Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3100 เจ๋อหลง

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3100 เจ๋อหลง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3100 เจ๋อหลง

รถม้าคันนี้มุ่งหน้าตรงเข้าไปยังจุดหมายปลายทาง หลังจากเข้าไปแล้วก็ไม่ได้ปรากฏตัวอีกเลย ส่งผลให้ผู้คนรู้สึกแปลกใจมากยิ่งขึ้น ผู้ที่นั่งอยู่ในรถม้าคันนี้คือพระอาจารย์จินกวงใช่หรือไม่กันแน่? เสียดาย ไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบได้ และสำหรับสิ่งต่างๆ ในเรื่องนี้ เขาเซียนถงซานก็ไม่มีผู้ใดที่ออกมาแสดงท่าที ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่ได้อธิบายต่อทุกคนว่า พวกเขามาที่นี่ด้วยเหตุผลประการใด

ความจริงแล้ว จะเป็นพระอาจารย์จินกวงก็ดี หรือเขาเซียนถงซานก็ช่าง พวกเขาไม่จำเป็นต้องอธิบายกับผู้คนใต้หล้าอยู่แล้ว ต่อให้พวกเขาต้องการปิดกั้นอาณาจักรแห่งหนึ่ง ก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายกับผู้ใด และไม่มีผู้ใดกล้าไปตั้งข้อสงสัย

นี่แหละคือพระอาจารย์จินกวง นี่แหละคือเขาเซียนถงซาน พวกเขาแข็งแกร่งมากจนกระทั่งถึงขั้นที่ไม่จำเป็นต้องไปอธิบายต่อผู้ตั้งข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น

“สหายทุกท่าน รีบเร่งล่าถอยออกไป ทั้งหมดให้ถอนตัวไปจากผืนแผ่นดินผืนนี้ มิฉะนั้นแล้วจะต้องรับผิดชอบกับผลที่เกิดขึ้นเอง” ขณะที่ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากต่างกำลังคาดเดาอยู่นั้น ในที่สุด ทางด้านเขาเซียนถงซานได้มียอดฝีมือออกมาแจ้งให้กับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดรับทราบแล้ว

“อะไรนะ ถอนตัวไปจากผืนแผ่นดินผืนนี้?” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกตกใจ เมื่อได้ยินคำบอกกล่าวเช่นนี้จากเขาเซียนถงซาน

“ทำไมจะต้องถอนตัวไป? อาศัยอะไรมาให้พวกเราถอนตัว?” ในเวลานี้ เริ่มมียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนแสดงความไม่พอใจแล้ว

“อาศัยอะไร?” พรรคพวกของเขาจึงพูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมาว่า “ก็อาศัยพวกเขาเป็นคนของพระอาจารย์จินกวง อาศัยพวกเขาคือศิษย์ของเขาเซียนถงซาน มันก็เพียงพอแล้วล่ะ”

แม้ว่าจะมียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ไม่พอใจ แต่ว่า เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว ก็ได้แต่นำเอาคำพูดที่เหลือกลืนลงท้องไป

ถูกต้อง ก็อาศัย ‘พระอาจารย์จินกวง’ นี้แหละก็เพียงพอแล้ว ใครบ้างกล้าไม่ถอนตัวออกไป เกรงว่าก็จะเป็นการหาเรื่องกับเขาเซียนถงซาน ต้องการเป็นศัตรูกับพระอาจารย์จินกวง

“พระอาจารย์จินกวงทำเช่นนี้เพื่ออะไรกัน? ไม่เหมือนท่าทีการกระทำปรกติของเขานะเนี่ย” บนผืนแผ่นดินผืนนี้ไม่ได้มีเพียงยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั่วๆ ไปเท่านั้น ยังคงมีระดับบรรพบุรุษที่ปราศจากผู้เทียบเทียม ระดับคงความอมตะตลอดกาลที่ปราศจากผู้ต่อกรบางส่วน พวกเขาต่างก็อยู่บนผืนแผ่นดินผืนนี้ เช่นกัน

แต่ว่า เวลานี้เมื่อได้ยินประกาศของเขาเซียนถงซานแล้ว ภายในใจของบรรดาระดับบรรพบุรุษ ระดับคงความอมตะตลอดกาลก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจมากขึ้น

“เชิญสหายทุกท่านรีบเร่งล่าถอยออกไป เขาเซียนถงซานกำลังปฏิบัติภารกิจที่นี่” หลังจากออกประกาศไม่นานเท่าไร เขาเซียนถงซานก็เริ่มทำการปิดกั้นผืนแผ่นดินผืนนี้แล้ว เชิญบรรดาผู้บำเพ็ญตนที่ยังคงรั้งอยู่บนผืนแผ่นดินผืนนี้ให้ออกไป

ทุกคนล้วนทราบดีว่า บนผืนแผ่นดินผืนนี้มีของดีอยู่มากมาย ยาวิเศษสมุนไพร ต้นไม้วิเซษหินประหลาด ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าสามารถสร้างความร่ำรวยให้กับพวกเขาได้ เวลานี้กลับถูกเขาเซียนถงซานยึดครองเอาพื้นที่นี้ไป

ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ถูกขับไล่ออกไปย่อมไม่ยินดีอยู่แล้ว แต่ว่า ก็จนด้วยเกล้า และพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะไปต่อต้าน ใครบ้างสามารถเอาชนะเขาเซียนถงซานไปได้ อีกทั้งเบื้องหลังของเขาเซียนถงซานนอกเหนือจากพระอาจารย์จินกวงแล้ว ยังมีเผ่าเซียนถงทั้งเผ่าอยู่

ผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยจนด้วยเกล้า ได้แต่ถอนตัวออกจากผืนแผ่นดินผืนนี้ไป

แม้ว่ามีระดับบรรพบุรุษ ระดับคงความอมตะตลอดกาลบางคนที่ไม่ยินดี แต่ว่า พวกเขาก็ไม่ได้บ่นอะไรมากมาย ต่างถอนตัวออกไปจากผืนแผ่นดินผืนนี้อย่างรู้ตัว

บรรดาระดับบรรพบุรุษ ระดับคงความอมตะตลอดกาลต่างรู้ว่าจะต้องมีเรื่องอะไร และหรือสิ่งบางสิ่งอย่างแน่นอน เนื่องจากพระอาจารย์จินกวงหาใช่เป็นประเภทโอหังอวดดีแบบนั้น เขาหาใช่เป็นผู้ที่มีท่าทีการกระทำที่พาลและไร้เหตุผล เวลานี้กลับทำการปิดกั้นผืนแผ่นดินผืนนี้อย่างกะทันหัน ย่อมจะต้องมีเรื่องที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

เอี๊ยดด เอี๊ยดด เอี๊ยดด…ในขณะที่เขาเซียนถงซานได้ปิดกั้นพื้นที่แห่งนี้ บนท้องฟ้าปรากฎเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง

นาทีนี้ มองเห็นขบวนทัพขบวนหนึ่งก้าวมาอย่างช้าๆ โดยที่ขบวนทัพนี้มีเพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้นเอง แต่ว่ากลับมีท่าทางที่น่าตระหนกตกใจยิ่ง ผู้ที่ทำหน้าที่ลากรถคือมังกรเขียวจำนวนแปดตัว พลันที่มองเห็นมังกรเขียวทั้งแปดตัวนี้ก็รู้ได้ทันทีว่ามีสายเลือดไม่ธรรมดาเลย

รถม้าคันดังกล่าวมีเมฆศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมด้านบน ถนนที่กว้างใหญ่ปูลาดอยู่ใต้ล้อรถ ขณะที่รถม้าแล่นเข้ามาช้าๆ เสมือนดั่งเป็นสะพานลอยที่ทอดยาวตรงไปเหนือผืนแผ่นดินผืนนี้

รถม้าดังกล่าวสร้างขึ้นด้วยไม้เซียนเฉินซิงมู่ที่ล้ำค่าที่สุด ด้านข้างรถม้าทั้งสี่ด้านปรากฎเป็นกฎเกณฑ์หลงเต้าที่ทิ้งตัวลงมา ปรากฏเป็นความขมุกขมัวขึ้นมา เสียงมังกรคำรามขึ้นลงสลับ เสมือนดั่งมังกรแท้จริงที่ขดตัวยึดครองอยู่ตรงนั้น

ด้านหน้าและด้านหลังมีหงส์หลากสี พยัคฆ์เผือก เต่าเทพ…คอยอารักขา ล้วนแล้วแต่เป็นเผ่าปีศาจที่แข็งแกร่งยิ่ง

“เจ๋อหลง! เป็นเจ๋อหลงมาด้วยตนเอง!” ต่อให้เป็นผู้ที่ไม่มีประสบการณ์มากกว่านี้ ก็ต้องหวาดผวาหลังจากที่ได้เห็นภาพนี้ ต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำในใจ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระดับบรรพบุรุษที่หวาดผวาจนหน้าถอดสี

“เป็นเจ๋อหลง! เป็นเจ๋อหลงมาด้วยตนเอง!” แม้แต่บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตน และระดับบรรพบุรุษที่ถือว่าตนเองมีกำลังความสามารถ และยังไม่ได้ออกไปจากที่ตรงนี้ ต่างทยอยกันออกไปจากผืนแผ่นดินผืนนี้

“เจ๋อหลงก็มาด้วยแล้ว นี่ นี่จะต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ บางที อาจมีสมบัติเซียนที่สะเทือนเลื่อนลั่นอยู่บนผืนแผ่นดินผืนนี้” ในที่สุด ก็มีระดับบรรพบุรุษเข้าใจแล้ว และรู้สึกใจหายใจคว่ำในใจ

“เป็นเจ๋อหลงนะเนี่ย” ผู้คนจำนวนเท่าไรที่ตระหนกและหวั่นไหว เมื่อได้เห็นขบวนลักษณะเช่นนี้

ชื่อของเจ๋อหลงชื่อนี้โด่งดังไปทั่วหล้า ชื่อของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าพระอาจารย์จินกวงแม้แต่น้อย เขาเหมือนเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุดคนหนึ่ง และยึดครองอยู่ท่ามกลางฟ้าดินตลอดมา

เจ๋อหลงคือระดับคงความอมตะตลอดกาลที่ปราศจากผู้ต่อกรคนหนึ่ง ตัวของเขาใช่จะเป็นเพียงที่ปราศจากผู้ต่อกรเท่านั้น เขาคือระดับคงความอมตะตลอดกาล ชั้นวิถีไกลคนหนึ่ง! เป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะสามารถท้าสู้กับระดับปฐมบรรพบุรุษได้ ช่างเป็นบุคคลที่มีความแข็งแกร่งเช่นใดคนหนึ่ง

ในฐานะที่เจ๋อหลงเป็นระดับคงความอมตะตลอดกาล ชั้นวิถีไกล ย่อมไม่ต้องสงสัยในด้านกำลังความสามารถของเขาอยู่แล้ว กาลเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนานเท่าไรไม่รู้ เคยมีผู้ที่สำเร็จบรรลุเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษจำนวนไม่น้อยต่างยกย่องเจ๋อหลงว่า ‘ท่านผู้อาวุโส’

หลังจากที่พระอาจารย์จินกวงเข้าสู่ยุทธภพแล้ว เจ๋อหลงก็ได้กลายเป็นผู้คุ้มกันของพระอาจารย์จินกวง ซึ่งส่งผลให้ชื่อเสียงของพระอาจารย์จินกวงโด่งดังมาก ลองจินตนาการดู ผู้ที่สามารถทำให้เจ๋อหลงเชื่อมั่นได้นั้นย่อมไม่ใช่ธรรมดา

สุดท้ายก็เป็นการยืนยันว่าเจ๋อหลงดูคนไม่ผิด พระอาจารย์จินกวงได้กลายเป็นอัจฉริยะบุคคลผู้มีพรสวรรค์สูงสุดของแดนลัทธิเซียนภายในระยะเวลาอันสั้น ภายหลังได้บรรลุสัจธรรม กลายเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษ! ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วหล้า ปราศจากผู้เทียบเทียมในหล้า

จากการที่มีเจ๋อหลงเป็นผู้คุ้มกัน ส่งผลให้ธาตุแท้ภายในของพระอาจารย์จินกวงสูงกว่าปราชญ์อัจฉริยะหลันซูอยู่มากทีเดียว จะอย่างไรเสีย ในด้านของผู้ให้ความคุ้มกันนั้นปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเทียบไม่ได้กับพระอาจารย์จินกวง

เนื่องเพราะมีผู้ให้การคุ้มกันอย่างเจ๋อหลง ทำให้ผู้คนจำนวนมากเข้าใจว่า ต่อให้คนโหดอันดับหนึ่งมุทะลุดุดันและโหดร้ายมากกว่านี้ ปราดเปรื่องน่าทึ่งมากกว่านี้ ในด้านธาตุแท้ภายในแล้ว ก็เทียบไม่ได้กับพระอาจารย์จินกวง

“เจ๋อหลง ระดับคงความอมตะตลอดกาล ชั้นวิถีไกลที่ยังคงอยู่ในยุคปัจจุบัน แข็งแกร่งมากเหลือเกิน” มองดูรถม้าที่แล่นเข้าไปยังผืนแผ่นดินผืนนี้อย่างช้าๆ แม้แต่ระดับบรรพบุรุษที่มำลังความสามารถชั้นคงความอมตะตลอดกาล ก็รู้สึกเคารพเลื่อมใสขึ้นมาทันที

ครั้นผู้เยาว์ได้ยินคำพูดเช่นนี้จึงกล่าวเสียงแผ่วเบาขึ้นมาว่า “ยังมีเจียงฉางฉุนคนหนึ่งมิใช่รึ?”

ในโลกหล้า หากพูดถึงระดับคงความอมตะตลอดกาลที่ปราศจากผู้ต่อกร คนจำนวนมากก็จะนึกถึงเจียงฉางฉุนเป็นคนแรก!

ระดับคงความอมตะตลอดกาลที่ปราดเปรื่องน่าทึ่ง และปราศจากผู้เทียบเทียม ได้รับการยกย่องจากผู้คนว่าเป็นหนึ่งในสิบผู้เจิดจรัสตลอดกาล อีกทั้งเจียงฉางฉุนเคยเอาชนะปฐมบรรพบุรุษเจินเหยียนที่เป็นปฐมบรรพบุรุษ ชั้นแดนลัทธิพรรษะมาก่อน!

อาจกล่าวได้ว่า ชื่อของเจียงฉางฉุนนั้นเสมือนหนึ่งเป็นดวงดาวที่เจิดจรัสที่สุดดวงนั้นที่อยู่บนท้องฟ้า ส่องสว่างท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยฐานะที่สูงส่ง

‘เจียงฉางฉุน’ บรรพบุรุษผู้มีกำลังความสามารถระดับคงความอมตะตลอดกาล อดที่จะให้ความเคารพยำเกรง เคร่งขึง เมื่อเอ่ยสถึงชื่อนี้ และกล่าวว่า “เจียงฉางฉุนไม่ได้ปรากฏตัวในหล้ามานานมากๆ แล้ว แม้แต่วิหารอมตะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่ ได้ยินว่า ในอดีตที่เนิ่นนานมากๆ มาแล้ว เจียงฉางฉุนก็ได้กักตนและไม่กลับออกมาอีกเลย ข่าวว่าเขาได้มรณะในท่านั่งกรรมฐานขณะกักตนแล้ว”

เจียงฉางฉุนกับเจ๋อหลงต่างก็เป็นระดับคงความอมตะตลอดกาล ชั้นวิถีไกลเช่นเดียวกัน หากว่ากันด้วยเรื่องลำดับอาวุโส เจ๋อหลงน่าจะสูงกว่าเจียงฉางฉุน แต่ในเรื่องความปราดเปรื่องน่าทึ่งแล้ว เจียงฉางฉุนสูงกว่าเจ๋อหลง

น่าเสียดาย ไม่มีผู้ใดพบเห็นเจียงฉางฉุนอีกแล้วในห้วงเวลาที่ยาวนานมาก ผู้คนในหล้าต่างเข้าใจว่าเจียงฉางฉุนไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกแล้ว

ด้วยเหตุนี้เอง การปรากฏตัวของเจ๋อหลงในทุกวันนี้ จึงเป็นที่เคารพยำเกรงของทุกคน ความโด่งดังด้านชื่อเสียงของเขานั้นไม่ด้อยไปกว่าระดับปฐมบรรพบุรุษ กระทั่งอาจจะยิ่งกว่าไม่มีด้อยกว่า

ดังนั้น ยังคงมียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนบางคนที่รู้สึกไม่สบายใจอยู่ในขณะนี้ ต่างทยอยกันไปจากผืนแผ่นดินผืนนี้ ไม่กล้ารั้งอยู่ต่อไปแม้แต่น้อย ทุกคนต่างเข้าใจแล้วว่า เขาเซียนถงซานเอาจริงแล้ว

ยังไม่ต้องเอ่ยถึงว่าพระอาจารย์จินกวงมาด้วยตนเองจริงหรือไม่ ลำพังอาศัยเจ๋อหลงที่มาด้วยตนเองก็เพียงพอแล้ว เพียงพอที่จะสยบยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนได้ทุกคน

อีกทั้ง การมาด้วยตนเองของเจ๋อหลงก็เท่ากับประกาศว่า สภาพการณ์ภายในนั้นไม่ธรรมดา ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้หากใครยังกล้าหาเรื่องกับเขาเซียนถงซาน ก็คือการรนหาที่ตายเองแล้ว

เจ๋อหลงที่เดินทางมาด้วยตนเองได้มุ่งหน้าตรงเข้าไปอย่างรวดเร็ว โดยตรงไปยังบริเวณที่ลึกเข้าไปในผืนแผ่นดินผืนนี้ ไม่มีผู้ใดทราบว่าไปทำอะไรอยู่ข้างในกันแน่ ยิ่งไปกว่านั้น ไม่รู้ว่ามีสิ่งใดที่คู่ควรให้เจ๋อหลงต้องมาด้วยตนเองกันแน่

ในเวลานี้ คู่สายตานับไม่ถ้วนล้วนรวมตัวกันอยู่บนผืนแผ่นดินผืนนี้ ทุกคนต่างเฝ้ารอคอยอยู่ ต่างต้องการดูว่า บนผืนแผ่นดินผืนนี้จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกันแน่

เสียงปัง ปัง ปังดังขึ้น ในเวลานี้เอง เสียงฝีเท้าคนแล้วคนเล่าที่ดังขึ้น เหมือนทั่วท้องฟ้าถูกเหยียบจนแหลกละเอียดไปอย่างนั้น

ท่ามกลางเสียงปัง ปัง ปังที่ดังขึ้น ทุกคนล้วนสามารถฟังออกว่านี่เป็นการเคลื่อนไหวของสิ่งที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร

ขณะที่สายตาของทุกคนมองออกไป มองเห็นบนท้องฟ้าปรากฏสิ่งที่ใหญ่โตมโหฬารเดินเข้ามาช้าๆ ตัวแล้วตัวเล่า แต่ว่า แต่ละก้าวที่เจ้าตัวที่ใหญ่โตมโหฬารนี้ก้าวออกไปก็คือแสนลี้ ดูว่าพวกเขาก้าวเดินได้ช้า แต่ กลับรวดเร็วอย่างยิ่ง

ขณะสิ่งที่ใหญ่โตมโหฬารเดินเข้ามาช้าๆนั้น ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากถึงกับมองดูด้วยการลืมตาทั้งสองกว้างมาก

มันคือสัตว์ยักษ์แต่ละตัวที่ดูไปแล้วเหมือนช้าง สิ่งที่สัตว์ยักษ์ดูไม่เหมือนช้างก็คือพวกมันไม่ได้มีจมูกที่ยาวๆ อีกทั้งยังมีเกราะหนาๆ หุ้มอยู่ชั้นหนึ่งบนหลัง

สัตว์ยักษ์ลักษณะเช่นนี้มันมีขนาดใหญ่โตเช่นใดกันแน่นะ? ถ้าหากสัตว์ยักษ์ลักษณะเช่นนี้ยืนอยู่ตรงนั้น ต่อให้เป็นทะเลน้ำทะเลก็เพียงแค่อยู่เหนือเข่าพอดีเท่านั้นเอง ย่อมสามารถจินตนาการได้แล้วว่าสัตว์ยักษ์มีขนาดใหญ่โตเช่นใดแล้ว

‘สัตว์จอมพลัง’ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ เมื่อมองเห็นสัตว์ยักษ์แต่ละตัวที่เดินเข้ามาช้าๆ

สัตว์จอมพลังเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่ล้ำค่าและพบเห็นได้ยาก มีพลังมหาศาล สามารถแบกฟ้าดินขึ้นมาได้ ในยุคปัจจุบัน บางทีอาจมีเพียงเจ๋อหลงเท่านั้นที่ยังคงมีสัตว์ดึกดำบรรพ์เช่นสัตว์จอมพลังในครอบครอง

ทุกคนอดที่มองตากันและกัน นาทีนี้ผู้คนจำนวนมากสามารถคาดเดาได้รางๆ แล้วว่า เขาเซียนถงซานกำลังจะทำอะไรแล้ว ซึ่งก็ทำให้ระดับบรรพบุรุษจำนวนไม่น้อยเริ่มตระหนักได้แล้วว่า เพราะเหตุใดเจ๋อหลงจึงต้องมาด้วยตนเอง

ขณะที่สัตว์จอมพลังยังคงมีระยะห่างอยู่ช่วงหนึ่งก่อนที่จะถึงผืนแผ่นดินผืนนี้ พวกมันต่างหยุดและหันหลังกลับ

ตึง ตึง ตึงเสียงโซ่เหล็กดังขึ้นเป็นระลอก ในเวลานี้เอง เห็นเพียงระดับบรรพบุรุษของเขาเซียนถงซานแต่ละคนที่ยืนอยู่บนหลัง ยืนอยู่บนเกราะของสัตว์จอมพลัง

…………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด