Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3064 ปราชญ์อัจฉริยะหลันซู

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3064 ปราชญ์อัจฉริยะหลันซู at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3064 ปราชญ์อัจฉริยะหลันซู

สิ่งที่นิกาย ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของตนมองว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เป็นของวิเศษประจำนัก ขณะที่พวกของหลี่ชิเย่เพียงต้องการได้ดื่มซุปปลาสักถ้วยเท่านั้นเอง

เมื่อนำเอามาเปรียบเทียบ ไม่ว่าจะเป็นนิกายอะไร ไม่ว่าจะเป็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเช่นใด ไม่ว่าจะเป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรเพียงใด ล้วนแล้วแต่กลับกลายเป็นอัปลักษณ์อย่างยิ่งทันที

เหมือนว่าเมื่อเปรียบกับพวกหลี่ชิเย่แล้ว พวกเขาคือพวกยากจนกลุ่มหนึ่งอย่างแท้จริงเท่านั้นเอง

ในเวลานี้ผู้คนจำนวนมากอดที่จะนึกถึงฉายาอีกฉายาของหลี่ชิเย่ขึ้นมาอีกครั้ง นั่นก็คือหลี่พันล้าน!

“ความยากจนได้จำกัดจินตนาการของข้า” สุดท้าย ระดับบรรพบุรุษผู้หนึ่งได้หัวเราะขึ้นมาด้วยความขมขื่น

“เขา เขา เขาคือปราชญ์อัจฉริยะหลันซู!” ในเวลานี้ มียอดฝีมือผู้หนึ่งจดจำชายหนุ่มที่นั่งดื่มกินซุปกับหลี่ชิเย่ขึ้นมาได้ ถึงกับร้องออกมาด้วยความหวาดผวา

“ว่าไงนะ เขา เขาก็คือปราชญ์อัจฉริยะหลันซู? จริงหรือเท็จ?” ผู้ที่ไม่เคยพบเห็นปราชญ์อัจฉริยะหลันซูมาก่อนต่างรู้สึกว่าเหลือเชื่อ เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกกว้างมาก

“ไม่ ไม่ผิด” แรกทีเดียวยอดฝีมือผู้นี้ก็ไม่กล้ายืนยัน เมื่อมองดูอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงกล่าวว่า “เขา เขาเป็นปราชญ์อัจฉริยะหลันซูจริงๆ แม้ แม้ว่าเวลานี้การแต่งตัวของเขาตามสบายอย่างยิ่ง แต่ ไม่ผิดอย่างแน่นอน”

ยอดฝีมือผู้นี้เคยพบเจอกับปราชญ์อัจฉริยะหลันซูมาครั้งหนึ่ง แม้ว่าครั้งก่อนที่เขาได้พบเห็นปราชญ์อัจฉริยะหลันซูนั้นคือปฐมบรรพบุรุษปราศจากผู้ต่อกร เวลานี้เขากลับอยู่ในชุดลำลอง อีกทั้งยังผูกผ้ากันเปื้อนที่เอวอีกด้วย แต่ว่า เขาสามารถยืนยันได้ว่า ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคือปราชญ์อัจฉริยะหลันซูอย่างแน่นอน

“เป็นปราชญ์อัจฉริยะหลันซูจริงๆ” ระดับบรรพบุรุษมองดูชายหนุ่มผู้นี้แล้ว ทอดถอนใจขึ้นมาเบาๆ

ในเวลานี้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองไปที่เทพม้วนเมฆาที่เป็นห้าสหายภูผาเมฆ และทุกคนเข้าใจได้ทันทีเมื่อมองเห็นท่าทีของพวกม้วนเมฆา ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคือปราชญ์อัจฉริยะหลันซูจริงๆ

นาทีนี้ทุกคนต่างรู้สึกงงงัน เมื่อครู่ขณะพวกของราชันแท้จริงเซิ่นซวง ราชันหญิงจื่อหลงได้คุกเข่ากราบกับพื้น โดยแสดงความเคารพระดับสูงสุดก็นับว่าสร้างความสะเทือนหวั่นไหวมากพอแล้ว และทำให้ผู้คนคิดไม่ตก เพราะอะไรพวกของราชันหญิงจื่อหลงที่เป็นถึงราชันแท้จริงสิบสองลัคนา ยังคงต้องแสดงความเคารพระดับสูงสุดเช่นนี้ต่อหลี่ชิเย่

อย่างไรก็ตาม ที่สร้างความตื่นตะลึงผู้คนมากกว่าในเวลานี้ก็คือ ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูที่เป็นปฐมบรรพบุรุษปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้กลับเข้าครัวเอง และปรุงซุปปลาหม้อหนึ่งให้กับคนโหดอันดับหนึ่งด้วยตนเอง

ในโลกนี้ยังจะมีใครสามารถได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ได้ ปราชญ์อัจฉริยะหลันซู อัจฉริยะบุคคลยอดเยี่ยมที่สุดแห่งยุค ปฐมบรรพบุรุษปราศจากผู้ต่อกรตลอดกาลผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุด มาวันนี้ เขาถึงกับเข้าครัวเพื่อปรุงซุปปลาหม้อหนึ่งให้กับหลี่ชิเย่

ถามใต้หล้า ยังจะมีผู้ใดมีคุณสมบัติเช่นนี้ ผู้คนจำนวนเท่าไรหากได้พบเห็นปราชญ์อัจฉริยะหลันซูก็นับว่าภูมิใจในตนเองอย่างยิ่งแล้ว ถ้าหากสามารถพูดคุยกับปราชญ์อัจฉริยะหลันซูสักคำสองคำก็นับเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เป็นเกียรติไปชั่วชีวิตแล้ว

แต่ทว่า มาวันนี้เฉกเช่นปราชญ์อัจฉริยะหลันซูที่เป็นระดับปฐมบรรพบุรุษเช่นนี้ กลับเข้าครัวลงมือปรุงซุปปลาให้กับหลี่ชิเย่ด้วยตนเอง มันช่างเป็นเรื่องที่สร้างความสะเทือนหวั่นไหวอะไรอย่างนั้น เรื่องเช่นนี้ได้อยู่เหนือจินตนาการของทุกคนไปแล้ว

ต่อให้เป็นการคุยโตโอ้อวดก็ไม่มีใครกล้าโอ้อวดเช่นนี้ ถ้าหากสักวันหนึ่ง มีผู้ที่บอกกับเจ้าว่า ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูได้เข้าครัวให้กับผู้อื่น เพื่อปรุงซุปปลาหม้อหนึ่งให้กับผู้อื่น หากเป็นเช่นนั้นทุกคนก็ต้องคิดว่าเจ้ากำลังคุยโม้แล้ว

กระทั่งแม้แต่ตัวเจ้าเองก็ไม่กล้าคุยโตโอ้อวดออกมาเช่นนี้ หากจะคุยโม้อย่างมากที่สุดก็คุยได้ในทำนองว่า มีอยู่วันหนึ่ง เจ้าได้ปรุงซุปปลาให้กับปราชญ์อัจฉริยะหลันซูหม้อหนึ่ง ซึ่งมันก็คือการคุยโตโอ้อวดที่มากที่สุดแล้วชั่วชีวิตของเจ้าแล้ว ยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงการโอ้อวดว่าปราชญ์อัจฉริยะหลันซูปรุงซุปปลาเช่นนี้หม้อหนึ่งให้กับเจ้า

แต่ว่า เวลานี้ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูได้ปรุงซุปปลาหม้อหนึ่งให้กับหลี่ชิเย่จริงๆ เรื่องที่ผู้อื่นไม่กล้ากระทั่งคุยโม้ออกมา แต่ปรากฏเป็นความจริงขึ้นที่ตรงนี้แล้ว

“กินอิ่มดื่มเต็มที่แล้ว สมควรทำงานบ้างได้แล้ว” ในเวลานี้หลี่ชิเย่ได้บิดขี้เกียจทีหนึ่ง และลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีเหนื่อยหน่าย

นาทีนี้ หลี่ชิเย่ได้ลืมตาทั้งสองขึ้น และกวาดตามองผ่านไปบนตัวแต่ละคน โบกมือเบาๆ และกล่าวว่า “คารวะเช่นนี้เป็นการทำให้ข้าต้องอายุสั้น ลุกขึ้นเถอะ”

“ขอบคุณใต้เท้า…” ฮ่องเต้วิหารอมตะกราบอีกที ท่าทางเคารพนอบน้อม

ยอดฝีมือ และระดับบรรพบุรุษของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ ตำหนักมังกรแท้จริงทั้งหมด ในเวลานี้ก็ทยอยกันแสดงคารวะสูงสุดแล้วจึงลุกขึ้นยืน

เมื่อกองทัพทั้งหมดได้ลุกขึ้นยืนจนหมดแล้ว เวลานี้สายตาของหลี่ชิเย่จึงได้ตกไปอยู่บนตัวของเด็กมหัศจรรย์สามตา ยิ้มบางๆ และกล่าวว่า “เจ้าหนูคนนี้นับว่ามีความกล้าหาญมีอนาคต มีน้ำใจไมตรี แต่ว่า หากไม่รีบช่วยเหลือเป็นการด่วน ต่อให้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ ทักษะยุทธก็ถูกทำลายสิ้น และดวงตาคู่นี้ก็ถูกทำลายไป”

ราชันแท้จริงหลิงซินสะดุ้งนิดหนึ่ง เมื่อได้ยินคำพูดที่เอ้อระเหยเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ รีบแสดงคารวะเป็นการใหญ่ และกล่าวว่า “ขอคุณชายได้โปรดช่วยเขาด้วย”

หลี่ชิเย่ยิ้มๆ ส่ายหน้า และกล่าวว่า “มีมือปราชญ์อยู่ตรงนี้ไม่จำเป็นต้องให้ข้าลงมือ”

กล่าวพลาง ได้ยิ้มกล่าวกับปราชญ์อัจฉริยะหลันซูว่า “เจ้าได้ปรุงกลั่นโอสถชั้นดีมาเตาหนึ่งมิใช่รึ? เจ้าหนูคนนี้ก็มอบให้เจ้าแล้ว”

ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูมองดูเด็กมหัศจรรย์สามตาที่หมดสติไม่รู้สึกตัวแล้วถึงกับหัวเราะ และกล่าวว่า “เอาเถอะ ในเมื่ออาจารย์ก็พูดเช่นนี้แล้ว ข้าจะไปขี้ตืดกับโอสถชั้นดีเตาหนึ่งได้อย่างไรกันเล่า”

กล่าวพลาง ได้ล้วงหยิบขวดหยกออกมาใบหนึ่งและมอบให้กับราชันแท้จริงหลิงซิน และกล่าวว่า “ทุกสิบห้าวันให้กินเม็ดหนึ่ง เขาได้สำแดง ‘เปลี่ยนชะตาฟ้า’ จึงไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้ว รอให้เขาฟื้นกลับมาแล้วส่งตัวมาที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ้งเฉ่า ข้าจะต่อฐานเต๋าให้กับเขา”

“ขอบคุณคุณชาย ขอบคุณปราชญ์อัจฉริยะ” ราชันแท้จริงหลิงซินดีใจยิ่งนักเมื่อได้ยินคำพูดของปราชญ์อัจฉริยะหลันซู จึงกราบคารวะอีกครั้งหนึ่ง

ระดับบรรพบุรุษจำนวนไม่น้อยของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเทียนถงต่างรู้สึกดีใจเป็นยิ่งนัก เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ นับว่าเด็กมหัศจรรย์สามตามีความโชคดีบนความโชคร้าย

ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกอิจฉายิ่งนักเมื่อได้ยินคำพูดของปราชญ์อัจฉริยะหลันซู จะอย่างไรเสียนี่เป็นการรักษาอาการบาดเจ็บโดยปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเอง ต่อให้เป็นคนตายก็ช่วยให้ฟื้นได้

“ขอบคุณน่ะไม่ต้อง” ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูหัวเราะและกล่าวว่า “พวกเจ้าสองคนนับว่าเหมาะสมยิ่งนัก ฝ่าฟันอุปสรรคร่วมเป็นร่วมตาย ในชีวิตคนเรายังจะต้องการอะไรอีกเล่า? คาดหวังพวกเจ้าสามารถแต่งงานกันโดยเร็ว ถือโอกาสท่านอาจารย์ยังอยู่ตรงนี้ ได้ดื่มเหล้ามงคลของพวกเจ้าสักจอกหนึ่ง”

ราชันแท้จริงหลิงซินพลันมีสีหน้าแดงก่ำเมื่อปราชญ์อัจฉริยะหลันซูพูดออกมาเช่นนี้ แม้ว่านางจะเป็นราชันแท้จริงคนหนึ่ง แต่อดที่จะเอียงอายไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนทั่วหล้า

ทุกคนต่างรู้สึกงงงัน นี่มันคืองานมงคลที่ได้รับการชี้ขาดโดยจักรพรรดิอย่างนั้น โดยมีปฐมบรรพบุรุษเป็นผู้สู่ขอ งานมงคลในครั้งนี้น่าเชื่อถือยิ่งกว่าบรรพบุรุษของนิกายพูดขึ้นมาเองเสียอีก

กระทั่งกล่าวได้ว่า แม้แต่ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูก็ยังเอ่ยปากงานมงคลในครั้งนี้ด้วยแล้ว ระดับบรรพบุรุษของสวนเอเดนก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะให้เป็นไปตามนั้น

ในเวลานี้ ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยแอบมองดูเทพสงครามจินเปี้ยนแวบหนึ่ง ท่าทีของเทพสงครามจินเปี้ยนเข้มและน่าเกรงขาม ปณิธานการฆ่าเย็นยะเยือก ภาพรวมของเขาเสมือนหนึ่งสัตว์ดุร้ายที่เลือกขย้ำผู้คน

เป็นที่เข้าใจของทุกๆ คน ระหว่างเทพสงครามจินเปี้ยนกับราชันแท้จริงหลิงซินจบเห่โดยสิ้นเชิงแล้ว

ก่อนวันนี้ ราชันแท้จริงหลิงซินยังคงเป็นคู่หมั้นของเทพสงครามจินเปี้ยน น่าเสียดาย ขณะที่เทพสงครามจินเปี้ยนลงมือจะสังหารราชันแท้จริงหลิงซินในวินาทีนั้น พวกเขาทั้งสองก็สิ้นสุดกันอย่างแท้จริงแล้ว

ขณะที่สวนเอเดนฉีกทำลายสัญญาหมั้นหมายโดยฝ่ายเดียวนั้น ก็บ่งบอกว่าตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนตัดขาดความสัมพันธ์กับสวนเอเดนแล้ว และบ่งบอกว่าราชันแท้จริงหลิงซินจะไม่ใช่เป็นคู่หมั้นของเทพสงครามจินเปี้ยนอีกต่อไป

เวลานี้ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเอ่ยปากเรื่องแต่งงานด้วยตนเอง พลันทำให้งานมงคลระหว่างราชันแท้จริงหลิงซินกับเด็กมหัศจรรย์สามตากลายเป็นจริงขึ้นทันที พวกเขาที่เป็นคู่ทุกข์คู่ยากก็นับว่าได้บรรลุมรรคผลแล้ว

“เรื่องราวที่ยุ่งเหยิงอีนุงตุงนังก็นับว่าจบกันไปเปราะหนึ่งแล้ว” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวด้วยท่าทีเหนื่อยหน่ายว่า “สมควรจัดการเรื่องที่น่าเบื่อของข้าสักหน่อยแล้ว”

ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว กวาดสายตามองไปที่ตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยน หมิงหวังฝอ ห้าสหายภูผาเมฆ และกล่าวเอ้อระเหยว่า “ในเมี่อเป็นนัดหมายสิบวันย่อมต้องทำตามสัญญา วันนี้ก็ตัดสินชี้ขาดความเป็นความตายก็แล้วกัน”

เมื่อหลี่ชิเย่พูดคำพูดเช่นนี้ขึ้นมา ทำให้ทุกคนต้องกลั้นหายใจเอาไว้ ในขณะนี้ พวกของเทพสงครามจินเปี้ยนก็อดที่จะมีท่าทีดูน่าเกรงขาม

ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูมองไปยังเทพม้วนเมฆา กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “อาจารย์ลุง ยอมแพ้เวลานี้ยังทัน อย่าทำให้ตนเองต้องเดือดร้อน”

ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูกำลังเตือนเทพม้วนเมฆา และเป็นการให้โอกาสเทพม้วนเมฆาเป็นครั้งสุดท้าย

ในเวลานี้ ทุกคนต่างมองไปที่เทพม้วนเมฆา ก่อนหน้านั้น ผู้คนจำนวนมากต่างมองว่า ถ้าหากหลี่ชิเย่กล้าสังหารเทพม้วนเมฆาล่ะก็ เกรงว่าปราชญ์อัจฉริยะหลันซูจะแก้แค้นให้กับเขา การเป็นศัตรูกับระดับปฐมบรรพบุรุษเป็นเรื่องที่ไม่ชาญฉลาดเอาเสียเลย

ทว่า เวลานี้กลับเหนือความคาดคิดของทุกคนโดยสิ้นเชิง ขณะนี้ทุกคนต่างมองออกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างปราชญ์อัจฉริยะหลันซูกับหลี่ชิเย่นั้นไม่ธรรมดา

ในขณะนี้เทพม้วนเมฆามองไปที่สหายอื่นๆ อีกสี่คน สหายทั้งสี่แลกเปลี่ยนสายตาทีหนึ่ง ต่างพยักหน้าอย่างหนักแน่น และกล่าวว่า “ไม่ว่าพี่ใหญ่จะตัดสินใจเช่นใด พวกเราล้วนให้การสนับสนุนเต็มที่ พี่ใหญ่มีบุญคุณต่อพวกเราใหญ่หลวง แม้ตายก็ไม่อาจจะทดแทนได้!”

เทพม้วนเมฆาหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง ปฏิเสธความหวังดีของ เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ลูกชายข้าตายอย่างอนาถ หากไม่แก้แค้นให้กับเขาก็ไม่สามารถปลอบวิญญาณที่อยู่บนสวรรค์ของเขา ข้าเองจะไม่เป็นสุขชั่วชีวิต และนอนไม่หลับ! ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย ข้าก็ต้องแก้แค้นให้ลูกชายของข้า เพื่อปลอบวิญญาณของเขาที่อยู่บนสวรรค์!”

“เอาเถอะ ถ้าเช่นนั้นก็ให้เกียรติการตัดสินใจของอาจารย์ลุง” ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูส่ายหน้าเบาๆ

ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเข้าใจในท่าทีของเทพม้วนเมฆา เขาได้บุตรชายตอนแก่ หวงแหนยิ่งกว่าอะไรเสียอีก หลังจากกว่านหวินเผิงถูกสังหาร เขากินไม่ได้นอนไม่หลับ หาความสงบภายในใจไม่ได้ ดังนั้น เขาจึงไม่เสียดายค่าตอบแทนทุกอย่างเพื่อแก้แค้นให้กับลูกชายของตน

“ต่อไป ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ้งเฉ่าก็มอบให้กับเจ้าแล้ว” เทพม้วนเมฆากล่าวต่อปราชญ์อัจฉริยะหลันซูด้วยความหนักแน่น

ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูหัวเราะ สุดท้ายกล่าวว่า “ได้เวลาข้าต้องไปแล้ว จะได้ไม่แกะกะใคร” กล่าวพลางนั่งลงไปที่เก้าอี้เหมือนเดิม

เสียงช่าาดังขึ้น คลื่นม้วนเมฆา ทุกคนรู้สึกมึนงง ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูพลันหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในพริบตาเดียว ที่หายไปพร้อมกันยังมีทะเลเขียวครามและท้องฟ้าสดใส รวมทั้งหาดทรายที่อ่อนนุ่ม ทุกอย่างล้วนหายไป

หลังจากที่ทุกสิ่งได้หายไปแล้ว ส่งผลผู้คนรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน เมื่อครู่เหมือนกำลังฝันอยู่อย่างนั้น เว้นแต่หลี่ชิเย่ที่ยังคงยืนอยู่บนท้องฟ้า

“ถอยไปเถอะ คนอื่นจะได้ไม่หาว่าพวกเราอาศัยพวกมากรังแกคนน้อยกว่า” หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่บนท้องฟ้า หัวเราะ และโบกมือต่อพวกราชันแท้จริงเซิ่นซวง ราชันหญิงจื่อหลง

พวกราชันแท้จริงเซิ่นซวงเชื่อฟังคำสั่ง โบกมือ และจากการสั่งการของพวกเขา กองทัพของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ กองทัพตำหนักมังกรแท้จริง กองทัพระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร…กำลังทหารทั้งหมดทยอยกันถอยไปอยู่ข้างๆ

……………………………………………..

  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด