Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3042 ข้าพูดแล้วคนอื่นต้องทำตาม

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3042 ข้าพูดแล้วคนอื่นต้องทำตาม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3042 ข้าพูดแล้วคนอื่นต้องทำตาม

พวกเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มสามคนก้าวออกมาจากทะเลสาบ เทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มนั้นไม่ต้องพูดถึงให้มากความ เขาตั้งใจต้องสังหารเด็กมหัศจรรย์สามตาให้ได้อยู่แล้ว อีกทั้งในเวลานี้เสินกู่จ้านและกระบี่เหินเทียนเจียวก็มีท่าทีที่ไม่เป็นมิตรกับเด็กมหัศจรรย์สามตาแล้วเช่นกัน

นาทีนี้ แม้ว่าเสินกู่จ้านและกระบี่เหินเทียนเจียวไม่ได้ลงมือ แต่ว่า พวกเขาต่างยึดตำแหน่งเอาไว้ด้านหนึ่งกลายเป็นรูปสามเหลี่ยม ออกลักษณะล้อมเด็กมหัศจรรย์สามตาเอาไว้

“เด็กมหัศจรรย์สามตาอันตรายแล้วล่ะ” ทุกคนที่มองเห็นภาพนี้แล้วต่างก็เข้าใจได้ว่า พวกเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มไม่ต้องการให้เด็กมหัศจรรย์สามตามีชีวิตออกไปจากที่นี่

เทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มต้องการสังหารเด็กมหัศจรรย์สามตาเป็นสิ่งทุกคนสามารถเข้าใจได้ จะอย่างไรเสียเขาย่อมไม่ต้องการเห็นเด็กมหัศจรรย์สามตาแย่งผู้หญิงกับเทพสงครามจินเปี้ยน ซึ่งเป็นศิษย์น้องของเขา การสังหารเด็กมหัศจรรย์สามตาเป็นการตัดปัญหาที่จะเกิดขึ้นภายหลัง

ขณะที่เสินกู่จ้านและกระบี่เหินเทียนเจียวถูกเด็กมหัศจรรย์สามตาหลอกทำร้ายไปทีหนึ่งเมื่อครู่ ต้องเสียเปรียบให้กับเด็กมหัศจรรย์สามตา พวกเขาย่อมไม่มีความเป็นมิตรสำหรับเด็กมหัศจรรย์สามตาอยู่แล้ว

“ทำไมรึ พวกเจ้าจะเข้ามาพร้อมๆ กันรึ?” ดวงตาทั้งสองของเด็กมหัศจรรย์สามตาเพ่งตรงไปข้างหน้า มองไปรอบๆ และหัวเราะเสียงดังขึ้นมา ในเวลานี้แม้ว่าเขาจะถูกอำมาตย์เต่า และเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มล้อมเอาไว้ก็ไม่มีท่าทีหวั่นเกรงแม้แต่น้อย ยังคงมีลักษณะท่าทางที่ฮึกเหิมลำพองใจ ยังคงมีลักษณะท่าทางที่โอหังอวดดีเต็มเปี่ยม

“คงไม่ถึงขั้นต้องเข้าไปพร้อมกัน” เสินกู่จ้านยิ้มกล่าวเรียบเฉยขึ้นมาว่า “ข้าไม่ได้ประสงค์ร้ายต่อสหายสามตา แต่ว่า สหายสามตาต้องส่งมอบหลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์ออกมา ขอเพียงสหายมอบหลินจือเซียนต้นนี้ออกมา ข้าจะสะบัดก้นจากไปทันที”

“แหะถ้าหากข้าไม่มอบมันออกมาล่ะ?” เด็กมหัศจรรย์สามตาหัวเราะเยาะและดูแคลน

ดวงตาทั้งสองของเสินกู่จ้านพลันดูน่าเกรงขาม เปี่ยมด้วยปณิธานการฆ่า และกล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “ถ้าเช่นนั้นได้แต่ล่วงเกินแล้ว จะอย่างไรเสีย ข้าเองก็ต้องการในหลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์มาก”

“การอาศัยกำลังแย่งชิงแล้วมาพูดเสียยิ่งใหญ่มีคุณธรรมได้ก็คงมีเพียงแคว้นเสินฉีเจียงเท่านั้นที่ทำได้” เด็กมหัศจรรย์สามตากล่าวหัวเราะเยาะ

“ปลาใหญ่กินปลาเล็ก มันคือหลักกฎเกณฑ์อยู่แล้ว” เสินกู่จ้านก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธ ยิ่งกว่านั้นยังไม่ได้หน้าแดง ท่าทางไม่สะทกสะท้าน

แน่นอน คำพูดลักษณะเช่นนี้ก็ทำให้ผู้คนไม่สามารถโต้เถียงได้ จะอย่างไรเสีย ในโลกของผู้บำเพ็ญตนก็เป็นลักษณะของปลาใหญ่กินปลาเล็กมาโดยตลอด เพียงแต่ผู้คนจำนวนมากไม่พูดเฉลยออกมาเท่านั้น

“แหะเป็นความจริงที่พวกเจ้ามีคนมาก” เด็กมหัศจรรย์สามตามองดูพวกเขาแล้วหัวเราะเยาะทีหนึ่ง และกล่าวน่าเกรงขามว่า “เกรงว่า พวกเจ้าคิดจะรั้งตัวข้าเอาไว้คงยากนะ หากพลาดโอกาสวันนี้ไปแล้ว วันหน้าข้าจะต้องเอาคืนทีละคนๆ แน่นอน!”

“ที่สหายคิดก็ไม่ผิด” เสินกู่จ้านหัวเราะอย่างทระนง และกล่าวว่า “ข้าก็รู้ว่าดวงตาทองคำของสหายยอดเยี่ยมมาก ดังนั้น ข้าจึงเว้นช่องให้กับสหายเอาไว้”

ในเวลานี้ เสินกู่จ้านยื่นมือออกไป ได้ยินเสียงปุดังขึ้น มองเห็นระหว่างฟ้าดินปรากฏประกายขึ้นมา พื้นที่แห่งนี้ปรากฏเป็นแคว้นโบราณลอยขึ้น เหมือนมีกำแพงศักดิ์สิทธิ์ไร้รูปได้กั้นขวางพื้นที่ทั้งหมดเอาไว้

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่ว่าเจ้าจะไปยังทิศทางใดก็ตาม เจ้าก็เหมือ่ถูกกำแพงศักดิ์สิทธิ์กั้นขวางเอาไว้ ต่อให้ข้ามกำแพงออกไป ด้านล่างเท้าก็ยังคงเป็นแคว้นโบราณที่ไม่มีสิ้นสุด เจ้าจะไม่สามารถหลบหนีไปจากแคว้นโบราณเช่นนี้อยู่แล้ว

“แคว้นโบราณห้ามฟ้า…” ระดับบรรพบุรุษรู้สึกหวั่นไหวในใจ เมื่อมองเห็นวิธีการปิดกั้นลักษณะเช่นนี้ กล่าวด้วยท่าทีตระหนกว่า “นี่คือสุดยอดวิชาเฉพาะของหย่วนเต้า”

ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกหวั่นไหวในใจเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ชื่อของหย่วนเต้านั้นสยบเป็นนิรันดร์ พลันที่เสินกู่จ้านลงมือก็สำแดงสุดยอดวิชาเฉพาะของหย่วนเต้า ย่อมสามารถมองออกได้ว่ากำลังความสามารถของเขานั้นแข็งแกร่งเพียงใดแล้ว

“เป็นความจริงที่ดวงตาทองคำของสหายนั้นยอดเยี่ยมมาก” เสินกู่จ้านเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “แต่ว่า คิดจะทำลาย ‘แคว้นโบราณห้ามฟ้า’ ของข้าเกรงจะไม่ง่ายนัก สหายไม่สามารถทำลายภายในช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วหลบหนีไปได้”

ดวงตาทองคำของเด็กมหัศจรรย์สามตาส่งประกายแวบวับทีหนึ่ง มองดูกำแพงศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บริเวณนั้นแล้ว กล่าวเสียงเย็นชาว่า “ช่างเป็น ‘แคว้นโบราณห้ามฟ้า’ ที่ดีเหลือเกิน!”

เหมือนที่เสินกู่จ้านได้พูดเอาไว้อย่างนั้น ดวงตาทองคำของเขาไม่สามารถทำลาย ‘แคว้นโบราณห้ามฟ้า’ ภายในเวลาอันสั้น

“ดั่งที่ข้าได้พูดเอาไว้ สหายใยไม่มอบหลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์ออกมาเล่า หลังจากนี้เจ้ากับข้าก็คือน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง” เสินกู่จ้านยิ้มอย่างสูงส่งและงดงาม

นาทีนี้ ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ ทุกคนต่างรู้ว่าหากสู้กันซึ่งหน้าเด็กมหัศจรรย์สามตาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มเด็ดขาด เมื่อสู้กันจนถึงที่สุดเด็กมหัศจรรย์สามตาต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ว่า อาศัยกำลังความสามารถและของวิเศษที่เด็กมหัศจรรย์สามตามีอยู่ หากเขาต้องการหลบหนีไปล่ะก็ ไม่แน่เสมอไปว่าพวกของเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มจะรั้งตัวเขาเอาไว้ได้ แต่ทว่า เวลานี้เสินกู่จ้านอาศัย ‘แคว้นโบราณห้ามฟ้า’ ที่เป็นสุดยอดวิชาปิดกั้นฟ้าดินเอาไว้ หากเด็กมหัศจรรย์สามตาคิดจะหนีก็ยากขึ้นมากทีเดียว

เวลานี้ หากเด็กมหัศจรรย์สามตาคิดจะมีชีวิตอยู่ต่อไป วิธีการที่ดีที่สุดก็คือมอบหลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์ออกมาให้กับเสินกู่จ้าน

เสินกู่จ้านยิ้มนิดหนึ่ง เหมือนมีความมั่นใจอย่างยิ่ง เขารู้ดีว่าหากเด็กมหัศจรรย์สามตาต้องการมีชีวิตรอดต่อไป จะต้องมอบหลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์ออกมา

ขณะที่ในขณะนี้ เทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มก็จะไม่หักหน้ากับเขาอย่างเปิดเผย ความตั้งใจของเขาคือสังหารเด็กมหัศจรรย์สามตา จะไม่ยอมเพิ่มศัตรูที่กล้าแข็งขึ้นมาอีกคนแน่

ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์จะต้องเป็นหมูในอวยของเขาเป็นแน่แท้แล้ว

เทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มยืนท่าทีเย็นชาอยู่ตรงนั้น โดยไม่ได้ออกปากห้ามปรามการแลกเปลี่ยนของเสินกู่จ้าน ในขณะนี้เขาก็ไม่ต้องการสร้างศัตรูที่กล้าแข็งอย่างเสินกู่จ้าน เขาเพียงต้องการสังหารเด็กมหัศจรรย์สามตาก็พอแล้ว

“แหะเห็นทีวันนี้ข้าคิดจะไม่มอบออกมาก็คงยากนะเนี่ย” เด็กมหัศจรรย์สามตาหัวเราะเยาะทีหนึ่ง

“ผู้รู้จักกาลเทศะเป็นยอดคน!” เสินกู่จ้านกล่าวเอ้อระเหยว่า “อีกอย่างการพลาดท่าเสียทีชั่วขณะก็ใช่เป็นเรื่องน่าอับอาย เมื่อครู่สหายก็กักขังพวกเราอยู่ในน้ำพุลาวามิใช่รึ เรื่องราวบนโลกและโชคชะตาผู้คนมักจะแปรเปลี่ยนไปอยู่เสมอ สหายเองก็ไม่ต้องไปคิดมาก”

เวลานี้เสินกู่จ้านเรียกได้ว่าถือไพ่เหนือกว่า เรียกว่าหลินจือเซียนนั้นคว้าเอามาได้โดยไม่ต้องเปลืองแรง และเขาก็มีความมั่นใจ และไม่สะทกสะท้าน

“อาศัยพวกมากรึ?” ในเวลานี้เอง ราชันแท้จริงหลิงซินกล่าวเรียบเฉยเย็นชาขึ้นมา ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้น ปีกทองคำคู่นั้นของนางกางออก ปรากฏประกายทองคำเจิดจ้า!

เวลานี้ราชันแท้จริงหลิงซินยืนอยู่ข้างเด็กมหัศจรรย์สามตา พลันดึงดูดสายตาของทุกคนเอาไว้

แน่นอน อำมาตย์เต่า เทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มทั้งสองคนล้วนมีสีหน้าที่ปั้นยากมาก แต่ว่า พวกเขาก็จนด้วยเกล้า ต่อให้เป็นคู่หมั้นของเทพสงครามจินเปี้ยน พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปก้าวก่ายการกระทำของราชันแท้จริงหลิงซิน

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า…” ในเวลานี้เด็กมหัศจรรย์สามตาเสมือนหนึ่งได้โดปยาโดปเข้าไปอย่างนั้น เนื่องจากในเวลานี้ราชันแท้จริงหลิงซินยังสามารถยืนอยู่ข้างเขาได้ กล่าวสำหรับเขาแล้วนับว่าเพียงพอแล้ว มีราชันแท้จริงหลิงซินอยู่ด้วย ต่อให้ต้องเป็นศัตรูกับผู้คนทั่วหล้าเขาก็เปี่ยมด้วยปณิธานการต่อสู้ โดยไม่หวั่นเกรงอะไรในใจเลยแม้แต่น้อย!

นาทีนี้ เด็กมหัศจรรย์สามตาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง มีความฮึกเหิมเต็มที่ มีท่าทีที่หมางเมินทั่วหล้า กล่าวอย่างทระนงว่า “พวกเจ้าเข้ามาพร้อมๆ กันก็แล้วกัน! คนอย่างเด็กมหัศจรรย์สามตาใช่จะเป็นคนที่กลัวมีเรื่อง!”

พวกของเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มเพ่งสายตาไปข้างหน้า ในเวลานี้พวกเขาได้แลกเปลี่ยนสายตาทีหนึ่ง

“สหายหลิงซิน เรื่องของพวกผู้ชายเส็งเคร็งผู้หญิงอย่างพวกเราจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวด้วย” ขณะที่สถานการณ์กำลังตึงเครียด กระบี่เหินเทียนเจียวได้กล่าวยิ้มแต้ต่อราชันแท้จริงหลิงซิน

เวลานี้กระบี่เหินเทียนเจียวได้ขวางอยู่ด้านน้าของราชันแท้จริงหลิงซิน ย่อมไม่ต้องสงสัย กระบี่เหินเทียนเจียวต้องการรับมือกับราชันแท้จริงหลิงซิน ขณะที่พวกของเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มทั้งสามคนร่วมมือกันสังหารเด็กมหัศจรรย์สามตา

“หากเทียนเจียวต้องการสู้ข้าเล่นด้วยก็แล้วกัน” ราชันแท้จริงหลิงซินพูดเรียบเฉยขึ้น คำพูดก็แข็งแกร่งมีพลัง นางที่อยู่ในฐานะที่เป็นราชันแท้จริง มีอุปสรรคใดที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนเล่า

“หากสหายหลิงซินสนใจข้าก็จะเล่นเป็นเพื่อนด้วย” กระบี่เหินเทียนเจียวก็เป็นคนเปี่ยมด้วยความอวดดี เวลานี้นางยิ้มเยาะและมีท่าที่เย็นชา

“ลงมือเถอะ” ในเวลานี้ ดวงตาทั้งสองของเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มเยือกเย็น ปณิธานการฆ่าวูบวาบ กล่าวสำหรับเขาแล้ว วันนี้ต้องสังหารเด็กมหัศจรรย์สามตาให้ได้

ในเวลานี้ บรรยากาศหนักแน่นจนถึงที่สุด ไม่ว่าใครก็มองออกว่าต่อให้ราชันแท้จริงหลิงซินในขณะนี้แอ่นอกรับเด็กมหัศจรรย์สามตาอย่างเต็มที่ แต่ว่า การร่วมมือของพวกเขาทั้งสองคนยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มสี่คน

“เจ้าหนูสามตา เจ้าตายไปดูจะไม่มีอะไรนัก” ในเวลานี้ เสียงที่เอ้อระเหยเสียงหนึ่งดังขึ้น “แต่ว่า เจ้าจะทำให้แม่นางหลิงซินต้องพลอยเดือดร้อนกระมัง”

ผู้ที่พูดคำๆ นี้ก็คือกระบือดำขนาดใหญ่นั่นเอง

คำพูดเช่นนี้ของกระบือดำขนาดใหญ่พลันทำให้ท่าทีของเด็กมหัศจรรย์สามตาต้องชะงักและสะดุ้งในใจ กล่าวสำหรับเขาแล้ว การที่มีราชันแท้จริงหลิงซินอยู่ข้างกายทุกอย่างก็เพียงพอแล้ว แต่ทว่า หากจะต้องทำให้ราชันแท้จริงหลิงซินพลอยเดือดร้อนไปด้วยล่ะก็…

คราวนี้พลันทำให้เด็กมหัศจรรย์สามตาเกิดความลังเลขึ้นมาแล้ว

“ลังเลบ้านเจ้าน่ะสิ” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะเย็นชาว่า “ไม่เห็นหรือไงว่าท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่อยู่ที่นี่? ยอมอ่อนข้อให้กับท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ทุกอย่างก็จะแก้ไขได้ทันที ไร้สมอง”

คำพูดเช่นนี้ของกระบือดำขนาดใหญ่พลันเตือนสติเด็กมหัศจรรย์สามตา เขาอดที่จะมองไปยังหลี่ชิเย่

เด็กมหัศจรรย์สามตาในฐานะที่เป็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคล และตัวเขาก็เป็นผู้ที่เปี่ยมด้วยความโอหังอวดดีคนหนึ่งเช่นเดียวกัน เขาจะไม่ยอมก้มหัวให้กับใครง่ายดาย แต่ว่า หากเพื่อราชันแท้จริงหลิงซิน…

“เดินมานี่สิ” เมื่อหลี่ชิเย่มองเห็นท่าทางที่ขอความช่วยเหลือของเด็กมหัศจรรย์สามตาแล้วจึงยิ้มนิดหนึ่ง และกล่าวว่า “วันนี้ ข้าพูดแล้วคนอื่นต้องทำตาม! มีข้าคุ้มครองพวกเจ้า!”

“แหะได้ยินแล้วสิ เมื่อท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ออกปากแล้ว พวกเจ้าที่เป็นคู่รักน้อยๆ ก็วางใจได้เต็มที่ เรื่องของพวกเจ้าสำเร็จแล้ว” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะแหะแหะว่า “พวกเจ้าทั้งสองสามารถอยู่ด้วยกันต่อไป ใครกล้าแยกจากพวกเจ้า นิ้วมือนิ้วเดียวของท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่จะสังหารพวกเขาเสีย”

การที่พวกของหลี่ชิเย่พลันยื่นมือเข้ามาสอด ทำให้สีหน้าของพวกเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มเปลี่ยนไป

“สหาย นี่เป็นเรื่องบุญคุณความแค้นส่วนตัวของพวกเรา ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสหาย…” ดวงตาทั้งสองของเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มเพ่งไปข้างหน้า และกล่าวน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมา

“ข้าพูดแล้วทุกคนต้องทำตาม” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “ถ้าหากพวกเจ้ารู้จักกาลเทศะก็ไสหัวไปเดี๋ยวนี้ ข้าจะถือว่าไม่มีเรื่องใดๆ เกิดขึ้น หากไม่ ข้าก็จะเหยียบข้ามศพของพวกเจ้าไป”

คำพูดที่เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ว่า เปี่ยมด้วยกลิ่นคาวเลือด ทระนงไร้ความปราณี

“ใช้อำนาจบาตรใหญ่ นี่แหละคือคนโหดอันดับหนึ่ง” มีผู้ยกนิ้วโป้งให้ เมื่อได้เห็นหลี่ชิเย่ทำการดูแคลนพวกของเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มอย่างสิ้นเชิง

“นี่มันมุทะลุดุดันเกินไปแล้วกระมัง พลันก็ล่วงเกินแคว้นเสินฉีเจียง ตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยน และยังมีสี่ซีด้วย” มียอดฝีมือถึงกับพึมพำขึ้นมา

“นี่นับเป็นอะไรได้ สมควรทราบว่า เขาน่ะคือผู้ชายที่อาศัยมือข้างเดียวสังหารร่างจำแลงของเทพสงครามจินเปี้ยน และหมิงหวังฝอ ยิ่งไปกว่านั้น เบื้องหลังของเขายังมีนางฟ้าหวู่สิงหนุนหลัง ตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนนับเป็นอะไรได้” มีระดับบรรพบุรุษที่มองเห็นได้ชัดเจน และทะลุปรุโปร่งมากกว่าได้เอ่ยขึ้นช้าๆ

คำพูดที่ถืออำนาจบาตรใหญ่เช่นนี้ของหลี่ชิเย่ พลันทำให้สีหน้าของพวกเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มดูไม่จืดถึงขีดสุด

…………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด