Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3059 เปลี่ยนชะตาฟ้า

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3059 เปลี่ยนชะตาฟ้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3059 เปลี่ยนชะตาฟ้า

พลันที่วิชาเปลี่ยนชะตาฟ้าถูกสำแดงออกมา ฟ้าดินล้วนมืดลง สรรพสิ่งบนโลกล้วนเสื่อมโทรม ต่อให้เป็นเซียนก็ไม่สามารถก้าวข้ามความเสื่อมโทรมนี้ไปได้

“เปลี่ยนชะตาฟ้า…” อย่าว่าแต่ยอดฝีมือทั่วๆ ไปเลย ต่อให้เป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าอยู่ในระดับคงความอมตะตลอดกาลที่ปราศจากผู้ต่อกรก็ต้องร้องเสียงดังขึ้นมา และรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง

เสียงแว้งค์…ดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ในพริบตาเดียวนั่นเอง ดวงตาดวงที่สามที่ตั้งขึ้นซึ่งมีสีแดงสดปรากฎแสงแวบหนึ่ง ประกายเลือดปรากฏขึ้นมา

ในเสี้ยววินาทีนี้เอง จากเสียงแว้งค์ที่ดังขึ้น กงล้อโลหิตวงหนึ่งพลันปรากฎขึ้นตรงหน้าเทพสงครามจินเปี้ยน ลักษณะของกงล้อโลหิตวงนี้ออกเป็นสีแดงฉานยิ่งนัก ให้ความรู้สึกถึงเลือดสดๆ ที่ไหลรินลงมาแก่ผู้พบเห็น

สีหน้าของเทพสงครามจินเปี้ยนเปลี่ยนไปมากทีเดียว เมื่อมองเห็นการปรากฏตัวขึ้นของกงล้อโลหิต ได้แต่ละทิ้งราชันแท้จริงหลิงซินเพื่อหันมาป้องกันตนเอง

เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ในเสี้ยววินาทีนี้เอง สิบสองลัคนาของเทพสงครามจินเปี้ยนถูกเรียกคืนกลับเข้าร่างไป ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังขึ้น สิบสองลัคนาได้พวยพุ่งเป็นประกายที่สว่างไสวยิ่งออกมา พลันส่องสว่างร่างกายของเทพสงครามจินเปี้ยนจนสว่างไสวยิ่งนักไปทั่วทั้งร่าง

สิบสองลัคนาเสมือนดั่งม่านฟ้าแหดินกลับกลายเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นมา ทำการพันธนาการชะตาฟ้าของเทพสงครามจินเปี้ยนเอาไว้ภายในอย่างแน่นหนา ในขณะนี้ สิบสองลัคนาได้ปรากฎคัมภีร์สัจธรรมที่ปราศจากผู้ต่อกรบทแล้วบทเล่าขึ้นมา ทุกๆ บทคัมภีร์เสมือนหนึ่งเป็นโลกๆ หนึ่งกว้างใหญ่ไพศาล ทำการปกป้องชะตาฟ้าอย่างหนาแน่น

กล่าวได้ว่า ชะตาฟ้าของเทพสงครามจินเปี้ยนในเวลานี้ได้รับการปกป้องด้วยแนวป้องการที่แข็งแกร่งที่สุดเอาไว้แล้ว

แต่ว่า พลันที่กงล้อโลหิตหมุนตัวขึ้นมา กงล้อโลหิตวงนี้เสมือนดั่งไร้รูปอย่างนั้น มันทะลุผ่านชุดเกราะปฐมบรรพบุรุษที่สวมอยู่บนตัวของเทพสงครามจินเปี้ยนในพริบตาเดียว

แม้ว่าชุดเกราะปฐมบรรพบุรุษจะปราศจากผู้ต่อกร แต่ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้ากงล้อโลหิตแล้ว ชุดเกราะปฐมบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียมกลับเสมือนหนึ่งถูกสร้างขึ้นมาหลอกๆ เหมือนไม่มีตัวตนอย่างนั้น กงล้อโลหิตแวบทะลุผ่านไปและยิงถล่มเข้าไปภายในร่างกายของเทพสงครามจินเปี้ยน

เสียงตูม…ดังสนั่น กงล้อโลหิตได้พุ่งชนเข้าไปยังป้อมปราการที่เกิดจากสิบสองลัคนาของเทพสงครามจินเปี้ยนอย่างแรง ท่ามกลางเสียงปังที่ดังสนั่นหวั่นไหว ตัวป้อมปราการเองก็ต้านกงล้อโลหิตเอาไว้ไม่อยู่

ได้ยินเสียงปัง ปัง ปังดังขึ้น ร่างกายโลหะที่สูงใหญ่ของเทพสงครามจินเปี้ยนพลันถูกชนจนบินออกไปไกลนับพันนับหมื่นลี้ เลือดสดๆ แตกกระจายย้อมท้องฟ้าสีครามจนกลายเป็นสีเลือด

หลังจากที่ร่างสูงใหญ่ของเทพสงครามจินเปี้ยนถูกพุ่งชนจนกระเด็นไปแล้ว และร่วงหล่นจากท้องฟ้าสูง สุดท้ายได้ยินเสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง ได้กระแทกเข้ากับพื้นดินอย่างหนัก และสามารถมองเห็นแม้อยู่ในระยะห่างไกล

ทุกคนล้วนถูกทำให้รู้สึกหวั่นไหวเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว ไม่ว่าใครก็นึกไม่ถึงว่า เด็กมหัศจรรย์สามตาสามารถพลิกสถานการณ์ได้ในนาทีสุดท้าย นับว่าน่าสยองขวัญมากเหลือเกิน

กระบวนท่าเปลี่ยนชะตาฟ้าเช่นนี้ได้ก่อให้เกิดความทรงจำที่ลึกซึ้งยิ่งนัก มันเสมือนดั่งเป็นกระบวนท่าที่ปราศจากผู้ต่อกรโดยแท้ เมื่อสำแดงกระบวนท่านี้ออกมา แม้แต่ผู้ที่ดำรงอยู่เฉกเช่นเทพสงครามจินเปี้ยนก็รับเอาไว้ไม่ได้ ถูกยิงจนกระเด็นออกไปในทันที

หลังจากที่เด็กมหัศจรรย์สามตาได้สำแดง ‘เปลี่ยนชะตาฟ้า’ ออกมาแล้ว ไม่เพียงแต่ผมสีดำได้กลับกลายเป็นผมขาวทั้งหัวเท่านั้น ดวงตาทองคำของเขาพลันสูญเสียสีสันไป ดวงตาดวงนี้ของเขาเสมือนดั่งใช้การไม่ได้อีกแล้ว

ในเวลานี้เขากระอักเลือดออกมา และหงายหลังลงมา ขณะที่ร่างกายของเขาร่วงหล่นลงมานั้น ราชันแท้จริงหลิงซินโฉบเข้าไปดั่งสายฟ้าแลบในพริบตาเดียว กอดรับเด็กมหัศจรรย์สามตาที่ร่วงหล่นลงมาเอาไว้

“รีบหนีไป…” เด็กมหัศจรรย์สามตากระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง หน้ามืดและสลบไปหลังจากพูดคำๆ นี้ออกมาแล้ว

ราชันแท้จริงหลิงซินรีบหยิบเอายาวิเศษออกมาและป้อนเข้าไปในปากของเด็กมหัศจรรย์สามตา เพื่อรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ก่อน นางเองก็รับรู้ถึงผลของการสำแดงกระบวนท่า ‘เปลี่ยนชะตาฟ้า’ ออกมาแล้ว

“เปลี่ยนชะตาฟ้า…” แม้แต่ระดับบรรพบุรุษที่มีกำลังความสามารถคงความอมตะตลอดกาลก็ต้องใจหายใจคว่ำ เมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว และพึมพำขึ้นมาว่า “ไม่เพียงแต่กระบวนท่าสังหารที่รุนแรงและอันธพาลที่สุดของปฐมบรรพบุรุษเทียนถงเท่านั้น ที่สามารถไม่เห็นแนวป้องกันทุกอย่างอยู่ในสายตา สามารถทำลายชะตาฟ้าได้โดยตรง!”

“ฝืนลิขิตฟ้าเหลือเกิน ไม่นึกไม่ฝันว่าตัวเขาที่มีอายุเพียงเท่านี้ ถึงกับฝึกวิชาสังหารเด็ดขาดเช่นนี้ได้สำเร็จ ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเทียนถง เกรงว่าคงมีเพียงเหล่าจวินนัยน์ตาเทพที่ฝึกได้สำเร็จกระมัง”

ต่อให้เป็นผุ้ที่ไม่เคยได้ยินชื่อ ‘เปลี่ยนชะตาฟ้า’ มาก่อน มาวันนี้เมื่อได้เห็นอานุภาพของกระบวนท่า ‘เปลี่ยนชะตาฟ้า’ แล้วก็ต้องรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง กระบวนท่านี้นับว่ารุนแรงและอันธพาลเหลือเกิน และน่ากลัวอย่างยิ่ง แม้แต่ชุดเกราะปฐมบรรพบุรุษก็สามารถทะลุผ่านได้ทันที ไม่ได้มองว่าเป็นแนวป้องกันอยู่แล้ว ช่างฝืนลิขิตสวรรค์เช่นใด

เปลี่ยนชะตาฟ้าคือเคล็ดวิชาสุดยอดสังหารสูงสุดที่ปฐมบรรพบุรุษเทียนถงคิดค้นขึ้น ผู้ที่อยู่ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเทียนถงและสามารถฝึกปรือจนสำเร็จมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา แต่ว่า เด็กมหัศจรรย์สามตากลับฝึกได้สำเร็จแล้ว

เพียงแต่ เคล็ดวิชา ‘เปลี่ยนชะตาฟ้า’ เป็นกระบวนท่าที่ร้ายกาจยิ่งนัก เด็กมหัศจรรย์สามตายังไม่สามารถรองรับกับอานุภาพของมันเอาไว้ได้ ดังนั้น เมื่อมีการสำแดงออกมา ต่อให้เด็กมหัศจรรย์สามตาสามารถเอาชนะศัตรูได้ แต่ตัวเขาเองก็มีความเสี่ยงที่สูงมาก หลังจากที่สำแดงกระบวนท่านี้ออกมาแล้ว ตัวเขาเองมความเป็นไปได้ว่าจะต้องเสียชีวิตภายใต้กระบวนท่านี้ ต่อให้สามารถรอดชีวิตมาได้ เกรงว่าดวงตาทองคำของเขาก็ต้องเสียไป

กล่าวสำหรับเด็กมหัศจรรย์สามตาแล้ว เขาไม่ต้องการสำแดงกระบวนท่านี้ จะอย่างไรเสียเมื่อสำแดงกระบวนท่านี้ออกมาแล้ว ต่อให้เขาไม่ตายและดวงตาทองคำของเขาก็ต้องเสียหายใช้การไม่ได้อีก ขณะที่ทักษะยุทธที่เขาฝึกปรือมาชั่วชีวิตล้วนแล้วแต่อยู่ที่ดวงตาทองคำนั่น ถ้าหากปราศจากดวงตาทองคำแล้วเขาก็จะไม่ใช่เด็กมหัศจรรย์สามตาอีกต่อไป

ทว่า มาคราวนี้เพื่อช่วยเหลือราชันแท้จริงหลิงซินจากเทพสงครามจินเปี้ยน เด็กมหัศจรรย์สามตายอมแลกทุกอย่าง เสี่ยงตายสำแดง ‘เปลี่ยนชะตาฟ้า’ ออกไป! เพื่อช่วงชิงโอกาสให้ราชันแท้จริงหลิงซินสามารถหลบหนีไปได้

ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมีสีหน้าที่แสดงออกถึงความประทับใจ สิ่งนี้ใช่เป็นเพียงความแข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรของ ‘เปลี่ยนชะตาฟ้า’ เท่านั้น ที่ทำให้ประทับใจยิ่งกว่าก็คือ เพื่อช่วยเหลือราชันแท้จริงหลิงซินแล้ว เด็กมหัศจรรย์สามตาถึงกับยอมเสียสละชีวิตของตนโดยไม่เสียดาย

ลองถามดู ในโลกนี้จะมีสักกี่คนที่สามารถทำได้ ยิ่งไปกว่านั้น อาศัยอัจฉริยะบุคคลเช่นเด็กมหัศจรรย์สามตา เขากลับยินดีมอบทุกสิ่งทุกอย่างของตนเพื่อราชันแท้จริงหลิงซิน

เด็กมหัศจรรย์สามตาตกอยู่ภายในอ้อมกอดของราชันแท้จริงหลิงซิน ชีวิตของเขาไหลเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว เหมือนว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังดูดลมปราณทั้งตัวของเขาไปอย่างนั้น ตัวของเขาเริ่มเสื่อมโทรมและแก่ลง ขืนเป็นเช่นนี้อีกต่อไปเขาก็ต้องกลายเป็นศพแห้ง

ราชันแท้จริงหลิงซินจึงได้นำเอาพลังลมปราณของตนถ่ายทอดเข้าไปภายในร่างกายของเด็กมหัศจรรย์สามตาอย่างไม่ขาดสาย เพื่อต่อชีวิตให้เขา

จะอย่างไรเสียราชันแท้จริงหลิงซินก็คือราชันแท้จริงคนหนึ่ง เมื่อได้รับการช่วยเหลือจากพลังลมปราณของนางแล้ว ลมปราณของเด็กมหัศจรรย์สามตาถูกหยุดเอาไว้ได้แล้วในที่สุด แต่ว่า คิดจะกอบกู้ชีวิตของเด็กมหัศจรรย์สามตากลับมานั้น หาใช่เรื่องง่ายดาย

เสียงปัง…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง นาทีนี้มองเห็นร่างเงาที่สูงใหญ่พุ่งขึ้นท้องฟ้า ร่างกายที่เป็นโลหะสูงใหญ่ก็ได้ยืนตระหง่านอยู่บนท้องฟ้าอีกครั้ง

“เทพสงครามจินเปี้ยนเขายังไม่ตาย” มีผู้ร้องเสียงหลงขึ้นมา เมื่อมองเห็นร่างกายโลหะที่ยืนตระหง่านอยู่บนท้องฟ้า

ทุกคนล้วนแล้วแต่นึกไม่ถึงว่า เทพสงครามจินเปี้ยนยังคงผ่านมาได้ด้วยความลำบาก เมื่อถูก ‘เปลี่ยนชะตาฟ้า’ ของเด็กมหัศจรรย์สามตา

เวลานี้ได้ยินเสียงตึงดังขึ้นเสียงหนึ่ง เทพสงครามจินเปี้ยนได้ถลกหมวกออกมา บริเวณหน้าผากมีรูเลือดรูหนึ่ง เลือดทะลักออกมาตลอดเวลา

แม้ว่าส่วนหัวของเทพสงครามจินเปี้ยนจะสร้างขึ้นด้วยโลหะ แต่ว่า รูเลือดนั้นยังคงลึกมากจนมองไม่เห็นก้นหลุม เกือบจะถูกยิงทะลุไปแล้ว ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าอานุภาพ ‘เปลี่ยนชะตาฟ้า’ ของเด็กมหัศจรรย์สามตาเมื่อครู่ทรงพลังเช่นใดแล้ว

เทพสงครามจินเปี้ยนได้นำเอายาสมานแผลโรยลงไปบนบาดแผล สวมหมวกกลับไปตามเดิม ท่าทีน่าครั่นคร้าม และกล่าวว่า “เสียดาย ทักษะยังอ่อนไปนิด ไม่สามารถทำลายชะตาแท้ของข้าได้”

สีหน้าของราชันแท้จริงหลิงซินเปลี่ยนไป เมื่อเห็นว่าเทพสงครามจินเปี้ยนยังคงมีชีวิตอยู่ อุ้มเด็กมหัศจรรย์สามตาเอาไว้และหันหลังหวังจะหลบหนีไป

แต่ว่า เสียงตึงดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง เวลานี้ เทพสงครามจินเปี้ยนได้ขวางทางของพวกเขาเอาไว้ และกล่าวน่าครั่นคร้ามว่า “ส่งพวกเจ้าเดินทาง ให้พวกเจ้าเป็นสามีภรรยาที่รักใคร่คู่หนึ่งบนเส้นทางไปปรโลก!”

ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว พลันที่เทพสงครามจินเปี้ยนพูดขาดคำ ได้ปล่อยหมัดโจมตีเข้าไปในพริบตา หนึ่งหมัดที่ทำลายทุกอย่างจนพินาศย่อยยับ หนึ่งหมัดที่สังหารเด็ดขาดไร้ความปราณี แม้ว่าราชันแท้จริงหลิงซินจะเป็นคู่หมั้นของเขา เขาก็พร้อมสังหารไปตามระเบียบ

เวลานี้ ราชันแท้จริงหลิงซินก็ไม่สามารถหลบหนีไปได้อีกแล้ว ขณะที่นางก็ไม่สามารถต้านรับกับเทพสงครามจินเปี้ยนได้

ทุกคนต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว ทุกคนล้วนเข้าใจได้ว่า ลำพังอาศัยกำลังของราชันแท้จริงหลิงซินหาใช่คู่ต่อสู้ของเทพสงครามจินเปี้ยนได้อยู่แล้ว จะต้องตายด้วยน้ำมือของเทพสงครามจินเปี้ยนแน่นอน

“โหดมาก…” มีผู้ที่พูดเสียงแผ่วเบาขึ้น เมื่อมองเห็นเทพสงครามจินเปี้ยนพลันลงมือก็สังหารเด็ดขาดไร้ความปราณี โหดเหี้ยมไร้ผู้เทียบเทียม

เสียงที่ไพเราะเสนาะหูยิ่งดังแว้งค์ขึ้นมาเสียงหนึ่ง ในพริบตาเดียวนั่นเอง แสงสว่างส่องสว่างทั่วหล้าอย่างเสมอภาค ขณะที่แสงสว่างส่องสว่างฟ้าดินนั้น เสมือนหนึ่งได้ขับไล่พยับเมฆทั่วทั้งโลกให้กระเจิงไปอย่างนั้น นำพามาซึ่งความหวังให้กับสมรภูมิรบที่ทารุณโหดร้ายแห่งนี้ทันที

ท่ามกลางเสียงปังที่ดังขึ้น หนึ่งหมัดที่ทำลายฟ้าดินจนพินาศย่อยยับของเทพสงครามจินเปี้ยนถูกผนังผลึกแสงสว่างต้านเอาไว้ได้ ผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าที่ว่างเปล่า พลันที่นางยื่นมือออกไป ผนังผลึกแสงสว่างที่หนาและหนักยิ่งเสมือนดั่งได้กั้นโลกๆ หนึ่งให้แยกจากกัน และกั้นขวางอยู่ด้านหน้าของเทพสงครามจินเปี้ยน ช่วยชีวิตราชันแท้จริงหลิงซินกับเด็กมหัศจรรย์สามตาเอาไว้

“ราชันแท้จริงเซิ่นซวง…” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างร้องเสียงหลงขึ้นมา เมื่อมองเห็นผู้หญิงที่ลงมือ

“ราชันแท้จริงเซิ่นซวงมาแล้ว” ผู้คนจำนวนมากต่างจ้องตากันและกัน เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว

“การต่อสู้ชี้ขาดของราชันแท้จริง” ความคิดแวบแรกของผู้คนจำนวนมากก็คือเรื่องนี้ หลังจากที่ได้เห็นราชันแท้จริงเซิ่นซวงแล้ว ได้ยินคำเล่าลือมานานแล้วว่า ราชันแท้จริงเซิ่นซวงคือราชันแท้จริงสิบสองลัคนาคนหนึ่ง

ขณะที่เทพสงครามจินเปี้ยนก็คือราชันแท้จริงสิบสองลัคนาเช่นเดียวกัน ถ้าหากเป็นการต่อสู้ชี้ขาดของราชันแท้จริงสิบสองลัคนา ย่อมเป็นความจริงว่ามันคือการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่ปราศจากผู้เทียบเทียมในหล้าครั้งหนึ่ง

“เป็นเจ้า…” ดวงตาทั้งสองของเทพสงครามจินเปี้ยนพลันดูน่าเกรงขาม เมื่อมองเห็นราชันแท้จริงเซิ่นซวงได้ต้านหนึ่งหมัดของตนเอาไว้ กล่าวน่าครั่นคร้ามขึ้นว่า “ราชันแท้จริงเซิ่นซวง เจ้าอย่าได้รนหาที่ตายเอง หากรู้จักกาลเทศะ หลบไปข้างๆ เสีย”

แม้จะเผชิญหน้ากับราชันแท้จริงเซิ่นซวงที่อยู่ในระดับเดียวกันกับตน เทพสงครามจินเปี้ยนก็ยังคงยกตนข่มท่าน กลิ่นอายการฆ่ารุนแรง

ราชันแท้จริงเซิ่นซวงไม่ได้แสดงอาการโกรธ เพียงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “สหายจินเปี้ยน เห็นแก่ท่านก็เป็นศิษย์ของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน ขอเตือนท่านคำหนึ่ง รีบไปจากที่นี่เสียและเก็บตัวนับจากนี้ไป อย่าได้ทำให้ตนเองต้องเดือดร้อน”

“วาจาสามหาวมาก!” ดวงตาทั้งสองของเทพสงครามจินเปี้ยนพลันพวยพุ่งประกายเยือกเย็นที่เข่นฆ่าปราศจากผู้เทียบเทียมขึ้นมา กล่าวน่าครั่นคร้ามว่า “ข้า เทพสงครามจินเปี้ยนเกรียงไกรเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ไม่เคยเกรงกลัวผู้ใด ใครขวางข้า ตาย! ต่อให้เป็นหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ยกเว้น! หากหอจรัสศักดิ์สิทธิ์กล้าขวางทางข้า ข้าจะทำลายหอจรัสศักดิ์สิทธิ์พวกเจ้าเสีย”

พลันที่เทพสงครามจินเปี้ยนพูดคำพูดที่โหดเหี้ยมอำมหิตเช่นนี้ขึ้นมา ทำให้ในใจของผุ้คนจำนวนมากต้องสะดุ้ง ไม่มีใครกล้าพูดคำพูดที่โหดเหี้ยมแบบนี้ในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา ถึงกับกล้าบอกว่าจะทำลายหอจรัสศักดิ์สิทธิ์เสีย คำพูดเช่นนี้พลันสร้างความสะเทือนหวั่นไหวให้กับผู้คนจำนวนมาก

“สหายจินเปี้ยน คำพูดนี้ท่านเป็นคนพูดเองนะ” นัยน์ตาของราชันแท้จริงเซิ่นซวงถึงกับเย็นยะเยือก

………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด