ตอนที่ 2996 มีผีบนเรือ

เรือรบลำนั้นของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวินยังคงลอยลำอยู่เงียบๆ ปราศจากซุ่มเสียงใดๆ เสมือนหนึ่งเป็นเรือวิญญาณอย่างนั้น

ในขณะนี้ บรรยากาศโดยรวมพลันกลับกลายเป็นหนักแน่นขึ้นมา ปรากฎกลิ่นอายที่แปลกประหลาดยิ่งลอยล่องอยู่ท่ามกลางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้มองตาปริบๆ กับเรือรบที่ลอยอยู่กลางอากาศปราศจากซุ่มเสียง ขณะเดียวกัน นอกเหนือจากเรือรบลำนี้แล้ว ยังมีเศษชิ้นส่วนและเศษซากที่ลอยล่องอยู่บนท้องฟ้า

ขณะที่เรือรบของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวินลอยไปยังทะเลทางด้านทิศเหนืออย่างเงียบเชียบนั้น ด้านหลังได้ตามมาด้วยเรือที่แตกเสียหาย เพียงแต่เรือเหล่านี้ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตเท่าเรือรบลำนั้นของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวินเท่านั้น ทั้งยังได้รับความเสียหายมากกว่า

ทุกคนต่างสามารถมองออกได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นเรือรบของหลินหวิน หรือว่าบรรดาเศษชิ้นส่วนเศษซากต่างๆ เหล่านั้น และหรือบรรดาเรือที่ชำรุดเสียหายที่ติดตามมานั้น พวกมันล้วนแล้วแต่ไม่ได้เป็นเรือที่แตกละเอียดจากการล่องลอยอยู่ท่ามกลางทะเลที่สุดลูกหูลูกตาหลังจากถูกละทิ้งไปแล้ว

ใครๆ ก็ดูออกได้ว่า เรือ และเรือรบทั้งหมดล้วนได้รับการโจมตี สุดท้ายแตกชำรุดกระทั่งแตกและแยกออก ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า บรรดาเรือ และเรือรบเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เคยเกิดการต่อสู้ที่สะเทือนเลื่อนลั่นมาครั้งแล้วครั้งเล่า

เมื่อนึกถึงเรื่องการต่อสู้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึงกับสิ่งนี้ สมควรทราบว่า เจ้าของเรือรบเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปฐมบรรพบุรุษ กระทั่งราชันแท้จริง เทพแท้จริงคงความอมตะตลอดกาลที่ปราศจากผู้ต่อกร

แต่ว่า เวลานี้บรรดาปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริงต่างไม่ทราบแน่ชัดว่าไปอยู่ที่ไหน เหลือทิ้งไว้เพียงเรือแต่ละลำที่แตกชำรุด สิ่งนี้เป็นเพราะว่าปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริงถูกฆ่าตาย หรือว่าปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริงพวกเขาสละเรือไปในที่สุด อันเนื่องมาจากเรือแตกชำรุดไป

ถ้าหากเป็นกรณีหลังค่อยยังชั่ว แต่หากเป็นกรณีแรก ทุกคนต่างรู้สึกสั่นเทาเมื่อนึกถึงตรงนี้ ไม่กล้าไปสืบต่อให้ลึกลงไป ยิ่งไม่กล้าไปจินตนาการให้ลึกกว่านี้

แย่แล้วเกิดเรื่องใหญ่…แม้แต่ผู้ที่แข็งแกร่งดั่งเช่นราชันแท้จริงเซิ่นซวงที่เป็นราชันแท้จริงสิบสองลัคนา ก็ได้เอ่ยขึ้นช้าๆ ด้วยท่าทีที่หนักแน่นจริงจังในเวลานี้

ในขณะนี้ ใช่แต่เพียงราชันแท้จริงเซิ่นซวงเท่านั้น เฉกเช่นไท่อิ๋นสี่พวกเขาก็มีท่าทีที่หนักแน่นจริงจัง รู้สึกหนักอึ้งในใจ ทุกคนล้วนรู้สึกว่าพายุฝนกำลังจะมา กับการเปลี่ยนแปลงกะทันหันเช่นนี้ของทะเลปุ๊ตู้ไห่!

“เป็นการอาละวาดของผีรึ? ” เวลานี้มีผู้พูดซุบซิบเบาๆ เมื่อได้ยินคำพูดที่ดังขึ้นมก่อนหน้าจากเรือรบของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวิน

พลันที่มีการพูดคำๆ นี้ออกมา ทำหผู้คนถึงกับเย็นวาบบที่สันหลัง ผู้คนจำนวนไม่น้อยถึงกับสั่นเทิ้ม

“โลกนี้มีผีที่ไหนกัน” เทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งส่งเสียงฮึเย็นชาและกล่าวว่า “ผีที่ว่ามันก็แค่เป็นเรื่องแปลกประหลาดบางอย่าง และหรือเป็นเพียงจิตที่อาฆาตเท่านั้นเอง”

ภายในใจของทุกคนยังคงกระวนกระวายแม้จะพูดเช่นนี้ก็ตาม เหมือนมีเงาทมิฬอะไรที่บินวนเวียนในใจอย่างนั้น ไม่สามารถไล่มันให้ไปได้

“ดูนั่น เป็นเรือลำใหญ่อีกลำ” ในขณะที่ทุกคนรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่นั้น มีผู้ที่ร้องเสียงดังขึ้นมาอีก และชี้ไปยังทิศทางที่ตั้งของทะเลปุ๊ตู้ไห่ ทุกคนต่างทยอยกันมองตามไป

เมื่อทุกคนมองออกไป เห็นเพียงเรือลำขนาดยักษ์ลอยมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่อีกลำ ความจริงแล้วเรือยักษ์ลำนี้มีขนาดพอๆ กับเรือรบของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวินลำนั้น

แต่ทว่า เมื่อเรือยักษ์สองลำนำมาเปรียบเทียบกันแล้ว เรือยักษ์ลำนี้ดูจะรักษาสภาพได้สมบูรณ์ยิ่งกว่า ตัวเรือมีความเสียหายน้อยมาก ดูจากประกายแวบวับของอักขระยันต์บนตัวเรือแล้ว แม้ว่าระบบป้องกันของเรือยักษ์ได้ถูกทำลายไปแล้ว แต่ว่า มันยังคงปกป้องรักษาตัวเรือเอาไว้ได้

ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อมองจากระยะห่างไกลแล้ว เรือยักษ์ลำนี้ยังคงเหมือนเรือที่เพิ่งจะปล่อยลงน้ำไม่นานเท่าไร

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับเรือยักษ์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวินลำนั้นแล้ว เรือยักษ์ลำนี้แตกต่างโดยสิ้นเชิง เรือยักษ์ลำนั้นของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวินนั้นคือเรือรบลำหนึ่ง พลันที่ผู้คนมองเห็นก็รู้ว่าเป็นเรือที่ใช้สำหรับเดินทางไกลเพื่อสู้รบ

ขณะที่เรือที่กำลังลอยลำมาอยู่ตรงหน้า แลดูคล้ายเป็นเรือหลวงมากกว่า บนดาดฟ้าเรือลำนี้มีหอสูงที่ตั้งตระหง่านสูงทะลุเมฆา กลิ่นอายความเป็นกษัตริย์ยิ่งใหญ่ไพศาล มีความงดงามอลังการ สูงส่งยอดเยี่ยมมากสุดจะบรรยาย

หากกล่าวว่า เรือยักษ์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินหวินคือเรือรบที่ใช้ในการเดินทางไกลเพื่อปราบปราม เช่นนั้นแล้ว เรือยักษ์ลำนี้ก็เหมือนเรือที่ฮ่องเต้ใช้ในการลาดตะเวนทางทะเล

นี่ นี่ นี่เป็นเรือของหอเกาหยางโหลวมิใช่รึ…หลังจากมองเห็นเรือยักษ์ลำนี้ผ่านไปชั่วครู่ใหญ่ มีผู้มองเห็นกาบเรือข้างๆ มีตราสัญลักษณ์ที่สลักเอาไว้ ถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมา

หลังจากเรือยักษ์ลำนี้ลอยเข้ามาใกล้แล้ว ทุกคนต่างมองเห็นตราสัญลักษณ์บนกาบเรือได้อย่างชัดเจน มีบรรพบุรุษรู้สึกใจหายใจคว่ำ และกล่าวว่า “เป็นเรือของหอเกาหยางโหลวจริงๆ ”

ทุกคนล้วนมั่นใจได้ว่านี่คือเรือของหอเกาหยางโหลวเมื่อมองเห็นตราสัญลักษณ์บนกาบเรือได้อย่างชัดเจนแล้ว ทุกคนล้วนสะดุ้งในใจ ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า เรือยักษ์ลำนี้มาจากหอเกาหยางโหลวจริงๆ จะอย่างไรเสียไม่มีใครกล้าไปเสี่ยงใช้ตราสัญลักษณ์ของเกาหยางโหลว

ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองไปที่ราชันแท้จริงหวงจุน

ราชันแท้จริงหวงจุนก็อยู่ในเหตุการณ์ เขาเองก็มองดูเศษชิ้นส่วน และเศษซากที่ลอยผ่านไปอย่างเงียบๆ ขณะที่เรือหอเกาหยางโหลวลำนี้ลอยมานั้น ดวงตาทั้งสองของราชันแท้จริงหวงจุนเบิกกว้าง สายตาที่เหมือนแก่นแท้เจาะไปยังเรือยักษ์ลำนั้น

นาทีนี้ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ กระทั่งทุกคนต่างรู้สึกว่าหัวใจของตนเองถูกผู้อื่นเขาบีบเอาไว้อย่างนั้น รู้สึกหายใจยากขึ้นมา

ไม่มีใครไม่รู้ถึงฐานะของหอเกาหยางโหลวในแดนลัทธิเซียน แม้หอเกาหยางโหลวจะไม่ใช่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ แต่กำลังของมันเป็นที่หวาดผวาอย่างยิ่ง และธาตุแท้ภายในของมันก็ไม่มีระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดกล้าไปยั่วยุอยู่แล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพันล้านปีที่ผ่านมา ผู้ที่สามารถอาศัยชื่อหอเกาหยางโหลวได้อย่างแท้จริงนั้นมีอยู่ไม่มาก แม้แต่ผู้แข็งแกร่งอย่างราชันแท้จริงหวงจุนก็ไม่กล้าบอกว่าตนเองนั้นเป็นศิษย์ของหอเกาหยางโหลว อย่างมากเขาก็พูดได้แต่เพียงว่าได้รับการชี้แนะจากผู้อาวุโสของหอเกาหยางโหลวเท่านั้นเอง โดยตัวเขาเองไม่กล้าบอกว่าอยู่ในฐานะศิษย์หอเกาหยางโหลว

ดังนั้น กล่าวได้ว่าผู้ที่สามารถอาศัยตราสัญลักษณ์หอเกาหยางโหลวมาสลักบนเรือได้นั้น ย่อมมีความแข็งแกร่งมาก และฐานะในหอเกาหยางโหลวคือผู้ที่สะเทือนเลื่อนลั่นอย่างยิ่ง

“คือเกาหยางรึ? ” มีผู้อดที่จะพูดคำๆ นี้ด้วยเสียงแผ่วเบาขึ้นมา

พลันที่พูดคำๆ นี้ออกมา ไม่รู้ว่ากี่คนที่รู้สึกสะดุดในใจหนึ่งจังหวะ ไม่รู้ว่าผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงอยู่บ้าง ไม่ค่อยอยากจะไปเผชิญหน้ากับคำตอบเช่นนี้

นาทีนี้ ทุกคนต่างมองไปที่ราชันแท้จริงหวงจุน รอคอยคำตอบจากราชันแท้จิรงหวงจุน

ราชันแท้จริงหวงจุนมองดูเรือลำนี้มาได้ครู่ใหญ่แล้ว สุดท้ายเขามีท่าทีหนักแน่นจริงจัง และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ถูกต้อง นี่เป็นเรือของหอเกาหยางโหลวจริงๆ ”

พลันที่ราชันแท้จริงหวงจุนพูดคำๆ นี้ออกมา พลันทำให้ทุกคนล้วนรู้สึกตื่นเต้นจนหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ทุกคนต่างรู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันที

“แต่ว่า นี่ไม่ใช่เรือลำนั้นที่เกาหยางโดยสาร เป็นเรือที่ผู้อาวุโสท่านหนึ่งใช้ออกทะเล” ราชันแท้จริงหวงจุนทำท่าครุ่นคิดทีหนึ่ง และกล่าวด้วยท่าทีที่มั่นใจมาก

เมื่อทุกคนได้ฟังคำบอกเล่าเช่นนี้จากราชันแท้จริงหวงจุนแล้ว ก็ได้ผ่อนลมหายใจทีหนึ่ง

เกาหยางนั้นคือหนึ่งในปฐมบรรพบุรุษที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งที่สุดตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันของแดนสามเซียน เขาถูกจัดให้เข้าไปอยู่หนึ่งในสิบสุดยอดปฐมบรรพบุรุษ กระทั่งมีผู้คนจำนวนมากล้วนเข้าใจว่า เกาหยางสามารถจัดให้อยู่หนึ่งในห้าสุดยอดปฐมบรรพบุรุษ

ลองนึกภาพดู ถ้าหากแม้แต่ปฐมบรรพบุรุษอย่างเกาหยางยังประสบเหตุล่ะก็ มันช่างเป็นเรื่องที่น่าสยองขวัญเช่นใด เป็นเรื่องที่ทำใหผู้คนต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึงโดยแท้จริง หากแม้นเกาหยางยังคงประสบเหตุถึงแก่ความตาย บนโลกนี้ยังจะมีใครสามารถเผชิญหน้ากับอันตรายเช่นนี้ได้? ”

ทุกคนค่อยรู้สึกโล่งอกนิดหนึ่ง เมื่อได้ยินว่าเรือลำนี้ไม่ใช่เรือของเกาหยาง แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ในใจของทุกคนยังคงกระวนกระวายอย่างยิ่ง

สมควรทราบว่า หอเกาหยางโหลวมีความเข้มงวดเสมอมา ผู้ที่สามารถใช้เรือของหอเกาหยางโหลวได้ อีกทั้งยังได้ประทับสลักดวงตราสัญลักษณ์ของหอเกาหยางโหลวได้นั้น ในรอบพันล้านปีทีผ่านมาในหอเกาหยางโหลวมีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น

เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเองราชันแท้จริงหวงจุนได้เสกเอาเตากลั่นราชันออกมาใบหนึ่ง ตูมฉับพลันกลิ่นอายกษัตริย์ยิ่งใหญ่ไพศาล สัจธรรมพุ่งขึ้นรุนแรง อานุภาพราชันที่ไม่สิ้นสุดตลบอบอวลไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน

ในขณะที่ทุกคนยังไม่ทันได้สติกลับมา ราชันแท้จริงหวงจุนก้าวเท้าออกไปก้าวหนึ่ง ภายใต้ก้าวๆ หนึ่งฟ้าดินล้วนเล็กไปสิ้น ทุกคนล้วนรุ้สึกว่าตนเองถูกสยบด้วยอานุภาพราชันของราชันแท้จริงหวงจุน

ในพริบตาเดียวนั่นเอง ราชันแท้จริงหวงจุนได้ก้าวเท้าเข้าไปในเรือยักษณ์ลำนั้น เพียงพริบตาเดียวนั่นเอง ราชันแท้จริงหวงจุนได้หายตัวเข้าไปอยู่ในเรือยักษ์ลำนั้น

คู่สายตาของทุกคนล้วนเบิกกว้างมาก เมื่อเห็นราชันแท้จริงหวงจุนก้าวเท้าเข้าไปในเรือยักษ์ ต่างจ้องมองไปที่เรือยักษ์และฟังทุกๆความเคลื่อนไหวที่อยู่ภายใน

แต่ทว่า ในเวลานี้ภายในเรือเงียบสงัดยิ่งนัก เหมือนว่านี่คือเรืออเวจีลำหนึ่งที่ลอยลำอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าอย่างนั้น

จากการที่ภายในเรือเงียบสงัดยิ่ง ทำให้ทุกคนต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้ และตื่นเต้นจนถึงขีดสุด

เนื่องจากทุกคนล้วนแล้วแต่คาดหวังว่าราชันแท้จริงหวงจุนจำนำมาซึ่งคำตอบ ภายในใจของทุกคนต่างเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย

ไม่ได้นะ…ขณะที่ทุกคนกลั้นลมหายใจเพื่อรอคอยนั้น ได้ยินเสียงตวาดเสียงหนึ่งของราชันแท้จริงหวงจุนดังออกมาจากภายในเรือ

เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ขณะที่ทุกคนไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นนั้น ปรากฎเสียงดังสนั่นออกมาจากภายในเรือ และเรือทั้งลำก็เกิดสั่นไหวโคลงเคลงขึ้นมา

ทำลาย…ตามติดด้วยเสียงตวาดเสียงดังก้องฟ้าดิน ในพริบตาเดียวนั่นเอง อานุภาพราชันแท้จริงดั่งมังกรแท้จริงที่พุ่งทะลุฟ้าขึ้นไป ทำการอาละวาดไปทั่วทิศ กวาดล้างไปเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน

ตูม ตูม ตูมเสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอก พลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรพลันระเบิดขึ้น เสมือนดั่งคลื่นที่บ้าคลั่งซัดเข้ามา ต้องการท่วมฟ้าทั้งหมดดินจนมิด

เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว…ทุกคนรับรู้ถึงพลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง และท่ามกลางเสียงดังตูมตามที่ดังขึ้นมาเป็นระลอก ทำให้รู้ว่าภายในเรือยักษ์ได้เกิดการต่อสู้ที่สะเทือนเลื่อนลั่นขึ้นมาแล้ว

ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนอง เห็นกาบเรือแตกเป็นรู เศษไม้ปลิวกระจาย ราชันแท้จริงหวงจุนพุ่งทะลุลำเรือออกมาทันที

เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว จังหวะเดียวกันกับที่ราชันแท้จริงหวงจุนพุ่งตัวทะลุลำเรือออกมานั้น ทุกคนมองผ่านจากรูที่แตกของเรือสามารถมองเห็นด้านในมีเงาดำอยู่ เงาดำดังกล่าวมีขนาดใหญ่โตมโหฬารมาก เสมือนดังจอมมารขนาดยักษ์ที่ยึดครองที่ตรงนั้น ทำให้ผู้พบเห็นต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึง

พูดไปแล้วก็ให้แปลก ขณะที่ราชันแท้จริงหวงจุนทะลุผ่านตัวเรือออกมานั้น เงามืดนั้นได้หยุดอยู่เพียงแค่ปากรูที่แตก โดยไม่ได้ไล่ติดตามออกมา แต่ล่าถอยกลับไปภายในเรือเงียบๆ

เมื่อทุกคนได้สติกลับมา ต่างทยอยกันมองไปยังราชันแท้จริงหวงจุน

ในขณะนี้ราชันแท้จริงหวงจุนได้ลงมาอยู่ที่ด่านเทียนสงกวานแล้ว เพียงแต่ท่าทางดูจะกระเซอะกระเซิงอยู่บ้าง

………………………………………………………………………………………….