Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2707 มารปรากฎ

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2707 มารปรากฎ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2707 มารปรากฎ

เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว ประกายเจิดจ้าปราศจากผู้เทียบเทียมได้ส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้า ส่องสว่างหมื่นอาณาจักร ในพริบตาเดียวนั้นเอง สายฟ้าแลบสีทองไม่มีสิ้นสุดพลันยิงโจมตีเข้าไปบริเวณอกของหลี่ชิเย่

ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ทั่วฟ้าดินล้วนแล้วแต่สลดและอับแสง ไม่ว่าจะเป็นสุริยันจันทราบนท้องฟ้า หรือจะเป็นดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนท่ามกลางทะเลแห่งดวงดาว ล้วนแล้วแต่สูญสิ้นสีสันไป และกลับกลายเป็นมืดสลัวยิ่งนัก

นาทีขณะที่สายฟ้าแลบสีทองทั้งหมดได้ยิงถล่มเข้าภายในอกของหลี่ชิเย่ โลกทั้งโลกเสมือนดั่งเหลือไว้แต่เพียงประกายสีทองเท่านั้น สายฟ้าแลบสีทองเหมือนหนึ่งได้ระเบิดทั่วโลกไปในพริบตาเดียวเท่านั้น

พริบตาเดียวนี่เอง แม้แต่หลี่ชิเย่ก็ถูกสายฟ้าแลบสีทองที่ดั่งคลื่นยักษ์ครอบคลุมไปแล้ว

ท่ามกลางเสียงปังที่ดังสนั่น ทะเลสายฟ้าที่อยู่ภายในอกของหลี่ชิเย่พลันปรากฎคลื่นสายฟ้ายักษ์ที่ถาโถมขึ้นสูงนับหนึ่งล้านล้านล้านจ้าง คลื่นสายฟ้ายักษ์ที่ถาโถมอย่างรุนแรงขึ้นไปบนท้องฟ้า คล้ายดั่งมังกรยักษ์เป็นพันเป็นหมื่นตัวที่ส่งเสียงคำรามอยู่บนท้องฟ้า ลักษณะคลื่นยักษ์ที่น่ากลัวซึ่งถาโถม่ขึ้นบนท้องฟ้าเช่นนี้ ได้ฟาดใส่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวไร้ขอบเขตจำกัด

ได้ยินเสียงดังช่าาาขึ้นมา ขณะที่คลื่นฟ้าแลบยักษ์ที่ดั่งคลื่นที่สูงเทียมฟ้าพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า และฟาดใส่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนั้น สุริยันจันทราและดวงดาวนับไม่ถ้วนถูกชะล้างจมหายไป และถูกคลื่นสายฟ้าแลบยักษ์ที่น่ากลัวชะล้างทำลายไปทันที

ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่น พริบตาเดียวที่สายฟ้าแลบสีทองทั้งหมดได้พุ่งเข้าโจมตีบริเวณอกของหลี่ชิเย่ จนถึงสายฟ้าแลบที่ดั่งคลื่นยักษ์ถาโถมขึ้นท้องฟ้าอย่างรุนแรงนั้น ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดในแดนลัทธิเซียนต่างทยอยกันหลับตาลงภายใต้ประกายแสงที่เจิดจ้าอย่างยิ่งเช่นนี้

ดังนั้น ในพริบตาเดียวนี้เอง ทั้งราชันแท้จริง และปฐมบรรพบุรุษต่างไม่กล้าแอบมองภาพที่น่ากลัวสุดๆ เช่นนี้ ด้วยเกรงว่าจะเปิดเผยร่องรอยและหรือกลิ่นอายของตนออกไป

“เป็นใครที่อาศัยพลังพิเศษก้าวข้ามวิบากสวรรค์…” ภายใต้พลังวิบากสวรรค์ที่น่ากลัวเช่นนี้ ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั่วแดนลัทธิเซียนต่างหวาดผวาจนหน้าถอดสี ภายใต้พลังสยบที่น่ากลัวสุดๆ เช่นนี้ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนล้วนแล้วแต่ตัวสั่นงันงก แม้แต่เทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลก็หวาดผวาจนหน้าถอดสีเช่นกัน และรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง

“หาใช่มีคนต้องการก้าวข้ามวิบากสวรรค์” มีเทพแท้จริงขั้นอมตะที่รู้อะไรดีกว่ายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั่วไป และกล่าวว่า “แต่มีคนจงใจยันกับวิบากสวรรค์ดื้อๆ ด้วยการล่อให้วิบากสวรรค์ที่น่ากลัวเข้าตัวเอง”

“เขาเป็นใครกันแน่ เป็นปฐมบรรพบุรุษที่ปราศจากผู้ต่อกรท่านใด…” แม้แต่ผู้ที่เป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะเช่นกันถึงกับต้องสั่นเทิ้มทีหนึ่ง เมื่อได้ยินคำพูดลักษณะเช่นนี้ สมควรทราบว่า ภายใต้วิบากสวรรค์ที่น่ากลัวเช่นนี้ หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นไม่ว่าใครก็ตาม ก็ต้องหลบเลี่ยงและหนีไป เมื่อไรที่ถูกวิบากสวรรค์ที่น่ากลัวเช่นนี้ยิงใส่ตัว รับรองว่าต้องหายวับไปกับตาในพริบตา ไม่มีโอกาสกระทั่งดิ้นรนด้วยซ้ำ

“เป็นใคร…” มีเทพแท้จริงขั้นอมตะที่อดอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ จึงรีบเปิดเนตรฟ้าขึ้นมองทันที ฝืนมองไปยังบริเวณที่เป็นศูนย์กลางสายฟ้าแลบ ภายใต้ประกายแสงที่เจิดจ้ายิ่งนัก จ้องมองไปยังจุดที่มีแสงสว่างเจิดจ้ามากที่สุด

แต่ว่า ภายในพริบตาเดียวนั่นเอง ดวงตาทั้งสองข้างของเทพแท้จริงขั้นอมตะผู้นี้พลันระเบิด และในพริบตาเดียวก็ถูกระเบิดจนกลายเป็นหมอกเลือดไป

แม้ว่าเทพแท้จริงขั้นอมตะผู้นี้จะมีกำลังที่แข็งแกร่งสุดยอดยากจะหาใดเทียมแล้ว แต่ยังคงไม่สามารถรับกับประกายแสงที่เจิดจ้ามากที่สุดของสายฟ้าแลบสีทองได้ ภายใต้พลังทะเลสายฟ้าที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียม แม้แต่ระดับปฐมบรรพบุรุษก็ยากที่จะรองรับได้

“อำนาจสวรรค์…” ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนมากมายเท่าไรที่สั่นเทา ภายใต้พลังที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้ กระทั่งประชาชนหนึ่งหมื่นล้านล้านล้านล้านได้ถูกสยบให้หมอบอยู่กับพื้น ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้เป็นเวลานาน กระทั่งแม้แต่กำลังที่จะเงยหน้าขึ้นยังไม่มี

ตูม…ตูม…ตูม…ท่ามกลางเสียงดังตูมตามที่ดังขึ้นเป็นระลอก ทะเลสายฟ้าที่อยู่ภายในอกของหลี่ชิเย่ได้บังเกิดคลื่นยักษ์ที่สูงหนึ่งหมื่นล้านล้านล้านล้านจ้างถาโถมขึ้นมา และยังมีคลื่นลูกหลังแต่ละลูกที่สูงกว่าคลื่นลูกหน้าเสมอ เป็นที่หวาดผวายิ่งนัก ทำการชะล้างท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว สุริยันจันทราและดวงดาวนับไม่ถ้วนหายวับไปกับตาในชั่วพริบตาเดียวภายในเวลาอันสั้น ไม่หลงเหลือร่องรอยแม้แต่น้อย

ในเวลานี้เอง ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนของแดนลัทธิเซียนต่างรับรู้ได้ถึงอำนาจสวรรค์ที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียม ช่างน่าสยองขวัญอะไรอย่างนั้น และสยบจิตใจของผู้คนอะไรอย่างนั้น ภายใต้อำนาจสวรรค์ที่น่ากลัวเช่นนี้ จิตวิญญาณของยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างถูกสยบเอาไว้ ปราศจากเรี่ยวแรงทั้งตัว และหมอบอยู่กับพื้น

สายฟ้าแลบสีทองที่ไม่สิ้นสุดได้โจมตีต่อหลี่ชิเย่ครั้งแล้วครั้งเล่า สายฟ้าแลบที่ถูกส่งลงมาจากวิบากสวรรค์ได้ยิงถล่มใส่ทะเลสายฟ้าบริเวณอกของหลี่ชิเย่ครั้งแล้วครั้งเล่า และมีอานุภาพเพิ่มมากขึ้นทุกครั้ง ภายใต้การยิงถล่มเช่นนี้ ทำเอาแดนสามเซียนยังต้องสั่นไหวโคลงเคลงขึ้นมา วิบากสวรรค์ที่น่าสยองขวัญปราศจากสิ่งใดเทียบเทียมล้วนแล้วแต่รวมอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่

นาทีนี้เอง หลี่ชิเย่ได้รองรับกับวิบากสวรรค์เพียงลำพังคนเดียวเอาไว้ทั้งหมด ดูเหมือนว่าสวรรค์เองก็โกรธขึ้นมาแล้ว ได้รวบรวมสายฟ้าแลบสีทองทั้งหมดยิงถล่มใส่บริเวณอกของหลี่ชิเย่อย่างบ้าคลั่งครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนต้องการยิงทะเลสายฟ้าที่อยู่บริเวณอกของหลี่ชิเย่ให้ทะลุอย่างนั้น

แต่ว่า ไม่ว่าสายฟ้าแลบสีทองจะมีอานุภาพมากเช่นใดก็ตาม ไม่ว่าจะยิงถล่มใส่ทะเลสายฟ้าบริเวณอกของหลี่ชิเย่อย่างบ้าคลั่งครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไรก็ตาม ก็ไม่สามารถยิงให้ทะเลสายฟ้าในอกของหลี่ชิเย่ให้ทะลุได้ เพียงแค่ทำให้เกิดเป็นคลื่นที่โหมสาดซัดอย่างบ้าคลั่งเท่านั้นเอง คลื่นสายฟ้ายักษ์ที่น่ากลัวได้ชะล้างท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวครั้งแล้วครั้งเล่า คงไว้แต่อานุภาพที่เกรียงไกรบนท้องฟ้า

ความจริงแล้ว ขั้นตอนขณะที่สายฟ้าแลบสีทองของวิบากสวรรค์ได้ยิงถล่มหลี่ชิเย่ครั้งแล้วครั้งเล่านั้นแค่สิบนาทีเท่านั้นเอง แต่ว่า ท่ามกลางสิบนาทีที่ว่านี้กล่าวสำหรับ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนนับไม่ถ้วนของแดนสามเซียนทั้งหมดแล้ว เสมือนดั่งเป็นกาลเวลาที่ยาวนานมาก เหมือนว่าเวลาได้ผ่านไปยุคแล้วยุคเล่า ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างรู้สึกว่าเป็นการทรมานที่ยาวนานอย่างยิ่ง

หลังจากผ่านการโจมตีจากสายฟ้าแลบครั้งแล้วครั้งเล่า สายฟ้าแลบสีทองของวิบากสวรรค์ค่อยๆ อ่อนกำลังลง การโจมตีของสายฟ้าแลบแต่ละครั้งก็จะอ่อนลง

“จะผ่านไปแล้วรึ?” ประชาชนทั้งหมดของแดนสามเซียนต่างรู้สึกได้ว่าพลังของอำนาจสวรรค์กำลังเสื่อมถอยลงช้าๆ ต่างเริ่มหายใจด้วยความโล่งอก

แน่นอน ภายในใจของราชันแท้จริง ปฐมบรรพบุรุษทั้งหมดต่างรู้สึกหวาดผวา และรู้สึกใจหายใจคว่ำ เมื่อรับรู้ได้ว่า กำลังของวิบากสวรรค์ที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียมกำลังเสื่อมถอยลงช้าๆ ภายใต้วิบากสวรรค์ที่น่ากลัวเช่นนี้ ยังคงมีผุ้ที่สามารถต้านเอาไว้ได้ ช่างเป็นกำลังความสามารถที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นใด

“กำลังความสามารถเช่นนี้ เกรงว่าสามารถเทียบเคียงได้กับสิบยอดปฐมบรรพบุรุษได้” มีปฐมบรรพบุรุษที่แอบรู้สึกเสียวสันหลังวาบทีหนึ่ง

แม้ว่าตัวเขาที่อยู่ในระดับปฐมบรรพบุรุษ ก็ไม่สามารถรองรับกับพลังวิบากสวรรค์ที่น่ากลัวเช่นนี้ไว้ได้ ต่อให้เป็นยุครุ่งเรืองสุดขีดของเขา ภายใต้วิบากสวรรค์ที่น่ากลัวเช่นนี้ก็ต้องหายวับไปกับตาในพริบตาเช่นกัน

จังหวะที่ทุกคนในแดนสามเซียนต่างเข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะผ่านพ้นไป ขณะที่ต่างหายใจด้วยความโล่งอกนั้น แต่ว่า ในชั่วพริบตาเดียวนั้นเอง บนท้องฟ้าได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ประหลาดขึ้นมา

เสียงตูม…ดังสนั่น ในเสี้ยววินาทีนั่นเอง ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันเข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทันใดนั้นเปลวเพลิงมารพลันสาดส่องหมื่นอาณาจักรอย่างกะทันหัน ปณิธานมารที่น่ากลัวพลันปกคลุมไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน

“มาร…” จังหวะที่เปลวเพลิงมารสาดส่องเป็นนิรันดร์นั้น ผู้คนทั้งหมดในแดนสามเซียนต่างร้องเสียงแหลมขึ้นมา และสั่นเทาทีหนึ่ง ทุกคนยังไม่ทันมีปฏิกิริยาสนองตอบ แต่ ภายใต้เปลวเพลิงมารที่น่ากลัวปราศจากผุ้เทียบเทียม ไม่รู้ว่าผู้คนจำนวนเท่าไรที่พลันคุกเข่าลงดังปุ

ท่ามกลางเสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหวนี้เอง บนท้องฟ้าพลันปรากฎเปลวเพลิงมารสายหนึ่งที่พุ่งโจมตีลงมา เปลวเพลิงมารสายนี้มีความร้อนแรงยิ่ง ความมืดมิดพลันสาดส่องไปทั่วฟ้าดิน อานุภาพมารพลันครอบคลุมทั่วอาณาจักร

“มาแล้ว…” ในขณะที่ทุกคนต่างไม่เข้าใจว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่ หลี่ชิเย่กลับไม่รุ้สึกเหนือความคาดคิดแต่อย่างใด เพียงยิ้มนิดหนึ่ง และเปิดจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรขึ้นมาเต็มที่ เข้าปะทะกับเปลวเพลิงมารที่พุ่งโจมตีลงมา

ได้ยินเสียงตูมดังสนั่น เปลวเพลิงมารที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียมพลันยิงเข้าไปที่จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ ทำการท่วมปกคลุมจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่จนจมมิด

ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ได้ยินเสียงตูม ตูม ตูมแต่ละเสียงที่ดังขึ้นมา สั่นคลอนต่อแดนสามเซียนทั้งหมด พริบตาเดียวนั้นเอง ร่างกายของหลี่ชิเย่ได้กลายเป็นมาร เปลวเพลิงมารที่ไม่มีสิ้นสุดได้พุ่งออกมาจากตัวของเขา บดบังท้องฟ้าทั้งหมด กลืนกินแดนสามเซียนไปทั้งหมด

ในเวลานี้เอง กระทั่งหลังของหลี่ชิเย่ปรากฏปีกมารแต่ละคู่ที่งอกขึ้นมา ได้ยินเสียงปริร้าวดังคร๊ากกก คร๊ากกก นาทีนี้เอง ร่างกายของหลี่ชิเย่ ปรากฏรอยร้าวแต่ละสายขึ้นมา ท่ามกลางรอยร้าวแต่ละสายปรากฎหนามกระดูกแต่ละอันที่งอกขึ้นมา หนามกระดูกทุกอันล้วนแล้วแต่ส่งประกายเยือกเย็นแวบวับขึ้นมา

กระทั่งในเวลานี้ร่างกายของหลี่ชิเย่เริ่มโค้งงอลง เหมือนต้องการกลับกลายเป็นอสูรมารที่มีขนาดใหญ่โตยิ่ง บนหัวได้งอกเป็นหนามขอเกี่ยวขึ้นมา และร่างกายมีขนงอกขึ้นมา

ย่อมไม่ต้องสงสัย ในเวลานี้มีสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวยิ่งต้องการยึดครองร่างกายของหลี่ชิเย่

จังหวะที่สัตว์ประหลาดต้องการยึดครองร่างกายของหลี่ชิเย่นั้น หลายๆ แห่งในแดนสามเซียนพลันปรากฎเสียงอ๊ากกก อ๊ากกก อ๊ากกกที่น่าเวทนาดังขึ้น นาทีนี้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนก็ได้รับผลกระทบจากปณิธานมารที่น่ากลัว บังเกิดเป็นมารร้ายขึ้นในใจ กระทั่งร่างกายของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลง ร่างกายของพวกเขาเริ่มปริแตกออก มีขนขึ้นมา และปรากฏหนามกระดูกแต่ละอันที่งอกขึ้นมา

“แย่แล้ว…” เทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรรู้สึกหน้ามืด ปณิธารมารลุกโชติช่วง รู้สึกผวาขึ้นในใจ พลันพาตัวหลบหนีไปไกล และผนึกตนเองเข้าไปในสุดยอดค่ายกล

“ปณิธานมารที่กล้าแข็งมาก” ไม่เพียงเทพแท้จริงขั้นอมตะเท่านั้น กระทั่งมีระดับปฐมบรรพบุรุษที่รับรู้ได้ถึงปณิธานมารเช่นนี้แล้ว จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรพวกเขาถึงกับเย็นวาบ รอบๆ กายปรากฏประกายชั่วร้ายขึ้นเป็นสายๆ

ย่อมไม่ต้องสงสัย ในเวลานี้ แม้แต่ระดับปฐมบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งก็ได้รับผลกระทบจากปณิธานมารที่น่ากลัว และปณิธานมารได้เข้าสิงร่างพวกเขา

ไม่เพียงยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนระหว่างฟ้าดินเท่านั้น ประชาชนจำนวนนับไม่ถ้วนก็ได้รับผลกระทบจากปณิธานมารที่น่ากลัวนี้ แม้แต่ภูเขาและแม่น้ำลำคลองก็ได้รับผลกระทบจากปณิธานมารที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียม

………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *