Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2792 เหล่าเวไนยสัตว์ก่อเกิดร่างแท้จริง

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2792 เหล่าเวไนยสัตว์ก่อเกิดร่างแท้จริง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2792 เหล่าเวไนยสัตว์ก่อเกิดร่างแท้จริง

หลี่ชิเย่ทำเหมือนมองไม่เห็นกับการตะโกนเสียงดังของบรรดาผู้คนเหล่านั้น เพียงมองด้วยท่าทีเฉยเมยแวบหนึ่งเท่านั้น กล่าวสำหรับตัวเขาแล้ว การตะโกนเสียงดังของบรรดาผู้คนเหล่านั้นมีหรือไม่มีก็ได้ เขาเป็นคนที่ไม่ต้องการให้ใครมาให้การยอมรับ และไม่แคร์กับการยอมรับของผู้คน

ในเวลานี้ หลี่ชิเย่เงยหน้ามองดูรูปแกะสลักที่ใหญ่โตมโหฬารยิ่งที่ตั้งอยู่ด้านหน้าตำหนักบรรพบุรุษ โดยรูปแกะสลักที่ใหญ่โตมโหฬารยิ่งก็คือผู้เฒ่าอมตะ ปฐมบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร เพียงแต่ใบหน้าของรูปแกะสลักดูสลัว ทำให้ผู้คนมองเห็นไม่ชัดเจน

รูปแกะสลักนี้หันหลังให้กับเวไนยสัตว์ แต่ทว่า เมื่อนั่งอยู่บนบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษนั้น เงยหน้าขึ้นมองจะอยู่ตรงหน้ากับรูปแกะสลักนี้พอดี แต่ว่า แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ยังคงไม่สามารถมองเห็นรูปหน้าของรูปแกะสลักนี้ได้อย่างชัดเจน ยังคงมองเห็นใบหน้าของมันได้ไม่ชัดเจน เนื่องจากใบหน้าของมันถูกสุดยอดวิธีการทำการปิดบังเอาไว้

หลี่ชิเย่มองดูรูปแกะสลักรูปนี้ มันเป็นลักษณะที่คุ้นเคยจนไม่รู้จะคุ้นเคยอย่างไรอีกแล้ว

ขณะที่หลี่ชิเย่มองดูรูปแกะสลักรูปนี้อยู่นั้น ผู้ที่อยู่ด้านล่างทั้งหมดต่างกลั่นลมหายใจเอาไว้ ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่กล้าส่งเสียงออกมา กระทั่งไม่กล้าหายใจแรง เกรงจะเป็นการรบกวนหลี่ชิเย่

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ หลี่ชิเย่ยังคงจ้องมองดูรูปแกะสลักรูปนี้ เหมือนว่าเวลาได้ตกลงสู่อดีต กาลเวลาไม่เคลื่อนคล้อยอย่างนั้น

ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่เข้าใจว่า รูปแกะสลักรูปนี้มีอะไรน่าดูอย่างนั้นเล่า ความจริงแล้ว รูปแกะสลักรูปนี้เคยมีผู้ที่จ้องมองดูมาเป็นร้อยเป็นพันครั้งแล้ว กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว รูปแกะสลักก็คือรูปแกะสลัก ไม่มีอะไรลึกซึ้งยอดเยี่ยมให้กล่าวขวัญถึง

ในขณะที่ทุกคนคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจอยู่นั้น ร่างกายของหลี่ชิเย่ค่อยๆ ลอยตัวขึ้นมาช้าๆ โดยร่างกายของเขาลอยเข้าหารูปแกะสลักที่มีขนาดใหญ่โตอย่างยิ่งรูปนั้น

รูปแกะสลักรูปนี้ดูเหมือนมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร ศีรษะยันท้องฟ้า เท้าเหยียบพื้นดิน เมื่อร่างกายของหลี่ชิเย่ค่อยๆ ลอยขึ้นนั้น เพียงชั่วพริบตาเดียวร่างของเขาก็ลอยขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้าสูง

ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทุกคนยังไม่ทันเข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทันใดนั้น รูปแกะสลักที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารรูปนี้พลันปะทุประกายที่ดั่งคลื่นที่บ้าคลั่งขึ้นมา อานุภาคของแสงเสมือนดั่งคลื่นยักษ์ลำแสงมหาประลัยที่พวยพุ่งขึ้นมาอย่างนั้น เหมือนว่าสามารถยิงจนเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาจนแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดีไปทั้งเมือง

อนุภาคลำแสงทั้งหมดพวยพุ่งออกมาโดยพลัน พวยพุ่งขึ้นมาและโปรยปรายไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร พวยพุ่งไปยังท้องฟ้า ยิงเข้าไปยังฟ้าดินที่กว้างใหญ่ไพศาลของแดนลัทธิเซียน

นาทีนี้เอง ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหว รูปแกะสลักที่สูงใหญ่มโหฬารรูปนี้พลันระเบิดพลังที่อำนาจที่สะเทือนเลื่อนลั่นขึ้นมา ภายใต้อำนาจที่สะเทือนเลื่อนลั่น อำนาจศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ดูเล็กจิ๋วอะไรอย่างนั้น อำนาจศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างเป็นได้แค่น้ำที่ไหลเอื่อยๆ เท่านั้นเอง

อำนาจปฐมบรรพบุรุษ! ไม่ผิด ในเวลานี้รูปแกะสลักรูปนี้ได้ระเบิดพลังอำนาจปฐมบรรพบุรุษออกมา นี่คืออำนาจปฐมบรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่และกว้างใหญ่ไพศาล และอำนาจปฐมบรรพบุรุษเช่นนี้หาใช่ที่ระเบิดขึ้นมาจากอาวุธปฐมบรรพบุรุษหรือของวิเศษอะไร อำนาจปฐมบรรพบุรุษที่ระเบิดขึ้นมาจากรูปแกะสลักรูปนี้ช่างบริสุทธิ์ และไม่มีสิ้นสุดอะไรอย่างนั้น

กล่าวได้ว่า ขณะที่อำนาจปฐมบรรพบุรุษระเบิดขึ้นมานั้น พลันทำให้ทุกคนล้วนแล้วแต่ตระหนักได้ว่าปฐมบรรพบุรุษยืนอยู่ตรงนั้น ปฐมบรรพบุรุษยังคงมีชีวิตอยู่

ปฐมบรรพบุรุษ…ในเวลานี้ ทุกคนล้วนแล้วแต่คุกเข่ากราบอยู่ตรงนั้น ไม่เพียงบรรดาศิษย์ผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดของเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาเท่านั้น ประชาราษฎร์มนุษย์ปุถุชนธรรมดาเท่านั้น แม้แต่ประชาชนทั้งหมดภายในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารล้วนแล้วแต่ทยอยกันคุกเข่ากราบอยู่ตรงนั้นด้วยความเคารพเต็มรูปแบบ ภายใต้อำนาจปฐมบรรพบุรุษที่บริสุทธิ์และไม่มีสิ้นสุดนี้

ปฐมบรรพบุรุษมายังโลกมนุษย์ นี่คือความรู้สึกอย่างหนึ่ง ในเวลานี้ทุกคนต่างรู้สึกว่าปฐมบรรพบุรุษได้ยืนอยู่ตรงหน้าของตนอย่างนั้น

“ปฐมบรรพบุรุษฟื้นคืนชีพแล้ว” ในเวลานี้ มีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่คุกเข่าก้มกราบอยู่บนพื้นได้เงยหน้าขึ้นมานั้น มองเห็นรูปแกะสลักขนาดใหญ่โตมโหฬารรูปนี้ถึงกับค่อยๆ ก้มหน้าลงต่ำ

ในขณะนี้ รูปแกะสลักขนาดใหญ่โตมโหฬารรูปนี้มีขนาดสูงใหญ่ที่สุด ร่างกายของมันมีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าที่จินตนาการเอาไว้เสียอีก มีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าร่างของรูปแกะสลักที่สามารถมองเห็นได้เสียอีก

ขณะที่แหงนหน้ามองนั้น เห็นเพียงปฐมบรรพบุรุษที่มีอำนาจสูงสุด มีสุริยันจันทราดวงดาวที่ล้วนแล้วแต่ติดตามถือกำเนิดขึ้นมาที่ด้านหลังศีรษะของเขา ฟ้าดินและสรรพสิ่งล้วนแล้วแต่วิวัฒนาการขึ้นจากสัจธรรมของเขา เหมือนว่าเขาคือผู้สรรสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง

ในเวลานี้ ปฐมบรรพบุรุษผู้นี้ไม่เพียงก้มหน้าลงต่ำเท่านั้น หน้าตาของเขาก็ดูชัดเจนขึ้น เป็นผู้เฒ่าที่ดูแปลกและไม่ติดนิสัยหยาบคาย ดวงตาคู่นั้นของเขาเปี่ยมด้วยสุดยอดสติปัญญาสูงสุด เหมือนว่าฟ้าดินสรรพสิ่งล้วนแล้วแต่อยู่ในดวงตาของเขา

ปฐมบรรพบุรุษ…ในเวลานี้ทุกคนต่างรู้ว่านี่หาใช่เป็นรูปแกะสลัก นี่คือผู้เฒ่าอมตะ ปฐมบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารของพวกเขา

ในขณะนี้ เหล่าอาณาประชาราษฎร์ได้คุกเข่าเต็มพื้นที่ไปหมดและจ้องมองดูผู้เฒ่าอมตะ ต่างน้ำตาไหลอาบแก้มอยู่ในเวลานี้

เวลานี้ ประกายปฐมบรรพบุรุษผู้นี้สูงนับหนึ่งล้านล้านล้านจ้าง ไม่เพียงส่องสว่างไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร กระทั่งได้ส่องสว่างไปทั่วฟ้าดินที่กว้างใหญ่ไพศาลทั้งหมด

ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารตั้งอยู่ ณ ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงจากดวงดาวที่ห่างไกลยิ่งนัก ในขณะนี้ เมื่อยืนอยู่ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงจากงดวงดาวซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลและมองไปข้างหน้านั้น ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารพลันเบ่งบานประกายที่เจิดจ้ายิ่งขึ้นมา และส่องสว่างท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงจากงดวงดาวนับล้านล้านผืนในทันที พลังปฐมบรรพบุรุษสูงสุดที่เป็นมาแต่อดีตถึงปัจจุบันพลันขยายไปถึงระหว่างฟ้าดิน ในเวลานี้ พลังที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารได้ได้ครอบคลุมเอาไว้นั้น ไม่สามารถครอบคลุมต่อไปได้อีกแล้ว

เนื่องจากที่นี่คือฟ้าดินที่เขาบุกเบิกขึ้นมา ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารล้วนสร้างขึ้นด้วยมือของเขาทั้งหมด ประชาราษฎร์นับล้านล้านล้วนแล้วแต่ดำรงชีวิตอยู่โดยอาศัยฟ้าดินผืนนี้

เป็นปฐมบรรพบุรุษผู้ใด…”นาทีนี้ ระดับปฐมบรรพบุรุษในแดนลัทธิเซียนถูกทำให้แตกตื่น ถึงกับตื่นตระหนกยิ่งนัก และกล่าวว่า “โลกนี้ยังคงมีระดับปฐมบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งปานนี้รั้งอยู่อีกรึ เป็นปฐมบรรพบุรุษผู้ใดกันแน่! ”

ในเวลานี้ มีระดับปฐมบรรพบุรุษของแดนลัทธิเซียนมองไปข้างหน้าถึงกับตื่นตระหนก เมื่อมองเห็นประกายที่เจิดจ้าอย่างยิ่ง

ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร ในเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขา นาทีนี้หลี่ชิเย่กับปฐมบรรพบุรุษผู้นี้ที่ตื่นขึ้นมาจ้องหน้ากัน นาทีนี้ ทั้งสองคนพลันก้าวข้ามกาลเวลา ทะลุผ่านอดีตกาล เหมือนว่าพวกเขาได้ก้าวเข้าไปอยู่ในยุคสมัยที่เก่าแก่โบราณอย่างยิ่ง มันเป็นยุคสมัยที่เต็มไปด้วยตำนาน

อาณาประชาราษฎร์จำนวนเท่าไรของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร ล้วนแล้วแต่คุกเข่าก้มกราบอยู่กับพื้น ภายใต้อำนาจปฐมบรรพบุรุษที่บริสุทธิ์และไม่มีสิ้นสุด อาณาประชาราษฎร์ทั้งหมดล้วนแล้วแต่แสดงความเคารพสูงสุด ภายใต้กลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษที่ตลบอบอวล ไม่รู้ว่ามีอาณาประชาราษฎร์จำนวนเท่าไรถึงกับน้ำตานองหน้าในขณะนี้ด้วยความตื่นเต้นยิ่งนัก ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เป็นเวลานาน

กล่าวสำหรับผู้คนจำนวนเท่าไร ชั่วชีวิตหนึ่งสามารถพบกับปฐมบรรพบุรุษได้คือเกียรติยศสุงสุด ชีวิตนี้ไม่มีคำว่าเสียใจอีกแล้ว

กาลเวลาเสมือนหนึ่งหยุดลงเช่นนี้แหละ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว หลี่ชิเย่ละสายตากลับมาส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “คล้ายมาก จะอย่างไรเสียก็ไม่ใช่” กล่าวจบ ร่างกายได้ลอยล่องลงมาช้าๆ

ครั้นหลี่ชิเย่ลอยกลับมายังบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษแล้ว ประกายบนตัวของปฐมบรรพบุรุษนี้ก็ค่อยๆ จางหายไป สุดท้าย เมื่อประกายทั้งหมดหายไปแล้ว เขาก็คือรูปแกะสลักรูปหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ได้เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย

เวลานี้ เมื่อเงยหน้ามองดูท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งอีกครั้ง เหมือนว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อน รูปแกะสลักยังคงตั้งตระหง่านอยู่ที่ตรงนั้น ยังคงเป็นเพียงรูปแกะสลักหินรูปหนึ่งเท่านั้น เหมือนว่ามันไม่เคยขยับตัวมาก่อนอย่างนั้น เหมือนหนึ่งความมั่งมีเงินทองเปรียบประดุจความฝันที่สั้นๆ และกลับกลายเป็นความว่างเปล่าเท่านั้น

นี่คือผลสำเร็จอันเกิดจากการวัฏสงสารชาติแล้วชาติเล่า” มีระดับปฐมบรรพบุรุษที่มองไปข้างหน้า แววตาลึกล้ำยากจะหยั่งถึง รู้สึกตื่นตระหนกในใจ และกล่าวว่า “ร่างจริงที่เกิดจากการรวมตัวกันโดนเหล่าเวไนยสัตว์ สัจธรรมเช่นนี้มีเพียงหนึ่งเดียวในหล้าเท่านั้น”

รูปแกะสลักรูปนี้หาใช่เป็นรูปแกะสลัก แต่ มันก็ไม่ใช่ผู้เฒ่าอมตะที่แท้จริง เพียงแต่ มันกลับมีพลังของปฐมบรรพบุรุษในครอบครอง

หลี่ชิเย่นั่งอยู่ตรงนั้น หลับตาพักผ่อนกายาเหมือนนอนหลับไปแล้วอย่างนั้น เนื่องจากเขารู้แล้วว่า นี่หาใช่เป็นผู้เฒ่าอมตะ อาจกล่าวได้ว่า เขาได้บรรลุวัตถุประสงค์ในการมายังเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาแล้ว นับว่าได้จบเรื่องภายในใจของเขาไปได้อีกเรื่องหนึ่ง

ไม่ว่ากล่าวสำหรับตัวเขา หรือว่าอมตะตระกูลเซียวแล้วมันก็เป็นเช่นนี้ จะอย่างไรเสียก็ได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้บนโลกใบนี้เอาไว้

ทุกคนที่คุกเข่าอยู่ตรงนี้ไม่สามารถเรียกสติกลับมาได้เป็นเวลานาน ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่รู้ถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมที่อยู่ภายใน ในใจของพวกเขาเข้าใจว่า เมื่อครู่เป็นการมาด้วยตนเองของปฐมบรรพบุรุษ ผู้เฒ่าอมตะ ปฐมบรรพบุรุษของพวกยังคงรั้งอยู่บนโลกมนุษย์

คารวะท่านปรมาจารย์…ในเวลานี้ ฮ่องเต้วิหารอมตะที่ได้สติกลับมาจากสะเทือนหวั่นไหว ได้คุกเข่ากับพื้นแสดงคารวะต่อหลี่ชิเย่เป็นการใหญ่

เมื่อฮ่องเต้วิหารอมตะกราบคารวะนำไปก่อน ทำให้บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ยังเหม่อลอยไม่ได้สติกลับมาต่างสะดุ้งในใจ เมื่อได้สติกลับมาแล้วต่างทยอยกันก้มกราบกับพื้นด้วยความเคารพสูงสุด

คารวะท่านปรมาจารย์…ในเวลานี้ บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดต่างส่งเสียงดังขึ้นมาพร้อมกัน ด้วยท่าทีเคารพนอบน้อมอย่างยิ่ง

ขณะหลี่ชิเย่ก้าวขึ้นนั่งบนบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษเมื่อครู่ แม้ว่าทุกคนต่างสนับสนุนให้หลี่ชิเย่ขึ้นสู่บัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษโดยไม่มีผู้ใดคัดค้าน สิ่งนี้หาใช่พวกเขาสยบทั้งกายและใจต่อหลี่ชิเย่

เพียงแต่พวกเขาสยบในอำนาจของหลี่ชิเย่ เกรงในความไร้เทียมทานของหลี่ชิเย่ จำเป็นต้องให้การยอมรับในฐานะของหลี่ชิเย่ ไม่อาจปฏิเสธสิทธิการขึ้นสู่บัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษของหลี่ชิเย่ เพียงเพราะความแข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรของหลี่ชิเย่เท่านั้น จึงสามารถสยบพวกเขาเอาไว้ทุกคน

แต่ว่า ในขณะนี้พวกเขาทุกคนต่างคุกเข่าก้มกราบอยู่กับพื้น ร้องเสียงดังขึ้นมาพร้อมกัน นี่เป็นการสยบทั้งกายและใจ แสดงคารวะสูงสุด

ในขณะนี้ที่พวกเขาคุกเข่าก้มกราบอยู่ตรงนั้น หาใช่เพียงเพราะความไร้เทียมทานของหลี่ชิเย่อีกแล้ว ยิ่งกว่านั้น พวกเขาต่างให้การยอมรับในตำแหน่ง และฐานะของหลี่ชิเย่

เมื่อครู่นี้ ปฐมบรรพบุรุษมาด้วยตนเอง และจ้องหน้ากับหลี่ชิเย่กันและกัน ในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา ศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารมีคนไหนบ้างที่ทำเช่นนี้ได้? มีศิษย์คนใดที่คู่ควรให้ปฐมบรรพบุรุษมาด้วยตนเอง? ไม่มี

มาวันนี้ หลี่ชิเย่ทำได้แล้ว ปฐมบรรพบุรุษมาด้วยตนเองเพียงเพราะต้องการเห็นหน้าเขาสักแวบหนึ่ง สิ่งนี้บ่งบอกว่าหลี่ชิเย่นั้นมีความปราดเปรื่องน่าทึ่งเพียงใด มีความหนึ่งไม่มีสองเช่นใด เขาได้รับการยอมรับจากปฐมบรรพบุรุษ

กล่าวสำหรับ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารแล้ว ยังจะมีเรื่องอะไรที่เป็นเกียรติมากยิ่งกว่าได้รับการยอมรับจากปฐมบรรพบุรุษ? ปฐมบรรพบุรุษคือผู้สรรสร้างระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร สามารถได้รับการยอมรับจากปฐมบรรพบุรุษก็คือได้รับการยอมรับจากฟ้าดินแห่งนี้ กระทั่งสามารถปกครองควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร

อาศัยการยอมรับลักณะเช่นนี้ ฐานะเช่นนี้ กำลังความสามารถเช่นนี้ นั่นย่อมเป็นการเพียงพอโดยสิ้นเชิงแล้ว ในเวลานี้ฐานะในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารของหลี่ชิเย่เรียกได้ว่าสูงสุดไร้ผู้เทียบเทียม ทำให้ทุกคนในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารสยบทั้งกายและใจ ให้ความเคารพสูงสุด

หลี่ชิเย่มองดูบรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่คุกเข่าอยู่ตรงนั้นทั้งหมด ไม่ได้มีท่าทีที่ตระหนกตกใจระคนกับความดีใจ และไม่ได้มีสีหน้าที่เบิกบานอย่างยิ่ง เพียงอยู่ในลักษณะที่เรียบเฉยเท่านั้นเอง

ความจริง กล่าวสำหรับเขาแล้วสิ่งเหล่านี้ล้วนไม่มีความสำคัญ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เล็กน้อยไม่คู่ควรจะกล่าวถึงเท่านั้น

“ลุกขึ้นเถอะ ที่นี่ไม่มีอะไรแล้ว ให้ท่านทั้งหลายแยกย้ายกันไป” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นช้าๆ

ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดที่คุกเข่ากราบอยู่ที่ตรงนี้ได้กราบคารวะอีกครั้งด้วยท่าทีเคารพนอบน้อมอย่างยิ่ง สุดท้ายจึงได้แยกย้ายกันไปเงียบๆ แม้ว่าที่ตรงนี้ได้มีผู้คนมาชุมนุมกันมืดฟ้ามัวดิน แต่ว่า ขณะที่พวกเขาแยกย้ายจากไปนั้น เงียบเชียบปราศจากเสียง ไม่กล้ารบกวนต่อหลี่ชิเย่

…………………………………………………………………………………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *