Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2620 เทพกระบี่สายฟ้า
ตอนที่ 2620 เทพกระบี่สายฟ้า
กองกำลังทัพใหญ่ของตระกูลมู่ได้มาถึง แม้ว่าพวกเขาไม่ได้มีท่าทีที่สะเทือนฟ้า และไม่มีการจัดฉากให้ดูเอิกเกริกโอ้อวดดึงดูดความสนใจของผู้คน แต่ทว่า เมื่อกองกำลังทัพขนาดใหญ่ปรากฏ พลันทำให้บรรยากาศกลับกลายเป็นอึดอัดขึ้นมาทันที
กองกำลังใหญ่นี้ออกมาจากประตูมิติอย่างช้าๆ และเงียบเชียบ เป็นระเบียบเรียบร้อย ท่ามกลางความเป็นระเบียบเรียบร้อยนี่เอง กองกำลังใหญ่กองทัพนี้ให้ความรู้สึกกับผู้คนถึงความไร้เทียมทาน
ขณะที่กองกำลังทัพใหญ่เคลื่อนมาช้าๆ นั้น เหมือนว่าสามารถทลายสิ่งกีดขวางทุกชนิดที่อยู่ตรงหน้า สามารถฝ่าทุกสิ่งทุกอย่างที่กีดขวางเส้นทางตรงหน้าของพวกเขา กล่าวได้ว่า เมื่อกองกำลังทัพใหญ่นี้เคลื่อนผ่านไปนั้น สามารถเปิดภูเขาเบิกดิน ฟันทะเลทลายทะเลสาบได้ ไร้เทียมทานปราศจากสิ่งใดสามารถกั้นขวางได้
ท่ามกลางกองกำลังทัพใหญ่นี้มีอยู่ผู้หนึ่งที่ดูจะเป็นที่สะดุดตามากเป็นพิเศษ เหมือนว่าไม่ว่าเขาไปปรากฏตัวอยู่ ณ ที่ใดก็จะกลายเป็นจุดสนใจ
คนผู้นี้เป็นคนหนุ่ม แลดูหนุ่มแน่นยิ่งนัก ชายหนุ่มผู้นี้สวมชุดสีขาวทั้งชุด ท่าทางเฉยเมย กอดกระบี่ยาวแนบอก
ชายหนุ่มผู้นี้ติดตามอยู่ท่ามกลางกองทัพ ไม่มีอำนาจที่ข่มผู้คน ไม่มีท่าทีหมางเมินทั่วหล้า ยิ่งกว่านั้นยังไม่มีกลิ่นอายดุเดือดรุนแรง
คนผู้นี้เดินกอดกระบี่ เฉยเมยไม่พูดไม่จา และไม่มีท่าทางที่หยิ่งยโสที่เป็นหนึ่งไม่มีสองรองใคร เขาเพียงกอดกระบี่ด้วยท่าทีเย็นชาเอาไว้เท่านั้น
แต่ทว่า ด้วยท่าทางที่กอดกระบี่ด้วยท่าทีเย็นชาเช่นนี้ ไม่ทราบเป็นเพราะเหตุใด ไม่ว่าใครก็ตามเมื่อมองเห็นตัวเขาแล้วต้องก้าวถอยหลังไปหลายก้าว และบังเกิดความหวาดกลัวขึ้นในใจ กระทั่งกล่าวได้ว่า ภายในใจมีความรู้สึกที่หวาดหวั่นพรั่นพรึง
โดยเฉพาะขณะที่สายตาของชายหนุ่มผู้นี้จ้องมองมา ทำให้ผู้คนรู้สึกสั่นเทาทันที กระทั่งทำให้ในใจของผู้คนถึงกับบังเกิดอาการเจ็บปวดในใจเหมือนหัวใจถูกบีบรัดเป็นระรอก ในพริบตาเดียวนั่นเอง สิ่งนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกมีอะไรมาทิ่มแทงทะลุหัวใจอย่างนั้น
เหมือนว่าพลันที่ชายหนุ่มผู้นี้จ้องมาในพริบตาเดียว เหมือนหนึ่งกระบี่ที่แทงทะลุหัวใจและถึงแก่ชีวิตในหนึ่งกระบี่
กระทั่งมีผู้คนรู้สึกตนเองเจ็บแปลบที่บริเวณคอขณะที่ชายหนุ่มมองเข้ามา รู้สึกเหมือนเกิดเป็นภาพมายาว่าลำคอของตนถูกหนึ่งกระบี่แทงทะลุไป และเลือดก็ได้ไหลออกมาอย่างช้าๆ
‘เทพกระบี่สายฟ้า ซูม่อไป๋! ’ มีผู้ร้องเสียงหลงออกมาเมื่อมองเห็นชายหนุ่มที่เดินกอดกระบี่มาผู้นี้
“เทพกระบี่สายฟ้า ซูม่อไป๋มาแล้ว น้อยครั้งนักที่เขาจะออกจากตระกูลมู่นะเนี่ย” ผู้คนจำนวนไม่น้อยแอบตระหนกเงียบๆ เมื่อเห็นชายหนุ่มผู้นี้แล้ว จึงมีผู้พูดขึ้นมาทันทีว่า “แม้แต่เทพกระบี่สายฟ้าก็มาแล้ว ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนจะต้องมาแน่”
“นั่นสิ ปรกติแล้วเทพกระบี่สายฟ้าน้อยครั้งที่ออกจากตระกูลมู่เสมอ หากจะออกมาก็คือติดตามอยู่เคียงข้างราชันแท้จริงมู่เจี้ยน วันนี้ซูม่อไป๋มาแล้ว ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนต้องมาด้วยอย่างแน่นอน” ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง เมื่อมองเห็นซูม่อไป๋
เทพกระบี่สายฟ้า ซูม่อไป๋คือศิษย์เอกของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน และก็คืออาจารย์ของมู่เฉินเจี๋ยทีถูกหลี่ชิเย่สังหารไป แน่นอนที่สุด มู่เฉินเจี๋ยก็เป็นเพียงหนึ่งในจำนวนศิษย์ทั้งหมดของเขาเท่านั้นเอง
ปฏิกิริยาแรกของคนบางคนที่รู้สึกเมื่อได้ยินชื่อของซูม่อไป๋แล้วก็คือ เขาไม่ใช่ศิษย์ของตระกูลมู่ ความจริงแล้ว เขาไม่เพียงเป็นศิษย์ของตระกูลมู่เท่านั้น อีกทั้งยังเป็นศิษย์เอกของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนอีกด้วย เขามีฐานะที่สูงส่งมากในตระกูลมู่
ซูม่อไป๋เป็นผู้ที่มาจากนอกตระกูล ซึ่งแตกต่างจากศิษย์จำนวนมากของตระกูลมู่ เขาไม่ได้มีชาติกำเนิดมาจากตระกูลมู่ เมื่อเปรียบกับศิษย์ตระกูลมู่ที่มีชาติตระกูลสูงส่งแล้ว ชาติกำเนิดของซูม่อไป๋ต่ำต้อยยิ่งนัก อาจกล่าวได้ว่าบนตัวของเขาไม่ได้มีสายเลือดที่สูงส่งอะไรเลย
ซูม่อไป๋มีชาติกำเนิดมาจากครอบครัวชาวนาแต่เด็ก เรียกได้ว่าคือราษฎรชั้นต่ำดีๆ นี่เอง แต่ทว่าเขาได้แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ในวิถีกระบี่ที่สูงมาก
ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงเป็นที่ถูกใจของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน และถูกราชันแท้จริงมู่เจี้ยนพาเข้าตระกูลมู่ กลายเป็นศิษย์ของตระกูลมู่
ซูม่อไป๋เองก็ไม่ได้ทำให้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนต้องผิดหวังจริงๆ ภายใต้การบ่มฟักของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน ทักษะยุทธของซูม่อไป๋ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว กล่าวได้ว่าในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ของตระกูลมู่แล้ว ยากที่จะมีผู้ต่อกรกับเขา
สมควรทราบว่า สำนักที่มีการสืบทอดมาเก่าแก่โบราณอย่างตระกูลมู่ มันได้ปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่มีขนาดใหญ่โตมาก ท่ามกลางระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลักษณะเช่นนี้ ยอดฝีมือดั่งดอกเห็ด โดยเฉพาะในตระกูลมู่ มันคือตระกูลขุนนางโบราณที่ให้ความสำคัญด้านสายเลือดและชาติกำเนิดเป็นพิเศษ
ซูม่อไป๋ที่เป็นเพียงราษฎรชั้นต่ำโดยกำเนิด กลับสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงภายใต้ตระกูลมู่ที่มีการแบ่งชนชั้นอย่างเข้มงวด อีกทั้งยังได้กลายเป็นศิษย์เอกของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่า ความจริงแล้วซูม่อไป๋ช่างยอดเยี่ยมเช่นใด กระทั่งมีผู้กล่าวว่าความสูงส่งด้านพรสวรรค์ของเขานั้นไล่ตามราชันแท้จริงมู่เจี้ยนมาติดๆ
“เทพกระบี่สายฟ้า ออกกระบี่ไว ล้ำเลิศหนึ่งไม่มีสอง” กลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่ได้เลื่อมใสศรัทธาในราชันแท้จริงมู่เจี้ยน และไม่ได้เลื่อมใสศรัทธาในราชันแท้จริงต้วนยวี่ แต่เลื่อมใสศรัทธาในเทพกระบี่สายฟ้า
“นั่นสิ เทพกระบี่สายฟ้าอาจไม่สามารถเทียบได้กับราชันแท้จริงมู่เจี้ยนผู้เป็นอาจารย์ในด้านทักษะ แต่ว่า หากว่ากันถึงเรื่องความไวของกระบี่ โลกนี้ยังจะมีใครเทียบกับเขาได้รึ? พลันที่เทพกระบี่สายฟ้าออกกระบี่ก็คือไร้เทียมทาน ความไวของกระบี่ไร้ผู้ต้านทาน หนึ่งกระบี่ถึงตาย พลันที่ออกกระบี่ก็เท่ากับความตาย” ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยชมเปาะไม่ขาดปาก
อาจกล่าวได้ว่า เทพกระบี่สายฟ้าซูม่อไป๋มีผู้ที่ให้การเลื่อมใสศรัทธาอยู่เป็นจำนวนมากในแดนลัทธิราชัน โดยเฉพาะบรรดาผู้บำเพ็ญตนที่มีชาติกำเนิดมาจากสำนักขนาดเล็ก บางทีบรรดาผู้บำเพ็ญตนที่มีชาติกำเนิดต่ำต้อยเหล่านั้นต่างก็ยึดเอาซูม่อไป๋เป็นตัวอย่าง ต่างถือเอาซูม่อไป๋เป็นแรงบันดาลใจของตน
แม้จะกล่าวว่าพวกราชันแท้จริงต้วนยวี่ ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนต่างก็มีผู้ที่ให้การเลื่อมใสศรัทธาอยู่ไม่น้อย แต่ว่า ทั้งราชันแท้จริงต้วนยวี่ และราชันแท้จริงมู่เจี้ยนไม่สามารถเป็นตัวแทนเสียงที่มาจากส่วนลึกของหัวใจให้กับผู้บำเพ็ญตนทั้งหมด
โดยเฉพาะกล่าวสำหรับบรรดาเหล่าผู้บำเพ็ญตนที่มีชาติกำเนิดต่ำต้อยแล้ว ลองนึกภาพดู ราชันแท้จริงต้วนยวี่ก็ดี ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็ช่าง พวกเขาต่างก็มีชาติกำเนิดมาจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบันของแดนลัทธิราชัน พลันที่พวกเขาถือกำเนิดขึ้นมาก็มีสายเลือดที่สูงส่ง พลันที่ถือกำเนิดขึ้นมาก็มีความได้เปรียบที่มีมาแต่กำเนิดชนิดที่ผู้อื่นไม่สามารถเทียบเคียงได้
การที่พวกเขาประสบความสำเร็จในวันนี้ เป็นความจริงที่พวกเขามีความโดดเด่น พวกเขาขยันหมั่นเพียร พวกเขามีความพยายาม แต่ทว่าในสายตาของผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากมองว่า ราชันแท้จริงต้วนยวี่ และราชันแท้จริงมู่เจี้ยนพลันที่ถือกำเนิดขึ้นมาก็ถูกลิขิตเอาไว้แล้วว่าไม่ธรรมดา ซึ่งเป็นอะไรที่ผู้บำเพ็ญตนระดับล่างไม่สามารถเทียบเคียงได้อยู่แล้ว
แต่ทว่า เทพกระบี่สายฟ้าซูม่อไป๋นั้นแตกต่าง ซูม่อไป๋มีชาติกำเนิดมาจากครอบครัวชาวนา ถือเป็นราษฎรชั้นต่ำโดยสิ้นเชิง ในสายตาของผู้บำเพ็ญตนแล้ว ชาติกำเนิดลักษณะเช่นนี้ก็คือมดปลวก
แต่ว่า เทพกระบี่สายฟ้าซูม่อไป๋ได้กลายเป็นหนึ่งในอัจฉริยะบุคคลที่โดดเด่นมากที่สุดในกลุ่มคนรุ่นใหม่ในแดนลัทธิราชันยุคปัจจุบัน โดยอาศัยชาติกำเนิดที่ต่ำต้อยมากที่สุด ความแข็งแกร่งด้านกำลังความสามารถนั้น อัจฉริยะบุคคลจำนวนเท่าไรที่มีชาติกำเนิดสูงส่งไม่สามารถเทียบเคียงได้ แม้แต่ฉัจฉริยะบุคคลจำนวนมากของตระกูลมู่เองก็ถูกซูม่อไป๋สยบเอาไว้ ทำให้ผู้คนไม่อาจไม่ให้การเลื่อมใสศรัทธา
เนื่องจากเทพกระบี่สายฟ้าซูม่อไป๋มีชาติกำเนิดลักษณะเช่นนี้ และยังมีความสำเร็จเช่นนี้ พลันทำให้บังเกิดความรู้สึกร่วมภายในใจของผู้บำเพ็ญตนระดับล่างขึ้นมา
มีบำเพ็ญตนระดับล่างจำนวนไม่น้อยที่มองเห็นร่างเงาของตนเองบนตัวของเทพกระบี่สายฟ้าซูม่อไป๋ ตนเองก็มีชาติกำเนิดที่ต่ำต้อยเฉกเช่นซูม่อไป๋ ขอเพียงตนเองมีความพยายาม ต่อสู้ฟันฝ่า บางทีอาจมีสักวันก็จะกลายเป็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคลเหมือนดั่งซูม่อไป๋ กลายเป็นบุคคลที่กำหนดสถานการณ์ใต้หล้าที่โด่งดังก็เป็นได้
“เป็นความจริงที่ซูม่อไป๋อาศัยวิธีการที่แตกต่าง ถ้าหากเขาก้าวเดินตามรอยเท้าของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนผู้เป็นอาจารย์ มันก็แค่เดินตามเส้นทางของผู้เป็นอาจารย์เท่านั้น เกรงว่าอนาคตจะไม่สามารถก้าวล้ำราชันแท้จริงมู่เจี้ยผู้เป็นอาจารย์ของเขาไปได้ ดังนั้นเขาจึงค้นหาวิธีการใหม่ๆ ด้วยการอาศัยออกกระบี่ได้อย่างรวดเร็ว พลันที่กระบี่ไวของเขาสำแดงออกมา เป็นความจริงที่สุดยอดปราศจากผู้เทียบเทียม หากว่ากันด้วยความไวของกระบี่แล้ว เกรงว่าราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็ไม่เท่ากระมัง” ระดับอาวุโสก็ไม่อาจไม่ยอมรับในจุดนี้
“หากจะพูดถึงด้านความไวของกระบี่ เป็นความจริงที่ยากจะมีผู้ใดเทียบเทียม” ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสที่เคยปะมือกับเทพกระบี่สายฟ้าซูม่อไป๋ก็ไม่อาจไม่ยอมรับ และกล่าวว่า “เขาไม่มีอะไรต้องละอายใจกับฉายาเทพกระบี่สายฟ้า ไม่เพียงกระบี่ที่รวดเร็ว การบรรลุถึงวิถีกระบี่ของเขาก็เป็นแบบฉบับของเขาเอง เป็นความจริงที่การบรรลุด้านวิถีกระบี่จะสู้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่ามีความแข็งแกร่งมากกว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนเท่าไร”
ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีชาติกำเนิดเช่นใดก็ตาม ต้องเอ่ยชื่นชมขึ้นเมื่อได้เห็นเทพกระบี่สายฟ้าซูม่อไป๋ ต่างอดที่จะชมเชยไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้บำเพ็ญตนที่มีชาติกำเนิดต่ำต้อย หรือยอดฝีมือที่มีชาติกำเนิดสูงส่ง ให้การยอมรับในความสำเร็จของเทพกระบี่สายฟ้าซูม่อไป๋
นับว่าเป็นเช่นนี้จริงๆ การที่เทพกระบี่สายฟ้าซูม่อไป๋ที่มีชาติกำเนิดลักษณะเช่นนี้สามารถประสบความสำเร็จอย่างนี้ได้ นับว่าคู่ควรให้ผู้คนเคารพนับถืออย่างแท้จริง
หลังจากที่เทพกระบี่สายฟ้าซูม่อไป๋นำพากองกำลังทัพใหญ่ของตระกูลมู่มาถึงแล้วไม่ได้เข้าไปยังเมืองหมิงลั่วเฉิงในทันที แต่ได้เข้าพักในตึกสูงตำหนักโบราณนั่น
เนินเขาสูงได้รับการปลุกเสกจากราชันแท้จริงมู่เจี้ยนมาแล้ว เรียกได้ว่าได้กลายเป็นค่ายกลของตัวเอง เหมาะแก่การรุกและรับ การตั้งค่าย ณ สถานที่แห่งนี้ย่อมเป็นการดีที่สุดแล้ว
หลังจากที่เทพกระบี่สายฟ้านำศิษย์เข้าพักในค่ายแล้วก็ไม่ปรากฎตัวออกมาอีกเลย ศิษย์ของตระกูลมู่ก็ไม่กล้าทำอะไรโดยพละการหากไม่มีคำสั่งของเทพกระบี่สายฟ้า
จากจุดนี้สามารถมองออกว่า เทพกระบี่สายฟ้าซูม่อไป๋มีฐานะที่สูงส่งยิ่งในตระกูลมู่
สมควรทราบว่า ศิษย์ของตระกูลมู่จะมากหรือน้อยก็มีชาติกำเนิดที่สูงส่ง บนตัวมีสายเลือดที่สูงส่งไม่มากก็น้อย ในจำนวนพวกเขามีทายาทรุ่นหลังของราชันแท้จริง กระทั่งอาจมีความเป็นไปได้ที่เป็นชนรุ่นหลังของปฐมบรรพบุรุษ แต่ว่าในเวลานี้ พวกเขายังคงฟังคำสั่งของซูม่อไป๋ที่เป็นคนนอกตระกูล ซึ่งสามารถมองออกว่าซูม่อไป๋มีฐานะที่ไม่ธรรมดาในตระกูลมู่
ช่าาา…เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่กองกำลังทัพใหญ่ของตระกูลมู่เพิ่งเข้าตั้งค่ายได้ไม่นาน ทันใดนั้น บนท้องฟ้าปรากฎกิ่งไม้เขียวที่เป็นก้านแยกกิ่งหนึ่งบินเข้ามา
ได้ยินเสียงฉึกดังขึ้น กิ่งไม้ที่เป็นก้านแยกสีเขียวได้ปักลงบนที่ราบสูงแห่งหนึ่งในเมืองหมิงลั่วเฉิง
ตูม ตูม ตูมเสียงตูมตามดังขึ้นไม่ขาดสาย ในเวลานี้เอง ก้านแยกนี้ที่ปักลงบนที่ราบสูงถึงกับเจริญเติบโตขึ้นมาทันที เพียงพริบตาเดียวก็โผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดิน
ผู้คนแทบไม่อยากเชื่อกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า เมื่อครู่มันยังคงเป็นเพียงกิ่งไม้ที่เป็นก้านแยกสีเขียว ขนาดเท่าๆ กับนิ้วมือ แต่ เพียงชั่วพริบตาเดียว กิ่งไม้สีเขียวดังกล่าวถึงกับเจริญเติบโตตนกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่สูงเทียมฟ้า
อย่างไรก็ตาม ต้นไม้ใหญ่ที่สูงเทียมฟ้านี้ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตูม ตูม ตูมเสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอกไม่ขาดสาย มองเห็นต้นไม้ยักษ์ที่มีรากขนาดเขื่องที่มุดลงใต้ดินเหมือนเป็นมังกรแท้จริงแต่ละตัวอย่างนั้น เสียงร้องคำรามดังไม่ขาดสาย หลังจากมุดลงดินก็ได้เลื้อยไปเป็นหมื่นลี้ ลำต้นขนาดใหญ่โตมโหฬารได้หยั่งรากตรึงอยู่กับพื้นอย่างแน่นหนา
หลังจากที่รากขนาดใหญ่ที่เหมือนมังกรแท้จริงได้หยั่งลงพื้นดินแล้ว มันก็เริ่มดูดเอาพลังแก่นฟ้าดินของสถานที่แห่งนี้อย่างบ้าคลั่ง
ท่ามกลางเสียงตูม ตูม ตูมที่ดังตูมตามขึ้นเป็นระลอก จากการที่ต้นไม้ยักษ์ได้ดึงเอาพลังแก่นฟ้าดิน และน้ำให้แยกออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้พื้นดินทั้งบริเวณเริ่มแห้งผากขึ้นมา
อีกทั้งการแห้งกรังนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ขยายตัวออกไปด้วยความเร็วนับเป็นพันลี้ ภายในระยะเวลาอันสั้น พื้นแผ่นดินผืนใหญ่ถูกดูดจนแห้งกรัง ผืนแผ่นดินทั้งผืนกลายเป็นพื้นดินที่คล้ายถูกเผาจนไหม้เกรียมอย่างนั้น
Comments