Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3041 คนนี้ข้าเป็นผู้คุ้มครอง
ตอนที่ 3041 คนนี้ข้าเป็นผู้คุ้มครอง
หลี่ชิเย่เองก็พยักหน้าทีหนึ่ง สำหรับการก่อกวนของกระบือดำขนาดใหญ่ และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องนี้สามารถมีได้ และมีได้อย่างสิ้นเชิง หากแม่นางไม่มีความเห็นเป็นอื่น ก็รับเอาไว้เถอะ”
พลันที่หลี่ชิเย่พูดค นี้ออกมา ยิ่งทำให้ใบหน้าของราชันแท้จริงหลิงซินยิ่งแดงมากขึ้น
“เรื่องนี้ เรื่องนี้ เรื่องนี้…” ในเวลานี้ คนที่ยิ่งรู้สึกอาย เขินหนักมากกลับไม่ใช่ราชันแท้จริงหลิงซิน กลับจะเป็นเด็กมหัศจรรย์สามตา
เด็กมหัศจรรย์สามตามีสีหน้าที่แดงก่ำ ในมือถือหลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์ จ้องมองราชันแท้จริงหลิงซินและทำอะไรไม่ถูกในเวลานี้ ในขณะนี้กลับกลายเป็นว่าเด็กมหัศจรรย์สามตาดูจะตื่นเต้นมากกว่าราชันแท้จริงหลิงซินอยู่มากทีเดียว
ในฐานะที่เป็นผู้หญิง เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กมหัศจรรย์สามตาที่ดั่งตอไม้แล้ว ราชันแท้จริงหลิงซินดูจะเยือกเย็นสุขุมกว่ากันไม่รู้เท่าไร
“ข้า ข้า ข้า เรื่องนี้ เรื่องนี้ เรื่องนี้…” อึดอัดใจไปครึ่งค่อนวัน ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี แค่คำพูดที่ครบถ้วนสมบูรณ์คำหนึ่งยังพูดออกมาไม่ได้
“เรื่อง เรื่องบ้านเจ้าน่ะสิ…” แม้แต่กระบือดำขนาดใหญ่ก็ทนดูต่อไปไม่ไหว ส่ายหน้า หัวเราะเยาะและด่าว่า “แค่ขอแต่งงานกับคนที่ตนรักมันยากขนาดนี้เลยรึ? ชั่วดีอย่างไรเจ้าก็เป็นอัจฉริยะบุคคลที่ยากจะหาใดเทียมในหล้า”
“ขอแต่งงาน” เด็กมหัศจรรย์สามตาตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกเมื่อคำๆ นี้ถูกพูดออกมา ใบหน้าแดงก่ำ พูดติดๆ ขัดๆ “ข้า ข้า ข้า…”
เวลานี้ ทุกคนต่างจ้องมองมาที่พวกเขา ในขณะนี้ต่อให้เป็นคนโง่ก็สามารถมองออกได้ว่า เด็กมหัศจรรย์สามตาชอบราชันแท้จริงหลิงซิน
ขณะที่ราชันแท้จริงหลิงซินกลับดันเป็นคู่หมั้นของเทพสงครามจินเปี้ยนเสียนี่ ด้วยความสัมพันธ์เช่นนี้พลันกลับกลายเป็นเรื่องน่าสนใจยิ่ง
แม้ว่าเรื่องราวลักษณะเช่นนี้ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจำนวนเท่าไรบนโลกมนุษย์ แต่ว่า เมื่อเกิดบนตัวของพวกเด็กมหัศจรรย์สามตาก็จะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นเด็กมหัศจรรย์สามตา หรือว่าราชันแท้จริงหลิงซิน และหรือเทพสงครามจินเปี้ยน พวกเขาต่างก็เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังปราศจากผู้ต่อกรแห่งยุค ยิ่งไปกว่านั้นก็มีกำลังความสามารถของราชันแท้จริง
ในบางแง่มุมแล้ว การแต่งงานของพวกเขาไม่เพียงแทนตัวของพวกเขาเองเท่านั้น ยังแทนผลประโยชน์ของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิและนิกาย และหรือการผูกสัมพันธ์กันระหว่างระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิทั้งสองอีกด้วย
เวลานี้ หากเด็กมหัศจรรย์สามตาแย่งผู้หญิงกับเทพสงครามจินเปี้ยนขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ มันกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่งทีเดียว
สีหน้าของอำมาตย์เต่าเปลี่ยนไปมากทีเดียว และดูปั้นยากทันที สมควรทราบว่า ในครั้งนั้นเขาเป็นผู้แทนของตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนไปเจรจาเรื่องนี้กับสวนอีเดนจนบรรลุผลสำเร็จ ถ้าหากเวลานี้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา และเกิดปัญหาแทรกซ้อนขึ้นมา ย่อมไม่เป็นผลดีต่อตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยน สวนอีเดน สำนักเจ้าลัทธิทั้งสอง
ในขณะนี้ อำมาตย์เต่าโบกมือทีหนึ่ง กองทัพเสินจุ้งพลันโอบล้อมเข้าไป จัดการล้อมเด็กมหัศจรรย์สามตาเอาไว้ในพริบตาเดียว
ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น เห็นทหารกองทัพเสินจุ้งชักอาวุธออกจากฝัก พลันมองเห็นประกายดาบ ประกายเยือกเย็นแวบวับ เด็กมหัศจรรย์สามตาถูกล้อมเอาไว้ภายในค่ายกลใหญ่
“อำมาตย์เต่า…” นัยน์ตาของราชันแท้จริงหลิงซินเพ่งมองไปข้างหน้า และจับจ้องบนตัวของอำมาตย์เต่า เมื่อมองเห็นกองทัพเสินจุ้งที่ล้อมเด็กมหัศจรรย์สามตาเอาไว้ เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เจ้าคิดจะทำอะไร?”
“กราบทูลองค์หญิง นายท่านมีบัญชา หลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์ไม่ธรรมดา ให้ข้าน้อยต้องนำกลับไปให้ได้” อำมาตย์เต่าได้แสดงคารวะต่อราชันแท้จริงหลิงซิน
“แหะเจ้าหลานเต่ากลุ่มนี้ของตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนต้องการช่วงชิงโดยอาศัยอำนาจนะเนี่ย” เด็กมหัศจรรย์สามตาหัวเราะเยาะเสียงดังเปี่ยมด้วยมาดและน้ำเสียงที่บ้าระห่ำ เมื่อมองเห็นกองทัพเสินจุ้งที่ล้อมตนเองเอาไว้
ในขณะนี้ เด็กมหัศจรรย์สามตาที่เปี่ยมด้วยมาดและน้ำเสียงที่บ้าระห่ำกับเด็กมหัศจรรย์สามตาที่พูดไม่เป็นและตื่นเต้น เรียกได้ว่าต่างกันราวฟ้ากับดิน
เวลานี้อำมาตย์เต่าถือโอกาสแสดงคารวะต่อราชันแท้จริงหลิงซินอีกครั้ง และกล่าวว่า “องค์หญิง ก่อนที่ข้าน้อยจะมา นายท่านมีบัญชา ทูลเชิญองค์หญิงไปสมทบกับท่านทันที”
คำพูดเช่นนี้ของอำมาตย์เต่าพลันทำให้แววตาของราชันแท้จริงหลิงซินดูเยือกเย็น กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ความเคลื่อนไหวของข้าไม่จำเป็นต้องให้ผู้อื่นมาก้าวก่าย เจ้าถอยไป”
“องค์หญิง งานเกี่ยวดองสมรสสองฝ่ายกำลังจะมีขึ้นเร็วๆ นี้ ขอองค์หญิงทรงเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนรวม” อำมาตย์เต่าคารวะอีกครั้ง
“เรื่องเกี่ยวดองสมรสระหว่างนิกาย เจ้าไปพูดกับเหล่าผู้อาวุโส” ท่าทีของราชันแท้จริงหลิงซินดูเข้ม ข่มผู้อื่นด้วยท่าทีหยิ่งยโส อนุภาพราชันยิ่งใหญ่ไพศาล แม้ว่าอำมาตย์เต่าจะมีกำลังความสามารถแข็งแกร่งมากกว่านี้ แต่ว่า ราชันแท้จริงหลิงซินยังคงไม่โกรธแต่เปี่ยมด้วยอำนาจ ยังคงมีท่าทีที่ข่มผู้อื่น
สมควรทราบว่า ราชันแท้จริงหลิงซินหาใช่เป็นผู้หญิงอ่อนแออะไรนั่น นางคือราชันแท้จริงคนหนึ่ง ต่อให้ทักษะไม่เท่ากับระดับบรรพบุรุษคงความอมตะตลอดกาลบางคน แต่ว่า อนาคตนางจะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ จะแซงล้ำหน้าบรรพบุรุษคงความอมตะตลอดกาลจำนวนมาก
ดังนั้น ต่อให้อำมาตย์เต่าแข็งแกร่งมากกว่านี้ ราชันแท้จริงหลิงซินก็ยังคงมองด้วยสายตาเย็นชาเช่นกัน
สีน้าของอำมาตย์เต่าเปลี่ยนไปมากทีเดียวเมื่อราชันแท้จริงหลิงซินพูดออกมาเช่นนี้ แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถทำอะไรราชันแท้จริงหลิงซินได้ จะอย่างไรเสียนางยังไม่ได้แต่งเข้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยน ยังไม่ได้เป็นคนของตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยน ต่อให้แต่งเข้ามาแล้วนางก็จะเป็นนายหญิงของตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยน เป็นนายของเขาอยู่ดี!
บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองตากันและกันขณะราชันแท้จริงหลิงซินพูดคำๆ นี้ออกมา จากคำพูดเช่นนี้ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยฟังออกถึงแนวโน้มความเป็นไปหลายอย่าง
“มีแนวโน้ม” มีระดับบรรพบุรุษถึงกับพูดเสียงแผ่วเบาว่า”เห็นทีต้องเกิดเหตุแทรกซ้อนขึ้นแล้ว จะต้องก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น”
ผู้คนจำนวนมากล้วนเคยได้ยินมาว่า ขณะที่ตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนเกี่ยวดองสมรสกับสวนอีเดนนั้น ราชันแท้จริงหลิงซินยังไม่ได้สำเร็จเป็นราชันแท้จริง นางยังไม่ได้กุมอำนาจของสวนอีเดน ในขณะนั้นนางยังคงเป็นเพียงศิษย์คนหนึ่งของสวนอีเดนเท่านั้นเอง
ตัวของราชันแท้จริงหลิงซินเองไม่เห็นจะยินดีในเรื่องการหมั้นหมายนี้ แม้ว่าเทพสงครามจินเปี้ยนจะมีความยอดเยี่ยมก็ตาม จะอย่างไรเสียตัวของราชันแท้จริงหลิงซินก็มีความยอดเยี่ยมเช่นกัน
เวลานี้ราชันแท้จริงหลิงซินพูดเช่นนี้ออกมาต่อหน้าผู้คน สิ่งนี้ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยตระหนักได้ว่า ดูท่าราชันแท้จริงหลิงซินจะไม่ชอบในการเกี่ยวดองสมรสเช่นนี้
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า…” ในเวลานี้เอง เด็กมหัศจรรย์สามตาพลันหัวเราะเสียงดังขึ้นมา คำพูดเช่นนี้ของราชันแท้จริงหลิงซินมันคือการโดปยาโดปให้กับเขา พลันรู้สึกลิงโลด พลันรู้สึกตื่นเต้นดีใจอย่างยิ่ง
นาทีนี้เด็กมหัศจรรย์สามตามีลักษณะท่าทางที่ฮึกเหิมและลำพองใจ ดวงตาคู่นั้นกวาดตามอง หมางเมินทั่วหล้า เปี่ยมด้วยลักษณะท่าทางที่โอหังอวดดี หัวเราะบ้าคลั่งทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ได้ยินชื่อเสียงของกองทัพเสินจุ้งมานาน ได้ชื่อว่าสามารถสังหารราชันแท้จริง ในสายตาของเด็กมหัศจรรย์สามตาอย่างข้าแล้วก็เป็นเพียงชื่อเสียงจอมปลอมเท่านั้น”
“ลงมือ…” ในเวลานี้สีหน้าของอำมาตย์เต่าดูน่าเกรงขาม ส่งเสียงเข้มขึ้นมา
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง กองทัพเสินจุ้งได้ขับเคลื่อนค่ายกลใหญ่ ในพริบตาเดียวนั่นเองลมปราณได้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ได้ยินเสียงเปรี๊ยะขึ้น สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนได้ผ่าลงมาตรงๆ พลันพุ่งโจมตีท่ามกลางค่ายกล
ตูม ตูม ตูมท่ามกลางเสียงดังตูมตาม ที่ตั้งของค่ายกลใหญ่เหมือนกลายเป็นมหาสมุทรฟ้าแลบ สายฟ้าแลบจำนวนนับไม่ถ้วนวิ่งพล่านอย่างรุนแรง นาทีนี้ มีร่างเงาสูงใหญ่สายหนึ่งลุกขึ้นยืนท่ามกลางค่ายกลใหญ่ เหมือนเป็นมนุษย์ยักษ์ที่ถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางทะเลฟ้าผ่า
“นี่มันตัวอะไร…” มีผู้ร้องเสียงหลงขึ้นมา เมื่อมองเห็นมนุษย์ยักษ์ที่ลุกขึ้นยืนจากท่ามกลางสายฟ้าผ่า
“ค่ายกลเทพขนาดยักษ์ นี่แหละคือสุดยอดค่ายกลในหล้าของกองทัพเสินจุ้ง” ระดับบรรพบุรุษที่มีประสบการณ์กับค่ายกลใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของกองทัพเสินจุ้งเปิดโปงออกมาทันที
ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น มองเห็นค่ายกลค่ายกลเทพขนาดยักษ์ที่ภายใต้การขับเคลื่อน เทพขนาดยักษ์หนึ่งฝ่ามือที่ฟันลงมา ภายใต้หนึ่งฝ่ามือ ฟ้าแลบดั่งน้ำตกรุนแรงที่พุ่งเข้าโจมตีต่อเด็กมหัศจรรย์สามตา
“ข่าวลือเท่านั้นเอง” เด็กมหัศจรรย์สามตาหัวเราะเสียงดัง พริบตาเดียวนั่นเอง ท่าทีที่โอหัวอวดดีพลันระเบิดขึ้น ได้ยินเสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว ปรากฏเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์พวยพุ่งขึ้นทั่วตัว เขาก็คือเทพขนาดยักษ์คนหนึ่ง
ในพริบตาเดียวนั่นเอง เด็กมหัศจรรย์สามตาได้พวยพุ่งลมปราณที่ปราศจากผู้เทียบเทียมออกมาทั่วตัว กลิ่นอายคงความอมตะตลอดกาลเสมือนดังคลื่นที่ไล่หลังตามกันมา ซัดใส่ทุกๆ คน
แม้เด็กมหัศจรรย์สามตาจะมีอายุน้อย แต่ว่า อย่าลืมว่าเขาคือระดับคงความอมตะตลอดกาล กำลังความสามารถของเขาหาใช่เป็นการคุยโตโอ้อวด ยิ่งไม่ใช่เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงจอมปลอม
เสียงปัง…ดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว สั่นสะเทือนฟ้าดิน ในพริบตาเดียวนั่นเองเด็กมหัศจรรย์สามตาอาศัยมือเปล่ารับมือกับค่ายกลเทพยักษ์ตรงๆ แค่หนึ่งฝ่ามือก็ต้านการโจมตีลงมาของค่ายกลเทพยักษ์
“ดูฝีมือข้า…” เด็กมหัศจรรย์สามตาคำรามเสียงยาว ลักษณะท่าทางฮึกเหิมและลำพองใจ ฟ้าดินเคลื่อนไปตามจังหวะการก้าวเดิน ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ฝ่ามือของเขาพลันกดลง สุริยันจันทราและดวงดาวล้วนรวมตัวกันอยู่ท่ามกลางฝ่ามือของเขา สายทางเคลื่อนไปตามการก้าวเดิน เด็กมหัศจรรย์สามตาหนึ่งก้าวหนึ่งสายทาง ด้วยจังหวะการย่างก้าวที่ลึกซึ้งยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ก้าวเข้าไปอยู่ท่ามกลางค่ายกลเทพยักษ์ของกองทัพเสินจุ้ง
ปัง ปัง ปัง…เสียงโจมตีดังขึ้นเป็นระลอก เด็กมหัศจรรย์สามตาหนึ่งก้าวหนึ่งโจมตีสังหาร ค่อยๆ แตกละเอียดทีละช่วง เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น เขาก็สามารถบุกสังหารเข้าไปยังแกนกลางของค่ายกลเทพยักษ์ ภายใต้การโจมตีต่อเนื่องทีละช่วงๆ พลันทำลายค่ายกลเทพยักษ์จนแตกละเอียด
ได้ยินเสียงดังตูม…สนั่นหวั่นไหว ค่ายกลเทพยักษ์ทั้งหมดแตกละเอียด มองเห็นมนุษย์ยักษ์ที่มีสายฟ้าล้มลงตึง เมื่อค่ายกลแตกละเอียดพลันทำให้ทหารของกองทัพเสินจุ้งถูกเปิดเผยออกมาตรงหน้าเด็กมหัศจรรย์สามตา
แม้ว่าค่ายกลเทพยักษ์จะมีความลึกซึ้งยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง แต่ว่าอย่าลืมไปว่า ดวงตาทองคำของเด็กมหัศจรรย์สามตาสามารถทำลายความไม่จริงทุกอย่างได้ สามารถวิวัฒนาการและคำนวณทุกสิ่ง เมื่อเด็กมหัศจรรย์สามตาจ้องมองไปนั้น ความลึกซึ้งยอดเยี่ยมทั้งหมดของค่ายกลเทพยักษ์ถูกเขามองจนทะลุปรุโปร่ง ดังนั้น เขาจึงสามารถบุกสังหารเข้าไปในค่ายกลเทพยักษ์ภายในเสี้ยววินาที และทำลายค่ายกลเทพยักษ์ได้ทั้งหมด
“ฆ่า…” เด็กมหัศจรรย์สามตาคำรามเสียงยาว มือขนาดใหญ่พลันรวบเอาสายฟ้าที่กองทัพเสินจุ้งนำมาแต่เดิมเข้าไปอยู่ในมือของเด็กมหัศจรรย์สามตา
ได้ยินเสียงเปรี๊ยะดังขึ้น สายฟ้าทั้งหมดเสมือนดั่งน้ำหลากที่พุ่งโจมตีออกไปยังกองทัพเสินจุ้ง
“อ๊ากกก…” ในเวลานี้เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้นลงสลับ ทหารของกองทัพเสินจุ้งจำนวนไม่น้อยถูกสายฟ้าแทงทะลุอก ล้มลงจมกองเลือดท่ามกลางเสียงร้องที่น่าเวทนา
“อย่าได้ทำร้ายคน…” ในพริบตาเดียวนั่นเอง จากการที่อำมาตย์เต่าร้องเสียงดังขึ้นมา ปรากฏโล่ขนาดยักษ์ที่ลอยเข้ามา ได้ยินเสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง เข้าขวางน้ำหลากสายฟ้าที่โจมตีมาจากเด็กมหัศจรรย์สามตาเอาไว้
ผู้ลงมือก็คืออำมาตย์เต่านั่นเอง พลันที่เขาลงมือก็ได้ช่วยชีวิตผู้ที่ยังคงรอดชีวิตอื่นๆ ของกองทัพเสินจุ้งเอาไว้
“ที่แท้ก็ไอ้เลวคนนี้นี่เอง” เมื่อเด็กมหัศจรรย์สามตาเห็นอำมาตย์เต่าแล้วหัวเราะเยาะทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ต่อให้วันนี้ฆ่าเจ้าไม่ได้ วันหน้าก็จะสังหารเจ้า!”
“แหะวาจาสามหาวยิ่งนัก” อำมาตย์เต่าหัวเราะน่าครั่นคร้ามเย็นชา และกล่าวว่า “เกรงว่าเจ้าจะไม่มีวันหน้าแล้ว”
“อาศัยเจ้าน่ะหรือ?” เด็กมหัศจรรย์สามตาหัวเราะเสียงดัง มองดูอำมาตย์เต่าทีหนึ่ง หัวเราะเสียงดังอย่างโอหังอวดดี และกล่าวว่า “อาศัยเจ้ายังสังหารข้าไม่ได้ หากข้าสังหารเจ้ายังมีความเป็นไปได้เจ็ดส่วน!”
“นับรวมข้าอีกคนจะเป็นไร?” ในเวลานี้เสียงที่เอ้อระเหยดังขึ้น ปรากฏคนสามคนได้ก้าวออกมาจากทะเลสาบ
ผู้ที่ก้าวออกมาก็คือเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่ม เสินกู่จ้าน และกระบี่เหินเทียนเจียว
เมื่อครู่นี้ เทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มยังได้ช่วยเหลือพวกเสินกู่จ้าน และกระบี่เหินเทียนเจียวอีกแรง ให้พวกเขาได้หลุดพ้นจากการทำความลำบากใจของน้ำพุลาวา
………………………………………………
Comments