Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3090 ราชันหญิงพิณ

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3090 ราชันหญิงพิณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3090 ราชันหญิงพิณ

เสียงพิณจบลง ร่างเงาร่างหนึ่งเหินฟ้าลงมา

ผู้หญิงคนหนึ่งที่เสมือนดั่งนางฟ้า ปราศจากผู้เทียบเทียมในหน้า กอดพิณโบราณไว้หลังหนึ่ง อยู่เหนือมนุษย์ปุถุชนธรรมดายากจะหาผู้ใดเทียมในหล้า

ผู้หญิงคนนี้ปรากฏเงาขึ้นมามากมาย เลือนรางไม่ชัดเจน มองไม่เห็นรูปโฉมของนาง มองไม่เห็นความงดงามของนาง ทุกสิ่งทุกอย่างเสมือนหนึ่งซ่อนอยู่ด้านหลังสายน้ำแห่งกาลเวลา มองเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก ทำให้ผู้คนมีอารมณ์อยากจะมองแล้วมองอีก

ด้วยผู้หญิงที่เลือนรางไม่ชัดเจนนี้แหละ กลับทำให้ผู้หญิงทั่วหล้ามีท่าทีที่สลดและอับแสง แต่ทว่าแม้แต่ราชันแท้จริงเซิ่นซวงที่งดงามก็ยังดูอับแสงอยู่บ้าง เมื่อเปรียบเทียบกับผู้หญิงคนนี้ที่อยู่ตรงหน้า

ท่วงทำนองที่อยู่เหนือมนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่ผู้หญิงตรงหน้ามีอยู่ในครอบครองนั้น เป็นสิ่งที่ราชันแท้จริงเซิ่นซวงห่างชั้นและเทียบไม่ได้เลย

ผู้หญิงคนนี้กอดพิณโบราณไว้หลังหนึ่ง นางเสมือนก้าวเดินออกมาจากภาพวาดอย่างนั้น ทำให้ผู้คนมองเห็นแล้วมันช่างเป็นความฝันอะไรอย่างนั้น เหมือนว่านางไม่ได้มีอยู่จริง และหรือหนางไม่เคยดำรงอยู่จริงๆ เพียงอยู่ในตำนานเท่านั้น

“ราชันหญิงพิณ…” กระบือดำขนาดใหญ่พึมพำขึ้น เมื่อได้เห็นผู้หญิงคนนี้

“นางคือราชันหญิงพิณจริงๆ รึ?” พวกราชันแท้จริงหวงจุนต่างหวั่นไหวในใจเมื่อได้ยินคำพูดของกระบือดำขนาดใหญ่ พวกเขาต่างมองหน้ากันและกัน และรู้สึกสะเทือนหวั่นไหวในใจ

กล่าวสำหรับราชันหญิงพิณในทัศนะของผู้คนจำนวนมากแล้ว นางก็คือตำนานๆ หนึ่ง กระทั่งมีผู้กล่าวเอาไว้ว่า ราชันหญิงพิณเสมือนดั่งไม่ได้ดำรงอยู่อย่างนั้น

ในยุคหลัง ปฐมบรรพพบุรุษอัคคีนับว่าลึกลับมากพอแล้ว แต่ว่า เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับบรรพบุรุษไฟยังคงสืบทอดต่อกันมาในหล้า โดยเฉพาะการจัดให้มีการเดินทางไกลเพื่อปราบปรามในครั้งนั้นของปฐมบรรพพบุรุษอัคคีต่างๆ นานาล้วนสามารถไล่ย้อนกลับไปได้ และมีปรัชญาเมธีของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนไม่น้อยล้วนแล้วแต่เคยปรากฎตัวด้วยกันกับปฐมบรรพพบุรุษอัคคีมาก่อน

แต่ว่า แตกต่างกับราชันหญิงพิณ ดูเหมือนว่านางจะปรากฏตัวลำพังเพียงผู้เดียวในหล้า แล้วจากไปเพียงคนเดียวไม่เคยเหลือระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดๆ เอาไว้ ไม่เคยคงสิ่งจัดตั้งเพื่อการสืบทอดใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ได้มีทายาทแต่อย่างใด

การดำรงอยู่ของราชันหญิงพิณเสมือนดั่งปรากฏตัวช่วงระยะเวลาสั้นๆ ท่ามกลางสายน้ำแห่งกาลเวลา แค่มองเห็นแวบๆ ก็หายสาบสูญไปท่ามกลางสายน้ำแห่งกาลเวลาเสียแล้ว

กล่าวสำหรับราชันหญิงพิณมีชาติกำเนิดอย่างไร มีประวัติความเป็นมาเช่นใด เป็นศิษย์สำนักใด ทั้งหมดล้วนไม่สามารถสืบค้นได้ทั้งสิ้น เหมือนว่านางไม่เคยได้ปรากฏตัวบนโลกนี้อย่างนั้น

หากไม่เป็นเพราะมีตำราโบราณของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิบางแห่งที่เอ่ยถึงราชันหญิงพิณล่ะก็ เกรงว่าจะไม่มีผู้ใดทราบว่าโลกนี้ยังคงมีการดำรงอยู่ของระดับปฐมบรรพพบุรุษเช่นนี้

เพียงแต่ ต่อให้มีตำราโบราณที่จดบันทึกเอาไว้ นั่นก็เป็นการกล่าวไว้เพียงไม่กี่คำเท่านั้น ไม่ได้บันทึกกันอย่างละเอียด

ผู้คนในยุคหลังจำนวนมากต่างเห็นว่า การดำรงอยู่ของราชันหญิงพิณเสมือนหนึ่งเป็นปริศนา นางเป็นเพียงบุคคลที่อยู่ในตำนานเท่านั้นเอง ใช่จะมีบุคคลผู้นี้ดำรงอยู่จริงๆ หรือไม่นั้นคงพูดยาก กระทั่งมีผู้ที่มองว่าราชันหญิงพิณเป็นเพียงบุคคลที่สมมุติขึ้นมาเท่านั้น

เวลานี้ผู้หญิงคนนี้ล่องลอยมาถึง ซึ่งเป็นการยืนยันว่าราชันหญิงพิณที่อยู่ในตำนานนั้นมีอยู่จริงๆ

แต่ว่า แม้ผู้หญิงผู้นี้จะล่องลอยมาถึง แต่ว่า ยังคงเลือนรางอะไรอย่างนั้น ยังคงทำให้ผู้คนมองเห็นไม่ชัดเจน เหมือนว่านางก็คือปริศนา เป็นผู้ที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของสายน้ำแห่งกาลเวลาตลอดมา

“พิณโบราณหลังนั้น” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงเอ่ยขึ้นเบาๆ ขณะมองดูพิณโบราณที่อยู่ในอ้อมกอดของราชันหญิงพิณ พวกเขาเคยเห็นพิณโบราณหลังนี้ในพิธีกรรมเรียกวิญญาณ การปรากฎตัวของพิณโบราณในครั้งนั้นเพื่อยับยั้งพิธีกรรมเรียกวิญญาณของทหารอเวจี

“เป็นราชันหญิงพิณจริงๆ รึ?” มีระดับบรรพบุรุษที่เปิดเนตรฟ้าขึ้น แต่ว่า ยังคงไม่สามารถส่องเห็นตัวราชันหญิงพิณ นางยังคงเลือนรางอะไรอย่างนั้น ผู้คนยังคงไม่สามารถมองเห็นรูปโฉมของนางได้ชัดเจน

“แค่ร่างจำแลงเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยขึ้น ขณะมองดูราชันหญิงพิณที่กอดพิณโบราณหลังนั้นเอาไว้

“ร่างจำแลง…” พวกของราชันแท้จริงหวงจุนต่างมองตากันและกันเมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว ขณะเดียวกัน พวกเขาก็อดที่จะมองไปยังพวกของปราชญ์กระบี่ไม่ได้

ปฐมบรรพบุรุษปราชญ์กระบี่พวกเขาทั้งสามได้ตายไปแล้ว ขณะที่ราชันหญิงพิณที่อยู่ที่นี่เป็นเพียงร่างจำแลงเท่านั้น แล้วร่างแท้จริงของนางล่ะ? ร่างแท้จริงของนางคือตายหรือเป็นเล่า?

ความฉงนสงสัยเช่นนี้วนเวียนอยู่ท่ามกลางทะเลแห่งความคิดของพวกราชันแท้จริงหวงจุน เพียงแต่ ไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบพวกเขาได้

“เกรงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นคงไม่เพียงแค่บรรดาปฐมบรรพพบุรุษเหล่านี้ที่ได้มีการเกี่ยวพันถึง” มีระดับบรรพบุรุษพึมพำขึ้นมาเมื่อมองเห็นการมาของราชันหญิงพิณ

เริ่มจากปฐมบรรพพบุรุษทงเสิน ต่อมาก็มีปราชญ์กระบี่ บรรพบุรุษดาบไคเทียน ปฐมบรรพพบุรุษพระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์ เวลานี้ยังมีราชันหญิงพิณอีก

การที่มีระดับปฐมบรรพพบุรุษเข้ามาเกี่ยวข้องรวดเดียวถึงห้าคน พลันทำให้ภายในใจของพวกราชันแท้จริงหวงจุนถึงกับสะท้าน ในเวลานี้ทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่า บางทีสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นอาจไม่ง่ายดายถึงเพียงนี้มากทีเดียว อีกทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้มีระดับปฐมบรรพพบุรุษเพียงไม่กี่คนเท่านี้

หากมีระดับปฐมบรรพพบุรุษเกี่ยวพันมากกว่านี้ เมื่อเป็นเช่นนั้น จะมีระดับปฐมบรรพพบุรุษที่เกี่ยวพันจำนวนเท่าไรกันแน่ และเป็นปฐมบรรพพบุรุษใดบ้างที่เกี่ยวพันอยู่กับเรื่องนี่

ภายในใจของพวกราชันแท้จริงหวงจุนถึงกับตื่นเต้น และรู้สึกไม่เป็นสุขขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงสิ่งนี้แล้ว

เนื่องจากพวกเขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมากะทันหัน กลัวว่าปฐมบรรพพบุรุษของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของตนจะเกี่ยวข้องอยู่ในนั้นด้วย ลองนึกภาพดู ปฐมบรรพพบุรุษของตนมีสภาพเหมือนเช่นปฐมบรรพพบุรุษอัคคีเช่นนั้นล่ะก็ พวกเขาที่เป็นชนรุ่นหลังจะไปเผชิญกับสิ่งนี้ได้อย่างไรกันเล่า?

จะอย่างไรเสีย กล่าวสำหรับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสักแห่งแล้ว ระดับปฐมบรรพพบุรุษนั้นคือผู้ที่อยู่ในฐานะสูงสุด เนื่องเพราะมีการก่อตั้งของปฐมบรรพพบุรุษ จึงมีการถือกำเนิดขึ้นมาของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ

ในทัศนะของทายาทรุนหลังจำนวนเท่าไรที่มองว่า ปฐมบรรพพบุรุษของตนนั้นคือผู้ที่มีฐานะสูงสุด ตั้งตระหง่านปราศจากผู้เทียบเทียม

ทว่า หากมีวันนั้นจริงๆ เมื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับปฐมบรรพพบุรุษของตน ทำลายจินตนาการของชนรุ่นหลัง แล้วจะให้ชนรุ่นหลังเผชิญหน้ากับสิ่งนี้ได้อย่างไรกัน?

“ปฐมบรรพพบุรุษคนอื่นๆ ที่เข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่เล่า?” ในเวลานี้ แม้แต่พวกราชันแท้จริงหวงจุนก็รู้สึกสะท้านขึ้นมา

ระดับปฐมบรรพพบุรุษส่วนใหญ่ล้วนเข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่ในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา อีกทั้งบรรดาปฐมบรรพพบุรุษที่เข้าไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่แล้วก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ระหว่างที่พวกเขาอยู่ในทะเลปุ๊ตู้ไห่ ได้พานพบกับสิ่งใดกันแน่!

ดังนั้น จึงส่งผลให้พวกของราชันแท้จริงหวงจุนมีความคิดทางด้านลบขึ้นมา

กล่าวสำหรับพวกของราชันแท้จริงหวงจุนแล้ว ไม่เห็นจะเป็นเรื่องร้ายหากว่าปฐมบรรพพบุรุษจะไม่คงอยู่อีกต่อไป ที่แย่ที่สุดก็คือ หากปฐมบรรพพบุรุษของพวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ หากมีวันนั้นที่ปฐมบรรพพบุรุษของพวกเขากลับมาในสภาพเฉกเช่นปฐมบรรพพบุรุษอัคคีจริงๆ นั่นแหละคือเรื่องที่เลวร้ายที่สุด!

ความน่าจะเป็นเช่นนี้ยังเป็นการคิดไปในทางที่แย่ที่สุดของพวกราชันแท้จริงหวงจุน อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้สูงมาก

ในเวลานี้ พวกของราชนแท้จริงหวงจุนต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ และเกิดความวิตกขึ้นในใจ

“ราชันหญิง ร่างจำแลงของเจ้าแห้งเหือดไปแล้ว ขวางข้าไม่ได้” ปฐมบรรพพบุรุษอัคคีเอ่ยขึ้นช้าๆ

“ปฐมบรรพพบุรุษอัคคี เจ้าน่ะตัวตายวิญญาณสลายไปแล้ว สมควรหยุดได้แล้ว” เสียงของราชันหญิงพิณถูกส่งเข้ามา เสียงเช่นนี้ยากที่จะเปรียบเปรยด้วยอักษร

“ตัวตายวิญญาณสลาย จิตที่ยึดติดคงอยู่นิรันดร์” ปฐมบรรพพบุรุษอัคคีไม่หวั่นไหว กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “สิ่งใดที่สมควรทำจะไม่เลิกราอย่างเด็ดขาด นี่แหละจึงเป็นจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่ผู้บำเพ็ญเพียงอย่างพวกเราควรมี”

“ความคิดชั่ววูบ ส่งผลเสียหายมหาศาล” น้ำเสียงของราชันหญิงพิณยังคงเหมือนเดิม ทำให้ผู้คนฟังไม่รู้สึกเบื่อ และกล่าวว่า “ผลกรรมต่างๆ นานาเหล่านี้ล้วนถูกกำหนดเอาไว้แล้ว เจ้าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้”

“สำเร็จหรือล้มเหลวอยู่ที่สวรรค์” ปฐมบรรพพบุรุษอัคคีกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ความพยายามอยู่ที่คน”

“ต่อให้เจ้าสามารถทำได้สำเร็จ แล้วมันจะเป็นเช่นใด?” ราชันหญิงพิณกล่าวว่า “เจ้าไม่ใช่เจ้า เจ้าได้ตายไปแล้ว เจ้าเป็นเพียงความคิดชั่วร้ายสายหนึ่งที่ไม่สลายเท่านั้นเอง เจ้าเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้”

“แต่ ข้าสามารถครอบครองมันได้!” เวลานี้สายตาของปฐมบรรพพบุรุษอัคคีล็อกเป้าอยู่ที่วิหารโบราณ และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “บางที อาจมีโอกาสหวนคืนอีกครั้ง”

พลันที่สายตาของปฐมบรรพพบุรุษอัคคีล็อกเป้าวิหารโบราณเอาไว้ ทำให้สายตาของพวกราชันแท้จริงหวงจุนต่างมองไปที่วิหารโบราณ

พวกเขาต่างไม่รู้ว่าภายในวิหารโบราณมีสิ่งของเซียนอะไรซ่อนอยู่ในนั้น ถึงกับทำให้ปฐมบรรพพบุรุษอัคคีต้องการได้มาให้จงได้ ขณะที่พวกของปราชญ์กระบี่ก็เฝ้าปกป้องอย่างถวายชีวิต

แม้แต่บรรดาปฐมบรรพพบุรุษพวกเขาแม้ตายก็ไม่ยอมละทิ้ง ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าสิ่งที่อยู่ภายในวิหารโบราณนั้นประเมินค่าไม่ได้เช่นใดแล้ว

“สิ่งที่อยู่ภายในวิหาร เหล่าอาจารย์ผู้มีพระคุณหาได้ทิ้งไว้ให้เจ้ากับข้า และไม่ได้ทิ้งเอาไว้ให้กับคนในยุคของพวกเรา” ราชันหญิงพิณส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “สิ่งนี้ทิ้งเอาไว้สำหรับรุ่นหลังที่เป็นลูกหลาน ทิ้งไว้ให้กับแดนสามเซียน”

“ทิ้งไว้กับแดนสามเซียนได้แต่นำพาภัยพิบัติให้กับแดนสามเซียน” ปฐมบรรพพบุรุษอัคคีกล่าวเสียงเย็นชา

“นานาจิตตัง ต่างจิตต่างใจ” ราชันหญิงพิณส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “วันนี้ควรโปรดความคิดชั่วร้ายของเจ้า เจ้าไม่ได้เป็นเจ้าอีกต่อไป เหมือนดั่งที่เจ้าได้กล่าวเอาไว้ว่า ต่างคนต่างอยู่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกันและกัน ทุกอย่างสมควรรูดม่านได้แล้ว นี่หาใช่เป็นยุคสมัยของพวกเตา”

“เจ้าโปรดข้าไม่ได้” ปฐมบรรพพบุรุษอัคคีเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “วิถีของเจ้ากับข้าได้แตกต่างกันแล้ว วิถีของข้าเป็นนิรันดร์ ความมืดไม่มีสิ้นสุด ความสว่างไสวไม่ดับสลาย นี่แหละคือข้า หาใช่ผู้อื่น”

คำพูดของปฐมบรรพพบุรุษอัคคีทำเอาราชันหญิงพิณนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง

แม้แต่พวกของราชันแท้จริงเซิ่นซวงก็อดจ้องตากันและกัน พวกเขาต่างดูออกเช่นกัน ปฐมบรรพพบุรุษอัคคีในขณะนี้ย่อมไม่ใช่ปฐมบรรพพบุรุษอัคคีในอดีตอีกแล้ว

อีกทั้งพลังของปฐมบรรพพบุรุษอัคคีในเวลานี้หาใช่มาจากพลังของตัวเขาเองในอดีต แต่มาจากพลังที่ลึกลับสายหนึ่ง เนื่องเพราะมีพลังความมืดลึกลับสายนี้นี่เอง จึงส่งผลให้ไฟชั่วร้ายไม่ดับสูญ

สิ่งนี้ก็คือหนึ่งในสาเหตุที่ว่าพวกของปราชญ์กระบี่ไม่สามารถต่อต้านกับปฐมบรรพพบุรุษอัคคี

ลองนึกภาพดู ปราชญ์กระบี่ บรรพบุรุษดาบไคเทียนพวกเขาได้ตายไปแล้ว แม้ว่าศพของพวกเขายังคงอาศัยเลือดวัฒนะมายืนหยัดให้อยู่ได้ แต่ทว่า เมื่อใดที่เลือดวัฒนะของพวกเขาถูกใช้ไปจนหมด พวกเขาก็เป็นเพียงศพแห้งศพหนึ่งเท่านั้น ไม่แตกต่างจากศพคนตายทั่วไปแต่อย่างใด

ขณะที่ปฐมบรรพพบุรุษอัคคีนั้นแตกต่าง ต่อให้เขาถูกพวกเขาปราชญ์กระบี่เอาชนะได้ ขอเพียงตัวเขาไม่ได้หายวับไปกับตาในพริบตาเดียว เขาก็มีโอกาสที่จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ใหม่ ขอเพียงไฟชั่วร้ายยังคงอยู่ เขาก็จะคงอยู่ได้ตลอดกาล

สิ่งนี้ก็คือเหตุผลว่าเพราะอะไรปฐมบรรพพบุรุษอัคคีในขณะนี้จึงแข็งแกร่งยิ่งกว่าปฐมบรรพพบุรุษอัคคีในพิธีเรียกวิญญาณ เนื่องจากด้วยเวลาที่สั่งสมทำให้ไฟชั่วร้ายจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และมีพลังความมืดมารวมตัวอยู่บนตัวของเขามากยิ่งขึ้น

ดังนั้น ในเวลานี้ เว้นแต่พวกปราชญ์กระบี่สามารถทุ่มเทการโจมตีที่ปราศจากผู้ต่อกรที่สุด จัดการทำลายไฟชั่วร้ายของปฐมบรรพพบุรุษอัคคีอย่างเด็ดขาดในครั้งเดียว หาไม่แล้ว ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วผู้ชนะยังคงเป็นปฐมบรรพพบุรุษอัคคี

“ก็ใช่” สุดท้าย ราชันหญิงพิณก็ไม่อาจปฏิเสธว่า “นาทีนี้เวลานี้ข้าไม่สามารถโปรดเจ้าได้ แต่ มีคนผู้หนึ่งสามารถโปรดเจ้าได้”

“ใคร…” ปฐมบรรพพบุรุษอัคคีเอ่ยขึ้นช้าๆ

“สหายผู้นี้” เวลานี้ ราชันหญิงพิณได้มองไปทีหลี่ชิเย่ สายตาของนางตกไปอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่

พริบตาเดียวนั่นเอง สายตาของปฐมบรรพพบุรุษอัคคีจ้องมองออกไปทันที มองไปที่ตัวของหลี่ชิเย่ แววตาแสดงถึงความตื่นเต้น

ในขณะนี้ ปราชญ์กระบี่ บรรพบุรุษดาบไคเทียน ปฐมบรรพพบุรุษพระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์ต่างมองไปที่หลี่ชิเย่

เวลานี้ แม้แต่พวกนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานก็มองไปที่หลี่ชิเย่เช่นเดียวกัน

ตอนนี้ สายตาของทุกๆ คนล้วนตกอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ เขากลายเป็นจุดโฟกัสของทุกๆ คน

………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด