Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2994 ของที่ลอยมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2994 ของที่ลอยมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2994 ของที่ลอยมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่

ระหว่างที่หลี่ชิเย่รั้งอยู่ต้นทางของเทียนเชี่ยนเพื่อหลอมสร้างอาวุธอยู่นั้น ด่านเทียนสงกวานเงียบสงบมาก แต่ว่า ยังคงมีผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากไม่ได้จากไป เช่นราชันแท้จริงหวงจุน ราชันแท้จริงเซิ่นซวงพวกเขายังคงรั้งอยู่ที่ด่านเทียนสงกวาน

แต่ว่า ความเงียบสงบของด่านเทียนสงกวานถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว

“ดูนั่น ดูเร็วเขา นั่นมันคืออะไร? ” มาวันนี้ มีผู้ร้องเสียงหลงขึ้นมา และชี้ไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ที่อยู่ห่างไกล

ผู้คนจำนวนไม่น้อยถูกทำให้แตกตื่น ต่างทยอยกันมองออกไป แรกทีเดียวผู้คนจำนวนมากยังมองเห็นไม่ชัดเจนว่ามันคืออะไร กระทั่งมีผู้ที่มองไม่เห็นสิ่งใดๆ เลย

“ไม่เห็นมีอะไรเลย ทำกระต่างตื่นตูมทำไม” มีผู้ที่บ่นอุบขึ้นมา

“มองดูให้ละเอียดอีกครั้ง ลอยออกจากทะเลปุ๊ตู้ไห่แล้วล่ะ จุดดำๆ นั่น เห็นรึยัง” ผู้ที่พบเห็นเป็นคนแรกชี้ไปทางด้านนั้น และพูดชัดเจนมากแล้ว

ผู้คนจำนวนไม่น้อยเปิดเนตรฟ้าและมองดูให้ละเอียด ในที่สุดก็มองเห็นสิ่งที่คนผู้นั้นชี้ให้ดูแล้ว

นั่นเป็นเพียงไม้กระดานแผ่นหนึ่งเท่านั้นเอง เป็นไม้กระดานแผ่นหนึ่งที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก อีกทั้งยังเป็นแผ่นกระดานที่ขาดสองท่อนไปแล้ว เวลานี้เหลือเพียงครึ่งท่อนที่ลอยออกมา อีกครึ่งหนึ่งไม่ทราบว่าได้ลอยไปที่ใดแล้ว

“แค่ไม้กระดานแผ่นเดียวเท่านั้นเอง คู่ควรให้ต้องทำกระต่ายตื่นตูมรึ? ” มีบางคนไม่เห็นด้วยกับสิ่งนี้หลังจากที่มองเห็นไม้กระดานเช่นนี้แผ่นหนึ่งแล้ว โดยยังนึกไม่ถึงเรื่องที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น เห็นว่าแค่ไม้กระดานแผ่นหนึ่งเท่านั้น ไม่เห็นจะมีอะไรหนักหนา

แต่ว่า กลับมีผู้ยิ่งใหญ่นึกถึงเรื่องที่ลึกซึ้งมากกว่า มีผู้ถึงกับกล่าวว่า “ไม่มีอะไรหนักหนารึ? นอกเหนือจากลูกอุกาบาตรยักษ์ในครั้งนั้นแล้ว ทะเลปุ๊ตู้ไห่มีอะไรลอยออกมาตั้งแต่เมื่อใดกัน? ”

พลันที่คำๆ นี้ถูกพูดขึ้นมา ได้เตือนสติให้กับทุกคน ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดต่างรู้สึกหวั่นไหวในใจเมื่อได้ยินคำพูดคำนี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้าซึ่งกันและกันในเวลานี้

นั่นสิ นอกเหนือจากลูกอุกาบาตรขนาดยักษ์ที่ลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ในครั้งก่อนแล้ว ทะเลปุ๊ตู้ไห่เคยมีสิ่งใดลอยออกมาตั้งแต่เมื่อใดกัน อย่าว่าแต่คนเป็นเลย แม้แต่แผ่นไม้ที่แตกหักสักชิ้นยังไม่มีเลย

แต่แล้ว มาวันนี้กลับมีแผ่นไม้แตกหักแผ่นหนึ่งลอยออกมา เหมือนว่ามันมีความหมายที่แตกต่าง

ในเวลานี้ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน หลังจากประสบเหตุการณ์การพุ่งชนเข้ามาของลูกอุกาบาตยักษ์ครั้งก่อน ภายในใจของทุกคนล้วนไม่ค่อยสบายใจกันนัก ต่างมีความกังวล และผู้คนจำนวนไม่น้อยเริ่มไม่เป็นสุข

ในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา มีระดับปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริง ชั้นคงความอมตะตลอดกาลจำนวนเท่าไรที่เดินทางเข้าไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ สุดท้ายแล้วต่างสูญหายไปท่ามกลางทะเลที่สุดลูกหูลูกตานั่น ปราศจากข่าวคราวนับแต่นั้นเป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็นใครที่เข้าไปแล้วก็จะปราศจากสิ่งใดออกมาอีกเลย

รอบพันล้านปีที่ผ่านมา เหมือนว่าได้กลายเป็นความรู้ทั่วไปสำหรับทุกคนไปแล้ว ทุกคนต่างคิดว่าทะเลปุ๊ตู้ไห่นั้นเข้าได้อย่างเดียวไม่มีกลับออกมา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตามที่เข้าไปแล้ว ท้ายที่สุดก็จะไม่มีสิ่งใดออกมาอีกเลย

แต่ทว่า นับตั้งแต่มีลูกอุกาบาตรบินมาครั้งก่อน พลันทำลายความรู้ทั่วไปที่มีต่อทะเลปุ๊ตู้ไห่ไป ในที่สุดก็มีสิ่งที่ลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่หลังจากกี่ปีผ่านมาแล้ว แต่ว่า ลูกอุกาบาตเช่นนี้ที่พุ่งชนเข้ามาเกือบชนเอาเทียนเชี่ยนจนแหลกละเอียดไป

เวลานี้ ทะเลปุ๊ตู้ไห่ปรากฏแผ่นไม้แตกหักลักษณะเช่นนี้แผ่นหนึ่งที่ลอยออกมาอีก มาคราวนี้พลันทำให้ภายในใจผู้คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในเหตุการณ์รู้สึกหนักอื้ง

“จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นรึ? ” เทพแท้จริงขั้นอมตะอดที่จะพึมพำขึ้นมาด้วยจิตใจที่หนักอึ้ง

กี่ปีมาแล้วที่ทะเลปุ๊ตู้ไห่มีแต่ความเงียบสงบ แต่ว่า เวลานี้พลันปรากฏแผ่นไม้แตกหักแผ่นหนึ่งลอยออกมา ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเป็นเป็นลางบอกเหตุล่วงหน้าที่ไม่ดียิ่งนัก

“ดูนั่น มีของลอยออกมาอีกแล้ว” ในเวลานี้ มีผู้ที่ร้องเสียงดังขึ้นมาอีก

ทุกคนทยอยกันมองตามไป เป็นจริงดังว่า ในเวลานี้มีเศษชิ้นส่วนจำนวนไม่น้อยได้ลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ช้าๆ ทุกคนมองดูอย่างละเอียดพบว่า สิ่งที่ลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ทะเลปุ๊ตู้ไห่ล้วนแล้วแต่เป็นเศษชิ้นส่วนทั้งสิ้น บ้างเป็นเศษชิ้นส่วนของไม้กระดาน บ้างเป็นเศษชิ้นส่วนโลหะ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้แตกละเอียดรุนแรงมาก และผ่านยุคสมัยที่ยาวนานมาก ไม่สามารถมองออกรูปลักษณ์ดั้งเดิมของมันได้อีก

แต่ว่า หลังจากผ่านการแยกแยะอย่างละเอียดแล้ว ยังคงมีผู้ที่สามารถคาดคะเนตามหลักเหตุผลออกมาได้เลือนราง

“หรือว่า นี่ นี่เศษชิ้นส่วนของเรือและหรือเรือน้อย” ระดับคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้นหลังจากได้พิจารณาพินิจพิเคราะห์มาครู่ใหญ่แล้ว ถึงกับกล่าวด้วยความมั่นใจขึ้นมา

“เศษชิ้นส่วนของเรือและหรือเรือน้อย? ” ผู้คนจำนวนไม่น้อยมองหน้ากันและกันทีหนึ่ง เมื่อได้ยินกีคาดคะเนตามลักเหตุผลเช่นนี้แล้ว ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะที่เป็นรุ่นอาวุโสยิ่งถึงกับต้องใจหายใจคว่ำ

“ดูเหมือนว่าพันล้านปีที่ผ่านมา มีราชันแท้จริงกระทั่งปฐมบรรพบุรุษจำนวนไม่น้อย ล้วนแล้วแต่โดยสารเรือเข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่อยู่แล้ว” ไม่รู้ว่าเป็นใครที่พูดคำนี้ขึ้นมาเบาๆ

เมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกมาพลันทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องขนหัวลุก ในเวลานี้มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มีสีหน้าเปลี่ยนไป อดที่จะจ้องมองตากันและกัน

ลองนึกภาพดู ในครั้งนั้นได้มีราชันแท้จริง และปฐมบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรที่โดยสารเรือเข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่แล้ว ไม่มีใครรู้ว่าสภาพของพวกเขาเป็นเช่นใดหลังจากที่เข้าไปแล้ว และไม่มีใครรู้ว่าสุดท้าย แล้วบรรดาปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริงเป็นอย่างไรบ้าง

แต่ มาวันนี้ ปรากฏเศษชิ้นส่วนของเรือและหรือเรือน้อยๆ ลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ พลันทำให้ผู้คนทั้งหมดต้องผุดความคิดต่างๆ หลายอย่างขึ้นมาไม่ขาดสาย

“หรือจะเป็นเรือโดยสารของราชันแท้จริง และหรือปฐมบรรพบุรุษคนหนึ่งในครั้งนั้น” ไม่รู้ว่าเป็นใครที่ดันพูดคำพูดที่ไม่ควรพูดขึ้นมาคำหนึ่ง

เมื่อคำพูดเช่นนี้ถูกพูดขึ้นมา พลันทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง ทำใหผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องสั่นเทา

เนื่องจากในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา แม้จะมีปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริง และคงความอมตะตลอดกาลที่เข้าไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ แต่ว่า ราชันแท้จริง คงความอมตะตลอดกาล กระทั่งปฐมบรรพบุรุษล้วนแล้วแต่ร่วมเดินทางกันไป หากพวกเขาไม่นำพากองทัพไปเป็นพันเป็นหมื่น พาแม่ทัพที่แข็งแกร่งที่สุดของตนไปด้วย ก็จะเป็นราชันแท้จริงสามถึงห้าคน และหรือคงความอมตะตลอดกาลสามถึงห้าคนร่วมเดินทางไปด้วย

กล่าวได้ว่า ขบวนทัพที่มีการออกเดินทางทุกครั้งล้วนมีกำลังที่เข้มแข็งมาก กล่าวได้โดยไม่เป็นการโอ้อวดว่า กำลังของขบวนทัพที่ร่วมเดินทางทุกครั้งเพียงพอที่จะกวาดล้างแดนลัทธิเซียนในครั้งนั้นได้

ถ้าหากว่าบรรดาเศษชิ้นส่วนของเรือและหรือเรือน้อยที่ลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่นั้น คือเรือของบรรดาปฐมบรรพบุรุษ และหรือราชันแท้จริงใช้โดยสารไปจริงล่ะก็ หลังจากที่บรรดาปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริงเหล่านี้เข้าไปแล้ว มันได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่เล่า?

ถ้าหากว่าเรือ หรือเรือลำน้อยที่บรรดาปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริงนั่งโดยสารไปด้วยได้กลายเป็นเศษชิ้นส่วนไปแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วบรรดาปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริงที่เข้าไปในครั้งนั้นเล่า พวกเขาเป็นอย่างไรก็แล้วกันแน่?

“แค่เศษชิ้นส่วนของเรือเท่านั้นเอง ไม่เห็นมีอะไรต้องทำกระต่ายตื่นตูม” และมีผู้ที่กล่าวว่า “เมื่อเรือใช้งานมากแล้วย่อมมีความเป็นไปได้ที่จะแตกได้ อีกอย่าง มันก็แค่เรือเท่านั้น ย่อมไม่สามารถคาดหวังให้บรรดาปฐมบรรพบุรุษพวกเขาใช้เรือลำนี้เป็นพันล้านปีกระมัง”

“นั่นสิ ไม่แน่นักปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริงพวกเขาได้ขึ้นฝั่งแล้ว ดังนั้นจึงทิ้งเรือเหล่านี้ไป สุดท้าย หลังจากที่ลอยล่องอยู่ในทะเลปุ๊ตู้ไห่เป็นพันล้านปีจึงได้กลายเป็นเศษชิ้นส่วนไป สุดท้าย บังเอิญได้โอกาสจึงลอยล่องออกจากทะเลปุ๊ตู้ไห่” ยอดฝีมืออีกผู้หนึ่งกล่าวขึ้นมาเช่นนี้

คำพูดลักษณะเช่นนี้ของพวกเขาฟังดูเหมือนมีเหตุผล แต่ว่า ก็ดูจะเป็นการปลอบใจตนเองอยู่บ้าง เนื่องจากในเวลานี้มีผู้คนจำนวนมากที่มีความกังวลในใจและกระวนกระวายแล้ว

“ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ก็ดี” มีผู้ที่ยอมเชื่อว่าบรรดาปฐมบรรพบุรุษพวกเขาได้ขึ้นฝั่งตรงข้ามไปแล้ว และพวกเขาสละเรือเพื่อขึ้นฝั่ง

แม้ว่ามีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ปลอบใจตัวเองเช่นนี้ แต่ว่า ผู้คนจำนวนมากดูจะกระวนกระวายมากขึ้น

“ดูสิ มีอีกแล้ว” ขณะที่ทุกคนดูจะกระวนกระวายมากขึ้นอยู่นั้น ปรากฏมีผู้ร้องเสียงดังขึ้นมา ทำให้ทุกคนต่างทยอยกันมองออกไป

ในเวลานี้เอง มองเห็นเศษชิ้นส่วนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ และไม่เหมือนเมื่อครู่ที่เป็นเพียงเศษแผ่นไม้กระดานและเศษชิ้นส่วนเท่านั้น

ในขณะนี้ ขณะที่เศษชิ้นส่วนจำนวนนับไม่ถ้วนลอยออกมานั้น ก็จะมีเศษซากลอยออกมาด้วย เมื่อมองดูเศษซากเหล่านี้ให้ละเอียด มันคือส่วนของกระดูกงูและหรือกาบเรือ

“เป็นเศษซากของเรือ” หลังจากผ่านไปครู่เดียว ในที่สุดก็ได้เห็นเรือลำหนึ่งแล้ว เรือลำนี้มีขนาดลำไม่ใหญ่นัก เป็นเพียงเรือลำเล็กลำหนึ่งเท่านั้น

แต่ว่า เรือเล็กลำนี้เหมือนถูกจับฉีกขาดอย่างนั้น มันถูกฉีกให้แยกขาดจากกันจากตำแหน่งหนึ่งในสามของตัวเรือ โดยบริเวณที่ฉีกขาดนั้นไม่เรียบ เหมือนว่าถูกจับฉีกขาดโดยสัตว์ประหลาดอะไรสักอย่าง และหรือจากพลังที่แข็งแกร่งมากจับเรือลำนี้ฉีกให้แยกขาดจากกันดื้อๆ

ภายใต้สายตาที่เฝ้ามองของผู้คนจำนวนมาก ปรากฏเศษชิ้นส่วน และเศษซากที่ลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ช้าๆ มากขึ้นๆ เรื่อยๆ

ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ มองดูเศษชิ้นส่วนและเศษซากจำนวนนับไม่ถ้วนเหล่านี้ ในเวลานี้ เงาทมิฬได้ปกคลุมจิตใจของทุกคนแล้ว

เศษชิ้นส่วนและเศษซากทั้งหมดไม่ได้พุ่งเข้าหาด่านเทียนสงกวานหรือเทียนเชี่ยน เศษชิ้นส่วนทั้งหมดล้วนแล้วแต่ลอยล่องผ่านเทียนเชี่ยนไปอย่างช้าๆ มุ่งหน้าไปยังท้องฟ้าทางด้านเหนือที่สุดลูกหูลูกตา

ในเวลานี้ ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดที่อยู่ในด่านเทียนสงกวานล้วนถูกทำให้แตกตื่นกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นราชันแท้จริงหวงจุน ราชันแท้จริงเซิ่นซวง และหรือกระบี่เหินเทียนเจียว พวกเขาต่างทยอยกันมาดูชม

ไท่อิ๋นสี่ที่อยู่ในฐานะนายด่านของด่านเทียนสงกวานก็ได้รับข่าวนี้ทันที เขาขึ้นไปมองดูบนหอที่อยู่ด้านบน มองดูเศษชิ้นส่วน เศษซากที่ลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ สีหน้าของไท่อิ๋นสี่ในเวลานี้ดูหนักแน่นจริงจังขึ้น

“ถ่ายทอดคำสั่งของข้า ทหาร และแม่ทัพทั้งหมดล้วนกลับเข้ากรมกอง ยกเลิกการลาหยุดทั้งหมด” ภายในใจของไท่อิ๋นสี่ในเวลานี้หนักอึ้ง รู้สึกได้ว่าจะต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น จึงออกคำสั่งทางทหารไป

“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่” ในเวลานี้ทุกคนต่างรู้สึกกดดันอย่างยิ่ง ขณะยืนมองเศษชิ้นส่วนและเศษซากจำนวนนับไม่ถ้วนที่ลอยออกมาช้าๆ จากทะเลปุ๊ตู้ไห่

ในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา ทะเลปุ๊ตู้ไห่ไม่เคยมีสิ่งใดๆ ที่ลอยออมาเลย แต่มาวันนี้ถึงกับมีเศษชิ้นส่วนและเศษซากของเรือลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ พลันทำให้ในใจของทุกคนไม่เป็นสุขขึ้นมา

จากการที่จำนวนเศษชิ้นส่วนและเศษซากที่ลอยออกมามากขึ้นเรื่อยๆ และลำเรือที่ลอยออกมาก็มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เรือบางลำยังสามารถมองเห็นเค้าโครงของมันในครั้งนั้น

“เรือลำนั้นเหมือนเป็นของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิปาเป่า” ในเวลานี้ มีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะผู้หนึ่งได้มองดูเรือลำหนึ่งอย่างละเอียด และพูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมา

เรือลำดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก อย่างน้อยที่สุดสามารถบรรทุกคนได้หลายร้อยคน แต่ว่า เรือลำดังกล่าวเหลือเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เหมือนถูกคนผ่าครึ่งอย่างนั้น

“ทำไม่ถึงคิดว่าเป็นของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิปาเป่า? ” มีผู้ที่มองดูเรือลำนี้อย่างละเอียด แต่มองหาเบาะแสไม่ออก

“ดูที่กาบเรือ ตำแหน่งนั้นมีสัญลักษณ์อยู่มิใช่รึ? ดูเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิปาเป่า” เทพแท้จริงขั้นอมตะได้ชี้ไปยังตำแหน่งหนึ่งที่อยู่บริเวณกาบเรือ

ทุกคนมองตามไป เหมือนว่ามีตราสัญลักษณ์อันหนึ่งจริงๆ แต่ว่า ยุคสมัยเนิ่นนานเกินดูจะเลือนรางไม่ชัดเจนนัก ทุกคนก็ไม่กล้ายืนยันว่าเป็นตราสัญลักษณ์ของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิปาเป่าจริงๆ

ตามตำนานเล่าว่า ในครั้งนั้นระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิปาเป่าได้ให้กำเนิดเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง สามารถก้าวไปถึงระดับหย่วนเต้าแล้ว สุดท้าย เขาได้นำพาคนกลุ่มหนึ่งเข้าไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่” ผู้บำเพ็ญตนผู้หนึ่งที่ศึกษาประวัติศาสตร์จนคล่องได้เอ่ยขึ้น

………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด