ตอนที่ 2880 มังกรจรัสทองคำ

ได้ยินเสียงปุ ปุ ปุดังขึ้น มองเห็นช่องว่างภายในหุบเขาป่าสนบิดเบี้ยว ช่องว่างทั้งช่องเสมือนดั่งยุบตัวลงไป เหมือนช่องว่างทั้งช่องกลายเป็นกรวยกรอกน้ำอย่างนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ลื่นตกลงไปในช่องว่างที่บิดเบี้ยวช่องนี้

สุดท้าย ได้ยินเสียงสั่นสะเทือนดังปุ ช่องว่างดังกล่าวเหมือนขยายตัวขึ้นในพริบตาเดียว ก่อนหน้านั้นช่องว่างยังคงหดตัวบุ๋มลึกลงไป แต่ว่า นาทีต่อมาช่องว่างกลับขยายตัวคล้ายมีสิ่งที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารเบียดเข้ามายังพื้นที่นี้อย่างนั้น พลันทำให้พื้นที่นี้ถูกอัดจนแน่นเต็มพื้นที่อย่างนั้น

ท่ามกลางเสียงปุที่ดังขึ้น พลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรได้พุ่งโจมตีเข้ามา ป่าเขาโดยรอบ และภูเขาถูกพลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรพุ่งเข้าปะทะจนแหลกละเอียดไป

“ปรากฏตัวออกมาแล้ว…” ในเวลานี้ ทั้งเทพแท้จริงเป่าหยวน ราชันแท้จริงงูหลามทอง ราชันแท้จริงเคอะสือสามคนมีดวงตาที่เบิกกว้างมองไปข้างหน้าในทันที

ในขณะนี้ หุบเขาป่าสนได้หายไปแล้ว ที่ยืนอยู่ด้านหน้าราชันแท้จริงจินผู่คือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีขนาดสูงใหญ่ยิ่งตัวหนึ่ง

“นั่นไม่ได้นอนหลับใหลอยู่ใต้พื้นดิน แต่นอนหลับใหลอยู่ภายในช่องว่าง” พวกของราชันแท้จริงงูหลามทองพลันเข้าใจได้ในทันที เมื่อเห็นหุบเขาป่าสนได้หายไปแล้ว โดยสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ไม่ได้นอนหลับใหลอยู่ใต้พื้นดิน แต่นอนหลับใหลอยู่ภายในส่วนที่ลึกเข้าไปภายในช่องว่าง

“มิน่าเล่ากลิ่นอายสัตว์สายนั้นเมื่อครู่จึงเหมือนมีเหมือนไม่มี ที่แท้มันไม่ได้อยู่ในช่องว่างนี้” ในขณะนี้ราชันแท้จริงเคอะสือเข้าใจถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมที่อยู่ภายในแล้ว

“เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งมากตัวหนึ่ง” เวลานี้พวกเทพแท้จริงเป่าหยวน ราชันแท้จริงงูหลามทองจ้องมองไปยังสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้น ต่างรู้สึกตกใจ และแอบใจหายใจคว่ำอยู่ในใจ

เวลานี้ ปรากฏสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าราชันแท้จริงจินผู่ หากพูดถึงขนาดของตัวมันแล้ว สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้มีขนาดสูงใหญ่อย่างแท้จริง แต่ว่า หากพูดถึงภายในสวนดึกดำบรรพ์แห่งนี้แล้ว สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ไม่เห็นจะมีขนาดใหญ่สักเท่าไร

สมควรทราบว่า บรรดาสัตว์ขนาดยักษ์ที่อยู่ภายในสวนลึกดำบรรพ์แล้วอย่างต่ำก็ต้องยาวเป็นพันลี้ สูงเป็นหมื่นจ้าง หากมากว่านั้นก็คือมีขนาดใหญ่มากกว่านี้

เมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาสัตว์ขนาดยักษ์เหล่านั้นแล้ว สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยุ่ตรงหน้าดูจะเล็กไปนิดหนึ่ง กระทั่งเรียกได้ว่าเป็นเพียงจุดเล็กๆ จุดหนึ่งเท่านั้น

แต่ทว่า ไม่ว่าใครก็ตามเมื่อมองเห็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้แล้ว ต่างรู้สึกสะดุ้งในใจทั้งสิ้น! เนื่องจากนี่คือมังกรประหลาดตัวหนึ่ง!

เจ้ามังกรประหลาดตัวนี้มีสีทองทั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นกรงเล็บที่แหลมคมหรือว่าเกล็ดของมัน ล้วนแล้วแต่เป็นสีทองเจิดจ้า ทุกๆ ตารางนิ้วล้วนแล้วแต่เหมือนหล่อขึ้นมาจากทองคำทั้งสิ้น

ขาทั้งสองข้างของมังกรประหลาดตัวนี้ขณะยืนพื้นมีขนาดใหญ่และกำยำ ดูไปแล้วคล้ายเป็นเสาทองคำยักษ์สองต้นอย่างนั้น มังกรประหลาดตัวนี้ดูไปแล้วมีร่างกายที่คล้ายสิงโต แต่มีหัวเป็นมังกร มีหางที่ยาวมาก ส่วนปลายของหางเป็นลักษณะของลูกตุ้มแลดูมีน้ำหนักมากเหลือเกิน

นอกเหนือจากนี้ หลังมังกรประหลาดตัวนี้ยังมีปีกด้านซ้ายขวาอยู่คู่หนึ่ง แต่ว่า มันไม่ใช่ปีกธรรมดา มันคือปีกแสงคู่หนึ่ง ขณะที่ปีกแสงคู่นี้กางออกสามารถบดบังท้องฟ้าเอาไว้ทั้งหมด และปีกแสงยังพวยพุ่งแสงสว่างที่มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่งออกมา

แสงสว่างศักดิ์สิทธิ์ที่พวยพุ่งออกมาจากปีกแสงนั้น ขณะที่พวกมันทิ้งตัวลงมาคล้ายเป็นเสาแสงสว่างศักดิ์สิทธิ์แต่ละแท่งอย่างนั้น เหมือนเป็นตราสัญลักษณ์แสงสว่างที่ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกนับถือขึ้นมา

“เป็นมังกรประหลาด…” เทพแท้จริงเป่าหยวนถึงกับเอ่ยขึ้นเมื่อมองเห็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้

“นี่ไม่ใช่มังกรประหลาดทั่วไป” ราชันแท้จริงงูหลามทองรู้สึกตระหนกในใจ และกล่าวว่า “นี่คือมังกรจรัสทองคำ มีจิตวิญญาณความเป็นจรัสแต่กำเนิด หาใช่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์วทั่วไปสามารถเทียบเคียงได้”

“ถูกต้อง คือมังกรจรัสทองคำ” ราชันแท้จริงเคอะสือก็รู้สึกตกใจอย่างยิ่ง และกล่าวว่า “ข้าเคยได้ยินมาก่อน เล่าลือกันว่าภายในสวนสัตว์ศักดิ์สิทธิ์มีมังกรจรัสทองคำตัวหนึ่งอยู่จริงๆ แต่ว่า ไม่เคยมีใครพบเห็นมันมาก่อน ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกคนต่างเข้าใจว่านี่เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาเท่านั้นเอง มาวันนี้ดูท่าข่าวลือในอดีตจะเป็นความจริง”

ฮือออ…ในเวลานี้เอง มองเห็นเพียงมังกรจรัสทองคำส่งเสียงคำรามเสียงยาวขึ้นมา เสียงคำรามเสียงยาวลักษณะเช่นนี้ดังก้องไปทั่วฟ้าดิน สั่นคลอนไปทุกแดน เสียงมังกรคำรามดังก้องไม่ขาดสาย เสมือนดั่งสะเทือนหวั่นไหวหมื่นอาณาจักรอย่างนั้น

ภายใต้เสียงคำรามเสียงยาวของมังกรจรัสทองคำ สร้างความแตกตื่นไปทั่วสวนสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่เสียงคำรามมังกรขึ้นลงสลับนั้น ไม่ทราบว่ามีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์จำนวนเท่าไรในสวนสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ต้องเข่าอ่อนทั้งสองข้าง ทั้งหมดคุกเข่ากราบกับพื้นเหมือนเป็นการเข้าเฝ้าผู้เป็นอ๋องอย่างนั้น

ในขณะเดียวกัน ภายในสวนดึกดำบรรพ์ได้มีเสียงตูม ตูม ตูมดังตูมตามขึ้นเป็นระลอก มองเห็นภูเขาแต่ละลูกที่อยู่ภายในสวนดึกดำบรรพ์พังถล่มลงมา น้ำในแม่น้ำลำคลองแต่ละสายที่พลุ่งพล่าน จากเสียงที่ตังตูมตามขึ้นมาเป็นระลอกนี้ สัตว์ยักษ์ดึกดำบรรพ์แต่ละตัวได้ฟื้นตื่นขึ้นมา

ณ บริเวณที่ภูเขาล้มครืนลงนั้น มีสิงโตเพศผู้ที่สูงใหญ่ ณ หมื่นจ้างได้สะบัดร่างกาย มองไปยังทิศทางที่มังกรจรัสทองคำอยู่และส่งเสียงคำรามเสียงดังทีหนึ่ง และทำความเคารพ

บริเวณที่น้ำทะเลพลุ่งพล่านมีมังกรเจียวหลงที่ยาวเป็นพันลี้ตัวหนึ่งได้ขดตัว และส่งเสียงคำรามเสียงยาว มองไปยังทิศทางที่มังกรจรัสทองคำอยู่แสดงความเคารพทีหนึ่ง

……

ในเวลานี้ ภายในสวนดึกดำบรรพ์มีสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์แต่ละตัวที่แข็งแกร่งยิ่งฟื้นคืนชีพขึ้นมา พวกมันต้องการแสดงความเคารพต่อมังกรจรัสทองคำ หรือไม่ก็ก้มกราบต่อมังกรจรัสทองคำ

ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า สิ่งนี้ย่อมสามารถมองออกว่า มังกรจรัสทองคำตัวนี้คืออ๋องของสวนดึกดำบรรพ์ แม้ว่าจะอยู่ต่อหน้าสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์มากมายถึงเพียงนี้ มันยังคงมีฐานะเป็นจักรพรรดิ

ต่อให้มังกรจรัสทองคำตัวนี้ไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด หรือเป็นระดับอ๋องเพียงหนึ่งเดียวของสวนดึกดำบรรพ์ เช่นนั้นแล้ว มันยังคงเป็นหนึ่งในระดับอ๋องที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของสวนดึกดำบรรพ์

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น…” นักศึกษาจำนวนมาต่างมีปฏิกิริยาหลังจากที่ถูกทำให้แตกตื่นกันแล้ว และมองไปยังทิศทางที่อยู่ของมังกรจรัสทองคำ

ในเวลานี้ มังกรจรัสทองคำยืนอยู่ตรงหน้าราชันแท้จริงจินผู่ มันแผ่กลิ่นอายมังกรที่ยิ่งใหญ่ไพศาลปราศจากผู้เทียบเทียมออกมา ขณะที่มันลืมตาทั้งสอง แม้ไม่โกรธแต่มากด้วยอำนาจ หมางเมินใต้หล้า

มังกรจรัสทองคำลักษณะเช่นนี้ เวลาที่ปีกทั้งสองของมันกางออก รัศมีแสงสาดส่องทั่วหล้าอย่างเสมอภาค โปรดเหล่าเวไนยสัตว์ให้หลุดพ้นจากห้วงแห่งความทุกข์โดยทั่วกัน มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง มีพลังอำนาจที่สูงสุด

ภายใต้มังกรจรัสทองคำลักษณะเช่นนี้ อย่าว่าแต่ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั่วไปเลย ไม่ต้องพูดถึงระดับเทพแท้จริงทั่วไป ต่อให้เป็นราชันแท้จริง เมื่อยืนอยู่ด้านหน้าของมังกรจรัสทองคำก็จะรับรู้ได้ถึงพลังสยบที่ทรงพลังยิ่งนั่น พลังลักษณะเช่นนี้ ราชันแท้จริงระดับล่างก็ไม่แน่ว่าจะรับได้

เสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง มังกรจรัสทองคำก้าวเท้าออกไปก้าวหนึ่ง เสมือนดั่งได้เหยียบเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินจนละเอียด ทั่วทั้งสวนดึกดำบรรพ์ล้วนสั่นไหวโคลงเคลง ทุกคนล้วนแล้วแต่รับรู้ถึงอำนาจที่สูงสุดของมังกร

แม้ว่าราชันแท้จริงจินผู่คือราชันแท้จริงแปดลัคนา แต่ว่า ในขณะนี้มังกรจรัสทองคำยังคงมีท่าทางที่ยืนอยู่สูงเด่น โดยไม่ได้มีความเกรงกลัวในราชันแท้จริงจินผู่เลยแม้แต่น้อย

“แปลงของข้าก้าวหน้า ลอกเลียนข้าอับจน…” ในเวลานี้ ราชันแท้จริงจินผู่ได้หยิบเอาคัมภีร์เซียนขึ้นมา และท่องบ่นคาถา สัจธรรมสอดประสาน

“นี่มันตัวอะไร…” ผู้คนจำนวนมากที่รุดมาถึง ขณะมองเห็นภาพนี้จากระยะห่างไกลนั้น ต่างถูกทำให้หวั่นไหวจากภาพที่เห็นตรงหน้า

เนื่องจากในเวลานี้ ที่ถืออยู่ในมือของราชันแท้จริงจินผู่คือคัมภีร์เซียน จากการเทศนาธรรมของเขานั้น ปรากฏบทคัมภีร์จำนวนนับไม่ถ้วนที่ลอยขึ้นมา ทุกๆ บทคัมภีร์ล้วนแล้วแต่เปี่ยมไปด้วยพลังของปฐมบรรพบุรุษ พริบตาเดียวนั่นเอง พลังของปฐมบรรพบุรุษก็ได้ตลบอบอวลไปทั่วฟ้าดิน เสมือนดั่งมหาสมุทรอย่างนั้น

ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ พลังของปฐมบรรพบุรุษที่ปรากฏขึ้นมาจากคัมภีร์เซียนเล่มนี้ช่างเหมือนต้นกำเนิดอะไรอย่างนั้น ช่างมีความสดใหม่อะไรอย่างนั้น คล้ายเป็นสุราเลิศรสที่เปิดฝาไหขึ้นมาใหม่อย่างนั้น ความหอมของสุราที่ปราศจากการเติมแต่ง และไม่ได้มีการขาดหายไปแม้แต่น้อย

สิ่งนี้เป็นการบ่งบอกว่า คัมภีร์เซียนนี้ไม่เพียงแค่ถูกเขียนขึ้นมาด้วยลายมือของปฐมบรรพบุรุษเองเท่านั้น และมันยังเป็นคัมภีร์เซียนที่มีการเขียนขึ้นมาเร็วๆ นี้เอง ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ พลังของคัมภีร์เซียนนี้ยังถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรก ดังนั้น อำนาจปฐมบรรพบุรุษจึงมีความแข็งแกร่งแน่นหนาไม่มีการตกหล่นไปแม้แต่น้อย

พริบตาเดียวนั่นเอง ทั่วฟ้าดินล้วนเปี่ยมไปด้วยอำนาจปฐมบรรพบุรุษ และในพริบตาเดียวนั่นเองเหมือนมีปฐมบรรพบุรุษแต่ละคนที่สูงส่งมายืนอยู่ด้านหน้าของทุกคน ทำให้ผู้คนถึงกับต้องคุกเข่าลงและแสดงความเคารพสูงสุด

“คัมภีร์เซียนที่เขียนขึ้นโดยปราชญ์อัจฉริยะหลันซู” ราชันแท้จริงงูหลามทองรู้ว่าสิ่งนี้คือสิ่งใดแล้ว เมื่อได้เห็นภาพนี้

“เห็นทีลำพังอาศัยกำลังความสามารถของราชันแท้จริงจินผู่นั้น ไม่สามารถสยบมังกรจรัสทองคำตัวนี้ได้ เขายังคงต้องอาศัยฝีมือจากปราชญ์อัจฉริยะหลันซูผู้เป็นอาจารย์ของเขา” ราชันแท้จริงเคอะสือก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดราชันแท้จริงจินผู่จึงต้องทำเช่นนี้

“อานุภาพปฐมบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งมากทีเดียวนะเนี่ย” นักศึกษาจำนวนมากที่รุดมาดูชมต่างถูกอานุภาพปฐมบรรพบรรพบุรุษเช่นนี้สยบเอาไว้ ภายใต้อานุภาพที่ยิ่งใหญ่ไพศาลดั่งทะเลเช่นนี้ มีนักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถทรงตัวได้อย่างมั่นคง ต่างทยอยกันคุกเข้าก้มกราบกับพื้น ทำการกราบไหว้ด้วยพิธีการสุงสุด

“แข็งแกร่งมากเหลือเกิน ไม่เสียทีที่เป็นปราชญ์อัจฉริยะหลันซู หนึ่งเดียวในยุคปัจจุบันที่สามารถเทียบเคียงกับพระอาจารย์จินกวงได้” แม้ว่าพวกของราชันแท้จริงงูหลามทองสามคนจะมีกำลังที่กล้าแข็งมากแล้ว และสองคนในพวกเขายังเป็นระดับราชันแท้จริง แต่ว่า ภายใต้อานุภาพของปฐมบรรพบุรุษยังคงทำให้พวกเขารู้สึกว่ายากจะรองรับกับแรงกดดันเช่นนี้ได้

ลองนึกภาพดู นี่ยังเป็นเพียงแค่วิธีการของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเท่านั้นเอง ถ้าหากปราชญ์อัจฉริยะหลันซูมา และลงมือด้วยตนเองล่ะก็ มันช่างเป็นภาพที่น่ากลัวอะไรอย่างนั้น

ตึง ตึง ตึงเสียงโลหะดังขึ้นเป็นระลอก ในขณะที่ทุกคนต่างถูกอานุภาพปฐมบรรพบุรุษปราชญ์อัจฉริยะหลันซูสยบนั้น มองเห็นบทคัมภีร์ทั้งหมดที่ปรากฎขึ้นมาพลันไปเกาะอยู่บนหลังของมังกรจรัสทองคำ ในพริบตาเดียวนั่นเองบทคัมภีร์ทั้งหมดถึงกับจับตัวและหลอมสร้างจนกลายเป็นอานมังกรและถูกทำให้อยู่บนหลังของมังกรจรัสทองคำเป็นการถาวร

เมื่อราชันแท้จริงจินผู่เห็นว่าอานมังกรได้สำเร็จลุล่วงแล้ว จึงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่งและปิดคัมภีร์เซียนลง มองดูมังกรจรัสทองคำที่อยู่ตรงหน้า ถึงกับเผยรอยยิ้มขึ้นมาแม้ว่าขณะนี้เขาจะอยู่ในฐานะราชันแท้จริงแปดลัคนาแล้ว

ในขณะนี้ ราชันแท้จริงจินผู่ได้เอื้อมมือไปลูบไล้หัวของมังกรจรัสทองคำ และมังกรจรัสทองคำแค่หลับตาลงช้าๆ ปล่อยให้ราชันแท้จริงจินผู่ได้ลูบไล้ไป

“สยบได้แล้ว ถูกราชันแท้จริงจินผู่สยบได้แล้ว!” ทุกคนต่างหวั่นไหวกับภาพที่ได้เห็น รวมทั้งพวกของราชันแท้จริงงูหลามทองสามคน

“มังกรจรัสทองคำตัวหนึ่งนะเนี่ย” พวกเทพแท้จริงเป่าหยวนต่างรู้สึกหวั่นไหวในใจ เมื่อได้เห็นภาพนี้

ในเวลานี้ ราชันแท้จริงจินผู่ได้กระโดดขึ้นไปบนหลังมังกรจรัสทองคำ และนั่งบนอานมังกร ร้องเสียงทุ้มต่ำขึ้นมาว่า “ไป…”

ฟ่าววว…มังกรจรัสทองคำกระพือปีกบินสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า

กรรร…มังกรจรัสทองคำส่งเสียงคำรามขณะบินอยู่เหนือท้องฟ้า ตามติดด้วยเสียงคำรามเสียงยาวจากสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์จำนวนมากในสวนดึกดำบรรพ์ ในเวลานี้ เสียงสัตว์ที่ร้องคำรามดังก้องไปทั่วฟ้าดิน!

…………………………………………..