Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2704 ยันวิบากสวรรค์ไว้ดื้อๆ

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2704 ยันวิบากสวรรค์ไว้ดื้อๆ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2704 ยันวิบากสวรรค์ไว้ดื้อๆ

เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ…ในเวลานี้ ประจุไฟฟ้าที่อยู่บนตัวของหลี่ชิเย่มีกำลังแรงขึ้นเรื่อยๆ เกือบจะกลายเป็นกระแสไฟฟ้าที่วิ่งพล่านอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ไปแล้ว

ในเวลานี้เอง ราชันแท้จริงจิ่วหนิงถึงกับจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ และกล่าวว่า “แล้วพี่ท่านเล่า?”

“ไม่ ข้าไม่จำเป็น” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ข้ากลับต้องการดูว่าสิ่งที่คนผู้นี้แอบส่องเรื่องอะไร ขณะเดียวกัน ต่อให้ข้าปิดบังซ่อนเร้นตัวเองเอาไว้ก็ไม่แน่ว่าจะมีประโยชน์เสมอไป”

“พี่ท่านพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?” ราชันแท้จริงจิ่วหนิงถึงกับตะลึงนิดหนึ่ง

“เหมือนดั่งที่เจ้าพูดเอาไว้อย่างนั้น ข้าเป็นเพียงแขกเดินทางผ่านของโลกนี้ และเดินทางผ่านมาที่โลกนี้เท่านั้น สำหรับโลกนี้แล้วข้าไม่ใช่คนของที่นี่ หากจะมีวิบากสวรรค์ลงมาก็ต้องโดนเป็นอันดับแรกๆ อยู่แล้ว เนื่องจากข้าเป็นผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์วิบากสวรรค์มาแล้ว”

แววตาของราชันแท้จริงจิ่วหนิงเต้นกระตุกทีหนึ่งเมื่อได้ฟังมาถึงตรงนี้ จะอย่างไรเสีย ผู้ที่ผ่านประสบการณ์วิบากสวรรค์ในแดนลัทธิเซียนมีอยู่ไม่มาก กระทั่งเรียกได้ว่ามีไม่กี่คนเท่านั้น ที่ตรงนี้มักเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดวิบากสวรรค์อยู่เสมอๆ

“ยิ่งไปกว่านั้น” เมื่อหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้ได้เพ่งสายตามองไปข้างหน้า มองไปบนท้องฟ้า สายตาดูลึกล้ำยิ่งนัก กล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “ข้าแตกต่างจากพวกเจ้า ข้าเคยพบสวรรค์โจรมาก่อน เคยยิงถล่มสวรรค์โจรมาก่อน ถ้าหากเป็นวิบากสวรรค์ระดับสูง ข้าจะต้องพบกับวิบากสวรรค์ที่รุนแรงอย่างยิ่ง สิ่งนี้ก็เสมือนดั่งเป็นแม่เหล็กอย่างนั้น”

เมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกมา ยิ่งทำให้ภายในใจของราชันแท้จริงจิ่วหนิงหวั่นไหว คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจถึงความลึกซึ้งที่มากไปกว่านี้ แต่ นางสามารถฟังเข้าใจได้ ข่าวที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังนี้เรียกได้ว่าสะเทือนฟ้าดิน

จะอย่างไรเสีย ทอดสายตามองไปทั่วแดนสามเซียน มองไปยังอดีตเป็นต้นมา เกรงว่าเรื่องเช่นนี้จะไม่มีใครเคยทำมาก่อน ขณะที่หลี่ชิเย่ได้ทำมาถึงขั้นนี้แล้ว ช่างเป็นเรื่องที่สะเทือนจิตใจเหลือเกิน เป็นเรื่องที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียม

ในเวลานี้ หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย เงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ท่าทางเหมือนรำลึกถึงรสชาติในอดีต และกล่าวว่า “มาเถอะ ไม่ได้ลิ้มลองวิบากสวรรค์ที่ทำลายล้างโลกามานานมากแล้ว ลิ้มลองดูอีกสักครั้งก็ดี” เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว ถึงกับส่งเสียงจิ๊จ๊ะขึ้นมา

ราชันแท้จริงจิ่วหนิงถึงกับยิ้มเจื่อนๆ หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ถ้าจะต้องพบกับวิบากสวรรค์จริงๆ ล่ะก็ เรียกว่าสีหน้าเปลี่ยนไปพลันที่มีการเอ่ยถึง อย่างไรก็ตาม หลี่ชิเย่กลับมีความสบายอกสบายใจยิ่ง กระทั่งดูเหมือนกระหายยากอยู่บ้าง ช่างเป็นท่าทีที่ดุร้ายเช่นใด

ตึง ตึง ตึง…ในเวลานี้เอง บนท้องฟ้าถึงกับปรากฏเสียงการโจมตีขึ้นมาเป็นระลอกๆ เหมือนว่าเหนือฟ้าขึ้นไปคล้ายมีอะไรบางอย่างที่ใหญ่โตมโหฬารกำลังพุ่งชนท้องฟ้าของแดนลัทธิเซียนครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่

ท่ามกลางเสียงตึง ตึง ตึงที่ดังขึ้น คล้ายแดนลัทธิเซียนคือป้อมปราการที่มีการปิดประตูเมืองแล้วขณะที่เสียงตึง ตึง ตึงที่ดังขึ้นมานั้น เหมือนว่าโลกภายนอกมีศัตรูที่กล้าแข็งยิ่งกำลังบุกตีเมืองอยู่ และอาศัยท่อนไม้ขนาดใหญ่พุ่งชนกำแพงเมือง เหมือนต้องการชนประตูเมืองให้เปิดออก

“นี่มันอะไร” ราชันแท้จริงจิ่วหนิงถึงกับตกใจ เมื่อได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงดังสนั่นหวั่นไหวจนสะเทือนไปทั่วแดนลัทธิเซียน

“นี่แหละคือสถานที่ที่มีความสุขมากที่สุดของแดนสามเซียน เพราะอะไรพวกเจ้าจึงไม่มีวิบากสวรรค์ เพราะอะไรพวกเจ้าถึงยืนหยัดอยู่ได้ตลอดมา” หลี่ชิเย่มองดูท้องฟ้า และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “นั่นเป็นเพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถูกกันเอาไว้อยู่ด้านนอก โลกของพวกเจ้าเป็นโลกที่ปิด เวลานี้วิบากสวรรค์ระดับโลกจะลงมาก็ไม่ง่ายดายนัก”

ตึง ตึง ตึงเสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหวสั่นคลอนไปทั่วแดนลัทธิเซียน ท่ามกลางเสียงยิงโจมตีที่ดังขึ้นเป็นระลอกนี้ ทำเอาทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนสะเทือนสั่นไหวโคลงแคลงขึ้นมา เหมือนว่าบนท้องฟ้ามีพลังยิ่งใหญ่อะไรที่ยิงทะลุท้องฟ้า ต้องการยิงให้แดนลัทธิเซียนทะลุไปทั้งหมดในพริบตาเดียวอย่างนั้น

ตูม…เสียงดังสนั่นครั้งสุดท้ายเสมือนดั่งได้ระเบิดแดนลัทธิเซียนทั้งหมดไปอย่างนั้น ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นเหมือนว่ามีสายฟ้าที่ดังมากหนึ่งล้านล้านล้านสายฟาดใส่พร้อมๆ กัน ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างจนละเอียด ภายใต้เสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหวนี้ เหมือนว่าทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนถูกพลิกกลับขึ้นมาทั้งหมดอย่างนั้น ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ตกใจจนหมอบอยู่กับพื้น

ท้องฟ้าพลันสว่างไสวขึ้นมาในทันทีภายใต้เสียงตูมที่ดังสนั่นเสียงนี้ เหมือนว่าประตูที่รูดปิดท้องฟ้าเอาไว้พลันถูกยิงทำลายจนแตกละเอียดไปทันที ภาพเช่นนี้คล้ายประตูเมืองถูกตีแตกไปแล้วอย่างนั้น

ภายใต้เสียงตูมที่ดังสนั่น แดนลัทธิเซียนได้กลับคืนสู่เวลากลางวันอีกครั้ง แต่ว่า เรื่องที่น่ากลัวยิ่งกว่าได้ปรากฎขึ้นมาติดๆ ภายใต้เสียงตูมที่ดังสนั่นที่ได้ยินนั้น เห็นเพียงท้องฟ้าพลันปรากฏแสงสว่างที่เจิดจ้า ประกายสีทองที่ไม่มีสิ้นสุดพลันตลบอบอวลระหว่างฟ้าดิน พลันสาดส่องให้ทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนสว่างไสวดั่งกลางวัน ไม่ใช่สิ เป็นการสาดส่องทั่วแดนลัทธิเซียนกลายเป็นเสมือนดั่งโลกสีทองอย่างนั้น

“ดูนั่น วิบากสวรรค์มาแล้ว…” มีผู้ที่มองเห็นประกายสีทองบนท้องฟ้าแล้ว ถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมา

เมื่อทุกคนมองไป เห็นเพียงบนท้องฟ้าเสมือนดั่งเขื่อนแตกอย่างนั้น ฟ้าแลบสีทองที่ไม่มีสิ้นสุดพลันผ่าตรงลงมา เป็นภาพที่น่ากลัวและอลังการอย่างยิ่ง วิบากสวรรค์ฟ้าผ่าทั้งหมดคล้ายเป็นทะเลสีทองแห่งหนึ่ง และนาทีนี้ วิบากสวรรค์ฟ้าผ่าสีทองทั้งหมดของทะเลสีทองได้ผ่าลงมาตรงๆ เหมือนทะเลที่พลิกกลับและเทลงมาทั้งหมด ฟ้าแลบสีทองที่น่ากลัวพลันท่วมปกคลุมทั่วทั้งโลก

ตูม ตูม ตูม…พริบตาเดียวนั่นเอง ฟ้าแลบสีทองทั้งหมดคล้ายดั่งเป็นน้ำหลากที่ถูกเทราดลงมา ฟ้าแลบสีทองทุกๆ สายมีขาดเท่าๆ กับเทือกเขา ขณะที่ถล่มลงมานั้นสามารถยิงทะลุพื้นดินได้ในพริบตา

ได้ยินเสียงตูมที่ดังสนั่น ฟ้าแลบสีทองที่ฟาดตรงลงมาพลันยิงจนภูเขาแต่ละลูกแหลกละเอียด ยิงเทือกเขาที่มีขนาดยักษ์สุดเทียบเทียมจนทะลุ

อ๊ากกก…เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง มีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่เข้าใจว่าวิบากสวรรค์จะไม่ยิงใส่ตนเองจึงไม่ได้หลบซ่อนตัว เมื่อฟ้าแลบผ่าตรงลงมาพลันยิงถล่มจนตัวเขาแหลกละเอียด เลือดสดๆ แตกกระจาย เสียงร้องน่าเวทนายังเพิ่งจะดังขึ้นก็ได้กลายเป็นหมอกเลือดไปแล้ว

อ๊ากกก อ๊ากกก อ๊ากกกเสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้นลงสลับ ยอดฝีมือในแดนลัทธิเซียนจำนวนไม่น้อยประสบกับความหายนะ ภายใต้ความประมาท ไม่ได้หาที่หลบซ่อนตัวเอาไว้ และไม่ได้หลีกเลี่ยงวิบากสวรรค์ จึงถูกฟ้าแลบสีทองยิงใส่จนแหลกละเอียด เลือดสดๆ แตกกระจายโดยพลัน

“แม่จ๋า หลบซ่อนตัวก่อน” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยที่ประมาทตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ต่างทยอยกันหลบซ่อนตัวและรีบปิดบังซ่อนเร้นกลิ่นอายของตน

ท่ามกลางสายฟ้าแลบสีทองที่ฟาดลงมาอย่างบ้าคลั่งเสียงดังตูม ตูม ตูม เสมือนดั่งพายุฝนฟ้าคะนองอย่างนั้น ฟ้าแลบสีทองทั้งหมดล้วนแล้วแต่เทราดลงมา เข้าถล่มยังทุกๆ เป้าหมายที่มีความเป็นไปได้

ในแดนลัทธิเซียน มีจุดที่มีความแข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียมเป็นเป้าหมายสำคัญที่สายฟ้าแลบสีทองเข้าถล่มอย่างหนักหน่วง เรียกได้ว่ามีสถานที่หลายแห่งได้ดึงดูดให้ฟ้าแลบจำนวนมากพลันถล่มเข้าใส่ ยิงถล่มจนแผ่นดินหายวับไปกับตาในพริบตา

สถานที่หลายๆ แห่งเหล่านี้นับว่ามีความแข็งแกร่งจนสุดจะจินตนาการ ขณะที่ฟ้าแลบสีทองที่น่ากลัวถล่มเข้ามานั้น สถานที่เหล่านี้ได้ปรากฏแนวป้องกันจำนวนมาก คล้ายดั่งโลกที่เป็นเอกเทศโลกหนึ่งอย่างนั้น และกันวิบากสวรรค์ที่น่ากลัวนี้เอาไว้ด้านนอก

แต่ว่า ต่อให้แนวป้องกันเหล่านี้จะมีความแข็งแกร่งมากกว่านี้ ภายใต้การถล่มอย่างบ้าคลั่งของฟ้าแลบสีทองก็ต้องสั่นไหวโคลงเคลงไม่หยุด กระทั่งแนวป้องกันบางส่วนถูกฟ้าแลบสีทองที่ดั่งน้ำหลากยิงถล่มจนทะลุ

หลี่ชิเย่เองก็กลายเป็นสถานที่สำคัญที่ต้องถูกวิบากสวรรค์ยิงถล่มเช่นกัน ในพริบตาเดียวนั้นเอง ได้ยินเสียงตูม ตูม ตูมดังตูมตามขึ้นมาเป็นระลอกไม่ขาดสาย

ในพริบตาเดียวนั้นเอง สายฟ้าสีทองที่ไม่มีสิ้นสุดบนท้องฟ้าได้ยิงถล่มลงมาอย่างบ้าคลั่ง คล้ายเป็นพายุฝนฟ้าคะนองระดับพิเศษที่โหมกระหน่ำเข้ามา ฟ้าแลบสีทองทั้งหมดเล็งตรงไปที่หลี่ชิเย่ และยิงถล่มเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง

วิบากสวรรค์ลักษณะเช่นนี้ช่างน่ากลัวอะไรอย่างนั้น ครั้นฟ้าแลบสีทองทั้งหมดยิงถล่มลงมานั้น ได้ยินเสียงดังปัง ปัง ปังดังขึ้น บริเวณที่หลี่ชิเย่ยืนอยู่นั้น พื้นที่โดยรอบบริเวณกว้างล้วนแล้วแต่ถูกยิงจนทะลุ ภายใต้การยิงถล่มอย่างหนักหน่วงของฟ้าแลบสีทอง ภูเขาแต่ละลูก เทือกเขาแต่ละเทือกพลันถูกยิงจนแหลกละเอียดทันที ผืนแผ่นดินถูกยิงจนพรุน แผ่นดินที่กว้างใหญ่ถูกยิงถล่มจนแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี

ภายใต้วิบากสวรรค์ที่น่ากลัวเช่นนี้ ทำให้ผุ้คนถึงกับขนลุกซู่ แม้แต่ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ เมื่อต้องเผชิญกับการยิงถล่มจากฟ้าแลบวิบากสวรรค์ลักษณะเช่นนี้ ก็ต้องตกใจจนเผ่นหนีไป และทำการปิดบังซ่อนเร้นทุกสิ่งทุกอย่างของตน กล่าวสำหรับยอดฝีมือใดๆ ก็ตาม เมื่อต้องเผชิญกับวิบากสวรรค์ที่น่ากลัวเช่นนี้ เรื่องแรกที่จะต้องทำย่อมคือการหาทางหลบเลี่ยงวิบากสวรรค์

แต่ว่า การเผชิญหน้ากับวิบากสวรรค์ที่น่ากลัวเช่นนี้ หลี่ชิเย่ไม่ได้หาทางหลบเลี่ยง กระทั่งเข้าปะทะอย่างไม่สะทกสะท้าน

นาทีนี้ ได้ยินเสียงตูมดังสนั่น สิบสามลัคนาของหลี่ชิเย่เปิดออก ต้นโลกดึกดำบรรพ์สั่นไหว พลังลมปรานไม่มีสิ้นสุดถูกปลดปล่อยออมา สุดยอดสัจธรรมสูงสุดล้อมรอบตัว นาทีนี้หลี่ชิเย่เหมือนเป็นเอกเทศ บุกเบิกสุดยอดอาณาจักรสูงสุด

“เข้ามาเลย” หลี่ชิเย่หัวเราะเสียงดังภายใต้การปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว เข้าปะทะกับสายฟ้าแลบที่ยิงถล่มลงมาอย่างกล้าหาญ

ราชันแท้จริงจิ่วหนิงถึงกับยิ้มเจื่อนๆ เมื่อได้มองเห็นภาพเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ คงมีเพียงคนโหดอันดับหนึ่งเท่านั้นที่จะทำเรื่องที่ชอบใช้ความรุนแรงเช่นนี้ขึ้นมาได้ ทำเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองแห่งยุคได้

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ต่อให้เป็นระดับปฐมบรรพบุรุษก็ไม่กล้าปะทะซึ่งหน้ากับวิบากสวรรค์ที่น่ากลัวเช่นนี้

ตูม ตูม ตูมเสียงทำลายฟ้าดินจนพังพินาศย่อยยับดังขึ้นมาไม่ขาดสาย นาทีนี้ฟ้าแลบสีทองที่บ้าคลั่งและรุนแรงปราศจากผู้เทียบเทียมได้ยิงถล่มเข้าใส่หลี่ชิเย่ แนวป้องกันของหลี่ชิเย่ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไร ฟ้าแลบสีทองก็จะยิ่งดุดันมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง ฟ้าแลบสีทองที่ไปรวมตัวอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นๆ เหมือนว่าหากไม่จัดการยิงถล่มจนหลี่ชิเย่หายวับไปกับตาในพริบตาจะไม่ยอมเลิกราเด็ดขาด

ตูม…ท่ามกลางเสียงที่ดังสนั่น ภายใต้การยิงถล่มของสายฟ้าแลบสีทองอย่างบ้าคลั่ง แนวป้องกันของหลี่ชิเย่ถูกทำลายจนแหลกละเอียด นาทีนี้ ฟ้าแลบสีทองได้ยิงถล่มบนตัวของหลี่ชิเย่ อย่างบ้าคลั่งและรุนแรง

เสียงเปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะดังขึ้น ขณะที่ฟ้าแลบสีทองยิงถล่มใส่ตัวของหลี่ชิเย่อย่างบ้าคลั่งนั้น ร่างกายของหลี่ชิเย่พลันปรากฏเลือดสาดกระจาย สายฟ้าแลบแต่ละสายได้ยิงทะลุผ่านร่างกายของหลี่ชิเย่

นาทีนี้ ร่างกายของหลี่ชิเย่ถูกยิงจนพรุน มองไปแล้ว เห็นเพียงร่างกายของหลี่ชิเย่ที่แตกยับไม่มีชิ้นดี ปรากฏรูเลือดขนาดใหญ่บนตัวรูแล้วรูเล่า รู้สึกสยดสยองสะเทือนขวัญยิ่งนัก เมื่อยืนอยู่ด้านหน้า สามารถมองเห็นภาพด้านหลังผ่านรูเลือดแต่ละรูได้

ในเวลานี้ เลือดสดๆ ได้ไหลย้อมพื้นดินจนแดงฉาน หลี่ชิเย่พลันถูกยิงถล่มจนกลายเป็นมนุษย์โลหิต ร่างทั้งร่างของเขาแตกยับไม่มีชิ้นดี เป็นภาพที่มองเห็นแล้วน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงเป็นยิ่งนัก

ต่อให้หลี่ชิเย่ที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ยังถูกยิงถล่มจนแตกยับไม่มีชิ้นดีในทันที

“เข้ามาสิ แรงกว่านี้หน่อย” หลี่ชิเย่กลับหัวเราะเสียงดัง เมื่อเผชิญกับฟ้าแลบสีทองที่ยิ่งใส่ตัวอย่างบ้าคลั่ง

…………………………………………..

  

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *