Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2997 เรือเดินทางไกลเพื่อปราบปราม
ตอนที่ 2997 เรือเดินทางไกลเพื่อปราบปราม
สภาพของราชันแท้จริงหวงจุนในเวลานี้ดูกระเซอะกระเซิง ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อบนตัวมีรอยฉีกขาด บริเวณอกเสื้อเปื้อนเลือด ไม่ทราบว่าเป็นเลือดของใคร
ย่อมไม่ต้องสงสัย ได้ผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือดมาแล้ว และดูออกได้ว่าคู่ต่อสู้ของราชันแท้จริงหวงจุนแข็งแกร่งอย่างยิ่ง หาไม่แล้วคงไม่ทำให้ราชันแท้จริงหวงจุนต้องกระเซอะกระเซิงถึงเพียงนี้
ส่งผลให้ทุกคนต้องเสียวสันหลังวาบบเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว กำลังความสามารถของราชันแท้จริงหวงจุนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกคนตลอดมา มีผู้กล่าวว่าเขาคือราชันแท้จริงสิบเอ็ดลัคนา และมีผู้กล่าวว่ากำลังความสามารถของเขาได้ก้าวไปถึงสิบสองลัคนาแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ราชันแท้จริงหวงจุนมีชาติกำเนิดมาจากหอเกาหยางโหลว มีของวิเศษที่สะเทือนเลื่อนลั่นยิ่งในครอบครอง กล่าวในระดับหนึ่งแล้ว แม้จะเป็นราชันแท้จริงสิบเอ็ดลัคนาเหมือนกัน ราชันแท้จริงหวงจุนก็ย่อมจะแข็งแกร่งว่าราชันแท้จริงสิบเอ็ดลัคนาทั่วไปไม่รู้ว่าเท่าไร
แต่ทว่า การต่อสู้บนเรือเพียงครู่เดียวก็กระเซอะกระเซิงได้ถึงเพียงนี้ ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่า คู่ต่อสู้บนเรือน่ามีความน่ากลัวเพียงใด
นั่นมันคือตัวอะไร…ภายในใจของทุกคนอดที่จะหวาดหวั่นพรั่นพรึงไม่ได้ เมื่อมองเห็นราชันแท้จริงหวงจุนกระเซอะกระเซิงเช่นนี้หลังจากการต่อสู้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันทุกคนต่างรู้สึกแปลกใจ
เป็นสิ่งใดบนเรือกันแน่นที่ทำให้ราชันแท้จริงหวงจุนต้องกระเซอะกระเซิงถึงขนาดนี้ เป็นสิ่งดำรงอยู่ในฐานะเช่นใดกันแน่ สามารถทำให้ราชันแท้จริงหวงจุนต้องทำลายเรือเพื่อหลบหนี จากการต่อสู้ระยะสั้นๆ ได้เล่า?
ในเวลานี้ ภายในใจของทุกคนต่างบังเกิดความคิดที่ผุดขึ้นมามากมายอย่างไม่ขาดสาย ทุกคนต่างมองไปที่ราชันแท้จริงหวงจุน ต่างต้องการทราบคำตอบจากปากของราชันแท้จริงหวงจุน
“พี่ท่าน” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงรีบเข้าไปต้อนรับเมื่อเห็นราชันแท้จริงหวงจุน เพื่อป้องกันสิ่งที่อยู่บนเรือจะบุกเข้ามา พูดไปก็เป็นเรื่องแปลก เงามืดที่อยู่ภายในเรือไม่ได้ไล่ติดตามมา มันถอยกลับไปยังห้องโดยสาร และล่องลอยไปตามเรือยักษ์
“เรื่องใหญ่ท่าจะไม่ดีเสียแล้ว ข้าต้องการพบใต้เท้าอิ๋น เพื่อคิดในทางที่แย่ที่สุดไว้ก่อน” ท่าทางของราชันแท้จริงหวงจุนหนักแน่นจริงจังอย่างยิ่ง หลังจากพูดคำๆ นี้กับราชันแท้จริงเซิ่นซวงแล้วก็รีบเร่งเข้าไปยังด่านเทียนสงกวาน เพื่อไปพบกับไท่อิ๋นสี่
ราชันแท้จริงหวงจุนมีชาติกำเนิดมาจากหอเกาหยางโหลว เป็นศิษย์ที่ได้รับการบ่มฟักจากผู้ได้รับความเคารพสูงสุดของหอเกาหยางโหลวหลายคน ย่อมสามารถจินตนาการได้ถึงความแข็งแกร่งด้านกำลังความสามารถ และประสบการณ์ของราชันแท้จริงหวงจุนก็หาใช่บุคคลทั่วไปสามารถเทียบเคียงได้
แต่ทว่า การต่อสู้บนเรือเพียงสั้นๆ ก็ทำให้ราชันแท้จริงหวงจุนต้องหวั่นเกรงถึงเพียงนี้ ย่อมทำให้ทุกคนสามารถจินตนาการได้ว่าสิ่งที่อยู่บนเรือช่างน่ากลัวเพียงใด
“ป้องกันทั่วเมือง เทียนเชี่ยนเฝ้าระวัง” หลังจากที่ราชันแท้จริงหวงจุนได้พูดคุยกับไท่อิ๋นสี่อย่างเร่งรีบแล้ว ไท่อิ๋นสี่ก็ได้ออกคำสั่งทางทหาร ทำการโยกย้ายกำลังทหารทั้งหมดของกองทัพเทียนเชี่ยน ภายใต้คำสั่งที่ถ่ายทอดลงไป ทหารทั้งหมดของกองทัพเทียนเชี่ยนล้วนแล้วแต่เข้าประจำตำแหน่งของตน
ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทั่วทั้งเทียนเชี่ยนรวมถึงด่านเทียนสงกวานล้วนแล้วแต่เข้าสู่ท่าทีพร้อมรบ กลิ่นอายการฆ่าฟันพลันตลบอบอวลไปทั่วฟ้าดิน ทุกคนต่างรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงเมื่อเห็นภาพนี้แล้ว
“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว” ทุกคนต่างรู้ว่าท่าจะไม่ดีเสียแล้วเมื่อได้เห็นภาพนี้ เทียนเชี่ยนคือแนวป้องกันด่านแรกของแดนลัทธิเซียน ถ้าหากทะเลปุ๊ตู้ไห่มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นจริง และหรือมีสิ่งใดที่จะเข้ารุกรานแดนลัทธิเซียน เช่นนั้นแล้วเทียนเชี่ยนก็คือผู้ประสบภัยพิบัติเป็นคนแรก
กี่ปีมาแล้วที่กองทัพเทียนเชี่ยนไม่เคยได้ใช้กำลังทหารมา มาวันนี้กองทัพเทียนเชี่ยนทั้งหมดเข้าประจำที่ เข้าสู่โหมดพร้อมรบ มาคราวนี้พลันทำให้ทุกคนตระหนักได้ถึงความรุนแรงของเหตุการณ์แล้ว
“ข้างในนั้นมีอะไรกันแน่นะ? ” มองดูเรือยักษ์ของหอเกาหยางโหลวที่เสมือนดั่งอเวจีลอยไปยังท้องฟ้าทางด้านทิศเหนือเงียบๆ ภายในใจของทุกคนต่างรู้สึกหนักอึ้ง ขณะทุกคนจ้องมองไปยังเรือขนาดยักษ์นั้น ในใจเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ล้วนแล้วแต่ต้องการรู้ว่าภายในเรือยักษ์ลำนี้คืออะไรกันแน่
เสียดาย ราชันแท้จริงหวงจุนไม่ยอมบอกทุกคน เขาแค่จากไปอย่างเร่งรีบ หลังจากบอกกล่าวสถานการณ์ให้ไท่อิ๋นสี่ทราบแล้วก็จากไป
แน่นอน ทุกคนสามารถเข้าใจได้ สามารถทำให้ราชันแท้จริงหวงจุน และไท่อิ๋นสี่หวั่นเกรงขนาดนี้ ย่อมต้องเป็นสิ่งที่สะเทือนเลื่อนลั่นยิ่งแน่นอน
ในเวลานี้ได้มีผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อยต่างทยอยกันไปจากด่านเทียนสงกวานแล้ว พวกเขาจำเป็นต้องกลับไปเตรียมการถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เกิดมีอันตรายอะไรเข้ามาจริงๆ ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของพวกเขา นิกายของพวกเขาก็ต้องมีนโยบายที่สมบูรณ์เพียบพร้อม
“แหะภัยพิบัติใหญ่มาแล้ว หนีได้ก็หนีไปเหอะ ถึงเวลานั้นพวกเจ้าคิดจะหนีก็ไม่ทันกาลแล้ว แน่นอน ต่อให้พวกเจ้าหนีไปตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์” ขณะที่ผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อยทยอยกันไปจาก เพื่อไปเตรียมความพร้อมด้านนโยบายที่สมบูรณ์แบบนั้น ปรากฏเสียงหัวเราะแหะแหะดังขึ้น เหมือนดีใจที่ได้เห็นผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน
เมื่อทุกคนมองไปตามเสียง คนที่พูดก็คือกระบือดำขนาดใหญ่นั่นเอง ในขณะนี้กระบือดำขนาดใหญ่ยืนอยู่บนด่านเทียนสงกวาน บนหลังของเขายังได้ทุกศิษย์ของเขาหลิ่วเยี่ยนไป๋ มองดูเศษชิ้นส่วนและเศษซากที่ล่องลอยอยู่กลางท้องฟ้า
ท่าทางของกระบือดำขนาดใหญ่ดูจะสงบนิ่งอย่างสิ้นเชิง กระทั่งมีท่าทีของเหมือนดีใจที่ได้เห็นผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน เขาปราศจากความกังวลอย่างสิ้นเชิง แน่นอนที่สุดกระบืออย่างเขาก็ไม่มีอะไรต้องกังวลอยู่แล้ว หากภัยพิบัติใหญ่มาแล้วจริงๆ เขาแค่หันหลังแล้วหนีไป ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากแม้นตัวเขาก็หลบหนีภัยพิบัติเช่นนี้ไปไม่ได้ ย่อมมีผู้คนบนโลกที่หลบหนีภัยพิบัตินี้ไปไม่ได้มากยิ่งกว่า
สำหรับหลิ่วเยี่ยนไป๋ที่นั่งอยู่บนหลังกระบือนั้น นางประสบการณ์น้อยไม่เจนโลก ไม่รู้อยู่แล้วถึงถึงความรุนแรงของสถานการณ์ และนางก็ไม่รู้ว่าสิ่งนี้บ่งบอกถึงอะไร นางเพียงมองด้วยสายตาคู่นั้นที่เต็มไปด้วยความแปลกใจ มองดูเศษซากที่ล่องลอยไปยังท้องฟ้าด้านทิศเหนือเหล่านั้น
แน่นอนที่สุดทุกคนรู้จักกระบือดำขนาดใหญ่ตัวนี้ และทุกคนก็รู้ว่ากระบือดำขนาดใหญ่ตัวนี้อยู่ด้วยกันกับคนโหดอันดับหนึ่งยุ่งด้วยไม่ได้ ดังนั้น ต่อให้มีผู้ที่ไม่สบอารมณ์กับคำพูดเช่นนี้ของกระบือดำขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่กล้าไปหาเรื่องเขา
แต่ว่า หลิ่วเยี่ยนไป๋กลับรู้สึกแปลกใจขณะมองดูเรือยักษ์ลำนั้นที่ลอยไปยังท้องฟ้าทางด้านทิศเหนือ เอ่ยถามด้วยความแปลกใจว่า “อาจารย์ สิ่งที่อยู่บนเรือนั้นร้ายกาจมากรึ? ”
“ทั่วๆ ไปน่ะ เทียบกับอาจารย์เจ้าแล้วยังห่างชั้นอีกไม่น้อย ห่างชั้นอีกไม่น้อย” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะแหะแหะขึ้นมา
เขาแค่มองดูเรือที่ลอยล่องลำนั้นแวบหนึ่ง เป็นความจริงที่เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก แต่ทว่าสายตาที่มองไปยังบริเวณลึกเข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่ดูจะมีความกังวลอยู่ลายส่วน
เนื่องจากเจ้ากระบือดำขนาดใหญ่เข้าใจได้ว่า สิ่งคุกคามจริงๆ นั้นไม่ได้มาจากบรรดาตัวประหลาดที่อยู่บนเรือ สิ่งที่อันตรายและทำให้ถึงตายคือสิ่งที่มาจากบริเวณลึกเข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่นั่นต่างหาก
แม้ว่าจะมีบางคนที่รู้สึกว่ากระบือดำขนาดใหญ่กำลังคุยโม้โอ้อวดอยู่ แต่เมื่อนึกถึงว่าเขาก็เป็นพวกลงมือโหดเหมือนกัน ทุกคนจึงไม่กล้าพูดอะไรออกมา
เพียงแต่ในใจของทุกคนรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง ขณะที่มองดูเรือยักษ์ลำนั้น
“ท่านผู้อาวุโส เรื่องนี้มันเป็นอย่างไรกันแน่เล่า? ” ทุกคนต่างไม่กล้าเข้าไปยุ่งกับกระบือดำขนาดใหญ่ แต่ ราชันแท้จริงเซิ่นซวงกลับก้าวเข้าไป และแสดงคารวะต่อกระบือดำขนาดใหญ่
ราชันแท้จริงเซิ่นซวงที่เป็นถึงราชันแท้จริงสิบสองลัคนา ไม่ว่าจะด้วยตำแหน่ง ฐานะล้วนแล้วแต่สูงส่งยิ่งนัก ผู้ที่สามารถกระทบไหล่กับนางมีอยู่ไม่มากในหล้า
ดังนั้น การแสดงออกถึงการให้ความเคารพของราชันแท้จริงเซิ่นซวงเช่นนี้ กลับทำให้กระบือดำขนาดใหญ่รู้สึกดี เขาเหลือบตามองดูราชันแท้จริงเซิ่นซวงทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ยังจะมีอะไรได้อีก ภัยพิบัติใหญ่มาถึงแล้วสิ นังหนู เจ้ามีที่ที่จะไปได้ หนีไปเสีย หนีกลับไปที่หอจรัสศักดิ์สิทธิ์ ถ้าหากจะมีระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิแปดหรือเก้าแห่งในแดนลัทธิเซียนต้องล่มสลายล่ะก็ หอจรัสศักดิ์สิทธ์ต้องเป็นหนึ่งในจำนวนนั้นที่คงอยู่ ใครใช้ให้หอจรัสศักดิ์สิทธิ์เจ้าชะตาดี มีคนคอยคุ้มครอง
คำบอกเล่านี้ของกระบือดำขนาดใหญ่นับว่าเป็นความหวังดี เท่ากับเป็นการชี้ทางสว่างให้กับราชันแท้จริงเซิ่นซวง
“ข้าน้อยจะจดจำใส่ใจ” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงคำนับทีหนึ่ง แต่ว่านางรู้สึกแปลกใจ มองดูแล้วไม่เห็นหลี่ชิเย่ จึงเอ่ยถามขึ้นมาว่า “พี่หลี่เล่า? ”
แหะเจ้าหนูนั่นไม่รู้ว่าไปที่ไหนแล้ว” กระบือดำขนาดใหญ่ทำท่ายักไหล่ และกล่าวว่า “แต่ว่า หากเจ้าคิดจะหวังพึ่งเขาคงพึ่งไม่ได้ ข้ามองว่าเขาไม่ได้สนใจในหอจรัสศักดิ์สิทธิ์พวกเจ้า จะอย่างไรเสียเขาก็แค่ผู้เดินทางผ่านมา สักวันก็ต้องจากไป”
ราชันแท้จริงเซิ่นซวงได้แต่ทอดถอนใจเบาๆ โดยไม่ได้พูดอะไรอีก กล่าวสำหรับหอจรัสศักดิ์สิทธิ์พวกเขาแล้ว ถ้าหากผู้ยิ่งใหญ่อย่างหลี่ชิเย่ย่อมเป็นเรื่องที่ดีที่สุด เสียดาย หอจรัสศักดิ์สิทธิ์พวกเขารั้งหลี่ชิเย่ เอาไว้ไม่ได้
ลองนึกภาพดู ผู้ที่มีความแข็งแกร่งเฉกเช่นเทพสงครามจินเปี้ยน หมิงหวางฝอ ราชันหญิงจื่อหลงพวกเขาต่างยินดีมีชื่อเป็นศิษย์คนหนึ่งของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าไม่เห็นพวกเขาจะทำความบรรลุ หรือได้รับผลอะไรมากมายจากหอจรัสศักดิ์สิทธิ์สักเท่าไร แต่ว่า พวกเขายังคงยินดีที่จะอยู่ในฐานะนักศึกษาของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์
แต่ว่า ไม่แน่เสมอไปสำหรับหลี่ชิเย่ ในสายตาของราชันแท้จริงเซิ่นซวงมองว่า หลี่ชิเย่ไม่ได้ใส่ใจในหอจรัสศักดิ์สิทธิ์เลยแม้แต่น้อย ดังนั้น ในใจของราชันแท้จริงเซิ่นซวงจึงมีความชัดเจนว่า หอจรัสศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถรั้งคนอย่างหลี่ชิเย่เอาไว้ได้อย่างเด็ดขาด
“ดูนั่น มีเรือขนาดใหญ่อีกลำแล้ว” จังหวะที่ในใจของทุกคนกำลังหนักอึ้งอยู่นั้น ไม่รู้ว่าเป็นใครที่ร้องเสีองดังขึ้นมา
ทุกคนได้สติกลับมาและมองออกไป เห็นเพียงท่ามกลางทะเลปุ๊ตู้ไห่ที่มีเศษชิ้นส่วนและเศษซากลอยมมานั้นปรากฏมีเรือขนาดยักษ์ลำหนึ่งลอยมา
“เป็นเรือลำใหญ่มาก” มีผู้ที่ร้องอุทานด้วยความตื่นตะลึงเมื่อเห็นเรือขนาดยักษ์ที่ลอยลำเข้ามา
เมื่อทุกคนมองดูเรือยักษ์ลำนี้แล้ว เป็นความจริงที่ความใหญ่โตของมันใหญ่กว่าลำเรือของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวิน กับเรือยักษ์ของหอเกาหยางโหลวไม่รู้เท่าไร
“เรือยักษ์ลำนี้คุ้นตามาก” มีผู้ที่มองดูอย่างละเอียดแล้วรู้สึกว่า เหมือนเคยเห็นเรือยักษ์ลำนี้ที่ไหนมาก่อน แต่ว่าในเวลานี้กลับนึกไม่ออก
แต่ว่า ในเวลานี้เอง มีผู้ที่หันกลับไปมองดูทางด่านเทียนสงกวาน ถึงกับร้องเสียงหลงขึ้นมาว่า “นี่ นี่ นี่มันเป็นลานประมูลของห้างเจียวเหิงมิใช่รึ? ”
ฃว่าไงนะ ลานประมูลของห้างเจียวเหิง…ทุกคนที่ได้ยินคำนี้ต่างรู้สึกตระหนกยิ่ง ต่างหันหลังมองไปยังด่านเทียนสงกวาน แต่ว่า ลานประมูลของห้างเจียวเหิงยังคงตั้งตระหง่านอยู่ภายในด่านเทียนสงกวาน ไม่ได้เคลื่อนที่แม้แต่น้อย
แต่ว่า เมื่อมองดูเรือลำยักษ์ที่ลอยมาจากทะเลปุ๊ตู่ไห่อีกครั้ง มันถึงกับเหมือนกับลานประมูลของห้างเจียวเหิงอย่างกับแกะ
“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ทำไมห้างเจียวเหิงจึงลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ได้” ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกงงงันเมื่อได้เห็นเรือยักษ์ลำนี้แล้ว
“ทำไมถึงมีห้างเจียวเหิงที่เหมือนกันอย่างกับแกะ” ผู้ที่ไม่ทราบถึงประวัติในอดีตต่างรู้สึกว่าเหลือเชื่อ แรกทีเดียวพวกเขายังเข้าใจว่าตนเองเกิดภาพลวงตาขึ้นมา
“นั่นไม่ใช่ลานประมูลของห้างเจียวเหิง นั่นมันเรือปราบปรามไกลของปฐมบรรพบุรุษอัคคี” บรรพบุรุษที่ดึกดำบรรพ์มองดูเรือยักษ์ลำนี้ที่ลอยมาแล้วถึงกับมีสีหน้าที่ซีดเผือด พึมพำขึ้นมาว่า “แย่แล้ว แย่แล้ว เรือปราบปรามไกลของปฐมบรรพบุรุษอัคคีก็ลอยกลับมาแล้ว นั่น นั่น นั่นเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วจริงๆ ”
“เรือปราบปรามไกลของปฐมบรรพบุรุษอัคคี นี่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ห้างเจียวเหิงเป็นผู้สร้างรึ? กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ไม่ทราบเรื่องยังคงอยากรู้อยากเห็น
……………………………………………………………………………………..
Comments