Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2826 หน้าไม่อาย

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2826 หน้าไม่อาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2826 หน้าไม่อาย

หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะทีหนึ่ง ขณะมองดูแววตาที่ละโมบและโลภของพวกเขา ตบไปที่กระบี่ล้างบาปเบาๆ และกล่าวว่า “พูดแบบนี้ แสดงว่าพวกเจ้ามาด้วยเรื่องกระบี่ล้างบาปเล่มนี้ของข้าน่ะสิ”

ในเวลานี้พวกอู๋เคอก็รู้สึกได้ว่าตนเองนั้นลืมตัวไป ชั่วดีอย่างไรพวกเขาก็มีชาติกำเนิดมาจากสำนักเจ้าลัทธิ ชั่วดีอย่างไรก็เป็นนักศึกษาของสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพ พวกเขาต่างก็เป็นบุคคลมีหน้ามีตามีเกียรติ

การที่จะบอกไปตรงๆ ว่าจะชิงกระบี่ล้างบาปของหลี่ชิเย่ออกจะเป็นการโจ่งแจ้งเกินไป หากข่าวนี้แพร่ออกไป จะทำให้พวกเขาต้องเสียชื่อเสียง

“พวกเรามาทวงความยุติธรรมให้กับพี่น้องติงยวี่” อู๋เคอทำไอกะเอมทีหนึ่ง กล่าวเสียงเย็นชาว่า “เจ้าอาศัยวิชามารหลอกลวงในเกมพนัน ไม่เพียงทำร้ายติงยวี่พี่น้องเราเท่านั้น ยังทำให้ชื่อเสียงของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์พวกเราเสียหาย ดังนั้น เรื่องนี้จะต้องมีการสืบสวน”

เวลานี้อู๋เคอพูดเสียเหมือนสง่าผ่าเผยยึดมั่นในความเป็นธรรม เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้มาด้วยเรื่องของกระบี่ล้างบาป พวกเขามาเพื่อผดุงความยุติธรรม

ถึงอย่างไรพวกเขาได้ทำการล้อมหลี่ชิเย่เอาไว้แล้วเวลานี้ ต่อให้หลี่ชิเย่ติดปีกก็บินหนีไปไม่ได้ เขาได้กลายเป็นเนื้อบนเขียงของพวกเขาแล้ว เวลานี้พวกเขาต้องการแสดงให้เต็มที่ เพื่อให้การใช้กำลังมีเหตุมีผล เป็นการใช้กำลังที่เพื่อคุณธรรม ไม่ใช่ประเภทเสเพล

“สายตาผู้คนจำนวนมาก ทุกคนต่างเห็นกับตาตนเอง เรื่องการหลอกลวงเอามาจากไหนกัน” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา

“พูดอยู่ฝ่ายเดียว!” อู๋เคอส่งเสียงฮึเย็นชา กล่าวเสียงเย็นชาว่า “ต้องเป็นเจ้าอาศัยวิชามารบดบังทุกคน มีใครบ้างที่สามารถเคาะทีเดียวเคาะเอาผลโอมขนขาวลงมาหลายสิบลูกได้? มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เกรงว่าราชันแท้จริงก็ทำไม่ได้ อาศัยเจ้า…” กล่าวพลางพิเคราะห์พิจารณาตัวของหลี่ชิเย่

ความหมายของอู๋เคอชัดเจนมาก อาศัยกำลังความสามารถของหลี่ชิเย่เป็นไปไม่ได้ที่สามารถเคาะผลโอมขนขาวรวดเดียวลงมาได้มากมายขนาดนี้ได้อยู่แล้ว

“ถูกต้อง ต้องเป็นการโกงแน่นอน” จางติงยวี่ร้องเสียงดังขึ้นมาทันที และกล่าวว่า “ชีวิตข้าเกลียดคนที่ขี้โกงมากที่สุด เรื่องนี้จะต้องมีการสอบให้กระจ่างชัด มิฉะนั้นล่ะก็ พวกเราสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพ กองทัพสัตว์เทพเทียนหรงจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ เด็ดขาด”

เวลานี้จางติงยวี่ไม่เพียงยกเอาสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพออกมา ยังยกเอากองทัพสัตว์เทพเทียนหรงขึ้นมา เพื่อเป็นสิ่งหนุนหลังให้กับตน และทำให้ตนเองมีความมั่นใจเต็มที่

กล่าวสำหรับจางติงยวี่แล้ว ต่อให้ตัวเขาเองไม่สามารถได้กระบี่ล้างบาปมา ก็ต้องระบายความแค้น คราวนี้ให้ได้

“แพ้ก็คือแพ้ หาข้ออ้างทำไม” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง

“ที่ตรงนี้หาใช่เจ้าพูดแล้วเป็นไปตามนั้น!” อู๋เคอกล่าวน่าเกรงขามขึ้นมาว่า “เรื่องนี้จะต้องสืบให้กระจ่างชัด ต้องมีคำอธิบาย มิฉะนั้นล่ะก็ ไม่เพียงแต่ข้าเท่านั้น แม้แต่กองทัพสัตว์เทพเทียนหรงทั้งหมดพวกเขาก็จะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ”

“ถ้าเช่นนั้น พวกเจ้าคิดจะทำอย่างไร?” หลี่ชิเย่ถึงกับเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่ลึกซึ้ง

เวลานี้พวกของอู๋เคอต่างมองตากันและกัน เมื่อเห็นว่าหลี่ชิเย่มีทีท่าจะยอมคล้อยตาม จึงส่งเสียงฮึเย็นชาและกล่าวว่า “ในเมื่อทุกคนต่างก็เป็นนักศึกษาของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ พวกเราก็จะเปิดใจกว้างขึ้นไม่ถึงกับต้องตัดรากถอนโคน ให้เจ้ามีทางหนีทีไล่บ้าง”

“ข้าตั้งใจฟังอยู่” รอยยิ้มของหลี่ชิเย่ดูลึกซึ้งยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ถ้าหากคนที่เข้าใจในตัวของหลี่ชิเย่ต่างก็รู้ว่า เมื่อรอยยิ้มของเขายิ่งลึกซึ้งเท่าไร ก็แสดงว่าต้องมีคนตายอย่างแน่นอน และอาจมีความเป็นไปได้ว่าไม่ได้ตายเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ตายเป็นกลุ่มใหญ่

“ข้อแรก เจ้าจะต้องยอมรับว่าตัวเองหลอกลวง ข้อสอง ยอมรับผิดกับพี่น้องติงยวี่…” ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้อู๋เคอได้มองดูจางติงยวี่ทีหนึ่ง

“ให้เขาคลานอยู่ตรงนี้สิบรอบ เลียนเสียงเห่าสุนัข” จางติงยวี่ร้องเสียงดังขึ้นมาทันที ดวงตาทั้งสองเผยประกายโหดร้ายขึ้นมา ท่าทางหน้าตาดูบิดเบี้ยวเหมือนมีความรู้สึกสะใจที่จะได้แก้แค้นยิ่งใหญ่อย่างนั้น

คำพูดของจางติงยวี่พลันทำให้พวกของจ้าวชิวสือต่างโกรธเคืองเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับจ้องมองจางติงยวี่ด้วยความโกรธ ถ้าหากพวกเขาสามารถเอาชนะจางติงยวี่ได้ล่ะก็ ต้องวิ่งเข้าไปจัดการตบปากจางติงยวี่จนแตกเละแน่นอน

อะแอ่ม…เวลานี้อู๋เคอทำเป็นไอขึ้นมา และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเถอะ พวกเราต่างก็เป็นคนสุภาพใช่ไม่ใช่? ข้าตัดสินเอง เจ้าคุกเข่าก้มกราบรับผิดต่อพี่ติงยวี่ก็แล้วกัน”

สิ่งนี้ใช่ว่าเป็นเพราะอู๋เคอมีจิตใจที่ดีงาม แต่เป็นเพราะเขาเกรงว่าเป็นการบีบคั้นหลี่ชิเย่มากเกินไป เวลานี้เขาต้องการให้หลี่ชิเย่ยอมรับผิด ทำให้เขามีความชอบธรรมในการใช้กำลัง และชอบด้วยเหตุผลในการยึดครองเอากระบี่ล้างบาปมาเป็นของตน ถ้าหากไปบีบคั้นหลี่ชิเย่เกินไป ทำให้เขาสู้จนตายไปข้างหนึ่ง ก็จะทำลายแผนของเขาไป

“นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว ยังมีอีกไหม?” หลี่ชิเย่เอ่ยถามด้วยท่าทียิ้มแต้

“ข้อที่สามน่ะหรือ…” อู๋เคอหยุดนิดหนึ่งเมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้ มองดูกระบี่ล้างบาปที่อยู่บนหลังของหลี่ชิเย่ทีหนึ่งอย่างมีความหมายที่ลึกซึ้ง กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “เจ้าเองก็สมควรเข้าใจ พวกเจ้าให้พี่น้องติวยวี่คลานและเลียนเสียงเห่าของสุนักต่อหน้าผู้คนทั่วหล้า มันช่างเป็นการทำให้ต้องอับอายมากเช่นใด เป็นการสร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงโดยส่วนตัวของเขา ชื่อเสียงของสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพมากมายเท่าไร ดังนั้น สิ่งนี้เจ้าจะต้องมีการชดใช้”

“…พวกเราใช่ว่าเป็นผู้ที่ทำอะไรไร้เหตุผล ไม่ได้ให้เจ้าคุกเข่ายอมรับผิดกับพี่น้องติงยวี่ต่อหน้าผู้คนทั่วหล้า แค่ให้เจ้ายอมรับผิดเป็นการส่วนตัวเท่านั้น” ท่าทางของอู๋เคอเหมือนเป็นผู้ที่มีความเมตตาอย่างนั้น และกล่าวว่า “ดังนั้น เจ้าจะต้องมีการชดใช้ค่าเสียหาย แบบนี้ถึงจะกู้ชื่อสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพของพวกเราคืน”

“พวกเจ้าต้องการอะไรเป็นค่าชดใช้เล่า?” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้และกล่าวขึ้น

“กระบี่ล้างบาป…” จางติงยวี่ร้องกล่าวเสียงดังขึ้นมา “มอบกระบี่ล้างบาปออกมาละเว้นชีวิตเจ้า มิฉะนั้นแล้ว ถึงเวลานั้นเจ้าจะต้องตายอย่างทุเรศมาก!”

อู๋เคอส่งเสียงไอกระแเอมทีหนึ่ง และกล่าวว่า “เจ้าได้ยินคำพูดของพี่น้องติวยวี่แล้วสิ เขาคือผู้เสียหาย ความเจ็บปวดที่เขาได้รับพวกเราไม่กล้าตัดสินแทนเขา ในเมื่อเขาต้องการกระบี่ล้างบาปเป็นสิ่งชดใช้ ก็ให้กระบี่ล้างบาปเป็นสิ่งชดใช้ก็แล้วกัน”

“พูดมาครึ่งค่อนวัน” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะเสียงดังขึ้นมา และกล่าวว่า “ในที่สุดพวกเจ้ายังคงมาด้วยเรื่องของกระบี่ล้างบาป ขี้โกงอะไร ทวงคืนความยุติธรรมอะไรนั่น ทั้งหมดล้วนไม่มีน้ำหนักเท่ากับอาวุธปฐมบรรพบุรุษเล่มหนึ่ง พวกเจ้ายอมรับมาตรงๆ ว่าถูกอาวุธปฐมบรรพบุรุษนี้ยั่วยวนก็พอแล้ว”

ครั้นหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วได้มองพวกเขาทีหนึ่ง หัวเราะ ส่ายหัว และกล่าวว่า “พวกเจ้าสมัครเข้าหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ทำเอาหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ขายหน้าไปสิ้น ต่อไปนี้ออกไปอย่าบอกว่าตัวเองเป็นนักศึกษาของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ อย่างน้อยที่สุดปราชญ์ไกลกันดารไม่มีชนรุ่นหลังจอมปลอมเช่นพวกเจ้า”

“อย่าทำเป็นเหล้าคารวะไม่ดื่ม ดื่มเหล้าปรับแทน!” สีหน้าของอู๋เคอพลันดูเย็นชา ส่งเสียงดังขึ้นมาเมื่อเห็นหลี่ชิเย่ไม่ได้มีท่าทีจะยอมรับผิดเอาเสียเลย

“อยากฟังความเห็นของข้าหรือไม่?” หลี่ชิเย่มองดูพวกเขาด้วยท่าทียิ้มแต้ และกล่าวว่า “เวลานี้ข้าขอเตือนพวกเจ้าด้วยความหวังดี ถือโอกาสเวลานี้คุกเข่าโขกศีรษะยอมรับผิดต่อข้า บางทีข้าอาจจะมีเมตตาใจอ่อนขึ้นมาแล้วละเว้นชีวิตพวกเจ้า มิฉะนั้น…” เมื่อพูดมาถึงตรงนี้แล้วถึงกับเผยรอยยิ้มที่ลึกซึ้งขึ้นมา

“เจ้าคนไม่รู้จักคำว่าตาย…” จางติงยวี่ถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมาและกล่าวน่าเกรงขามขึ้นว่า “เจ้ารู้หรือเปล่าว่าเจ้ากำลังเผชิญหน้ากับใคร? พี่อู๋เคอคือคนของกองทัพสัตว์เทพเทียนหรง กองทัพสัตว์เทพเทียนหรงคือกองทัพที่ปราศจากผู้ต่อกรภายใต้บัญชาของราชันหญิงจื่อหลง เกรียงไกรมาแล้วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน เจ้าหากรู้จักกาลเทศะก็มอบกระบี่ล้างบาปออกมาเสียแต่โดยดี มิฉะนั้นล่ะก็จะให้เจ้าตายทั้งเป็น…”

“กองทัพสัตว์เทพเทียนหรงอะไร ราชันหญิงจื่อหลงอะไร” หลี่ชิเย่หัวเราะและส่ายหน้า มองดูพวกเขาแวบหนึ่ง และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “แค่พวกที่มีแต่ชื่อเสียงจอมปลอมกลุ่มหนึ่งเท่านั้นเอง ถือโอกาสตอนนี้โขกศีรษะยอมรับผิดต่อข้า ละเว้นพวกเจ้าไม่ต้องตาย มิฉะนั้นล่ะก็ จะเป็นกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงอะไร ราชันหญิงจื่อหลงอะไรนั่น กล้าหาเรื่องข้า ข้าก็จะจัดการสังหารจนสิ้นไม่มีเหลือ”

“เขาคงไม่เสียสติไปแล้วกระมัง” นักศึกษาบางส่วนที่อยู่ด้านหลังภูเขาเมื่อได้ยินคำพูดที่อวดดีเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ พวกเขาต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน และกล่าวว่า “เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครนะเนี่ย คิดว่าสถาบันศึกษาล้างบาปของตนอยู่ในฐานะอะไร? ถึงกับหาญกล้าบอกว่าจะเข่นฆ่าสิ้นกองทัพสัตว์เทพเทียนหรง? ถึงกับกล้าบอกว่าจะสังหารราชันหญิงจื่อหลง เป็นการเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่เสียแล้ว”

ยังไม่ต้องพูดถึงกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงว่าเป็นอย่างไร ลำพังแค่ราชันหญิงจื่อหลงก็เป็นที่เคารพยำเกรงยิ่งของผู้คนจำนวนมาก นางเพียงผู้เดียวก็สามารถกวาดล้างสิ้นทั้งกองทัพ

เวลานี้หลี่ชิเย่ถึงกับออกปากว่าจะเข่นฆ่ากองทัพสัตว์เทพเทียนหรง สังหารราชันหญิงจื่อหลง ถ้าหากคำพูดเช่นนี้ถูกแพร่ออกไป จะต้องมีคนคิดว่าเขาเสียสติไปแล้ว!

“วาจาสามหาว…” สีหน้าของอู๋เคอเปลี่ยนไปมากทีเดียว ดวงตาทั้งสองพลันดูดุดันน่าเกรงขาม เผยปณิธานการฆ่า และร้องกล่าวเสียงดังขึ้นมาว่า “พูดจาเหยียดหยามราชันหญิงโทษสมควรตายหมื่นครั้ง เพียงพอที่จะต้องประหารเก้าชั่วโคตร!”

เสียงตึงดังขึ้น ในเวลานี้อู๋เคอชักกระบี่ออกมาในมือ และชี้หน้าไปที่หลี่ชิเย่ เผยปณิธานการฆ่าขึ้นมา

อู๋เคอกล่าวน่าเกรงขามว่า “สวรรค์มีทางเจ้าไม่ไป นรกไร้ประตูเจ้ากลับจะบุกเข้ามา เดิมข้ามีคุณธรรมเมตตาต่อสรรพชีวิต ในใจมีเจตนาดี ไว้ชีวิตเจ้าสักครั้ง จะทำอย่างไรได้เมื่อเจ้าออกปากหยามราชันหญิง วันนี้เจ้าจะต้องตายไม่ว่าใครก็ช่วยเจ้าไม่ได้!”

เวลานี้หลี่ชิเย่พลันออกปากหยามถึงราชันหญิงจื่อหลง อู๋เคอไม่ต้องอ้อมค้อมหาเหตุผลอีกแล้ว การที่เขาลงมือสังหารหลี่ชิเย่เป็นการสมเหตุสมผลโดยสิ้นเชิง ขอเพียงสังหารหลี่ชิเย่ได้แล้ว กระบี่ล้างบาปก็จะเป็นหมูในอวยแล้ว

“ทำไมรึ เจ้าคิดจะศึกษาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันกับข้ารึ?” หลี่ชิเย่มองดูกระบี่ที่ชี้ตรงมาที่ตน กล่าวยิ้มแต้ขึ้นมา

“สามกระบวนท่าสังหารเจ้าได้แน่” แววตาทั้งสองของอู๋เคอเผยปณิธานการฆ่า และกล่าวน่าครั่นคร้ามขึ้นมา

หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “สามกระบวนท่า? ช่างเถอะ หนึ่งกระบวนท่าก็แล้วกัน พวกเจ้าทั้งหมดเข้ามาพร้อมๆ กันก็แล้วกัน ข้าหนึ่งกระบี่ฆ่าพวกเจ้าจนสิ้น”

พลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ พวกของอู๋เคอถึงกับดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง คิดว่าตนเองนั้นฟังผิดไป

“เจ้าหนูนี่เสียสติไปแล้วรึ?” แม้แต่บรรดานักศึกษาที่ดูชมอยู่ในที่ที่ห่างไกลก็รู้สึกว่าเหลือเชื่อ ดวงตาแต่ละคู่เบิกกว้างมาก

“ฮ่า ฮ่า ฮ่าไอ้หนู เจ้าคงไม่ใช่เสียจริตไปแล้วกระมั้ง?” จางติงยวี่ถึงกับหัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ชี้นิ้วไปที่หลี่ชิเย่ว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังความสามารถของพี่อู๋เคอเป็นอย่างไรหรือไม่? เขาคือระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ ชั้นที่ห้าเลยนะ ส่วนพี่น้องคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ด้อยกว่ากันสักเท่าไร? ฮ่า ฮ่าเจ้าถึงกับกล้าบอกว่าจะสังหารพวกเขาในหนึ่งกระบี่ เจ้าคนที่ไม่รู้จักคำว่าตาย! พวกเขาสังหารเจ้าในหนึ่งกระบี่ค่อยยังชั่ว”

แม้แต่พวกของจ้าวชิวสือก็ถูกทำให้ตกใจยิ่งนัก การที่หลี่ชิเย่บอกว่าจะสังหารพวกอู๋เคอทุกคนในกระบี่เดียวนั้น นับเป็นการกล่าววาจาที่สามหาวเกินไปจริงๆ

“แค่พวกชื่อเสียงจอมปลอมกลุ่มหนึ่งเท่านั้น” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง ท่าทางอย่างไรก็ได้ และกล่าวว่า “สังหารพวกเจ้าในหนึ่งกระบี่ยังไม่ต้องให้ข้าลงมือ แค่กระบี่ล้างบาปเล่มนี้ก็เพียงพอแล้ว” กล่างพลาง ชักกระบี่ล้างบาปออกมาช้าๆ

ตึง…เมื่อกระบี่ล้างบาปถูกชักออกมาช้าๆ ในเวลานี้กระบี่ล้างบาปได้เปล่งประกายศักดิ์สิทธิ์วูบวาบ ประกายทุกๆ สายล้วนแล้วแต่ช่างสูงส่งศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์อะไรอย่างนั้น เหมือนว่าหนึ่งกระบี่นี้สำแดงออกไปสามารถโปรดทุกสิ่งทุกอย่างได้

…………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *