Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2870 ทะเลธนู

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2870 ทะเลธนู at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2870 ทะเลธนู

ธนูหาใช่ธนูอีกต่อไป แต่เป็นทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาล ทันใดนั้นโลกทั้งโลกได้ถูกทะเลธนูท่วมจนจมมิด ช่างเป็นที่สะเทือนจิตใจผู้คนอะไรอย่างนั้น ช่างเป็นที่หวาดหวั่นพรั่นพรึงแก่ผู้คนมากมายอย่างนั้น

ธนูหนึ่งดอกสามารถสยบจิตวิญญาณของผู้คนได้ แต่ว่า ทะเลธนูทั้งหมดเล่า? ธนูนับล้านล้านดอกเสมือนดั่งทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาลไหลท่วมเข้ามา ช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากมาย

ภายใต้ทะเลธนูที่กว้างใหญ่ไพศาลเช่นนี้ เจ้าไม่สามารถหนีไปไหนได้ ทำให้ไม่รูว่าควรจะต่อต้านอย่างไร แม้จะเป็นโล่วิเศษที่แข็งแกร่งเช่นใด ระบบป้องกันที่สูงและหนามากกว่านี้ก็ตาม ภายใต้การยิงถล่มที่ไม่มีสิ้นสุดของทะเลธนูเช่นนี้ก็ต้องถูกทำลาย และยิงจนทะลุ

ด้วยสภาพที่น่ากลัวเช่นนี้ได้ทำให้ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกใจหายใจคว่ำ แม้แต่ราชันแท้จริงงูหลามทอง ราชันแท้จริงเคอะสือก็อดที่จะรู้สึกหวาดเสียวในใจไม่ได้

ในฐานะที่เป็นราชันแท้จริง ภายในใจของพวกเขาที่มีต่อเทพธนูม้าบินจะมากหรือน้อยรู้สึกไม่เป็นเช่นนั้น สิ่งนี้หาใช่พวกเขาดูถูกกำลังความสามารถของเทพธนูม้าบิน และไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเทพธนูม้าบินที่หน้าใหญ่ใจโต ไม่ได้มีความสามารถระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นสิบล้านชาติ แต่กลับบอกว่าตนเองนั้นมีความสามารถระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นสิบล้านชาติให้ได้

ภายในใจของราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองจะมากหรือน้อยก็ย่อมไม่เห็นด้วย สำหรับพฤติกรรมาของเทพธนูม้าบินกับเกียรติที่จอมปลอม

แต่ว่า เมื่อมองเห็นทะเลธนูที่ดั่งคลื่นยักษ์ตรงหน้า มองเห็นทะเลธนูที่สามารถถล่มทุกอย่างจนละเอียด สามารถยิงทะลุทุกสิ่งทุกอย่างได้แล้ว ราชันแท้จริงเคอะสือก็ดี ราชันแท้จริงงูหลามทองก็ช่างในเวลานี้พวกเขาต่างรู้สึกหวั่นไหวในใจ และเกิดความรู้สึกนับถือขึ้นมา

แม้ว่าจะเป็นความจริงที่กำลังความสามารถของเทพธนูม้าบินได้ถึงขั้นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นสิบล้านชาติก็ตาม แต่ว่า ด้วยวิชาธนูที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ด้วยวิชายิงธนูที่ยากจะหาผู้ใดเทียมในหล้า ลำพังพูดถึงเรื่องของวิชายิงธนูแล้ว เป็นความจริงที่เขาได้ก้าวถึงระดับความสูงของเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นสิบล้านชาติแล้ว

ท่ามกลางเสียงตูม ตูม ตูมที่ดังตูมตาม ลูกธนูนับล้านล้านดอกได้ยิงสังหารลงมา อย่าว่าแต่ยุงหรือแมลงวันเลย ที่ที่ทะเลธนูยิงใส่ ทุกอย่างล้วนถูกบดขยี้จนกลายเป็นผง

ยิ่งพื้นพสุธาด้วยแล้ว ภายใต้ทะเลธนูลักษณะเช่นนี้ก็ต้องถูกยิงถล่มจนแหลกไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

ไม่รู้ว่ามีนักศึกษาจำนวนเท่าไรที่ร่างสั่นเทา ขาทั้งสองข้างอ่อนแรงจนไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง ภายใต้การคำรามของทะเลธนู หากทะเลธนูลักษณะเช่นนี้ยิงถล่มเข้ามา ตนเองต้องกลายเป็นหมอกเลือดไปทันทีอย่างแน่นอน

สุดท้าย เสียงดังตูมตามได้สงบลง ธนูนับไม่ถ้วนของทะเลธนูก็ถูกยิงลงมาทั้งหมด ที่ตรงนั้นได้กลายเป็นเหมือนป่าที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้เตี้ยมีหนาม

ทุกคนที่ได้เห็นภาพนี้แล้วต่างรู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมา

“เกรงว่าคงตายไปแล้วกระมัง” มีผู้เอ่ยเสียงแผ่วเบาขึ้นมา เมื่อมองเห็นพื้นแผ่นดินที่ถูกยิงจนแตกไม่มีชิ้นดี ถูกยิงจนพรุนไปหมด

ไม่ว่าใครก็ตามต่างมองว่า ภายใต้ทะเลธนูเช่นนี้จะต้องถูกยิงจนกลายเป็นแม่นแน่นอน กระทั่งอาจเป็นไปได้ว่าถูกยิงจนกลายเป็นหมอกเลือด หายวับไปกับตาในพริบตา

“เกรงว่าคงถูกยิงจนกลายเป็นหมอกเลือดและหายวับไปกับตาในพริบตาเดียวไปแล้วกระมัง” มีนักศึกษาได้มองหาตัวหลี่ชิเย่ ท่ามกลางป่าที่เต็มไปด้วยไม้พุ่มเตี้ยมีหนามเช่นนี้ดูจะไม่เป็นเรื่องง่ายดายเลย

“คงไม่เป็นอะไรกระมัง” พวกนักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปอย่างจ้าวชิวสือถึงกับใจเต้น จะอย่างไรเสียหนึ่งธนูเมื่อครู่ช่างมีอานุภาพที่รุนแรงและน่ากลัวมากเหลือเกิน ทะเลธนูที่ไม่ขาดสาย ต่อให้ระดับเทพแท้จริงที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ก็ยากจะหนีความตายไปได้พ้น

“ดูสิ อยู่ตรงนั้น…” ในเวลานี้ มีนักศึกษาที่ตาดีได้มองเห็นร่างเงาของหลี่ชิเย่แล้วในที่สุด และร้องเสียงดังขึ้นมา

ทุกคนมองตามไป เห็นหลี่ชิเย่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น เหมือนว่าเขาไม่เคยขยับตัวเลยตั้งแต่ต้นจนจบ และไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย แม้ว่าทะเลธนูยิงสังหารลงมาทั้งหมด แต่ว่า ไม่มีธนูศักดิ์สิทธิ์ดอกหนึ่งดอกใดสร้างความบาดเจ็บให้เขาได้แม้แต่น้อย

ในเวลานี้ทุกคนต่างมองเห็นหลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางทะเลธนูดูเอ้อระเหยไม่สะทกสะท้านอะไรอย่างนั้น คล้ายกำลังเดินเล่นช้าๆ ท่ามกลางฝนฟ้าคะนอง แต่ฝนฟ้าคะนองดังกล่าวกลับไม่สามารถทำให้เสื้อของเขาเปียกแม้แต่น้อย ช่างสบายอกสบายใจไม่สะทกสะท้าน เอ้อระเหยไม่สะทกสะท้าน

“นี่ นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไร…” มองดูหลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ตรงนั้น เหมือนไม่ได้ขยับตัวเลยแม้แต่น้อย ทุกคนจึงไม่อยากจะเชื่อ รู้สึกว่าชั่วร้ายมากเหลือเกิน

“เป็นไปไม่ได้…” เทพธนูม้าบินถึงกับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากทีเดียว และรู้สึกหวาดผวาจนก้าวถอยหลังไปหลายก้าว

กล่าวได้ว่า เขามั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในธนูดอกนี้ของตน อย่าว่าแต่เป็นราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทอง ต่อให้เป็นราชันแท้จริงที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ เขาก็มีความมั่นใจว่าสามารถทำให้ต้องล่าถอยภายในหนึ่งธนู

แต่ว่า เวลานี้ภายใต้ทะเลธนูที่ดั่งคลื่นยักษ์และไม่มีสิ้นสุดของตน หลี่ชิเย่ยังคงเอ้อระเหยไม่สะทกสะท้านยืนอยู่ที่ตรงนั้น ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือเขาไม่ได้ขยับตัวแม้แต่นิดเดียว

นี่มันเหมือนเป็นวิชามารชัดๆ ชั่วร้ายถึงขีดสุดทีเดียว

ในเวลานี้ ราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองสองคนถึงกับจ้องมองตากันและกัน ท่าทีหนักแน่นจริงจังขึ้นมาโดยพลัน เนื่องจากตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเขาก็ไม่ได้มองเห็นชัดเจนว่าหลี่ชิเย่มีท่าร่างอย่างไรกันแน่ และพวกเขาก็มองไม่ออกว่าหลี่ชิเย่อาศัยวิธีการที่ลึกซึ้งยอดเยี่ยมเช่นใดกันแน่ ถึงสามารถอยู่รอดปลอดภัยท่ามกลางทะเลธนูเช่นนี้ได้

การที่จะอยู่อย่างเอ้อระเหยไม่สะทกสะท้านเช่นนี้ท่ามกลางทะเลธนูเช่นนี้นั้น เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน

“ธนูดอกนี้ยังดูเข้าท่านิดหนึ่ง” หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นยิ้มเรียบเฉย และกล่าวว่า “เสียดาย ยังคงขาดความชำนาญอยู่นิดหนึ่ง ว่าไม่ได้ ธนูดอกนี้นับว่ามีท่าทางของความเป็นเทพธนูอยู่นิดหนึ่ง”

เมื่อเทพธนูม้าบินถูกหลี่ชิเย่ยั่วเย้าเช่นนี้ถึงกับมีสีหน้าที่ดูไม่จืด สิ่งที่เขาภูมิใจมากที่สุดไม่ใช่อย่างอื่น คือวิชาธนูนั่นเอง แต่ว่า เวลานี้กลับถูกหลี่ชิเย่พูดเสียไร้ค่า!

แต่ว่า ในขณะเดียวกันนี้ ลูกตาดำของเทพธนูม้าบินถึงกับหดตัว เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เขาไม่เคยพานพบมาก่อน เขาเคยปะมือกับราชันแท้จริงคนอื่นๆ ภายใต้ธนูหนึ่งดอกของเขา ต่อให้เป็นราชันแท้จริงที่แข็งแกร่งก็รับมือด้วยท่าทางที่กระเซอะกระเซิงอยู่บ้าง ราชันแท้จริงที่สามารถเอาตัวรอดไปได้อย่างปลอดภัยนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะที่แข็งแกร่งมากทั้งสิ้น

แต่ว่า หลี่ชิเย่กลับเอ้อระเหยเหมือนเดินเล่นในสวนหลังบ้านภายใต้ทะเลธนูของเขา มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

“ขาดอีกดอก” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ และกล่าวว่า “ข้าก็จะคารวะเจ้าดอกหนึ่ง หนึ่งดอกต่อหนึ่งดอก เจ้ามีความมั่นใจหรือไม่?” เทพธนูม้าบินถึงกับอึดอัดหายใจไม่ออก ต้องก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวเมื่อหลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา

หากเป็นอดีต มีใครบอกว่าจะประลองยิงธนูกับเขา ไม่ว่าจะเป็นราชันแท้จริงเช่นใดก็ตาม กระทั่งเป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลเขาก็มีความมั่นใจเดิมพันด้วย เรื่องวิชาธนูนั้นเทพธนูม้าบินมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมตลอดมา จะอย่างไรเสีย เขาได้ขลุกอยู่กับสิ่งนี้มาชั่วชีวิต เขามั่นใจว่าในด้านวิชาธนูไม่มีผุ้ใดสามารถเทียบเคียงเขาได้

เวลานี้ หลี่ชิเย่ถึงกับต้องการประลองเรื่องธนูกับเขาขึ้นมากะทันหัน พลันทำให้ภายในใจของเขาชาดความมั่นใจ ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร ในขณะนี้ เขารู้สึกว่าหลี่ชิเย่ที่อยู่ตรงหน้าเปี่ยมด้วยอำนาจประหลาดที่ทำให้คนต้องลุ่มหลง ชั่วร้ายสุดๆ ลางสังหรณ์บอกเขาว่า เขาต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัยกับการประลองเรื่องธนูกับหลี่ชิเย่

“ประลองยิงธนู…” นักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน วิชายิงธนูของเทพธนูม้าบินเป็นที่ทราบกันดีทั่วหล้า เวลานี้หลี่ชิเย่ถึงกับต้องการประลองยิงธนูกับเขา ดูเหมือนจะไร้เหตุผลไปนิดหนึ่ง

“ทำไมจะไม่กล้า…” เทพธนูม้าบินร้องกล่าวเสียงทุ้มต่ำออกไป เดินไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ยืดอกและร้องกล่าวว่า “ประลองก็ประลองสิ กลัวที่ไหนกัน”

ขณะที่เทพธนูม้าบินยืดอกขึ้นสูงนั้น ภายในใจของเขาเวลานี้ไม่มีความมั่นใจเลย เขาไม่รู้เหมือนกันว่าหนึ่งธนูนี้จะเป็นเช่นใด แต่ว่า ในเวลานี้เขาไม่มีทางเลือก และเขายิ่งไม่สามารถหนีไปเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้

ตัวเขาในฐานะที่เป็นเทพธนู ถ้าหากไม่กล้าประลองแม้กระทั่งกับหลี่ชิเย่ เขาไม่เพียงแต่แพ้ให้กับหลี่ชิเย่เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นเขายังแพ้ให้กับตัวเอง ต่อให้เขามีชีวิตไปจากที่นี่ได้ เขาก็จะถูกครอบงำอยู่ภายใต้เงาทมิฬเช่นนี้ ไม่อาจโงหัวขึ้นมาได้อีก และไม่สามารถกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง

“ดี กล้าหาญดี เริ่มต้นได้” ลักษณะของหลี่ชิเย่ ดูจะตามอารมณ์ยิ่งนัก และยิ้มทีหนึ่ง

เทพธนูม้าบินส่งเสียงฮึเย็นชา และก้าวเดินไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ในมือกำคันธนู และ*สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง รวบรวมสติและพลังเอาไว้

ในขณะนี้ ราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองพวกเขาก็กลั้นลมหายใจเอาไว้เพื่อมองดูภาพที่อยู่ตรงหน้าเช่นกัน เนื่องจากเวลานี้พวกเขาก็ต้องการทราบว่าหลี่ชิเย่มีกำลังความสามารถแข็งแกร่งเช่นใดกันแน่

นาทีนี้ พวกเขาก็เข้าใจได้ว่า มันจะเป็นธนูดอกสุดท้ายของเทพธนูม้าบิน เข้าจะต้องทุ่มต่อสู้อย่างเต็มที่แน่นอน ในเวลานี้บางทีอาจสามารถรับรู้ถึงตื้นลึกหนาบางของหลี่ชิเย่ได้

แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น มองเห็นรอบกายเทพธนูม้าบินปรากฏประกายบางๆขึ้นมา ประกายแต่ละสายตั้งตรงขึ้น เหมือนเป็นธนูแต่ละดอกที่ล้อมรอบเทพธนูม้าบินอย่างนั้น เหมือนว่าธนูแต่ละดอกเหล่านี้ได้กลับกลายเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กเพื่อเอาไว้ป้องกัน มันคือแนวธนูป้องกันของเทพธนูม้าบินนั่นเอง

“ธนูนั้นเป็นการวัดดวงไปเลย การโจมตีก็คือการป้องกันที่ดีที่สุด” หลี่ชิเย่จ้องมองเทพธนูม้าบินทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ยังไม่ทันลงมือก็ป้องกัน พลังแหลมคมได้อ่อนลงแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องวิชาธนูอีก!”

พลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ ในใจของเทพธนูม้าบินสะดุ้งทีหนึ่ง ตัวเขาในฐานะที่เป็นเทพธนู ย่อมเข้าใจลึกซึ้งถึงแก่นของวิชาธนู และบรรลุความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของวิชาธนูจนหมดสิ้น คำพูดของหลี่ชิเย่ได้พุ่งเข้าไปยังจุดที่อ่อนแอที่สุดภายในใจของเขา เหมือนธนูแหลมคมพลันยิงถูกหัวใจของเขาโดยพลันอย่างนั้น

เทพธนูม้าบินถึงกับก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง รู้สึกสะท้านภายในใจ

หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง และก้าวเท้าขวาออกไป ในมือง้าวคันธนู และกล่าวว่า “คันธนูอยู่ในมือข้าแล้ว ลูกธนูพร้อม”

ทุกคนทยอยมองตามไป เห็นในมือของหลี่ชิเย่นั้นว่างเปล่า ไม่ได้มีคันธนู และลูกธนูในมืออยู่แล้ว เป็นเพียงการตั้งท่าน้าวสายเท่านั้นเอง

ทว่า เมื่อหลี่ชิเย่แสดงลักษณะท่าทางเช่นนี้ขึ้นมา ในใจของเทพธนูม้าบินถึงกับสั่นเทาทีหนึ่ง และก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว

“เป็นไปไม่ได้…” เทพธนูม้าบินถึงกับร้องเสียงหลง ดวงตาคู่นั้นเบิกกว้างมากๆ เมื่อมองเห็นท่าทางเช่นนี้ของหลี่ชิเย่

นักศึกษาโดยทั่วไปมองไม่ออกถึงเส้นสนกลใน แต่ว่าราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองพวกเขาสองคนถึงกับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป แพ่งสายตาไปข้างหน้า จ้องมองท่าทางเช่นนี้ของหลี่ชิเย่

“มีธนูในใจ…” พวกของราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองสองคนถึงกับจ้องตากันและกัน เมื่อมองเห็นท่าทีเช่นนี้

ในเวลานี้ เทพธนูม้าบินก็เหม่อลอย กล่าวพึมพำขึ้นว่า “สรรพสิ่งล้วนมีธนู!”

บุคคลภายนอกมองนัยยะไม่ออก แต่ว่าเทพธนูม้าบินกับรู้ดีถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมที่อยู่ภายใน ท่าทางของหลี่ชิเย่เป็นท่าทางที่เขาตามหามาโดยตลอด ในใจของเขามองว่านี่คือลำดับชั้นสูงสุดของวิชาธนู นั่นก็คือ สรรพสิ่งมีธนู

ขณะที่ตัวเขาในฐานะที่เป็นเทพธนู ยังห่างไกลจากระดับนี้อยู่ช่วงหนึ่ง

…………………………………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *