Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2703 ส่องความลับสวรรค์

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2703 ส่องความลับสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2703 ส่องความลับสวรรค์

แอบส่องความลับสวรรค์…สีหน้าของราชันแท้จริงจิ่วหนิงพลันเปลี่ยนไป เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ นางที่อยู่ในฐานะราชันแท้จริงย่อมเข้าใจได้ว่าความลับสวรรค์ใช่ว่าใครก็สามารถไปแอบดูได้อยู่แล้ว ต่อให้แข็งแกร่งเช่นนางก็เป็นไปได้ที่จะไปแอบส่องความลับสวรรค์ง่ายดายเช่นนั้น

“นี่หาใช่เป็นการแอบส่องความลับสวรรค์ธรรมดาทั่วไป” สีหน้าของหลี่ชิเย่ดูหนักแน่นจริงจัง เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “นี่เป็นการแอบดูอนาคตของโลก เป็นการแอบดูชะตาอนาคตนับล้านปี ซึ่งไม่เป็นที่อนุญาตของฟ้าดิน”

“แอบดูอนาคตของโลก แอบดูชะตาอนาคตนับล้านปี” ราชันแท้จริงจิ่วหนิงถึงกับใจหายใจคว่ำ นางรู้ว่าสิ่งนี้บ่งบอกถึงอะไร

คนๆ หนึ่งหากสามารถแอบดูอนาคตของโลกได้ แอบดูชะตาชีวิตนับล้านปีได้ ย่อมเป็นการบ่งบอกว่าสามารถล่วงรู้ตั้งแต่ยังไม่ทันเสี่ยงทาย เขาสามารถรู้ว่าอนาคตจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ก็สามารถล้อมคอกก่อนวัวหาย กระทั่งฝืนลิขิตเปลี่ยนชะตา สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ให้ดีขึ้นอย่างสุดความสามารถได้

ถ้าหากปล่อยให้คนผู้หนึ่งสามารถแอบดูความลับสวรรค์ได้ กระทั่งสามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องราวมากมาย สามารถเปลี่ยนโลกๆ หนึ่งได้ สามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนได้

สิ่งนี้กระทั่งเป็นการเปลี่ยนแปลงอนาคต เปลี่ยนแปลงแดนสามเซียนทั้งหมด กล่าวได้ว่าเป็นสิ่งที่ฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่ง เป็นเรื่องที่น่ากลัวมากเหลือเกิน

กล่าวได้ว่า เมื่อใดที่ถูกคนผู้หนึ่งแอบส่องความลับสวรรค์ไปได้ จะส่งผลต่อเรื่องราวในอนาคต เรื่องราวที่จะถูกเปลี่ยนแปลงนับว่ามีมากมายเหลือเกิน เรื่องเช่นนี้เป็นสิ่งที่ฟ้าดินไม่อนุญาตอยู่แล้ว

ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อไรที่มีผู้แอบส่องความลับสวรรค์ไปได้ จะต้องนำมาซึ่งวิบากสวรรค์ที่น่ากลัวยิ่ง วิบากสวรรค์ที่เห็นอยู่ตรงหน้าก็น่ากลัวจนสุดจะจินตนาการได้

สมควรทราบว่า แดนสามเซียนนั้นแตกต่างจากเก้าแดน และหรือสิบสามทวีป ในแดนสามเซียนนั้น ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือกลายเป็นราชันแท้จริง หรือบรรลุมรรคผลกลายเป็นปฐมบรรพบุรุษ วิบากสวรรค์ที่จะเกิดขึ้นล้วนแล้วแต่มีน้อยมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยอดฝีมือกลายเป็นราชันแท้จริงนั้นน้อยครั้งนักที่จะปรากฏวิบากสวรรค์ ลำดับขั้นตอนกลายเป็นราชันแท้จริงแล้วปรากฎวิบากสวรรค์นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นประเภทพิเศษมากๆ และหรือผู้ดำรงอยู่ในฐานะที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งมาก

ขณะที่ในความเป็นจริงนั้น ต่อให้เป็นการบรรลุมรรคผลกลายเป็นปฐมบรรพบุรุษก็น้อยครั้งนักที่เกิดวิบากสวรรค์ขึ้น หรือต่อให้ปรากฏเป็นวิบากสวรรค์ขึ้น มันก็เป็นเพียงวิบากสวรรค์ขนาดเล็กเท่านั้นเอง ปฐมบรรพบุรุษส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่สามารถแบกรับเอาไว้ได้ทั้งสิ้น

เฉกเช่นวิบากสวรรค์ที่เห็นอยู่ตรงหน้า ถือเป็นวิบากสวรรค์ที่พบเห็นได้ยากยิ่งในประวัติศาสตร์แดนสามเซียนอย่างแน่นอน กระทั่งมีความเป็นไปได้ว่า แดนสามเซียนไม่เคยปรากฏวิบากสวรรค์ที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน วิบากสวรรค์ที่อยู่ตรงหน้าได้ครอบคลุมไปทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนไปแล้ว กระทั่งคล้ายต้องการทำลายแดนลัทธิเซียนให้พังพินาศย่อยยับไปทั้งหมดอย่างนั้น

ประชาชนนับหนึ่งหมื่นล้านล้านล้านล้านถูกทำให้ตกใจจนตัวสั่นเทาไม่หยุด เมื่อมองเห็นวิบากสวรรค์ลักษณะเช่นนี้ปกคลุมอยู่บนท้องฟ้าของแดนลัทธิเซียน สิงสาราสัตว์และนกนานาชนิดนับไม่ถ้วนต่างทยอยกันหลบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในโพลง ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรก็ถูกทำให้ตกใจหน้าหน้าขาวซีด และเข้าหลบซ่อนตัวในที่ที่ปลอดภัย

ความจริงแล้ว ต่อให้เป็นราชันแท้จริงและปฐมบรรพบุรุษ ต่างก็ทยอยกันปิดบังซ่อนเร้นตัวเองเอาไว้เมื่อมองเห็นวิบากสวรรค์ที่น่ากลัวเช่นนี้ เพื่อป้องกันมิให้ล่อวิบากสวรรค์มาเข้าตัว

“เป็นใครกันนะที่กำลังแอบส่องความลับสวรรค์อยู่เล่า” ราชันแท้จริงจิ่วหนิงถึงกับรู้สึกใจหายใจคว่ำ ขณะมองดูวิบากสวรรค์ที่มีการรวมตัวอยู่บนท้องฟ้า เมื่อนางพูดคำๆ นี้ออกมาพลันนึกถึงคนผู้หนึ่งขึ้นมากะทันหัน เป็นปฐมบรรพบุรุษในตำนานคนหนึ่ง

“คงไม่ใช่ปฐมบรรพบุรุษผู้นี้กระมัง” สีหน้าของราชันแท้จริงจิ่วหนิงเปลี่ยนไปมากทีเดียว เนื่องจากน่างเคยได้ยินมาว่า ปฐมบรรพบุรุษผู้นี้สามารถคำนวณอนาคตได้ สามารถทำนายชะตาชีวิต มีฝีมือที่ฝืนลิขิตสวรรค์มาก เคยมีราชันแท้จริงกระทั่งปฐมบรรพบุรุษจำนวนมากไปขอให้เขาเสี่ยงทายทำนายมาก่อนในห้วงพันล้านปีที่ผ่านมา

ปฐมบรรพบุรุษผู้นี้คือปฐมบรรพบุรุษของแดนลัทธิเซียนจำนวนไม่มากที่ยังคงเหลืออยู่ และยังเป็นปฐมบรรพบุรุษที่ลึกลับมากตลอดมาของแดนลัทธิเซียน ผู้คนในยุคหลังมีอยู่น้อยคนนักที่สามารถเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเขากับตาตนเองแล้ว

“นี่ นี่เป็นไปได้รึ? ปฐมบรรพบุรุษผู้นี้เป็นผู้ที่รับรู้ถึงการผลที่จะตามมาของการแอบดูความลับสวรรค์อยู่แล้ว” ภายในใจของราชันแท้จริงจิ่วหนิงอดสั่นเทาขึ้นทีหนึ่งไม่ได้

เนื่องจากปฐมบรรพบุรุษผู้นี้สามารถทำนายได้ชนิดที่เรียกว่ามีเพียงหนึ่งไม่มีสอง สามารถทำนายอดีต ทำนายชะตาฟ้าดังนั้น จึงมีผู้คนจำนวนมากขอให้เขาช่วยทำนาย แต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นราชันแท้จริงก็ดี ปฐมบรรพบุรุษก็ช่าง โดยทั่วไปแล้วเขาก็จะปฏิเสธที่จะทำนายทายทัก เนื่องจากผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสามารถหยั่งรู้ชะตาฟ้าได้เช่นเขา ย่อมมีความเข้าใจอย่างยิ่งถึงผลที่จะตามมาภายหลังจากการเปิดเผยความลับสวรรค์

ด้วยเหตุนี้เอง ผู้ที่สามารถขอให้เขาช่วยทำนายได้อย่างแท้จริงในยุคหลัง เรียกได้ว่ามีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น

ท่ามกลางกาลเวลาที่ยาวนาน ไม่เคยได้ยินว่าเขาได้ลงมืออีกครั้งมานานมากๆ แล้ว กระทั่งมีข่าวลือว่า เขาได้ล้างมือปลีกตัวไม่ทำนายอีกต่อไปแล้ว

เวลานี้ถ้าหากเป็นความจริงที่ปฐมบรรพบุรุษผู้นี้ลงมืออีกครั้ง ทั้งยังสร้างความสะเทือนเลื่อนลั่นพลันที่มีการลงมือ ถึงกับแอบส่องชะตาสวรรค์ลิขิต แอบคำนวณสถานการณ์ล้านปีข้างหน้า มันช่างเป็นเรื่องที่สะเทือนฟ้าดินเช่นใด หากแม้นมีข้อผิดพลาดเพียงน้อยนิด ตัวเขาเองกระทั่งต้องตาย

ราชันแท้จริงจิ่วหนิงเองรู้สึกตระหนกยิ่งนักเมื่อนึกถึงว่า ผู้ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดในการแอบส่องความลับสวรรค์ก็คือปฐมบรรพบุรุษผู้นี้ และกล่าวว่า “เป็นเพราะสาเหตุอะไรกันแน่ สามารถทำให้ปฐมบรรพบุรุษถึงกับไม่เสียดายที่จะแลกด้วยค่าตอบแทนทุกอย่างไปเสี่ยงเต็มที่เล่า มีสิ่งใดคู่ควรให้เขาถึงกับเสี่ยงอันตรายมากถึงเพียงนี้ไปแอบส่องสถานการณ์เป็นล้านปีเล่า”

ตามหลักแล้วกล่าวสำหรับปฐมบรรพบุรุษปราศจากผู้ต่อกรผู้หนึ่ง กล่าวสำหรับปฐมบรรพบุรุษผู้หนึ่งที่สามารถทำนายและคำนวณตลอดกาลแล้ว เขาสมควรปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้แล้ว การที่เขาแอบส่องสถานการณ์เป็นล้านปีขึ้นมากะทันหัน เกรงว่าคงมีสาเหตุที่ลึกซึ้งกระมัง

“คนว่ายน้ำเป็นจมน้ำตาย” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “ยิ่งเป็นคนที่มีกำลังความสามารถในการแอบส่องชะตาฟ้าได้เท่าไร ก็ต้องยิ่งเกิดความรู้สึกตงิดในใจ ยิ่งต้องการรู้เรื่องของอนาคต มันคือสิ่งเย้ายวนใจอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเจ้าจะเข้มแข็งเพียงใดก็ตาม ก็ยากที่จะต้านความเย้ายวนเช่นนี้เอาไว้ได้”

“คนว่ายน้ำเป็นจมน้ำตาย” ภายในใจของราชันแท้จริงจิ่วหนิงรู้สึกเย็นวาบ เหตุผลข้อนี้นางเข้าใจ

“เมื่อเจ้ามีความสามารถที่จะแอบส่องชะตาฟ้าแล้ว ภายในใจของเจ้าก็จะคิดอยากรู้อยู่ตลอดเวลาว่าอนาคตจะเป็นเช่นใด ต่อให้เจ้าไม่ต้องการแอบดูอนาคตของตนเอง เจ้าก็ต้องอยากจะแอบดูอนาคตของผู้อื่น จากการที่กำลังนับวันยิ่งกล้าแข็งขึ้นเรื่อยๆ เจ้าก็ยิ่งอยากจะไปแอบดูสถานการณ์ในอนาคตอีกล้านปีข้างหน้า เรื่องเช่นนี้มันคือความเย้ายวนอย่างหนึ่งอยู่แล้ว มันถูกฝังรากลึกอยู่ในใจของเจ้า สักวันหนึ่ง ก็ต้องมีเรื่องๆ หนึ่งมาจุดชนวนให้ความอยากรู้อยากเห็นนี้ระเบิดขึ้นมา ทำให้เจ้าไม่สามารถต้านทานกับความเย้ายวนเช่นนี้ได้”

ราชันแท้จริงจิ่วหนิงถึงกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง นางเข้าใจถึงความน่ากลัวของความเย้ายวนเช่นนี้ เฉกเช่นราชันแท้จริงที่มีความแข็งแกร่งถึงระดับนี้ เมื่อได้เป็นปฐมบรรพบุรุษแล้ว ก็จะมีความคิดที่จะเดินทางไกล ซึ่งสิ่งนี้กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วไหนเลยจะไม่ใช่ความเย้ายวนอย่างหนึ่งเล่า

ตูม ตูม ตูมในเลานี้เอง เสียงดังตูมตามขึ้นมาไม่ขาดสาย เสียงตูมตามยิ่งดังมากเท่าไรก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้นเท่านั้น เสียงดังตูมตามที่ดังต่อเนื่องเสมือนหนึ่งต้องการระเบิดแดนลัทธิเซียนให้กระจุยอย่างนั้น

จากการที่เสียงประตูหนักอึ้งดังเอี๊ยดดด เอี๊ยดดด เอี๊ยดดดขึ้นมา เหมือนว่าบนท้องฟ้าของแดนลัทธิเซียนมีประตูที่ค่อยๆ ปิดตัวลง เมื่อประตูได้ปิดลงเรียบร้อยแล้ว ทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนเริ่มตกอยู่ท่ามกลางความมืด

นาทีนี้ ทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนเหมือนท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างนั้น แม้ว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนนับไม่ถ้วนจะพวยพุ่งประกายแสงขึ้นมา เพื่อส่องสว่างให้ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ แต่ว่า ในเวลานี้ท้องฟ้าของแดนลัทธิเซียนยังคงเหมือนถูกปิดตายไปแล้วอย่างนั้น

ในเลานี้ ทุกคนต่างรู้สึกว่าทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนคล้ายดั่งเป็นคุกขนาดยักษ์อย่างนั้น เมื่อไรที่ท้องฟ้ามืดมิดลงก็เหมือนประชาชนทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกขังเอาไว้ในคุกแบบนี้ ทำให้รู้สึกอึดอัดอย่างยิ่ง

ตูม ตูม ตูมเสียงยิงถล่มจากท้องฟ้าดังและดุดันมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งสายฟ้าที่ปูเต็มท้องฟ้าปรากฎกระแสไฟที่วิ่งผ่านรุนแรงมากขึ้นๆ เมื่อกระแสไฟทั้งหมดเสมือนดั่งน้ำหลากที่วิ่งพลุ่งพล่านเข้าปะทะนั้น ทำให้สายฟ้าแลบนับไม่ถ้วนส่องสว่างจนทั่วแดนลัทธิเซียนเหมือนหนึ่งเป็นกลางวันอย่างนั้น

เมื่อแดนลัทธิเซียนถูกฟ้าแลบส่องสว่างจนดุจดั่งกลางวันแล้วอย่างนั้น มันไม่เพียงไม่ได้ทำให้ประชาชนทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในแดนลัทธิเซียนรู้สึกสบายใจ กลับยิ่งทำให้รู้สึกอกสั่นขวัญแขวน

จากการที่สายฟ้าแลบมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เสียงฟ้าร้องก็ดังดุดันมากขึ้น ภายใต้เสียงฟ้าร้องและฟ้าแลบที่น่ากลัวเช่นนี้ เหมือนว่าสามารถถล่มแดนลัทธิเซียนจนแหลกละเอียดได้ทุกเมื่อ เหมือนว่าวันสิ้นโลกกำลังจะมาเยือนแล้ว แดนลัทธิเซียนจะต้องหายวับไปกับตาในชั่วพริบตาทั้งหมด

เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ…เสียงประจุไฟฟ้าที่แวบวับดังขึ้นเป็นระลอก เมื่อสายฟ้าทั้งหมดที่อยู่บนท้องฟ้าต่างวิ่งกันพล่าน เสมือนดั่งเป็นน้ำหลากที่โหมสาดซัดกวาดผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่า หลายแห่งในแดนลัทธิเซียนล้วนแล้วแต่ปรากฎประจุไฟฟ้าที่วิ่งขึ้นมา

ขณะที่ได้ยินเสียงกระแสไฟที่ดังเปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะขึ้นมานั้น ยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ ภูเขาขนาดยักษ์ พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างทยอยกันปรากฏประจุไฟฟ้าที่วิ่งออกมา กระทั่งมีประจุไฟฟ้าออกมาจากบนตัวของผู้คนจำนวนไม่น้อย เหมือนว่าทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนล้วนแล้วแต่เกิดการเหนี่ยวนำของกระแสไฟอย่างนั้น

ในเวลานี้เอง บนตัวของหลี่ชิเย่และราชันแท้จริงจิ่วหนิงก็มีประจุไฟที่วิ่งออกมา แรกทีเดียวยังไม่ได้ยินเสียงกระแสไฟที่ดังเปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ

แรกทีเดียวมันเป็นเพียงแสงไฟที่เล็กน้อยมากแวบผ่านไป กระทั่งผู้คนไม่ทันไปสังเกตมัน โดยที่ประกายไฟฟ้าเล็กน้อยเช่นนี้แวบผ่านไป เหมือนแวบผ่านไปจากปลายเส้นขนอย่างนั้น

แต่ว่า จากการที่สายฟ้าบนท้องฟ้าทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ประจุไฟบริเวณปลายเส้นขนก็มีพลังมากยิ่งขึ้น และเริ่มส่งเสียงฟ้าแลบดังเปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะขึ้นมา

ในขณะนี้ มองเห็นสายฟ้าแลบแต่ละสายที่แลบผ่านผิวหนังของหลี่ชิเย่และราชันแท้จริงจิ่วหนิง เหมือนว่าพวกเขาทั้งสองมีไฟฟ้าอยู่บนตัวมาแต่กำเนิดอย่างนั้น

จากการที่ฟ้าร้องฟ้าผ่าบนท้องฟ้าทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ประจุไฟฟ้าบนตัวของพวกเขาก็รุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

ราชันแท้จริงจิ่วหนิงยังดีหน่อย ขณะที่บนตัวของหลี่ชิเย่ปรากฎเสียงดังเปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะขึ้นมานั้น ประจุไฟฟ้าแต่ละสายได้กำเนิดขึ้นบนตัวของหลี่ชิเย่ และเริ่มกระจายตัวอกไป เมื่อประจุฟ้าฟ้าแต่ละสายเริ่มปรากฎขึ้นมาก็เริ่มกลับกลายเป็นมีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนว่าพวกเขาเจริญเติบโตขึ้นบนตัวของหลี่ชิเย่อย่างนั้น

“นี่เป็นวิบากสวรรค์ที่มีอาณาเขตขนาดใหญ่” หลี่ชิเย่มองดูการขยายตัวใหญ่ขึ้นช้าๆ ของประจุไฟฟ้าบนตัวแล้วกล่าวว่า “ยิ่งผู้ที่มีความแข็งแกร่งมากเท่าไร ก็จะนำมาซึ่งวิบากสวรรค์ที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น ถ้าหากไม่ทำการปิดบังซ่อนเร้นตนเอง จะนำมาซึ่งวิบากสวรรค์ปริมาณมากยิงถล่มลงมาโดยตรง” กล่าวพลาง มองขึ้นไปบนท้องฟ้า

ความจริงแล้ว ในขณะนี้ ไม่เพียงมีหลี่ชิเย่กับราชันแท้จริงจิ่วหนิงที่บนตัวปรากฎเป็นประจุไฟขึ้นมาเท่านั้น ความจริงก็คือ ในแดนลัทธิเซียนบนตัวของราชันแท้จริง กระทั่งปฐมบรรพบุรุษจำนวนไม่น้อยก็บังเกิดเป็นประจุไฟฟ้าขึ้นบนตัวเช่นกัน ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทำให้สีหน้าของปฐมบรรพบุรุษเปลี่ยนไป ต่างทยอยกันปิดบังซ่อนเร้นตนเองขึ้นมา

เมื่อทำการปิดบังซ่อนเร้นตัวเองก็เท่ากับเป็นการหลอกลวงสวรรค์ หรือปิดบังสวรรค์ เมื่อเป็นเช่นนี้ประจุไฟฟ้าก็จะจางหายไป

ราชันแท้จริงจิ่วหนิงก็สำแดงอภินิหารทันที วิวัฒนาการสัจธรรมปิดบังกลิ่นอายทั้งหมดของตนเอง กระทั่งอาศัยวิธีการที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรปิดบังสถานภาพทุกอย่างของตน เมื่อเป็นเช่นนี้ นางก็จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย

เมื่อนางทำการปิดบังซ่อนเร้นตนเองแล้ว เป็นไปตามนั้น ประจุไฟฟ้าบนตัวของนางก็ได้จางหายไป

……………………………………

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *