ตอนที่ 2708 มารศักดิ์สิทธิ์ในแวบหนึ่งของความคิด

“อ๊ากกก…” ในเวลานี้เอง ทั่วแดนลัทธิเซียนมีผู้ที่ร้องเสียงน่าเวทนาขึ้นมาไม่น้อย เวลานี้มีผู้คนจำนวนมากนอนหมอบอยู่กับพื้น ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัว ร่างกายของพวกเขาบิดงอ เริ่มมีขนงอกขึ้นมา ต้องการกลับกลายเป็นสัตว์ร้ายชั่วร้ายตัวหนึ่ง

ในเวลานี้ ได้ยินเสียงปัง ปัง ปังดังขึ้นตามภูเขาและแม่น้ำลำคลองจำนวนมากของแดนลัทธิเซียน ปรากฏมีมือยักษ์แต่ละข้างที่ยื่นออกมาจากใต้พื้นดิน มองเห็นไส้เดือนที่อยู่ใต้พื้นดินก็ได้กลายเป็นมารแล้วในเวลานี้ กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่คล้ายมังกรดุจมาร ตัวของมันได้ขยายใหญ่ขึ้นหลายร้อยเท่า และมีหนวดดูดแต่ละเส้นที่น่ากลัวงอกขึ้นมา

ได้ยินเสียงซ่าาา ซ่าาา ซ่าาาดังขึ้นมาในแม้น้ำและทะเล มองเห็นปลาแต่ละตัวที่กระโดดขึ้นเหนือน้ำ ในเวลานี้ ปลาแต่ละตัวที่กระโดดขึ้นเหนือผิวน้ำก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวขึ้นมา ครีบคู่ของพวกมันได้วิวัฒนาการกลายเป็นฝ่ามือยักษ์แต่ละข้าง บนหลังปรากฏกระดูกสีขาวงอกขึ้นมา และหน้าตาพลันกลับกลายเป็นน่าเกลียดน่ากลัวยิ่งนัก

“แย่แล้ว นี่ปรมาจารย์มารลงมารึ?” ในเวลานี้เทพแท้จริงขั้นอมตะ ราชันแท้จริง และปฐมบรรพบุรุษที่ยังคงควบคุมจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรเอาไว้ได้ ต่างมสีหน้าที่เปลี่ยนไป

ภาพที่น่ากลัว และน่าตกใจหวาดหวั่นพรั่นพรึงเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นปฐมบรรพบุรุษที่มีประสบการณ์กว้างขวางก็เพิ่งจะได้เห็นเป็นครั้งแรก สามารถทำให้ผู้คนในแดนลัทธิเซียนทั้งหมดกลายเป็นมารได้ในพริบตาเดียว เกรงจะเป็นเรื่องที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนบนโลก นับแต่อดีตกาลที่ผ่านมาก็ไม่เคยปรากฏการกลายเป็นมารที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน

ดังนั้น ในเวลานี้ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น มีระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจำนวนไม่น้อยในแดนลัทธิเซียน ล้วนแล้วแต่ ปรากฏเสียงระฆังเซียนที่ดังขึ้นมาเป็นระลอก เสียงระฆังเซียนใสกังวาน ช่วยฟื้นสติและทำให้จิตใจใสสะอาด ในขณะเดียวกัน บรรดาระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิที่มีความแข็งแกร่งจำนวนไม่น้อยได้พวยพุ่งประกายปฐมบรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร รุนแรงและอันธพาลยิ่ง มีร่างเงาของปฐมบรรพบุรุษปรากฏขึ้นมา และภายในระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิปรากฎเสียงเทศนาธรรมจากปรัชญาเมธี่จำนวนนับไม่ถ้วน

จากการที่ประกายปฐมบรรพบุรุษพวยพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง และการเทศนาธรรมของปรัชญาเมธีรอบแล้วรอบเล่าเพื่อขับไล่ความชั่วร้าย ซึ่งส่งผลให้สถานที่บางแห่งสามารถต้านการทำให้กลายเป็นมารที่น่ากลัวเช่นนี้ได้ และระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิที่สามารถต้านทานการทำให้กลายเป็นมารได้นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ของแดนลัทธิเซียน ต่างก็เป็นระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนลัทธิเซียน

แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม อานุภาพในการทำให้กลายเป็นมารนั้นปราศจากผู้เทียบเทียม ยังคงเสมือนดั่งเป็นอานุภาพที่เกรียงไกรเข้ากัดกร่อนไปทั่วแดนลัทธิเซียน เพียงชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนเสมือนดั่งกลับกลายเป็นแผ่นดินมารไปแล้วอย่างนั้น

ภาพที่น่ากลัวเช่นนี้อย่าว่าแต่เทพแท้จริงขั้นอมตะ หรือราชันแท้จริงปราศจากผู้ต่อกรเลย แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษนับแต่อดีตเป็นต้นมาก็ต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึง เนื่องจากในโลกนี้ยังไม่มีใครที่สามารถมีพลังมารที่ปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้ สามารถทำให้ทั่วแดนลัทธิเซียนกลายเป็นมาได้ในพริบตา

ผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบอย่างสิ้นเชิงมีเพียงระดับปฐมบรรพบุรุษเท่านั้น หลังจากที่ได้รักษาจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรได้แล้ว แม้แต่ราชันแท้จริงที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรยังคงได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่ระดับปฐมบรรพบุรุษก็ต้องหลีกเลี่ยง เนื่องจากพวกเขาต่างไม่ทราบว่าต่อจากนี้จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก

“เปิด…” เห็นเพียงหลี่ชิเย่ที่คำรามเสียงดังขึ้นมา ในขณะที่ตนเองกำลังจะถูกทำให้กลายเป็นมาร ได้ยินเสียงดังปุขึ้นเสียงหนึ่ง พริบตาเดียวนั้น หน้าผากของหลี่ชิเย่ได้เปิดออก ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง นาทีนี้มองเห็นประกายศักดิ์สิทธิ์สายหนึ่งปรากฏขึ้นที่กลางหน้าผากของหลี่ชิเย่

ขณะที่ประกายศักดิ์สิทธิ์ลักษณะเช่นนี้ปรากฏขึ้นมา เสมือนดั่งได้ผ่าร่างกายของหลี่ชิเย่ให้แยกออก และเสมือนหนึ่งได้ผ่าฟ้าดินทั้งหมดออกมา

ได้ยินเสียงดังปุ ปุ ปุที่เป็นเสียงกวาดล้างดังขึ้น จังหวะที่ประกายศักดิ์สิทธิ์โผล่ออกมาจากร่างกายนั้น ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองได้ทำการกวาดล้างปณิธานมารทั้งหมด กวาดล้างความชั่วร้ายทั้งหมด ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่แท้และบริสุทธิ์นี้ต้องการทำการหลอมกลั่นปณิธานมาร และความชั่วร้ายที่อยู่ภายในร่างกายของหลี่ชิเย่ออกให้หมด

ดังนั้น ขณะที่เสียงปุ ปุ ปุดังขึ้นมานั้น ร่างกายของหลี่ชิเย่คล้ายมีรอยปริแยกอยู่เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ประกายศักดิ์สิทธิ์แต่ละสายหาใช่เบ่งบานออกมรจากภายในร่างกายของหลี่ชิเย่ แต่เป็นการบานเบ่งออกมาจากจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่

ในพริบตาเดียวนั่นเอง เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น โดยที่เสียงแว้งค์เสียงนี้ขณะดังขึ้นไม่ได้ดังมากเป็นพิเศษ แต่ เหมือนว่าประชาชนทั่วแดนลัทธิเซียนทั้งหมดล้วนแล้วแต่เหมือนได้ยินเสียงนี้อย่างนั้น

ท่ามกลางเสียงแว้งค์เสียงนี้ มองเห็นประกายที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งเทราดลงมาจากท้องฟ้า เสมือนดั่งปรอทที่ถูกเทลงพื้นอย่างนั้น สอดแทรกเข้าไปทุกๆ ที่ ทันใดนั้นเอง ประกายศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดได้รุกครอบครองแดนลัทธิเซียนเอาไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นซอกไหนๆ ก็ตาม

ไม่ว่าจะเป็นหุบเหวลึกใดๆ ก็ตาม ล้วนแล้วแต่อยู่ภายใต้การส่องสว่างของประกายศักดิ์สิทธิ์

เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั้นเอง เสียงเผาไหม้ดังขึ้นเป็นระลอกทุกซอกทุกมุมของแดนลัทธิเซียน กระทั่งบนตัวของประชาชนทุกๆ คน

จากการที่ประกายศักดิ์สิทธิ์สาดส่องทั่วปฐพีอย่างเสมอภาค ปณิธานมารทั้งหมดที่มีอยู่ระหว่างฟ้าดิน ความชั่วร้ายที่อยู่บนตัวผู้คนทั้งหมด ล้วนแล้วแต่ทยอยกันถูกประกายศักดิ์สิทธิ์เผาไหม้ไป

ดังนั้น จากการที่ร่างกายของทุกคนถูกประกายศักดิ์สิทธิ์สูงสุดเผาไหม้ ได้ยินเสียงดังแค่วกกก แค่วกกก แค่วกกกดังขึ้น บรรดาประชาชน ผู้บำเพ็ญตน ภูเขาแม่น้ำลำคลองที่กำลังจะกลายเป็นมาร ล้วนแล้วแต่ทยอยกันคืนสภาพกลับมาดังเดิม ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่เดิมหลังค่อมก็เริ่มกลับคืนสู่สภาพเดิมของตน หลังจากได้รับการสาดส่องอย่างทั่วถึงของประกายศักดิ์สิทธิ์

หลี่ชิเย่ได้กลายเป็นต้นกำเนิดของประกายศักดิ์สิทธิ์ ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่พวยพุ่งออกมาจากจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขาส่องแสงสว่างไสวไปเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ยามที่จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขาพวยพุ่งประกายศักดิ์สิทธิ์มากมายที่สุดออกมานั้น เขาได้กลายเป็นประกายที่เจิดจ้าที่สุดร้อนแรงที่สุดระหว่างฟ้าดินไปแล้ว กลายเป็นต้นกำเนิดของแสงสว่างทุกอย่างบนโลก

“อริยะบุคคลปรากฏบนโลกรึ…” เมื่อรับรู้ถึงประกายศักดิ์สิทธิ์ที่สาดส่องอย่างทั่วถึงกัน ภายใต้ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่บริสุทธิ์เช่นนี้ เหมือนว่าประชาชนทั้งหมดที่อยู่ระหว่างฟ้าดินนี้ล้วนแล้วแต่ต้องการออกบวชภายใต้ประกายศักดิ์สิทธิ์ ต้องการเป็นศิษย์ของประกายศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้น

ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่สาดส่องผืนแผ่นดินอย่างทั่วถึง โปรดเวไนยสัตว์ให้หลุดพ้นจากห้วงแห่งความทุกข์โดยทั่วกันช่างบริสุทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ไร้มลทินอะไรอย่างนั้น มันสามารถหลอมกลั่นความชั่วร้ายทุกอย่าง สามารถทำให้ประชาชนคนใด แม้แต่มารร้ายก็ตาม ล้วนแล้วแต่สามารถบังเกิดแสงสว่างในใจ ใฝ่หาออกบวชต่อแสงสว่าง

ภายใต้ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่บริสุทธิ์ ประชาชนจำนวนนับไม่ถ้วนของแดนลัทธิเซียน ต่างมีปฏิกิริยาที่ต้องการแสดงคารวะสูงสุด

“คนผู้นี้เป็นใคร หรือจะเป็นปราชญ์แดนไกล” แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษก็มีสีหน้าที่แสดงออกถึงการได้รับความประทับใจยิ่ง โลกนี้ยังจะมีใครที่สามารถมีประกายศักดิ์สิทธิ์ได้เพียงนี้ ในเวลานี้เขานึกถึงปฐมบรรพบุรุษผู้หนึ่ง ซึ่งก็คือปราชญ์แดนไกล เพียงแต่ ปฐมบรรพบุรุษผู้นี้ได้สลายไปท่ามกลางสายน้ำแห่งกาลเวลาแล้ว หรือว่าปราชญ์แดนไกลผู้นี้ได้กลับคืนสู่โลกอีกแล้ว?

เมื่อนึกถึงตรงนี้แล้ว มีระดับปฐมบรรพบุรุษถึงกับเปิดเนตรฟ้าและมองไปยังจุดที่ร้อนผ่าวที่สุดของประกายศักดิ์สิทธิ์ ต้องการมองให้ชัดเจนว่าผู้ที่เปล่งประกายศักดิ์สิทธิ์ที่สว่างไสวยิ่งนักเป็นใครกันแน่

แต่ทว่า ท่ามกลางจุดที่ร้อนแผดเผาที่สุดของประกายศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าจะเป็นปฐมบรรพบุรุษที่ดึกดำบรรพ์แล้วก็ตาม เมื่อเขาทอดสายตามองไปนั้น ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ร้อนแผดเผาที่สุดพลันสลักลงบนจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขาทันที ส่งผลให้จิตแห่งการบำเพ็ญเพียร ของเขาสั่นไหวทีหนึ่ง

สิ่งนี้พลันทำให้ปฐมบรรพบุรุษผู้นี้รู้สึกตกใจยิ่งนัก รีบละสายตากลับมาไม่กล้ามองอีก เนื่องจากประกายศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้มีอานุภาพมากเหลือเกิน ถ้าหากยังต้องการฝืนมองดูให้ชัดเจนล่ะก็ ไม่แน่นักประกายศักดิ์สิทธิ์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งไม่เพียงแต่ทำให้จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขาต้องสั่นคลอน กระทั่งเป็นไปได้ว่าจะถูกโปรดโดยประกายศักดิ์สิทธิ์

หากจะกล่าวว่า แม้แต่ระดับปฐมบรรพบุรุษยังถูกโปรดโดยประกายศักดิ์สิทธิ์ได้ เรื่องเช่นนี้นับว่าน่ากลัวโดยแท้

แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษยังสามารถโปรดได้ โลกนี้ยังจะมีอะไรที่โปรดไม่ได้เล่า? กระทั่งกล่าวได้ว่า สามารถทำให้แดนลัทธิเซียนทั้งหมดกลายเป็นสุดยอดดินแดนสุขาวดีในพริบตาเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้คนต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึง และก็เป็นเรื่องที่อาศัยวิชามารทำให้มีสติเลอะเลือนที่น่ากลัวมากอย่างหนึ่ง

“มอ…” ในพริบตาเดียวนี้เอง ปรากฏคำโบราณออกจากปากของหลี่ชิเย่คำหนึ่ง คำโบราณคำนี้ดังก้องทั่วฟ้าดิน คล้ายดั่งระเบิดจนอดีตกาลแตกออก และในพริบตาเดียวที่คำโบราณระเบิด เหมือนได้พลิกสายน้ำแห่งกาลเวลาขึ้นมา

ดังนั้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง ได้ยินเสียงตูมที่ดังสนั่นขึ้นมา แม้แต่ความชั่วร้ายที่อยู่ในสายน้ำแห่งกาลเวลา แม้แต่ความชั่วร้ายที่สลายไปกับอดีตกาลก็ได้ปรากฎขึ้นนาทีนี้ ชั่วพริบตาเดียวนั้นเอง ได้ยินเสียงช่าาาดังขึ้น คลื่นความชั่วร้ายโจมตีเข้ามา ขณะที่ความชั่วร้ายที่สลายไปกับอดีตกาล นาทีนี้ก็คล้ายไหลมาตามสายน้ำแห่งกาลเวลาเข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่ง

จากการที่คลื่นความชั่วร้ายที่สลายไปกับอดีตกาลโหมโจมตีเข้ามา ภายในร่างกายของหลี่ชิเย่ก็มีเสียงปุ ปุ ปุแต่ละเสียงที่ดังขึ้นมา เปลวเพลิงมารชั่วร้ายแต่ละสายได้บานเบ่งขึ้นมาอีกครั้ง ความชั่วร้ายบ้าคลั่งที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองเหมือนต้องการยึดครองร่างกายของหลี่ชิเย่ ยึดครองจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่

จากการเข้าโจมตีของคลื่นความชั่วร้าย ในพริบตาเดียวนั้นเอง ความชั่วร้ายเป็นฝ่ายได้เปรียบ ได้ยินเสียงดังปุดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ประชาชนที่อาศัยอยู่ระหว่างฟ้าดินได้กลับกลายเป็นมารอีกครั้ง เดิมความชั่วร้ายได้จางหายไปแล้วนั้นได้ปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง และร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง มีฟันเขี้ยว หนามกระดูกงอกขึ้นมา…

“โอ้แม่จ๋า…” การกลายร่างเป็นมารในลักษณะเช่นนี้ ทำเอาทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง เทพแท้จริงขั้นอมตะที่มีกำลังความสามารถต่างทยอยกันหนีไปจากที่ตรงนี้ ตัดสิ่งชั่วร้ายบนตัวออกไป หลบเข้าไปอยู่ในที่กักตนทันที

“อ๊ากกก…” เสียงร้องแหลมดังได้ดังขึ้นมา บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่มีกำลังความสามารถไม่แข็งแกร่งพอ ประชาชนจำนวนหนึ่งล้านล้านล้านคน ได้แต่ทนแบกรับความทุกข์ทรมานกับการกลายเป็นมารในลักษณะเช่นนี้

ตึง ตึง ตึงนาทีนี้ เสียงโลหะที่คล้ายโซ่เหล็กดังขึ้นมาเป็นระลอกได้ยินเสียงตูมที่ดังสนั่น ในพริบตาเดียวนั่นเอง บนท้องฟ้าที่ห่างไกลเหมือนปรากฏวังวนขนาดใหญ่ขึ้นสามวง และได้ทิ้งกฎเกณฑ์ขนาดยักษ์ลงมาสิบสองสาย

“นั่นคืออะไร…” ระดับปฐมบรรพบุรุษมองเห็นแล้วยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร

เสียงตึง…ดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ขณะแม้แต่ระดับปฐมบรรพบุรุษก็ยังดูแล้วไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรนั้น เจ้าสิ่งนี้ก็ได้เข้าไปพันธนาการจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่เอาไว้แล้ว

สิ่งนี้ก็คือชะตาดั้งเดิมโลกดึกดำบรรพ์นั่นเอง และชะตาดั้งเดิมโลกดึกดำบรรพ์ก็ได้พันธนาการจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ไว้ในพริบตาเดียว และพันธนาการความชั่วร้ายที่รุกรานเข้าไปในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ด้วยเช่นเดียวกัน

ขณะที่ทุกคนยังคงไม่เข้าใจว่าเป็นเรื่องอะไร เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ประกายศักดิ์สิทธิ์เหมือนระเบิดแตกออก ก่อนหน้านั้นประกายศักดิ์สิทธิ์สาดส่องทั่วหล้าอย่างเท่าเทียม มันก็มีความแข็งแกร่งมากพอแล้ว แต่ทว่า นาทีนี้ ประกายศักดิ์สิทธิ์กลับมีพลังเพิ่มสูงขึ้นสิบล้านเท่าอย่างนั้น เหมือนว่าประกายศักดิ์สิทธิ์นับแต่อดีตกาลเป็นต้นมาได้ระเบิดขึ้นพร้อมกัน

ประกายที่น่ากลัวพลันยิงถล่มไปทั่วอาณาจักรในฉับพลัน เสมือนดั่งน้ำหลากที่พลันชะล้างไปทั่วทั้งแดนลัทธิเซียน ไม่ว่าจะเป็นซอกมุมที่มืดมิดเช่นใด หุบเหวที่ลึกจนไม่สามารถหยั่งถึงเพียงใด พริบตาเดียวนี้เอง ล้วนแล้วแต่ถูกประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ระเบิดออกดังกล่าวชำระล้างผ่านไป

………………………………………………