอย่างช้าๆ ข้างในปรากฏเสียงลมพายุและสายฟ้าออกมาลางๆ กระทั่งได้แผ่อานุภาพสวรรค์ที่น่ากลัวออกมา

ถูกต้อง นี่คืออานุภาพสวรรค์ เหมือนว่าเป็นอานุภาพสูงสุดที่ถูกส่งลงมาจากสวรรค์ อานุภาพเช่นนี้สามารถสังหารเหล่าเทพ และราชันได้ น่าหวาดผวายิ่งนัก

หลี่ชิเย่รู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่งเมื่อรับรู้ถึงอานุภาพสวรรค์ที่ส่งออกมาจากด้านใน เนื่องจากเป็นสิ่งที่เขาต้องการนั่นเอง

“สมควรสร้างอาวุธที่เหมาะมือสักเล่มหนึ่งได้แล้ว” หลี่ชิเย่ที่มองดูสิ่งของลักษณะเช่นนั้นค่อยๆ ถูกหลอมละลายเอาเปลือกชั้นนอกออกไป ยิ้มเรียบเฉยทีหนึ่ง

สิ่งของชิ้นนี้เรียกได้ว่ามีประวัติความเป็นมาไม่ธรรมดา ตลอดเวลาที่ผ่านมา หลี่ชิเย่ไม่สามารถหลอมสร้างให้มันกลายเป็นอาวุธได้ยอย่างแท้จริง มาวันนี้ในที่สุดหลี่ชิเย่ก็จะได้หลอมสร้างมันให้เป็นรูปเป็นร่างได้แล้ว

สิ่งของชิ้นนี้เป็นสิ่งของที่ได้มาจากตระกูลขุนนางโบราณฉีหลิน ในครั้งนั้น หลังจากที่เซียนอ๋องเย่หลินได้เดินทางไกลเพื่อปราบปรามแล้ว มีหินที่สีดำสนิทชิ้นหนึ่งลอยเข้าบ้านตระกูลขุนนางโบราณฉีหลิน

เพียงแต่ว่าช่วงเวลายุคหลังที่ยาวนานมาก ยอดฝีมือทุกคนของตระกูลขุนนางโบราณฉีหลินล้วนแล้วแต่ไม่รู้ว่าสิ่งของชิ้นนี้มีประโยชน์อะไรกันแน่ ยอดคนของตระกูลขุนนางโบราณฉีหลินแต่ละรุ่นล้วนแล้วแต่เคยพิจารณาพินิจพิเคราะห์สิ่งนี้มาก่อน แต่ว่า ก็ไม่ประสบผลอะไรแต่อย่างใด แต่ว่า พวกเขาต่างก็รู้ว่าของสิ่งนี้จะต้องมีประโยชน์มากแน่นอน

กระทั่งภายหลังหลี่ชิเย่ได้นำสิ่งของชิ้นนี้มาจากตระกูลขุนนางโบราณฉีหลิน

หลี่ชิเย่เคยอาศัยอภินิหารสูงสุดมาเผาชั้นหินของก้อนหินสีดำก้อนนี้ ทำให้มันเผยธาตุแท้ออกมา สิ่งของชิ้นนี้ส่งประกายแวบวับทำให้ไม่กล้าจ้องมองใกล้ๆ

แต่ทว่า หากต้องการหลอมสร้างมันอย่างแท้จริงล่ะก็ จำเป็นต้องอาศัยเคล็ดวิชาที่ยิ่งใหญ่ และมีเงื่อนไขมากมาย

มาวันนี้หลี่ชิเย่ได้มายังที่นี่ก็เพื่อต้องการหยิบยืมเอาเพลิงยันต์แห่งชีวิตที่มีอยู่ไม่ขาดสายมาทำการหลอมสร้างมันให้ก้าวไปอีกขั้น เขาต้องการหลอมสร้างสิ่งของชิ้นนี้ให้กลายเป็นอาวุธที่ปราศจากผู้ใดเทียมในหล้า

สมควรแก่เวลาที่เขาต้องออกเดินทางแล้ว ดังนั้น เขาจำเป็นต้องมีอาวุธที่แข็งแกร่งและใช้ได้ทนนานยิ่ง ซึ่งอาวุธลักษณะเช่นนี้จะต้องล้ำเลิศเหนือกว่าทุกสิ่ง

แน่นอนที่สุด คิดจะสร้างอาวุธขึ้นมาสักเล่มหนึ่งเป็นเรื่องที่ยากเย็นอย่างยิ่ง และเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยระยะเวลาที่ยาวนานอย่างยิ่ง แต่ว่า หลี่ชิเย่มั่นใจว่าสามารถสร้างอาวุธเล่มนี้ได้สำเร็จ

ครั้นเพลิงยันต์แห่งชีวิตได้ขึ้นไปเกาะจนเต็ม และหลอมละลายไปพอสมควรแล้ว ในเวลานี้เอง หลี่ชิเย่ได้หยิบสิ่งของชิ้นนี้ออกมา และหยิบเอาเตาหมื่นเตาเทวะขึ้นมา

ตูมเสียงหนึ่งดังขึ้น หลี่ชิเย่ได้ขับเคลื่อนไฟที่อยู่ในเตา นำสิ่งของชิ้นนี้โยนลงไปในเตา ไฟที่อยู่ในเตาพลันห่อหุ้มสิ่งของชิ้นนี้เอาไว้

ในเวลานี้เอง ความอัศจรรย์ได้เกิดขึ้น มองเห็นเพลิงยันต์แห่งชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนได้ปีนเข้าไปในเตาหมื่นเตาเทวะ พวกเขาได้กลับกลายเป็นไฟที่อยู่ในเตา อาศัยอานุภาพที่ยิ่งใหญ่ขับเคลื่อนไฟในเตา ทำการหลอมสร้างสิ่งของชิ้นนี้

ตูม ตูม ตูมในพริบตาเดียวนั่นเอง เสมือนดั่งภูเขาไฟจากโลกหมื่นพันระเบิดขึ้นมาพร้อมกันอย่างนั้น ไฟในเตาที่ทรงพลังปราศจากผู้เทียบเทียมพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

นาทีนี้เรื่องราวปาฏิหาริย์ที่น่าตื่นตระหนกเกิดขึ้น เพลิงยันต์แห่งชีวิตทั้งหมดคล้ายเป็นน้ำขึ้นที่ไหลทะลักเข้ามาอย่างนั้น ปีนเข้าไปในเตาหมื่นเตาเทวะ ทำการหลอมสร้างสิ่งของชิ้นนี้อย่างบ้าคลั่ง

ถ้าหากมีใครที่สามารถมองเห็นภาพนี้ล่ะก็ มันช่างสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนเหลือเกิน

………………………………………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด