Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2650 ประหารโลกา

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2650 ประหารโลกา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2650 ประหารโลกา

ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก้าวเท้าออกไปก้าวหนึ่ง ภายใต้ก้าวเดียวเหยียบท้องฟ้าจนละเอียด เหยียบทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกจนแหลกละเอียด

นาทีนี้ ขอเพียงราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก้าวออกไปก้าวเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถูกเขาเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่กลับกลายเป็นไร้ค่าไม่คู่ควรจะกล่าวถึง เหมือนว่าขอเพียงราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก้าวออกไปก้าวหนึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่สามารถหายวับไปกับตาในชั่วพริบตาเดียว

ขณะที่ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนยืนอยู่ที่ตรงนั้น สุริยันจันทราและดวงดาว ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล้วนแล้วแต่สั่นไหวโคลงแคลงไปมา ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล้วนแล้วแต่ส่งเสียงดังเอี๊ยดๆ เหมือนว่าขณะราชันแท้จริงมู่เจี้ยนยืนอยู่ที่ตรงนั้น ทั่วทั้งฟ้าดินก็ไม่สามารถต้านพลังของเขาเอาไว้อย่างนั้น แม้แต่พลังของเขาล้นออกมาเพียงเล็กน้อย ก็เสมือนว่าสามารถทำลายฟ้าดินทั้งหมดจนพังพินาศย่อยยับลง

หากกล่าวให้มันเกินเลยไปนิด เหมือนว่าราชันแท้จริงมู่เจี้ยนผมร่วงลงมาสักเส้นหนึ่งก็สามารถทับโลกทั้งโลกจนแหลกละเอียดได้อย่างนั้น

ในเวลานี้ ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนที่มีพลังลมปราณที่ใช้ไม่รู้จักหมดในครอบครอง มีสภาพที่แข็งแกร่งไม่อาจทำลายได้ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนที่มีพลังให้หยิบยืมและควบคุมได้อย่างไร้ขีดจำกัด ทั้งยังอยู่ภายใต้สภาพของปฐมบรรพบุรุษ ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่า ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนในขณะนี้มีความสยองขวัญเช่นใด

“ปฐมบรรพบุรุษมาด้วยตนเองรึ?” ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องสั่นเทา เมื่อมองเห็นการก้าวเท้าออกมาเพียงก้าวเดียวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน ก็มีท่าทีที่เหยียบฟ้าดินจนแหลกละเอียด ถึงกับรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงขึ้นมา

จะอย่างไรเสีย ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนในเวลานี้อยู่ในสภาพที่ยอดเยี่ยมที่สุด เขาได้เข้าสู่สภาพความเป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรอีกประเภทหนึ่ง สภาพเช่นนี้ของเขาไม่ได้เป็นเพียงการร่วมมือของสี่คนเท่านั้นเอง และไม่ได้เป็นเพียงรวมพลังของสี่คนแค่นั้นเอง การผสานเข้าด้วยกันที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองเช่นนี้ ทำให้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนในเวลานี้มีท่วงท่าที่ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้าแล้ว

“ทั่วหล้านาทีนี้เวลานี้ ยังจะมีใครที่สามารถต้านหนึ่งกระบี่ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้หรือไม่?” ต่อให้เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งมากกว่าก็อดที่จะรู้สึกหวาดกลัวในใจไม่ได้ เมื่อมองเป็นสภาพของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนในเวลานี้

ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนในเวลานี้เรียกได้ว่าปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้าโดยแท้ ผู้คนจำนวนมากที่จ้องมองตากันและกันทีหนึ่ง ถ้าหากจะกล่าวว่าในแดนลัทธิราชันยังจะมีใครที่สามารถต้านราชันแท้จริงมู่เจี้ยนที่อยู่ในสภาพเช่นนี้ได้ล่ะก็ ทุกคนสามารถนึกถึงได้ก็คือนักพรตไป๋ยื่อที่สำเร็จเป็นชั้นคงความเป็นอมตะตลอดกาลเพียงคนเดียวเท่านั้น

“ราชันแท้จริงย่อมเป็นราชันแท้จริง พลังแฝงไร้ขีดจำกัด” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะทอดถอนใจขึ้นมา กระทั่งเรียกได้ว่าอิจฉา

อาจกล่าวได้ว่า ในบรรดาพวกของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนทั้งสี่คน มีราชันแท้จริงมู่เจี้ยนที่อายุน้อยที่สุด กระทั่งหากพูดถึงเรื่องทักษะยุทธแล้ว ในบรรดาพวกเขาทั้งสี่อาจมีความเป็นไปได้ที่ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนคือผู้ที่อ่อนที่สุด

แต่ทว่า เวลานี้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนกลับกลายเป็นกำลังหลักที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพวกเขาทั้งสี่คน พวกของลู่เคอะเวิงทำได้แค่ทำหน้าที่ให้การช่วยเหลือกับราชันแท้จริงมู่เจี้ยน ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถไปต่อกรกับคนโหดอันดับหนึ่งได้โดยตรงเพียงลำพังคนเดียว

นี่แหละคือความได้เปรียบของราชันแท้จริง ในฐานะที่เป็นราชันแท้จริง ความได้เปรียบที่เขาครอบครองอยู่นั้น ห่างชั้นมากหาใช่เทพแท้จริงขั้นอมตะสามารถเทียบเคียงได้ แม้ว่ากำลังความสามารถของเทพแท้จริงขั้นอมตะจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าราชันแท้จริง แต่ พลังแฝงของราชันแท้จริงขั้นอมตะห่างชั้นมากเทียบไม่ได้กับราชันแท้จริง

ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น เวลานี้กระบี่มู่หวินที่อยู่ใรมือของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนชี้ไปที่หลี่ชิเย่ กระบี่ในมือยังไม่ทันลงมือ เพียงแค่ชี้ไปจากระยะห่างไกล ทุกคนต่างรู้สึกสั่นเทาทีหนึ่ง เย็นวาบไปถึงจิตวิญญาณ บังเกิดความรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อขึ้นมา

“วันนี้ ไม่ใช่เจ้าตายก็คือข้าม้วย!” เวลานี้คำพูดของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนหนักแน่นมีพลัง นัยน์ตาเผยให้เห็นความจริง เหมือนพิพากษาความเป็นความตายของหลี่ชิเย่เอาไว้แล้ว

“มีแต่เจ้าตาย” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขายังคงดูเอ้อระเหย แม้จะต้องเผชิญกับสภาพเช่นนี้ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน ยังคงไม่มีทีท่าอะไรที่ว่า

“ฆ่า…” ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนไม่พูดมากความอีกต่อไป ดวงตาทั้งสองดูน่ากลัว ฉับพลันปณิธานการฆ่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

จังหวะที่ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนมีปณิธานการฆ่าที่เพิ่มสูงขึ้น ฟ้าดินล้วนแล้วแต่มืดครื้มลงทันที ภายใต้ปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวของเขา ทั่วทั้งโลกต่างได้ยินเสียงที่เกิดจากการสั่นไหว เหมือนว่าโลกทั้งโลกได้พังทลายลงภายใต้ปณิธานฆ่าที่น่ากลัวของเขาไปแล้ว

“ช่างน่าสยองขวัญเหลือเกิน…” ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่เหงื่อเย็นไหลโทรมกายทั้งตัว ตกใจกลัวจนเข่าอ่อนทั้งสองข้าง เมื่อรู้สึกได้ถึงปณิธานการฆ่าที่เสมือนดั่งคลื่นที่โหมสาดซัดอย่างนั้นของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน

ตึง…กระบี่มู่หวินสำแดงออกมา พริบตาเดียวนั่นเอง หนึ่งกระบี่ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนฟาดฟันออกไป หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันไปนั้นไม่ได้มีความลึกซึ้งอะไรนัก ภายใต้หนึ่งกระบี่มีเพียงการสังหารที่เด็ดขาด!

หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมาฟ้าดินล้วนถูกทำลาย เหล่าเทพล้วนถูกสังหาร นาทีนี้ทุกคนต่างมองออกได้ว่า หนึ่งกระบี่สามารถสังหารสิ้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกชาติ ไม่ว่าจะเป็นราชันแท้จริงหรือเหล่าเทพทั้งหลาย ภายใต้หนึ่งกระบี่นี้มีเพียงเลือดสาดในทันทีและเสียชีวิต มีเพียงความตายสถานเดียว!

หนึ่งกระบี่สังหารเด็ดขาด ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านกระบวนท่า ไม่มีความพิสดารทุกอย่าง หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมีเพียงผลหนึ่งเดียวเท่านั้นคือ ความตาย!

ภายในใจของทุกคนมีความรู้สึกเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นก็คือสิ้นหวัง ขณะที่หนึ่งกระบี่นี้ได้ฟาดฟันลงมา

ทุกคนต่างมองเห็นว่าหนึ่งกระบี่นี้เป็นการฟันใส่หลี่ชิเย่โดยแท้ แต่ทว่า ทุกคนต่างรู้สึกว่ากระบี่นี้ได้ฟันใส่ตัวของตนเอง และขณะที่หนึ่งกระบี่นี้ฟาดฟันลงมานั้น ทุกคนต่างรู้สึกว่าอย่าว่าแต่ขัดขืนเลย แม้แต่ความกล้าที่จะดิ้นรนก็ยังไม่มี

ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่หนึ่งกระบี่นี้ฟาดฟันลงมานั้น ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกว่าตนเองนั้นได้แต่ยืดคอรอถูกเชือดเหมือนเป็นนักโทษที่ถูกตัดสินโทษแล้ว รอการบั่นคอของตนออกมาจากหนึ่งกระบี่นี้

ภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ ทุกคนต่างรู้สึกว่าตนเองนั้นมีเพียงตายสถานเดียวเท่านั้น นอกเหนือจากการถูกประหารด้วยกระบี่นี้แล้วไม่มีทางเลือกทางอื่นอีก

ดังนั้น หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมาทั้งที่ไม่ได้ฟันใส่พวกเขา แต่ว่า ทุกคนต่างรู้สึกสะท้านไปทั้งจิตและวิญญาณ ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง กระบี่นี้ได้คงไว้ซึ่งเงาทมิฬภายในใจของยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ไม่สามารถลบเลือนให้จางหายไป ไม่ว่าใครก็ตามล้วนแล้วแต่รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงในใจ

“ไป…” หลี่ชิเย่กวักมือตามอารมณ์ไปทีหนึ่งขณะเผชิญกับหนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันเข้ามา ตูม ตูม ตูมฟ้าดินสั่นไหวโคลงเคลง ดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนบนท้องฟ้าได้ยิงถล่มลงมา

ท่ามกลางเสียงตูม ตูม ตูมที่ดังตูมตามขึ้นเป็นระลอก ดวงดาวนับพันล้านดวงทั้งหมดล้วนแล้วแต่พุ่งชนโจมตีเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบทำลายฟ้าดิน เสมือนจะพุ่งชนฟ้าดินจนพังพินาศย่อยยับอย่างนั้น

แต่ว่า ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเหมือนมองไม่เห็นอย่างนั้นเมื่อต้องเผชิญกับดวงดาวนับพันล้านดวงที่พุ่งชนเข้ามา ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น ยังคงกระบี่คำรามไม่หยุด ยังคงหนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันเข้าใส่หลี่ชิเย่

ในพริบตาเดียวนั่นเอง สายตาของเขามีเพียงสังหารหลี่ชิเย่ให้ได้เท่านั้น เป็นความยึดติดเพียงหนึ่งเดียวของเขาเท่านั้น อีกทั้งความยึดติดลักษณะเช่นนี้ทะลุผ่านทุกสิ่งทุกอย่าง รวดเร็วจนไม่มีสิ่งใดต้านเอาไว้ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางอยู่หน้าความยึดติดเช่นนี้ล้วนถูกแทงทะลุทั้งสิ้น

ปีง ปัง ปังเสียงแตกละเอียดดังขึ้นมาไม่ขาดสาย ในเวลานี้เอง ทุกคนต่างมองเห็นภาพที่อลังการอย่างยิ่ง มองเห็นภาพของดวงดาวนับพันล้านดวงขณะพุ่งชนเข้าไปบนตัวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนนั้น ดวงดาวแต่ละดวงพุ่งชนจนแตกละเอียด

สมควรทราบว่า ดวงดาวทุกๆ ดวงที่พุ่งชนลงมาจากบนท้องฟ้านั้น มีอานุภาพที่สามารถทำลายฟ้าดินจนพังพินาศย่อยยับได้ ดวงดาวดวงใดดวงหนึ่งล้วนแล้วแต่สามารถพุ่งชนพื้นพสุธาจนทะลุได้ เรียกได้ว่า ดวงดาวทุกดวงที่พุ่งชนโจมตีลงมานั้นสามารถทำลายแคว้นๆ หนึ่งจนพังพินาศย่อยยับ ทำลายสำนักเจ้าลัทธิสักแห่งจนพินาศย่อยยับได้อย่างง่ายดาย

ดวงดาวนับพันล้านดวงที่โจมตีพุ่งชนลงมานั้น สามารถยิงทะลุระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นทั้งหมดได้ในพริบตาเดียว แต่ว่า เรื่องที่น่ากลัวได้เกิดขึ้นแล้ว

ขณะที่ดวงดาวนับพันล้านดวงโจมตีพุ่งชนลงบนตัวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนนั้น ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนตั้งตระหง่านไม่หวั่นไหว ดวงดาวทั้งหมดที่พุ่งชนลงมาล้วนแล้วแต่ถูกวงแหวนศักดิ์สิทธิ์สามวงข้างตัวของเขาขวางเอาไว้

วงแหวนสามวงที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ที่ขวางอยู่นอกกายของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็คือแนวป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดไม่สามารถทำลายได้ เมื่อดวงดาวนับพันล้านดวงพุ่งชนเข้าหาตัวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนล้วนถูกวงแหวนศักดิ์สิทธิ์สามวงนี้ขวางเอาไว้ และดวงดาวพันล้านดวงที่พุ่งชนใส่วงแหวนศักดิ์สิทธิ์ก็คล้ายพุ่งชนเข้าใส่กำแพงศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่างนั้น ทำให้ดวงดาวพันล้านดวงต้องทยอยแตกละเอียด

ท่ามกลางเสียงแตกละเอียดที่ดังปัง ปัง ปังนั้น มองเห็นดวงดาวนับพันล้านดวงเสมือนดั่งระเบิดขึ้นโดยพลัน รู้สึกเหมือนหายวับไปกับตาในชั่วพริบตาเดียว

แต่ว่า ขณะที่ดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนเกิดระเบิดขึ้นมานั้น ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนยังคงไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย ยังคงยืนตระหง่านอยู่ตรงนั้น

ตึง…กระบี่ศักดิ์สิทธิ์คำรามเสียงยาว ยังคงเป็นหนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันเข้าหาหลี่ชิเย่ หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันเข้าไปนั้นปราศจากสิ่งใดสามารถต้านเอาไว้ได้ เหมือนว่าหนึ่งกระบี่นี้สามารถตัดเอาศีรษะของหลี่ชิเย่ออกมาได้

“ไป…” หลี่ชิเย่กวักมือออกไปตามอารมณ์ ขณะเผชิญกับหนึ่งกระบี่ที่กำลังจะฟันถูกศีรษะของตน กวาดล้างสิ้นลมและเมฆทั่วหล้า ภายใต้การกวักมือของเขาไปตามอารมณ์ ได้ยินเสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา ฟ้าร้องฟ้าแลบนับไม่ถ้วนได้ฟาดลงมา

ตูม ตูม ตูมภายใต้สายฟ้าแลบและฟ้าร้องที่ไม่มีสิ้นสุด หลี่ชิเย่พลันเหมือนถูกสายฟ้าแลบและฟ้าร้องท่วมปกคลุมจนจมมิด ภายใต้สายฟ้าแลบและฟ้าร้องที่ไม่มีสิ้นสุดนี้ หลี่ชิเย่เสมือนหนึ่งได้กลายเป็นบุตรของสายฟ้า เทพอัสนีสูงสุด

ในพริบตาเดียวนี้เอง หลี่ชิเย่เพียงกวักมือไปตามอารมณ์ เท่านั้น เสียงตูมดังสนั่น สายฟ้าแลบและฟ้าร้องทั้งหมดล้วนแล้วแต่พุ่งเข้าหาราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเสมือนดั่งน้ำหลาก พุ่งโจมตีใส่กระบี่มู่หวินที่ฟาดฟันเข้ามา

เสียงตูม ตูม ตูมดังตูมตามเขย่าฟ้าดิน เห็นเพียงสายฟ้าแลบที่ดั่งคลื่นยักษ์สูงเทียมฟ้า ลูกแล้วลูกเล่าที่ซัดขึ้นไปบนท้องฟ้า พร้อมจะท่วมทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก

หลี่ชิเย่แค่กวักมือไปตามอารมณ์เท่านั้น สายฟ้าแลบและฟ้าร้องที่ดั่งน้ำหลากจากแม่น้ำสวรรค์ และคล้ายเป็นน้ำหลากในยุคดึกดำบรรพ์อย่างนั้น พลันสามารถท่วมฟ้าดินจนจมมิดได้ทันที

นาทีนี้ สายฟ้าแลบและฟ้าร้องที่ดั่งน้ำหลากส่งเสียงคำรามพุ่งเข้าหาราชันแท้จริงมู่เจี้ยน เสมือนดั่งเป็นมังกรสิบล้านตัวที่พุ่งตัวออกมาจากรังโดยพลันอย่างนั้น ขณะที่สายฟ้าแลบและฟ้าร้องคำรามและพุ่งโจมตีออกมานั้น ฟ้าดินล้วนแล้วแต่สั่นไหวโคลงเคลงและสั่นเทา ทุกคนต่างรู้สึกว่าทั่วโลกคล้ายดั่งเรือน้อยที่อยู่ท่ามกลางคลื่นยักษ์ที่โหมสาดซัด ภายใต้พลังที่น่ากลัวเช่นนี้

ตึง…กระบี่ศักดิ์สิทธิ์คำรามเสียงยาว หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมา ทะลวงลุยเข้าไปอย่างรวดเร็วปราศจากสิ่งใดต้านทานเอาไว้ได้ หนึ่งกระบี่ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนยังคงฟาดฟันลงไป พลันฟันทะลวงเข้าไปในสายฟ้าแลบและฟ้าร้องที่ดั่งน้ำหลาก

ท่ามกลางเสียงกระบี่คำรามดังตึงนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถูกฟันจนขาด ทุกคนต่างมองเห็นกระบี่มู่หวินที่บุกทะลวงเข้าไปอย่างง่ายดาย พลันจัดการฟันสายฟ้าแลบและฟ้าร้องที่ดั่งน้ำหลากจนขาดในทันที

ในเวลานี้ ทั่วทั้งร่างของหลี่ชิเย่ถูกล้อมรอบด้วยสายฟ้าแลบและฟ้าร้อง ตัวเขาเสมือนหนึ่งเป็นบุตรสายฟ้า และเทพอัสนี ตัวเขาเสมือนหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรของสายฟ้าแลบและฟ้าร้อง

แต่ทว่า ขณะที่หนึ่งกระบี่ฟาดฟันลงมานั้น ปรากฏเสียงปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น ทุกคนต่างมองเห็นว่าหนึ่งกระบี่ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนไม่เพียงแต่ฟันสายฟ้าแลบและฟ้าร้องที่ดั่งน้ำหลากจนขาด ไม่เพียงหนึ่งกระบี่ที่ฟันมหาสมุทรฟ้าร้องจนขาดเท่านั้น เหมือนว่าภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ได้ผ่าร่างหลี่ชิเย่เป็นสองซีก

ได้ยินเสียงปุดังขึ้นเสียงหนึ่ง เหมือนว่าชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง โลกทั้งโลกถูกฟาดฟันทำลายอย่างนั้น ทุกคนต่างมองเห็นหนึ่งกระบี่ที่ฟันหลี่ชิเย่ออกเป็นสองซีก โลกทั้งโลกพลันหายวับไปกับตาในชั่วพริบตาเดียวอย่างนั้น เหมือนว่าเลือดสดๆ ของหลี่ชิเย่ที่แตกกระจาย และโลกทั้งโลกก็พลันดับสลายไป

ชั่วพริบตาเดียวนี้เอง ทุกคนต่างบังเกิดเป็นมโนภาพขึ้นมา รู้สึกเหมือนร่างกายของตนเองก็พลันถูกผ่าออกเป็นสองซีกจนเลือดสาดกระจายตามไปด้วย ขณะที่หนึ่งกระบี่นี้ได้ผ่าหลี่ชิเย่ออกเป็นสองซีก

………………………………………

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *