Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2651 หนึ่งกระบี่ไร้ผล

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2651 หนึ่งกระบี่ไร้ผล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2651 หนึ่งกระบี่ไร้ผล

หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมา ทุกอย่างล้วนแล้วแต่หายวับไปกับตาในพริบตา เหมือนว่าโลกนี้ไม่มีสิ่งใดสามารถต้านหนึ่งกระบี่ที่สุดยอดในหล้าที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองนี้ได้ ภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ ผู้ดำรงอยู่ในฐานะใด ปราศจากผู้ต่อกรใดๆ ล้วนแล้วแต่ถูกสังหารสิ้น

หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมา สามารถเช่นฆ่าเทพ ประหารราชันได้ หนึ่งกระบี่นี้ได้ก้าวถึงระดับที่ไม่มีสิ่งใดสามารถต้านขวางเอาไว้ได้อีกแล้ว

เมื่อหนึ่งกระบี่นี้ได้ฟันทะเลอสนีบาตรจนขาดและฟันใส่ร่างของหลี่ชิเย่นั้น ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดต่างรู้สึกว่าหนึ่งกระบี่นี้เป็นการฟาดฟันใส่ตัวของพวกเขาเอง และขณะที่หนึ่งกระบี่ดังกล่าวฟาดดันเข้ามานั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกว่าร่างกายตนเองนั้นถูกหนึ่งกระบี่นี้ผ่าครึ่งออกเป็นสองซีก

หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมานั้น เลือดสดๆ แตกกระจาย ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนเสมือนหนึ่งมองเห็นร่างกายของตนถูกผ่าแบ่งครึ่งออกเป็นสองซึก เลือดสดๆ พุ่งกระจาย เลือดเนื้อแยกจากัน ท่ามกลางขั้นตอนที่เกิดขึ้นนี้ทุกคนได้แต่นัยน์ตาทั้งสองเบิกกว้าง มองด้วยสายตาที่งงงันกับร่างกายของตนที่ถูกผ่าออกเป็นสองซีกนั่น

ตลอดขั้นตอนดังกล่าวนี้ ทุกคนทำได้แค่เบิกตามองดูร่างกายของตนที่หลังจากถูกผ่าออกแล้ว เลือดสดแตกกระจาย อวัยวะภายในกระจายเกลื่อนเต็มพื้นไปหมด

ตลอดขั้นตอนดังกล่าวนี้ ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกว่าตนเองนั้นกระดิกตัวไม่ได้เลย เรียกว่าไม่สามารถขัดขืนได้อยู่แล้ว กระทั่งขณะที่หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมานี้ แม้แต่ความกล้าในการที่จะขัดขืนยังไม่มี ได้แต่รอเวลาให้ตนเองถูกหนึ่งกระบี่นี้ผ่าออกเป็นสองซีกเท่านั้น

หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมา เสมือนหนึ่งฝุ่นผงที่ตกลงพื้นดิน ทะเลสายฟ้าถูกหนึ่งกระบี่นี้ผ่าออก สายฟ้าแลบที่คล้ายดั่งเป็นน้ำหลากที่พลุ่งพล่านก็ถูกฟันจนกลายเป็นสองท่อน ภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ดูเหมือนหลี่ชิเย่ก็ถูกฟันจนขาดสองท่อน ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่มองเห็นร่างกายของหลี่ชิเย่ที่ถูกผ่าออก เลือดสดๆ แตกกระจาย กระทั่งมีผู้ที่มองเห็นร่างกายที่ถูกฟันขาดสองท่อนของหลี่ชิเย่นั้นร่วงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้า

หลังจากที่หนึ่งกระบี่ได้ฟาดฟันลงมาแล้ว เมื่อชักกระบี่กลับคืนมา ทุกอย่างดูจะสิ้นสุดลงแล้ว ทุกอย่างได้เป็นที่แน่นอนแล้ว ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่หายไปอย่างไร้ร่องรอยภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ ทะเลฟ้าร้องก็ดี น้ำหลากสายฟ้าก็ช่าง กระทั่งตัวหลี่ชิเย่เองก็ไม่ได้คงอยู่อีกต่อไปแล้วภายใต้หนึ่งกระบี่นี้

หนึ่งกระบี่ทำการปิดฉาก จบสิ้นทุกอย่างในคราเดียว ในเวลานี้ฟ้าดินกลับกลายเป็นเงียบสงัดยิ่งนัก ทุกคนล้วนแล้วแต่ถูกสยบด้วยหนึ่งกระบี่ที่น่าสยองขวัญเช่นนี้ ไม่สามารถเรียกสติคืนกลับมาเป็นเวลานาน

หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ทุกคนจึงค่อยๆ ได้สติกลับคืนมา เมื่อทุกคนได้สติกลับมาแล้ว ต่างรู้สึกว่าตนเองนั้นมีเหงื่อเย็นที่ไหลโทรมกาย และต่างพบว่าเสื้อผ้าของตนถูกเหงื่อเย็นทำให้เปียกชุ่มไปแล้ว

กระทั่งมียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยหลังจากได้สติกลับมาแล้ว พบว่าร่างกายของตนนั้นเจ็บแปลบขึ้นมา เหมือนว่าเมื่อครู่นี้ร่างกายของพวกเขาได้ถูกผ่าออกเป็นสองซีกจริงๆ เหมือนว่าเมื่อครู่นี้พวกเขาได้ตายไปแล้วครั้งหนึ่ง ได้ตายอนาถภายใต้หนึ่งกระบี่ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนไปแล้ว

“น่ากลัวเหลือเกิน” ไม่ง่ายนักกว่ายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจะได้สติคืนกลับมา ถึงกับร่างสั่นเทาไปทีหนึ่ง ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรที่ถูกหนึ่งกระบี่ที่น่ากลัวเช่นนี้ทำให้ต้องตกใจกลัว พลันเข่าทั้งสองข้างอ่อนแรงขึ้นมา ทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นและรู้สึกชาไร้เรี่ยวแรงอยู่ตรงนั้น

ในเวลานี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่หวาดผวาจนหน้าถอดสี ใบหน้าขาวซีด ทุกคนต่างถูกหนึ่งกระบี่ที่น่ากลัวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนทำให้ขวัญหนีดีฝ่อ ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่แข็งแกร่งเพียงใด แม้แต่ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งยิ่งก็ต้องรู้สึกเหงื่อเย็นที่ไหลโทรมกายเช่นกัน เนื่องจากภายใต้หนึ่งกระบี่เช่นนี้ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน แม้แต่พวกเขาที่เป็นถึงระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะเช่นนี้ก็ได้แต่ยืดคอรอการถูกเชือดเท่านั้น ไม่สามารถที่จะต่อต้านขัดขืนกับหนึ่งกระบี่นี้ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้อยู่แล้ว

“ราชันแท้จริงย่อมเป็นราชันแท้จริง หากชั่วชีวิตสามารถบรรลุสัจธรรมกลายเป็นราชันได้ล่ะก็ อย่าได้พลาดโอกาสอย่างเด็ดขาด” มีเทพแท้จริงขั้นอมตะถึงกับทอดถอนใจออกมาด้วยความหดหู่ ภายในใจได้ผุดความคิดขึ้นมาร้อยแปดพันเก้า

หนึ่งกระบี่ปราศจากผู้ต่อกร แม้ว่าสิ่งนี้หาใช่เป็นพลังเพียงคนเดียวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน และไม่ได้เป็นเพียงผลงานของเขาเพียงคนเดียว ในนั้นยังมีคุณูปการจากพวกของลู่เคอะเวิง แต่ว่า ท่ามกลางหนึ่งกระบี่ที่ปราศจากผู้ต่อกร แม้พวกของลู่เคอะเวิงจะแข็งแกร่งมากไปกว่านี้ ท้ายสุดแล้วยังคงต้องอาศัยราชันแท้จริงมู่เจี้ยน หากไม่มีราชันแท้จริงมู่เจี้ยน พวกเขาก็ไม่สามารถสำแดงหนึ่งกระบี่ที่ปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้ออกมาได้

นี่แหละคือช่วงห่างระหว่างเทพแท้จริงขั้นอมตะกับราชันแท้จริง เทพแท้จริงขั้นอมตะได้แค่เป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะ จะไม่สามารถกลายเป็นราชันแท้จริงตลอดกาล และไม่สามารถกลายเป็นปฐมบรรพบุรุษได้ตลอดกาลเช่นกัน

“หลี่ชิเย่ตายไปแล้ว…” ไม่ง่ายนักกว่าจะได้สติกลับมากัน มีผู้ที่มองดูรอบๆ แล้วไม่เห็นเงาของหลี่ชิเย่ และไม่ได้มีน้ำหลากสายฟ้า ทุกอย่างล้วนแล้วแต่หายวับไปกับตาในพริบตาเดียว บนท้องฟ้าทีเพียงท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง

“เกรงว่าจะตายไปแล้ว…” ผู้คนจำนวนมากมองหาแล้วต่างก็ไม่พบตัวหลี่ชิเย่ จึงอดที่จะพูดออกมาว่า “ภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ ต่อให้คนโหดอันดับหนึ่งแข็งแกร่งมากว่านี้ก็ยังคงไม่สามารถต่อกรได้ ยังคงไม่สามารถเทียบเทียมได้ มีเพียงตายสถานเดียว”

นึกถึงภาพหนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมาเมื่อครู่ ทุกคนล้วนแล้วแต่เห็นกับตาตนเองว่าหลี่ชิเย่ถูกหนึ่งกระบี่ผ่าออกเป็นสองซีก ทุกคนต่างมองเห็นเลือดที่แตกกระจายเมื่อครู่ ต่างเข้าใจว่าหลี่ชิเย่ได้ถูกหนึ่งกระบี่ที่น่ากลัวนี้สังหารไปแล้ว

“การร่วมมือกันลักษณะเช่นนี้ ปราศจากผู้ต่อกรใต้หล้า แม้คนโหดอันดับหนึ่งจะแข็งแกร่งมากกว่านี้ก็ไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้ เกรงว่าทั่วทั้งแดนลัทธิราชันคงหาผู้ที่สามารถต้านรับกับหนึ่งกระบี่นี้ได้อีกแล้ว จะอย่างไรเสียก็มีสภาพของปฐมบรรพบุรุษแล้ว” ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสได้กล่าวทอดถอนใจขึ้นมา

มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มองหน้ากันและกันเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ นึกถึงหนึ่งกระบี่เมื่อครู่ที่น่าลัวแล้วต่างอดที่จะพยักหน้าไม่ได้ เห็นด้วยกับคำพูดเช่นนี้ หนึ่งกระบี่ขณะฟาดฟันลงมาของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนใช่เพียงปราศจากผู้เทียบเทียม มันคือสภาพของปฐมบรรพบุรุษไปแล้ว สภาพปฐมบรรพบุรุษนะเนี่ย ช่างเป็นสภาพที่น่ากลัวเหลือเกิน

หากจะกล่าวว่า ในโลกนี้ยังมีใครที่สามารถต้านรับกระบี่นี้ได้ล่ะก็ ทุกคนนึกถึงแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นก็คือนักพรตไป๋ยื่อ บางทีคงมีเพียงนักพรตไป๋ยื่อที่อยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลจึงสามารถต้านรับกับหนึ่งกระบี่ที่น่ากลัวนี้เอาไว้

“ในที่สุดคนโหดอันดับหนึ่งก็ได้ตายแล้ว…” ในที่สุด มีผู้ที่สูดลมหายใจยาวๆ ทีหนึ่งเมื่อมองเห็นทุกสิ่งหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ภายในใจของผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกสบายอกสบายใจ เมื่อเห็นคนโหดอันดับหนึ่งถูกสังหาร

แม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่ได้มีความแค้นอะไรกับหลี่ชิเย่ แต่ว่า นาทีนี้เมื่อพบว่าคนโหดอันดับหนึ่งถูกสังหารไปแล้วก็รู้สึกโล่งอกไปที เนื่องจากขอเพียงคนโหดอันดับหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ มันทำให้ผู้คนจำนวนมากรู้สึกหายใจไม่ออก คนโหดอันดับหนึ่งชั่วร้ายเหลือเกิน และน่าสยองขวัญมากเหลือเกิน ขอเพียงเขายังคงมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะบุคคลคนใด ผู้ปราศจากผู้ต่อกรคนใด ผู้อยู่ในระดับสูงสุดใดๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาแล้วก็เป็นเพียงตัวตลกเท่านั้น ภายใต้วงแหวนที่เจิดจรัสของเขา ไม่ว่าใครก็ดูจะสลดและอับแสง

ดังนั้น เมื่อเห็นว่าคนโหดอันดับหนึ่งตายแล้ว ผู้คนจำนวนไม่น้อยจึงรู้สึกว่าฟ้าดินได้กลับคืนสภาพของมันดังเดิมแล้ว และยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดไม่จำเป็นต้องรู้สึกสลดและอับแสงภายใต้วงแหวนของคนโหดอันดับหนึ่งอีกต่อไป

“ฮึนี่เป็นการรนหาที่ตายเอง” มียอดฝีมือบางคนที่รู้สึกไม่สบอารมณ์ในใจกับคนโหดอันดับหนึ่งเป็นพิเศษ ในเวลานี้ภายในใจของพวกเขาถึงกับแอบดีใจ ส่งเสี่ยงฮึเย็นชาขึ้นมา และกล่าวว่า “ต่อให้แข็งแกร่งมากไปกว่านี้ก็อย่าได้คิดว่าตนเองนั้นปราศจากผู้ต่อกรจริงๆ เหนือคนย่อมมีคน เหนือฟ้าย่อมมีฟ้า คนโหดอันดับหนึ่งอวดดีมากเกินไป หยิ่งยโสเกินไป เขาสมควรนึกถึงว่าตนเองจะต้องมีวันนี้!”

แน่นอนที่สุด ผู้คนจำนวนมากที่ไม่สบอารมณ์กับคนโหดอันดับหนึ่ง หาใช่เป็นเพราะระหว่างพวกเขากับคนโหดอันดับหนึ่งมีบุญคุณความแค้นอะไร ส่วนใหญ่เป็นเพราะความริษยา ขอเพียงคนโหดอันดับหนึ่งถูกสังหาร ภายในใจของพวกเขาก็จะรู้สึกสบายใจลึกๆ เป็นพิเศษ

ในขณะที่ผู้คนจำนวนมากต่างคิดว่าคนโหดอันดับหนึ่งถูกสังหารไปแล้วนั้น มือทั้งสองข้างของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนกำกระบี่เอาไว้ นัยน์ตาทั้งสองส่งประกายที่เจิดจ้าเสมือนดั่งเป็นตะเกียงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องสว่างทั่วฟ้าดิน ภายใต้ประกายตาของเขาเหมือนว่าไม่ว่าสิ่งใดก็ตามล้วนแล้วแต่ไม่สามารถรอดจากสายตาของเขาไปได้

“จบสิ้นกันแล้วกระมัง” เวลานี้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้เอ่ยขึ้นช้าๆ ขึ้นมา แต่ว่า ขณะที่เขาพูดคำๆ นี้ออกมานั้นดูจะไม่มั่นใจสักเท่าไร

อาศัยกำลังความสามารถที่เป็นราชันแท้จริงของเขา ขณะที่หนึ่งกระบี่ของเขาฟาดฟันลงมานั้น เขามั่นใจอย่างยิ่งว่า หนึ่งกระบี่นี้ของเขาฟันถูกตัวของหลี่ชิเย่แน่นอน อย่างน้อยที่สุดเขาสามารถมั่นใจได้ว่า จังหวะที่หนึ่งกระบี่ของเขาฟาดฟันลงมานั้น ได้ฟันถูกศีรษะของหลี่ชิเย่แล้ว ข้อนี้เขาสามารถมั่นใจได้เต็มร้อย

ตามหลักแล้ว หนึ่งกระบี่ที่ปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้และได้ฟันเข้าให้ที่ศีรษะของหลี่ชิเย่แล้ว ควรจะไม่มีสิ่งใดสามารถขวางกระบี่นี้ได้ และไม่มีใครสามารถหลบหนีไปจากหนึ่งกระบี่นี้ได้ จะต้องถูกสังหารภายใต้หนึ่งกระบี่เช่นนี้อย่างแน่นอน

แต่ทว่า เรื่องแบบนี้เมื่อเกิดขึ้นกับคนโหดอันดับหนึ่งแล้ว แม้แต่ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนที่อยู่ในฐานะของราชันแท้จริง แม้แต่พวกของลู่เคอะเวิงที่ให้การสนับสนุนราชันแท้จริงมู่เจี้ยน ในเวลานี้ก็ไม่มั่นใจเป็นพิเศษ ภายในใจยังคงไม่มีความมั่นใจ

แม้ลางสังหรณ์บอกเขาว่า หนึ่งกระบี่ที่ปราศจากผู้เทียบเทียมได้สังหารคนโหดอันดับหนึ่งไปแล้วจริงๆ แต่ว่า เวลานี้เขากลับไม่มั่นใจว่าได้สังหารคนโหดอันดับหนึ่งไปแล้วจริงหรือไม่ ภายในใจของเขายังคงไม่มีความมั่นใจเพียงพอ

“ถูกต้อง ควรจบสิ้นได้แล้ว” ขณะที่คำพูดที่ไม่ค่อยจะมั่นใจของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนพูดขาดคำ เสียงที่เอ้อระเหยเรียบเฉยได้ดังขึ้น

ขณะที่เสียงนี้ดังขึ้นมา ทุกคนต่างมองไปตามเสียง มองเห็นเพียงคนโหดอันดับหนึ่งหลี่ชิเย่ยังคงยืนอยู่ที่ตรงนั้น เหมือนว่าเขายืนอยู่ที่ตรงนั้นตลอด เขาไม่เคยขยับตัวเลยสักนิด

หลี่ชิเย่ยืนอยู่ที่ตรงนั้นโดยตลอด เพียงแต่พริบตาเดียวเมื่อครู่เหมือนว่าเขาจะหายตัวไปอย่างนั้น โดยระเหยไปจากจุดนั้นโดยตรง มีไม่กี่คนเท่านั้นที่มองออกถึงความลึกซึ้งที่อยู่ข้างใน

“เป็นความไวที่รวดเร็วเหลือเกิน” ในเวลานี้ เสียงแก่หง่อมที่อยู่ด้านหลังราชันแท้จริงต้วนยวี่ได้ทอดถอนใจออกมาเบาๆ คำหนึ่ง

มีเพียงผู้ที่ดำรงอยู่ในสถานะเช่นนี้ที่มองออกถึงความลึกซึ้งที่อยู่ภายใน หลี่ชิเย่ยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆ เพียงแต่ความไวของเขานั้นรวดเร็วมาก ทุกคนมองไม่เห็นเท่านั้นเอง

“เจ้า…” สีหน้าของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเปลี่ยนไป ถึงกับถอยหลังไปหนึ่งก้าว เมื่อเห็นว่าหลี่ชิเย่ยังคงยืนอยู่ที่ตรงนั้น

“ไม่ได้บรรลุเป็นปฐมบรรพบุรุษ ไม่ก้าวถึงระดับคงความเป็นอมตะตลอดกาล จะอย่างไรเสียก็เป็นแค่มดปลวก” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย และกล่าวว่า “ข้าแค่ก้าวเท้าออกไปก้าวหนึ่งเท่านั้นเอง ยังคิดว่าหนึ่งกระบี่ของเจ้าจะตามสังหารมาถึง นึกไม่ถึงว่ากลับยังคงหยุดอยู่ที่ปัจจุบันเท่านั้นเอง”

คำพูดของหลี่ชิเย่พลันทำให้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนมีสีหน้าที่ขาวซีด การก้าวข้ามกาลเวลา นี่คือการก้าวข้ามกาลเวลาที่แท้จริง นี่คือการก้าวข้ามกาลเวลาที่กำลังเคลื่อนที่จากสภาพความเป็นจริงอย่างแท้จริง อาจเป็นไปได้ว่าก้าวข้ามอนาคต และอาจเป็นไปได้เป็นการก้าวข้ามอดีต การก้าวข้ามชนิดนี้หาใช่เป็นประเภทเลียนแบบการคำนวณแบ่งแยกเทพแท้จริงขั้นอมตะสามารถเทียบเคียงได้อยู่แล้ว

หลี่ชิเย่ก้าวเท้าออกไปก้าวเดียวก็ก้าวออกจากปัจจุบัน ส่วนก้าวนี้ของเขาจะเป็นการก้าวไปสู่อนาคต หรือว่าก้าวไปในอดีตนั้น ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนไม่อาจรู้ได้

เขาแค่เพียงมีสภาพของปฐมบรรพบุรุษเท่านั้นเอง หาใช่เป็นปฐมบรรพบุรุษที่แท้จริง หนึ่งกระบี่ของเขาที่ฟาดฟันลงมานั้น ไม่สามารถไล่ตามและฟันใส่หลี่ชิเย่ ไม่ได้หนึ่งกระบี่ที่ก้าวข้ามกาลเวลาเช่นกัน

ดังนั้น แม้ว้าหนึ่งกระบี่ที่เขาได้ฟันถูกศีรษะของหลี่ชิเย่ชัดๆ ก็ไม่มีประโยชน์ เนื่องจากหลี่ชิเย่ไม่ได้อยู่ในปัจจุบันแล้ว เขาอาจจะอยู่ในอดีต และอาจอยู่ที่อนาคตก็เป็นได้

การยืนอยู่กับปัจจุบัน ฟันเข้าไปในอดีตไม่ได้ และฟันเข้าไปที่อนาคตก็ไม่ได้ เว้นแต่หนึ่งกระบี่นี้จะติดตามก้าวข้ามอนาคตหรืออดีตเช่นเดียวกัน

……………………………………………

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *