Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2766 หนึ่งกระบี่บนตักต้านทั้งกองทัพ

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2766 หนึ่งกระบี่บนตักต้านทั้งกองทัพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2766 หนึ่งกระบี่บนตักต้านทั้งกองทัพ

พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้จบลง ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ เวลานี้ทุกคนอดที่จะมองไปยังธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางไม่ได้

ฮึ…ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางส่งเสียงฮึเย็นชาทีหนึ่ง ดวงตาทั้งสองดูดุดันน่าเกรงขาม กำลังอ้าปากจะพูด

“เดิมพัน…” จังหวะที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางยังไม่ทันพูดอะไรออกมา เสียงทุ้มต่ำและเย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงทุ้มต่ำและเย็นชาเสียงนี้ล่องลอยไม่แน่นอน ไม่มีใครสามารถแยกแยะออกว่าเสียงนี้มาจากที่ใด ยิ่งกว่านั้นไม่รู้ว่าเสียงนี้ออกมาจากปากของใคร

“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางมีระดับบรรพบุรุษที่ยอดเยี่ยมมากมาด้วย” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะพยายามแยกแยะอย่างละเอียด แต่ว่า ยังคงไม่สามารถยืนยันได้ว่าบรรพบุรุษที่พูดนั้นอยู่ ณ ที่ใด

ในฐานะที่เป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะสามารถตระหนักได้ทันทีว่าบรรพบุรุษผู้นี้แข็งแกร่งกว่าตนเองมากทีเดียว ดังนั้น จึงได้มีข้อสรุปออกมาเช่นนี้

แม้ว่าทุกคนยังไม่ชัดเจนว่าบรรพบุรุษที่มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางนั้นเป็นใคร แต่ว่า สามารถมั่นใจได้ว่า บรรพบุรุษผู้นี้จะต้องยืนอยู่สูงสุดยอดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางแน่นอน

“ตกลง เดิมพันกับเจ้าสักครั้งจะเป็นอะไรไป” หลังจากที่บรรพบุรุษผู้นี้ส่งเสียงออกมาแล้ว ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง กล่าวน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมา

“ถ้าเช่นนั้นก็ดี ข้าพูดแล้วมีสัจจะ ขอเพียงพวกเจ้าทำได้ ก็ให้พวกเจ้ามีชีวิตจากไป” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉยทีหนึ่ง จากนั้นสั่งการกับกัวเจียหุ้ยว่า “นังหนู ไปเถอะ ไม่ต้องรีบ แก้มัดออกก็พอ อย่าไปทำให้คนอื่นลำบากใจมากนัก”

กัวเจียหุ้ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง พยักหน้าหนักแน่น นางเชื่อใจในตัวหลี่ชิเย่อย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม นางยินดีที่จะมอบชีวิตให้กับหลี่ชิเย่เสมอ

“เริ่มได้” เวลานี้ หลี่ชิเย่ได้นำกระบี่ยาววางบนตักสองข้างของตน หลับตาลง เหมือนนอนหลับไปแล้วอย่างนั้น

กัวเจียหุ้ยพยักหน้ากับพวกของหลี่เจี้ยนคุน ส่งสัญญาณว่าจะไปช่วยพวกเขาเดี๋ยวนี้ จากนั้นนางก้าวออกไปก้าวหนึ่ง ในเวลานี้กัวเจียหุ้ยก็ไม่ได้วิ่งเข้าไปหา แต่ทำตามที่หลี่ชิเย่สั่งการเอาไว้ ก้าวไปหาพวกหลี่เจี้ยนคุนทีละก้าวๆ

ฟิววว ฟิววว ฟิววว…ในพริบตาเดียวนั่นเอง บนท้องฟ้าปรากฏน้ำตกสีเงินที่เทราดลงมา บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยประกายดาวที่ยิงลงมาอย่างรุนแรง ชั่วพริบตาเดียวนั้น คล้ายดั่งดวงดาวนับล้านล้านดวงปรากฎขึ้นบนท้องฟ้า และดวงดาวทั้งหมดพลันเทราดเอาประกายดาวที่ต่อเนื่องไม่ขาดสายลงมา ขณะที่ประกายดาวทั้งหมดถูกเทราดลงมานั้น ได้แทรกไปทุกจุด อีกทั้งประกายดาวที่เทราดลงมาล้วนแล้วแต่มีความรวดเร็วและดุดันยิ่งนัก เมื่อพวกมันถูกยิงลงมาอย่างรุนแรง สามารถทำให้พื้นแผ่นดินกลายเป็นกระชอน ถูกยิงจนกลายเป็นรูพรุนไปหมดในพริบตา

ประกายดาวทั้งหมดพลันยิงทะลุผ่านทุกสิ่ง ครอบคลุมพวกของกัวเจียหุ้ยทั้งเจ็ดคน สมควรทราบว่า ประกายดาวทั้งหมดที่ยิงเข้ามาอย่างรุนแรงล้วนแล้วแต่มีความมีความรวดเร็วและดุดันยิ่งนัก เกรงว่าขอเพียงมีประกายดาวสายหนึ่งที่ต้านเอาไว้ไม่ได้ ก็สามารถสังหารพวกกัวเจียหุ้ยได้ทุกคน

ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น หนึ่งกระบี่ช้อนขึ้น หนึ่งกระบี่ที่ช้อนทางช้างเผือกขึ้นมา มองเห็นเพียงประกายกระบี่ช้อนเข้าไป ประกายดาวที่ถูกยิงเข้ามาอย่างนรุนแรงล้วนแล้วแต่ถูกช้อนเอาไว้ในประกายกระบี่ ท่ามกลางเสียงปุที่ดังขึ้น ประกายดาวทั้งหมดพลันถูกบีบรัดจนกลายเป็นผง

ทันใดนั้น ได้ยินเสียงตึงดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ประกายกระบี่ถูกรวบรวมเอาไว้แล้วยิงขึ้นไปยังจักรวาล

หนึ่งกระบี่ที่เริ่มต้น ประกายกระบี่เบ่งบาน ประกายกระบี่ร่วงโรย สุดท้าย หนึ่งกระบี่กลายเป็นดาวตกที่ยิงขึ้นไปบนจักรวาล หนึ่งกระบี่ที่ขึ้นลงร่วงโรย เรียกได้ว่าเป็นไปแบบรวดเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ

ขณะที่ประกายกระบี่สายนี้หายเข้าไปในจักรวาลนั้น ได้ยินเสียงดังฉึกเสียงหนึ่ง เลือดสดๆ กระจาย คล้ายดั่งดอกไม้ที่มีสีฉูดฉาดบานเบ่งขึ้นบนท้องฟ้าอย่างนั้น

เสียงปังดังขึ้น มีคนตกลงมาจากบนท้องฟ้ากระแทกกับพื้นดินอย่างแรง เป็นชายชกรรจ์ที่อยู่ในชุดสีเงิน มือทั้งสองข้างสวมถุงมือสีเงิน บริเวณหน้าผากถูกแทงด้วยกระบี่ มีเลือดสดๆ ไหลออกมาช้าๆ ขณะที่เขาตกลงบนพื้นนั้นก็ได้ตายไปแล้ว

“ดาวเต็มฟ้า ผู้คุมกฎของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง” มียอดฝีมือร้องเสียงหลงขึ้นมา เมื่อมองเห็นชายวัยกลางคนที่ตายอนาถอยู่บนพื้นคนนั้น

วิธีการลอบสังหารของดาวเต็มฟ้าเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดวิชาๆ หนึ่งของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร พลันที่เขาลงมือมักจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้อยู่เสมอๆ แต่ว่า มาวันนี้กลับถูกสังหารภายใต้หนึ่งกระบี่

ในขณะนี้ กัวเจียหุ้ยยังคงก้าวเดินไปยังพวกของหลี่เจี้ยนคุน โดยไม่ได้รับผลกระทบจากการลอบสังหารลักษณะเช่นนี้

“ฆ่า…” ในเวลานี้เอง บรรดาศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางที่เป็นยอดฝีมือทั้งหมด ซึ่งรออยู่บริเวณซ้ายขวาสองด้านของตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวร้องเสียงดังขึ้นมาด้วยความโกรธ พวกเขาอาศัยท่าทีที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยว ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น ภูเขาดาบทะเลกระบี่ พวกเขาลงมือในพริบตาเดียว ประกายดาบเงากระบี่ได้ก่อเกิดเป็นคลื่นพุ่งเข้าปกคลุมหลี่ชิเย่

ในเวลาเดียวกัน อาวุธเต็มทองฟ้า ของวิเศษบินว่อน มีเจดีย์วิเศษ ระฆังศักดิ์สิทธิ์ แผ่นเหล็ก…พุ่งเข้าหาอย่างรุนแรงเพื่อสังหารหลี่ชิเย่

นาทีนี้ ศิษย์ทั้งหมดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางล้วนแล้วแต่ลงมือพร้อมกัน เข้าถล่มสังหารหลี่ชิเย่อย่างบ้าคลั่ง มองเห็นประกายไฟที่รุนแรง การอาละวาดของอานุภาพ อาวุธเต็มท้องฟ้า ของวิเศษบินว่อน สถานการณ์โดยรวมสับสนอลหม่านยุ่งเหยิงไปหมด เวลานี้แยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร

ตึง…เสียงกระบี่คำรามดังขึ้นอีกครั้ง ขณะที่สถานการณ์โดยรวมตกอยู่ในสภาพที่วุ่นวาย รุมทำร้ายนั้น หนึ่งกระบี่ของหลี่ชิเย่ที่ผงาดฟ้า กระบี่ยาวกวาดผ่านไปเสมือนดั่งดาวตกที่วิ่งผ่านท้องฟ้าไป ประกายเจิดจ้าแวบเดียวก็ผ่านไป

จังหวะที่ประกายวิ่งผ่านไปนั้น ได้ยินเสียงปุ ปุ ปุดังขึ้น มองเห็นเสาโลหิตแต่ละต้นที่พุ่งขึ้นไปอย่างรุนแรง พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วกลับกลายเป็นดอกไม้เลือด

จังหวะที่สถานการณ์อยู่ในสภาพที่สับสนยุ่งเหยิงอยู่ และศิษย์ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางทั้งหมดต่างลงมือเข้าโจมตีสังหารหลี่ชิเย่อยู่นั้น ปรากฏร่างเงาสามร่างประดุจดั่งวิญญาณพลันเข้าไปใกล้พวกของกัวเจียหุ้ย

ร่างเงาทั้งสามนับว่ารวดเร็วมากเหลือเกิน เพียงพริบตาเดียวก็ประชิดใกล้กับพวกของกัวเจียหุ้ยเสียแล้ว ปรากฏประกายเยือกเย็นในมือของพวกเขาแวบวับขึ้น หวังจะเฉือนคอหอยพวกกัวเจียหุ้ยให้ขาด

แต่ว่า หลังจากที่กระบี่ยาวของหลี่ชิเย่ได้กวาดผ่านไปแล้วนั้น พลังกระบี่ยังไม่สุดอยู่เพียงเท่านั้น กระทั่งเพิ่มความเร็วมากยิ่งกว่าเดิมโดยพลัน ภายในเสี้ยววินาที ประกายกระบี่ที่ดั่งดาวตกวิ่งผ่าน ถึงกับส่องประกายสว่างไสวทั่วฟ้าดินเสมือนดั่งเป็นกลางวันอย่างนั้น

ได้ยินเสียงดังฉึกขึ้นมาเสียงหนึ่ง หลังจากกระบี่ยาวกวาดผ่านไป เห็นศีรษะทั้งสามลอยขึ้นสูง เลือดสดๆ พุ่งทะลักออกมา สามคนที่ดั่งวิญญาณก็ลอบสังหารพวกของกัวเจียหุ้ยทั้งเจ็ดคนไม่สำเร็จ

ที่แท้ เมื่อครู่บรรดาศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางพลันก่อให้เกิดการโจมตีที่สับสนวุ่นวายต่อหลี่ชิเย่นั้น ก็เพื่อต้องการคุ้มกันให้กับนักฆ่าสามคนที่จะเข้าไปใกล้พวกของกัวเจียหุ้ยดั่งวิญญาณ และโจมตีพวกเขาครั้งเดียวถึงตาย

เสียดาย แผนการเช่นนี้ของพวกเขาทำไม่สำเร็จ ลูกไม้เล็กน้อยเช่นนี้ไหนเลยจะหลอกหลี่ชิเย่ได้เล่า

“สามผู้คุมกฎป้ายทองของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง” มีท่านโหวของแคว้นๆ หนึ่งมองเห็นร่างเงาทั้งสามที่ถูกสังหารแล้ว ถึงกับตื่นตระหนกอยู่ในใจ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา สามผู้คุมกฎป้ายทองของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางจะหลบซ่อนตัวอยู่ลับๆ ฆ่าคนมาแล้วนับไม่ถ้วน มาวันนี้กลับก้าวเท้าผิด ถูกหลี่ชิเย่สังหารในหนึ่งกระบวนท่า

เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ช่องว่างทั้งหมดเหมือนบิดเบี้ยว เมื่อทุกคนมองตรงไปข้างหน้า ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าล้วนแล้วแต่บิดเบี้ยวไปสิ้น

ในพริบตาเดียวนั้นเอง ไม่เพียงแต่ช่องว่างบิดเบี้ยวเท่านั้น ทั้งยังเริ่มมีการหลอมละลาย ขณะที่ช่องว่างหลอมละลายนั้น ได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในช่องว่างล้วนแล้วแต่ถูกเผาไหม้ตามการหลอมละลายของช่องว่างไปด้วย

ลักษณะการเผาไหม้เช่นนี้รวดเร็วมาก เกรงว่าคงใช้เวลาไม่เท่าไรก็สามารถเผาผลาญพวกกัวเจียหุ้ยเจ็ดคนที่อยู่ในช่องว่างให้กลายเป็นเถ้าธุลีไป

“แย่แล้ว มีผู้ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางลงมือแล้ว” มีระดับเทพแท้จริงที่ถึงกับเย็นวาบ รู้ว่าฝีมือร้ายกาจมาก

ได้ยินเสียงจี๊ดดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง จังหวะที่ช่องว่างกำลังหลอมละลายอยู่นั้น เสื้อผ้าบนตัวของพวกกัวเจียหุ้ยก็เริ่มถูกเผาไหม้ขึ้นมาแล้ว

“มีความสามารถอยู่บ้าง” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง กระบี่ยาวในมือพลันแทงออกไป

หนึ่งกระบี่ที่แทงออกไปตรงๆ ดั่งดาวตกที่วิ่งผ่านท้องฟ้าไป ลากประกายกระบี่เป็นหางยาวมาก ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ได้ยินเสียงปุดังขึ้น กระบี่ยาวได้แทงทะลุช่องว่าง เผยให้เห็นเงาคนขึ้นมา

หนึ่งกระบี่นี้ของหลี่ชิเย่รวดเร็วเกินไปแล้ว คนที่กำลังหลอมกลั่นช่องว่างอยู่หลบไม่ทัน สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปมากทีเดียว

“ไป…” จังหวะที่คนผู้นี้ไม่สามารถหลบหนึ่งกระบี่นี้ได้นั้น เสียงที่เย็นชาและทุ้มต่ำได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง ปรากฏเตากลั่นหนึ่งเตาได้พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่สุดจะเทียบเทียม พุ่งเข้าชนกระบี่ยาวเล่มนั้นของหลี่ชิเย่ หวังจะช่วยชีวิตของคนที่หลอมกลั่นช่องว่างนั่น

ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น กระบี่ยาวแทงใส่เตากลั่นขนาดใหญ่จนสะเก็ดไฟแตกกระจาย น่าเสียดาย แม้ว่าเตาขนาดใหญ่นี้จะเป็นของวิเศษที่ฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่ง แต่ว่า ยังคงไม่สามารต้านหนึ่งกระบี่นี้ของหลี่ชิเย่เอาไว้ได้

กระบี่ยาวแทงทะละเตากลั่น ผู้ที่หลอมกลั่นช่องว่างเมื่อครู่ที่อยู่ด้านหลังเตากลั่น ดวงตาทั้งสองของเขาเบิกโพลง กระบี่ยาได้แทงทะลุคอหอยของเขา และเลือดสดๆ ค่อยๆ ไหลรินลงมา

ผู้เฒ่าที่ทำการหลอมกลั่นช่องว่านึกไม่ถึงเลยว่า แม้แต่บรรพบุรุษที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางลงมือช่วยเหลือเขาแล้ว ก็ช่วยเขาไว้ไม่ได้

“บรรพบุรุษหยงซี! ผู้นี้คือเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นหนึ่งล้านชาติของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางแล้ว” จิตใจของเทพแท้จริงขั้นอมตะถึงกับสะดุ้ง รู้สึกเสียวสันหลังวาบ เมื่อเห็นบรรพบุรุษผู้นี้ถูกหนึ่งกระบี่แทงทะลุคอหอย

“บรรพบุรุษหยงซี!” ผู้คนจำนวนเท่าไรต้องสะดุ้ง แม้ว่าเป้นผู้ที่ไม่เคยพบเห็นเขามาก่อน ก็เคยได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของเขา เขาคือหนึ่งในกลุ่มของบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง และเป็นบรรพบุรุษที่มีชื่อเสียงโด่งดังขอวระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร

ปังเสียงหนึ่งดังขึ้น เมื่อหลี่ชิเย่ชักกระบี่กลับมานั้น บรรพบุรุษผู้นี้กับเตากลั่นขนาดใหญ่ได้ร่วงลงพื้นอย่างแรง

หลี่ชิเย่เก็บกระบี่คืนกลับและวางบนตัก กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “คนของพวกเจ้าเหลืออยู่ไม่มากแล้ว” กล่าวพลางหลับตาลงช้าๆ

ทุกคนต่างรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ขณะมองชดูภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า เนื่องจากเวลานี้ศพที่กองสุมอยู่ด้านหน้าของหลี่ชิเย่กลายเป็นภูเขาไปแล้ว ยอดฝีมือทุกคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางที่บุกสังหารเข้ามา ล้วนแล้วแต่ถูกสังหารอยู่ที่ตรงนี้ทั้งหมด

ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ ตั้งแต่ต้นจนจบหลี่ชิเย่ก็จะนั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อน และมีเพียงกระบี่อยู่ในมือเพียงเล่มเดียวเท่านั้น ก็สังหารยอดฝีมือของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางที่บุกสังหารเข้ามาจนไม่เหลือแม้แต่คนเดียว

ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกขนลุกในใจ เหงื่อเย็นไหลซึมออกมาจากฝ่ามือ ในเวลานี้พวกเขาจึงได้ตระหนักอย่างแท้จริงแล้วว่า อะไรที่เรียกว่าเฝ้าด่านเพียงคนเดียว หมื่นคนก็บุกเข้าไปไม่ได้

เบื้องหน้าในขณะนี้ก็เป็นเช่นนั้น หลี่ชิเย่นั่งอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครสามารถก้าวข้ามไปได้แม้เพียงครึ่งก้าว

ในขณะนี้ กัวเจียหุ้ยได้แก้มัดให้กับหลี่เจี้ยนคุน หวังเสวียหง จ้าวจื้อถิงได้แล้ว ยังเหลืออีกสามคน

ทุกคนต่างหวั่นไหวในใจ มองไปด้านของธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลาง นาทีนี้ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางก็นั่งไม่ติดเสียแล้ว พลันลุกขึ้นยืนทันที

ในขณะนี้ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางจะไม่สะทกสะท้าน เนื่องจากยอดฝีมือของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางพวกเขาที่อยู่ตรงนี้ ถูกสังหารไปจนเหลืออยู่ไม่กี่คนแล้ว

………………………………………………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *