Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2868 รับมือธนูเจ้าสามดอก

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2868 รับมือธนูเจ้าสามดอก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2868 รับมือธนูเจ้าสามดอก

ในเวลานี้ นักศึกษาทั้งหมดต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ ในทัศนะของนักศึกษาทั้งหมดมองว่า ในฐานะที่เป็นราชันแท้จริง ใครบ้างล่ะที่สามารถกล้ำกลืนความอัปยศนี้ไว้ได้

มีราชันแท้จริงคนไหนบ้างที่ไม่ใช่ผู้ที่ทรงอำนาจและอิทธิพล? มีราชันแท้จริงคนไหนบ้างที่ไม่ใช่มีอำนาจสยบทั่วหล้า? มาวันนี้ต้องถูกหลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงนักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปคนหนึ่งยั่วยุเช่นนี้ เกรงว่าไม่ว่าจะเป็นราชันแท้จริงคนไหนก็ตาม ก็ต้องตบเขาจนตายภายใต้หนึ่งฝ่ามือ!

“นักศึกษาหลี่…” เวลานี้ ราชันแท้จริงงูหลามทองได้พูดขึ้นมาแล้ว เขาเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “การมาที่นี่ของพวกเราในวันนี้ ไม่ได้ต้องการทะเลาะกันด้วยอารมณ์ และไม่ได้ต้องการอาศัยปากเก่ง…”

นักศึกษาจำนวนไม่น้อยแอบยกนิ้วหัวแม่โป้งให้ลับๆ เมื่อได้ยินคำพูดของราชันแท้จริงงูหลามทอง มีนักศึกษาที่ทอดถอนใจขึ้นมาว่า “ราชันแท้จริงย่อมเป็นราชันแท้จริง ความใจกว้างเช่นนี้ของราชันแท้จริงงูหลามทองไหนเลยที่นักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปคนหนึ่งสามารถเทียบเคียงได้ ความใจกว้างเช่นนี้ของราชันแท้จริงงูหลามทองช่างกว้างขวางใหญ่โตเพียงใด”

นักศึกษาจำนวนไม่น้อยทยอยกันพยักหน้า มีนักศึกษาที่เยาะเย้ยและกล่าวว่า “เมื่อเปรียบเทียบกับความใจกว้างของราชันแท้จริงงูหลามทองแล้ว ความอวดดียโสและยกตนข่มท่านเช่นนี้ของหลี่ชิเย่แล้ว ออกจะหยาบคายตื้นเขินแล้ว”

“ที่พวกเรามาวันนี้ก็เพื่อนกสาลิกาสันติภาพ” เวลานี้ จ้องเขม็งไปที่รังนกนกสาลิกาสันติภาพที่อยู่ด้านหลังหลี่ชิเย่ ที่ถูกต้องมากกว่าคือจ้องเขม็งไปที่ไข่นกทั้งสี่ใบที่อยู่ภายในรังนก

ราชันแท้จริงงูหลามทองกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ในเมื่อรังนี้มีไข่นกถึงสี่ใบ นักศึกษาหลี่ใยจะต้องอมไว้เองทั้งหมดเล่า? ไข่นกสาลิกาสันติภาพสี่ใบข้าขอแค่หนึ่งใบก็พอแล้ว หวังว่านักศึกษาหลี่สามารถให้อภัย เพื่อส่งเสริมข้าบ้าง”

“ถูกต้อง” ราชันแท้จริงเคอะสือก็พยักหน้าเห็นด้วย พวกเขามาเพื่อไข่นก นกสาลิกาสันติภาพ ไม่ได้มาเพื่อทะเลาะกันด้วยอารมณ์ ที่สำคัญมากที่สุดในขณะนี้ก็คือ ได้รับการแบ่งปันไข่นก

“ภายในรังมีไข่นกอยู่สี่ใบ” ราชันแท้จริงเคอะสือกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “พวกเราสามคนแบ่งกันไปคนละใบ นักศึกษาหลีสามารถนำเอาไข่นกที่เหลืออีกหนึ่งใบกับนกสาลิกาสันติภาพอีกสองตัวไปได้ โดยที่พวกเราจะไม่ทำให้ต้องลำบากใดๆ อย่างสิ้นเชิง”

“คำพูดนี้ปราศจากปัญหาใดๆ” บรรดานักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพยักหน้า เมื่อได้ยินคำพูดของราชันแท้จริงเคอะสือกับราชันแท้จริงงูหลามทอง ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกว่ามีเหตุผล

เวลานี้ ในรังของนกสาลิกาสันติภาพมีไข่นกอยู่สี่ใบ พวกของราชันแท้จริงงูหลามทองสามคนเอาไปคนละใบ เหลือให้หลี่ชิเย่ใบหนึ่ง และให้เขาพาตัวนกสาลิกาสันติภาพไปได้ ข้อเรียกร้องเช่นนี้ไม่ได้เกินเลยไปในสายตาของทุกคน

“พวกราชันแท้จริงเคอะสืออารมณ์ดี จิตใจกว้างขวาง ราชันแท้จริงย่อมเป็นราชันแท้จริง นับว่าหาใช่รุ่นเราที่จะเทียบเคียงได้โดยแท้” บรรดานักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนไม่น้อยต่างทยอยกันชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง เมื่อเห็นว่าราชันแท้จริงเคอะสือและราชันแท้จริงงูหลามทองล้วนแล้วแต่จิตใจที่กว้างขวางเช่นนี้

หลี่ชิเย่มองดูพวกของราชันแท้จริงงูหลามทองสามคนทีหนึ่ง หัวเราะทีหนึ่งและกล่าวว่า “คนละหนึ่งใบ? พวกเจ้าคิดมากไปแล้ว ทั้งหมดนี้ ข้าเอาหมดไม่มีส่วนของพวกเจ้า”

“มากเกินไปแล้ว ฮึแบบนี้ออกจะยกตนข่มท่านมากเกินไปแล้ว” บรรดานักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์พลันรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดนี้ของหลี่ชิเย่ มีนักศึกษาที่อดจะส่งเสียงฮึน่าเกรงขามขึ้นมาไม่ได้

“เจ้าคนแซ่หลี่ก็เป็นเสียแบบนี้แหละ มองข้ามความหวังดีของผู้อื่น ไว้หน้าให้แล้วแต่ไม่เอา คอยดูสิว่าเขาจะตายอย่างไรก็แล้วกัน!” มีนักศึกษาที่เหยียดหยาม และกล่าวน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมา

ราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทอง และเทพธนูม้าบิน พวกเขาต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะราชันแท้จริงเคอะสือกับราชันแท้จริงงูหลามทอง สีหน้าของพวกเขาทั้งสองคนพลันดูน่าเกรงขามขึ้นมาทันที

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ชั่วดีอย่างไรพวกเขาก็เป็นราชันแท้จริงคนหนึ่ง อย่าว่าแต่ในหอจรัสศักดิ์สิทธิ์เลย ทอดสายตามองออกไปทั่วทั้งแดนลัทธิเซียน พวกเขาก็นับว่าเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะมีระดับ

เรียกว่าการที่พวกเขาขอแค่ไข่นกใบหนึ่ง นับเป็นการปฏิบัติด้วยความสุภาพอ่อนกโยนแล้ว และพวกเขานับว่ามีจิตใจที่กว้างขวางมากแล้ว เวลานี้หลี่ชิเย่ถึงกับยกตนข่มท่าน ไม่เห็นว่าพวกเขามีอะไรดีอย่างสิ้นเชิง แล้วจะให้พวกเขากล้ำกลืนความอัปยศได้อย่างไรกันเล่า

ภาษิตว่าเอาไว้ว่า ต่อให้เป็นตุ๊กตาดินก็ยังมีอารมณ์โกรธอยู่สามส่วน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเขา ในเวลานี้ พวกของราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองต่างมีสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร ปรากฏประกายเยือกเย็นเต้นวูบวาบในดวงตาทั้งสองของพวกเขา

“เจ้าหนู เจ้าออกจะกำแหงมากเกินไปแล้วกระมัง!” ดวงตาทั้งสองของเทพธนูม้าบินดูดุดันน่าเกรงขาม ร้องกล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา

จะไปโทษเทพธนูม้าบินอดกลั้นอารมณ์ไม่ได้ก็ไม่ถูก ก่อนหน้านั้นเขาได้เสียทีด้วยฝีมือของหลี่ชิเย่มาแล้ว แม้ว่าเรื่องนี้ไม่มีบุคคลภายนอกรับรู้ แต่เขามองว่ามันเป็นเรื่องอัปยศอย่างยิ่ง การผูกความแค้นกับหลี่ชิเย่เวลานี้ เรียกได้ว่าเป็นความแค้นใหม่บวกความชังเดิม!

“ถูกต้อง คำพูดเมื่อครู่นั่นแหละ ข้ากำแหงเช่นนี้ แล้วจะทำไม?” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่งและมองดูเทพธนูม้าบินแวบหนึ่ง “ทำไมรึ? เจ้าไม่พอใจหรือ? คราวก่อนไม่ได้เผาก้นเจ้าจนกลายเป็นสเต็กหมู ไม่ใช่สิ ต้องเป็นสเต็กม้า อ้อไม่เลวนี่สเต็กม้านับว่าเป็นเมนูใหม่”

คำพูดของหลี่ชิเย่พลันทำให้เทพธนูม้าบินถึงกับมีสีหน้าที่แดงก่ำ ทำให้เขาต้องโกรธจนตัวสั่น คราวก่อนเขาถูกเปลวไฟของหลี่ชิเย่เผาไหม้จนต้องวิ่งหนีกระเซอะกระเซิง แต่ว่า เรื่องนี้นอกเหนือจากลูกน้องของเขาแล้วไม่มีใครรู้เห็นอีกเลย

เวลานี้หลี่ชิเย่พูดออกมาต่อหน้าทุกคน มันคือการแกะแผลภายในใจของเขาชัดๆ แล้วจะไม่ให้เทพธนูม้าบินโกรธจนตัวสั่นได้อย่างไรเล่า

“เจ้าเดรัจฉานน้อย กล้ารับธนูข้าสักหลายดอกหรือไม่!” เทพธนูม้าบินไม่สามารถระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป ก้าวออกมาและกล่าวเสียงดังขึ้นมา

โดยปรกติแล้วกล่าวสำหรับเทพธนูม้าบินนั้น เขาเคยเกรงกลัวใครเสียเมื่อไหร่? ในฐานะที่เป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นสิบล้านชาติ กำลังความสามารถเหนือกว่าพวกราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองเสียอีก เพียงพอที่เขาจะหมางเมินทั่วหล้า เพียงพอให้เขาได้เกรียงไกรไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน เวลานี้กลับถูกหลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงผู้เยาว์ทำให้ต้องได้รับความอัปยศ จะไม่ให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้อย่างไรเล่า

“อาศัยเจ้าน่ะหรือ?” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง จ้องมองเทพธนูม้าบินนิดหนึ่ง และกล่าวว่า “เจ้าแค่เทพแท้จริงล้านชาติยังฝืนๆ อยู่เลย ยังจะเข้าใจว่าตนเองนั้นเป็นเทพแท้จริงสิบล้านชั้นอย่างนั้นรึ? ”

“เจ้า…” เทพธนูม้าบินพลันมีสีหน้าที่แดงก่ำ สุดท้าย เขาได้พูดน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้านี่แหละสามารถทำความเร็วได้ถึงระดับของเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นสิบล้านชาติ!”

เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้ เขาได้เน้นย้ำคำว่า ‘เทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นสิบล้านชาติ’ เป็นพิเศษ

บรรดานักศึกษาบางส่วนที่ไม่เข้าใจเรื่องนี้มาก่อนได้มองตากันและกัน เมื่อได้ยินคำพูดของเทพธนูม้าบิน

“อ๋อที่แท้ก็คือความเร็วอาจจะถึงระดับนั้นเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “พูดอยู่ตั้งนาน ยังคงเป็นการคุยโม้ แค่ล้านชาติก็เต็มกลืนแล้ว แต่โอ้อวดเป็นสิบล้านชาติ กองทัพสัตว์เทพเทียนหรงอะไรของพวกเจ้าล้วนแล้วแต่ชื่นชอบการคุยโม้อย่างนั้นรึ?”

“เจ้า…” เทพธนูม้าบินถูกยั่วโมโหจนตัวสั่น ใบหน้าแดงก่ำ พูดอะไรไม่ออกอยู่นาน

แท้จริงแล้ว กำลังความสามารถของเทพธนูม้าบินไม่ได้ก้าวถึงระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นสิบล้านชาติอย่างแท้จริง เขาแค่ได้รับการยกย่องจากผู้คนประโยคหนึ่งว่า “ความเร็วได้ก้าวถึงระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นสิบล้านชาติแล้ว” เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงมีผู้เที่ยวโพทนาว่าเขาคือระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นสิบล้านชาติคนหนึ่ง

เทพธนูม้าบินเองก็ไม่ได้ไปแก่ต่างสำหรับคำกล่าวลักษณะเช่นนี้เป็นพิเศษ เมื่อเป็นดังนี้ ทุกคนจึงเข้าใจว่าเทพธนูม้าบินคือระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นสิบล้านชาติแล้ว

เวลานี้ ถูกหลี่ชิเย่เปิดโปงต่อหน้าทุกๆ คนถึงคำโกหกนี้ สร้างความอึดอัดให้กับเทพธนูม้าบินเป็นอย่างมากทีเดียว! จะอย่างไรเสีย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเทพธนูม้าบินรู้สึกมีความสุขกับการถูกผู้อื่นยกย่องให้เป็น “ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นสิบล้านชาติ” อย่างยิ่ง เวลานี้กลับถูกหลี่ชิเย่เปิดโปงต่อหน้าผู้คนทั่วหล้า เป็นการทำให้เทพธนูม้าบินต้องอับอายอย่างชัดแจ้ง

“เจ้าเดรัจฉานน้อย กล้ารับธนูข้าสักหลายดอกหรือไม่!” เวลานี้ เทพธนูม้าบินร้องเสียงดังขึ้นมา ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้น คันธนูในมือของเขาส่งเสียงคำรามขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีการยิง โดยได้เปล่งกลิ่นอายที่ดุเดือดรุนแรงขึ้นมา ย่อมไม่ต้องสงสัยว่าคันธนูนี้เป็นอาวุธร้ายแรงอย่างหนึ่ง

ในเวลานี้ ทุกคนต่างจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ แม้ว่าระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นสิบล้านชาติของเทพธนูม้าบินผู้นี้ดูไม่ค่อยจะสมดังคำเล่าลือ แต่ว่า ฉายาเทพธนูของเขานั้น เป็นของจริงแท้แน่นอน

“รับธนูเจ้าหลายดอกแล้วอย่างไร?” หลี่ชิเย่ไม่ได้ใส่ใจอย่างสิ้นเชิง ยิ้มนิดหนึ่ง และกล่าวว่า “ข้าไม่ต้องใช้อาวุธ ยืนให้เจ้ายิงไปตามอารมณ์ เจ้าก็ยิงไม่ถูก”

“เจ้าหนูนี่เสียสติไปแล้วรึ?” นักศึกษาทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างงงงัน เมื่อได้ฟังคำพูดหลี่ชิเย่ที่อวดดีถึงเพียงนี้

แม้แต่พวกของจ้าวชิวสือก็ถูกทำให้ตกใจยิ่งนัก ต่อให้กำลังความสามารถระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นสิบล้านชาติของเทพธนูม้าบินจะไม่เป็นความจริง แต่ว่า ฉายาเทพธนูของเขาไม่เป็นเท็จแม้แต่น้อย!

ไม่ว่าจะเป็นในด้านวิชายิงธนู หรือด้านความเร็ว เทพธนูม้าบินก็ได้ชื่อว่าเป็นระดับสุดยอดในยุคปัจจุบัน เวลานี้หลี่ชิเย่ถึงกับบอกว่าจะยืนให้เขาได้ยิงตามใจชอบ มันเป็นการอวดดีมากเกินไปแล้ว

“ฮึเจ้าคนที่ไม่เจียมตัว เขายังไม่เคยรู้จักกับสุดยอดวิชายิงธนูของเทพธนูม้าบินกระมัง” มีนักศสึกษาที่หัวเราะเยาะ

นักศึกษารุ่นพี่ก็รู้สึกว่าคำพูดของหลี่ชิเย่ดูจะเกินเลยไป ส่ายหน้าและกล่าวว่า “ถ้าหากเขาลงมือด้วยกระบี่ล้างบาป ไม่แน่อาจสามารถต้านธนูของเทพธนูม้าบินเอาไว้ได้ แต่ว่า หากจะบอกว่ายืนแล้วปล่อยให้เทพธนูม้าบินยิงไปตามอารมณ์ล่ะก็ เป็นการรนหาที่ตายชัดๆ”

“เป็นตัวเขาที่รนหาที่ตายเอง จะไปโทษใครได้เล่า” นักศึกษาบางคนกล่าวเหยียดหยาม

“ดี ดี ดี…” เทพธนูม้าบินโกรธจัดจนต้องหัวเราะออกมา และกล่าวว่า “ข้าเข้าสู่ยุทธภพนานขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าให้ข้ายิงได้ตามอารมณ์ ดี ดี ดี คนหนุ่มมีพลังที่น่าเคารพเลื่อมใส! ข้านี่แหละจะดูว่าเจ้ามีฝีมือสักแค่ไหน หากข้าไม่สามารถสังหารเจ้าได้ จะหันหลังไปทันทีและไม่เป็นศัตรูกับเจ้าชั่วชีวิต”

“น่าเสียดาย รอให้เจ้ามีโอกาสไปจากที่นี่ก่อนแล้วค่อยว่ากัน” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง

“ดี เจ้ารับธนูข้าสามดอก สามดอกผ่านไป สุดแต่ฟ้าลิขิต!” ในขณะนี้ เทพธนูม้าบินโกรธจัดจนหัวเราะขึ้นมา และร้องกล่าวเสียงดัง

“สามดอกก็สามดอก” หลี่ชิเย่มีท่าทีตามอารมณ์ และกล่าวว่า “หลังจากสามดอกแล้ว ข้าคืนให้เจ้าหนึ่งดอก ถ้าหากเจ้ารับเอาไว้ได้ แสดงว่าเจ้าโชคดี”

“มีหรือจะไม่กล้า” เทพธนูม้าบินร้องกล่าวเสียงดังขึ้นมา

กล่าวสำหรับเทพธนูม้าบินแล้ว นับตั้งแต่เขาเข้าสู่ยุทธภพเป็นต้นมาก็อาศัยวิชายิงธนูเป็นใหญ่ใต้หล้า วิชายิงธนูของเขายากจะหาผู้ใดเทียมในหล้า ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงได้รับฉายาว่าเป็นเทพธนู

คนอื่นดูแคลนในฝีมือด้านอื่นๆ ยังพอรับได้ แต่ หลี่ชิเย่ดูถูกฝีมือยิงธนูของตน เขาจะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้อย่างไร

เวลานี้ แม้แต่พวกราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองต่างจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ พวกเขาต้องการดูว่าหลี่ชิเย่มีฝีมือเช่นใดกันแน่ ถึงกับทำให้เขาอวดดีได้ถึงเพียงนี้

ในสายตาของราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองมองว่า ถ้าหากหลี่ชิเย่เพียงอาศัยกระบี่ล้างบาปและอวดดีล่ะก็ ย่อมไม่น่าห่วงสักเท่าไร

เวลานี้เทพธนูม้าบินจะลงมือกับหลี่ชิเย่ สิ่งนี้กล่าวสำหรับราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองแล้ว ถือเป็นโอกาสอันดีอย่างไม่ต้องสงสัย ให้เทพธนูม้าบินเป็นผู้ทดสอบกำลังความสามารถที่แท้จริงของหลี่ชิเย่ก็ดีเหมือนกัน

“เจ้าหนู เตรียมตัวพร้อมแล้วยัง ข้าจะยิงแล้วนะ” เวลานี้ เทพธนูม้าบินร้องกล่าวเสียงดังขึ้นมา

แม้ว่าเขาจะผูกความเป็นศัตรูกับหลี่ชิเย่อยู่ แต่ว่า จะอย่างไรเสียก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง ก่อนลงมือยังคงมีความเปิดเผยและยึดมั่นในความเป็นธรรม และไม่ลอบโจมตี

…………………………………………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *