Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2894 สู้สามราชันโดยลำพัง

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2894 สู้สามราชันโดยลำพัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2894 สู้สามราชันโดยลำพัง

“เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็สู้ให้ถึงที่สุด ไม่ตายไม่เลิก!” ในเวลานี้ ราชันแท้จริงงูหลามทองสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง และแสดงท่าทีขึ้นมา

เวลานี้ราชันแท้จริงจินผู่ เทพแท้จริงเป่าหยวน ราชันแท้จริงเคอะสือล้วนแล้วแต่ตัดสินใจที่จะสู้ให้ถึงที่สุด แล้วเขาหนีไปเพียงคนเดียว จะด้วยเหตุด้วยผลอย่างไรก็อธิบายไม่ได้

จะอย่างไรเสียในฐานะที่เป็นถึงราชันแท้จริง แม้ราชันแท้จริงงูหลามทองจะไม่นับเป็นราชันแท้จริงที่สุดยอดที่สุด แต่ก็ดำรงอยู่ในฐานะมีความล้ำเลิศหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร ให้เขาต้องหลบหนีอย่างคนหมดที่พึ่งไร้ญาติขาดมิตร นับว่าทำให้เขายากจะยอมรับได้อยู่บ้างเหมือนกัน

ในเมื่อพวกของราชันแท้จริงจินผู่ต่างยินดีสู้ให้ถึงที่สุด เขาก็ตัดสินใจเด็ดขาด ไม่ตายไม่เลิก

“พวกเจ้าปรึกษาหารือว่าอย่างไรล่ะ?” เทียบกับท่าทีของพวกราชันแท้จริงจินผู่ที่ดูหนักแน่นจริงจังแล้ว หลี่ชิเย่ดูจะมีอารมณ์ที่สงบนิ่งและผ่อนคลาย

พวกของราชันแท้จริงจินผู่มองตากันและกันทีหนึ่ง สุดท้ายพยักหน้าหนักแน่น และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “พวกเราไม่ตายไม่เลิก!”

“ดี มีความกล้าหาญ ออกจะเหนือความคาดคิดของข้า” หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “ข้ายังเข้าใจว่าพวกเจ้าจะหนีไปนะเนี่ย ในเมื่อพวกเจ้าคิดจะสู้จนกว่าจะตาย ข้าก็จะสงเคราะห์พวกเจ้าก็แล้วกัน”

ในเวลานี้เอง พวกของราชันแท้จริงจินผู่ท่าทีหนักแน่นจริงจัง ไม่รู้สึกแม้แต่น้อยว่าคำพูดของหลี่ชิเย่โอ้อวด และไม่รู้สึกว่าคำพูดของหลี่ชิเย่นั้นอวดดี

“ต้องให้ถึงตายค่อยเลิกอย่างนั้นรึ?” ในใจของนักศึกษาจำนวนไม่น้อยล้วนแล้วแต่หวั่นไหวเมื่อเห็นท่าทีของพวกราชันแท้จริงจินผู่หนักแน่นจริงจัง รู้ว่าการต่อสู้ที่ดุเดือดกำลังจะเริ่มแล้ว

“เกรงว่าพวกราชันแท้จริงจินผู่สี่คนร่วมมือกันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้” ในเวลานี้ มีนักศึกษาผู้หนึ่งกล่าวด้วยท่าทางหนักแน่นจริงจัง

เกรงว่าก่อนหน้านั้นผู้คนจำนวนมากต่างคิดว่าพวกของราชันแท้จริงจินผู่สี่คนร่วมมือกัน หลี่ชิเย่จะสู้ไม่ได้ แต่ว่า เวลานี้สถานการณ์ตรงกันข้ามพอดี ถ้าหากหลี่ชิเย่ลงมือ เกรงว่าพวกราชันแท้จริงจินผู่สี่คนร่วมมือกันก็สู้ไม่ได้

การแสดงออกของหลี่ชิเย่ที่ลงมือเมื่อครู่น่ากลัวเหลือเกิน ไม่จำเป็นต้องอาศัยแม้กระบวนท่าเดียวก็สามารถสังหารราชันแท้จริงจินผู่ได้ ศักยภาพเช่นนี้น่ากลัวเหลือเกิน

“ข้าไม่เจียมตัว มีเพียงหนทางที่อาจารย์ทิ้งเอาไว้ให้เท่านั้น เกรงทำให้อาจารย์เสื่อมเสีย แต่ มาวันนี้ข้ายังคงเสี่ยงชีวิตเดิมพันสักครั้ง ขอคำชี้แนะสุดยอดเคล็ดวิชาของพี่ท่าน” เวลานี้ราชันแท้จริงจินผู่ท่าทางหนักแน่นจริงจัง

“อ้อปราชญ์อัจฉริยะหลันซู อาจารย์ของเจ้ารึ?” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่งและกล่าวเอ้อระเหยว่า “ก็ดี เร็วๆ นี้ใครๆ ก็บอกว่าปราชญ์อัจฉริยะหลันซู อาจารย์ของเจ้า ยอดเยี่ยมใต้หล้ายากจะหาใดเทียม ข้ากลับจะต้องการดูว่าอาจารย์ของเจ้าจะมีฝีมือสักเท่าไรเชียว”

คำพูดที่พูดออกมาด้วยอารมณ์สงบนิ่งและผ่อนคลายของหลี่ชิเย่ ทำให้ต้องหายใจไม่ออก

หากเป็นในอดีต ราชันแท้จริงจินผู่ต้องรู้สึกไม่ได้รับความยุติธรรมแน่เมื่อได้ฟังคำหลี่ชิเย่วิจารณ์อาจารย์ด้วยท่าทีที่โอหังและกำแหงเช่นนี้ เขาจะต้องทวงความยุติธรรมคืนให้กับอาจารย์ของเขาแน่นอน เวลานี้ราชันแท้จริงจินผู่ก็มีท่าทีที่หนักแน่นจริงจังขึ้นมาแล้ว เว้นแต่อาจารย์ของเขามาด้วยตนเอง มิฉะนั้นล่ะก็ เขาก็คงไม่กล้าพูดจาโอ้อวด

‘ปราชญ์อัจฉริยะหลันซู’ นักศึกษาจำนวนไม่น้อยถึงกับมีจิตใจฮึกเหิมเมื่อได้ฟังคำของราชันแท้จริงจินผู่ มีนักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่ตั้งตาคอย และมีนักศึกษาพูดเสียงแผ่วเบาว่า “ฝีมือของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูรึ?” ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูคือหนึ่งในสองปฐมบรรพบุรุษยุคปัจจุบัน มีคนน้อยมากที่มีสิทธิ์ได้เห็นปราชญ์อัจฉริยะหลันซู หากจะกล่าวว่ามาวันนี้สามารถพบเห็นกลอุบายที่ฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูด้วยตาตนเอง ก็ไม่เสียทีกับคราวนี้แล้ว

“น่าละอาย เป็นข้าที่ไร้ความสามารถ ไม่สามารถเรียนรู้วิชาของอาจารย์ได้หนึ่งหรือสองส่วนในสิบส่วน ทำให้อาจารย์ต้องมัวหมอง” ราชันแท้จริงจินผู่รู้สึกละอาย กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า ”การต่อสู้ในวันนี้ ข้าก็ไม่กล้าเป็นตัวแทนของอาจารย์ เพียงแต่ข้าเป็นคนที่มีจิตใจหยิ่งผยอง ข้าจะสู้จนถึงที่สุดกับพี่ท่านในฐานะเป็นตัวแทนของตัวเอง กลอุบายของอาจารย์ที่เอามาใช้เกรงว่าก็คงสำแดงกำลังความสามารถที่แท้จริงของอาจารย์ได้ไม่ถึงหนึ่งหรือสองส่วนในสิบส่วน”

เมื่อราชันแท้จริงจินผู่ต้องเผชิญหน้ากับหลี่ชิเย่ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวถึงเพียงนี้ ภายในในใจของเขาก็ไม่มีความมั่นใจ แม้จะมีกลอุบายของอาจารย์ของเขาก็ตาม ดังนั้น จึงพูดให้ชัดเจนไว้ก่อน

ศึกครั้งนี้ของเขาแค่แทนตัวเขาเองเท่านั้น ไม่ได้แทนระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของพวกเขา ยิ่งไม่ได้เป็นตัวแทนให้อาจารย์ของเขา จะอย่างไรเสีย เกิดเขาต้องพ่ายแพ้ให้กับฝีมือของหลี่ชิเย่ จะเสื่อมเสียถึงชื่อเสียงของอาจารย์ของเขา และละอายต่ออาจารย์ของเขา

“ก็ดี” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ และกล่าวว่า “วางใจเถอะ ต่อให้เจ้าใช้กลอุบายของอาจารย์เจ้า ข้าก็จะไม่หาเรื่องอาจารย์ของเจ้า”

นักศึกษาทั้งหมดถึงกับมองหน้าซึ่งกันและกันเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ยังไม่ทันได้ลงมือ ฟังจากปากของหลี่ชิเย่เหมือนว่าได้เอาชนะกลอุบายของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูไปแล้วอย่างนั้น เข้าพูดได้เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเช่นนี้ ดูเหมือนจะไม่เห็นปราชญ์อัจฉริยะหลันซูอยู่ในสายตา

“วาจานับว่าสามหาวโดยแท้ อวดดีโดยแท้” แม้ว่าทุกคนต่างรู้ว่ากำลังความสามารถของหลี่ชิเย่น่าหวาดผวาอย่างยิ่ง แต่ว่า ด้วยท่าทีที่เอ้อระเหยเช่นนี้ยังคงไม่เห็นปราชญ์อัจฉริยะหลันซูอยู่ในสายตา ดูเหมือนสิ่งนี้ก็ได้ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขานั้นนับว่าอวดดีโดยแท้จริง

จะอย่างไรเสีย ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูคือระดับปฐมบรรพบุรุษคนหนึ่ง ความแข็งแกร่งด้านกำลังความสามารถของเขานั้น ห่างชั้นมาก หาใช่ผู้เยาว์อย่างพวกราชันแท้จริงจินผู่จะสามารถเทียบเคียงได้อยู่แล้ว

“เช่นนั้นก็ขอเชิญพี่ท่านได้สอนสั่ง” ราชันแท้จริงจินผู่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง กล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “พี่ท่านทั้งสาม พวกเราไม่ตายไม่เลิก!”

“ตกลง ไม่ตายไม่เลิก” ราชันแท้จริงงูหลามทองก็ทุ่มสุดตัว ร้องกล่าวเสียงดัง

ราชันแท้จริงเคอะสือกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “คนเราสุดท้ายก็หนีความตายไม่พ้น ในฐานะที่เป็นราชันแท้จริง การได้ตายในสมรภูมิรบนับว่าตายได้มีความหมายแล้ว”

“ข้าอาศัยชีวิตทดแทนคุณ!” เทพแท้จริงเป่าหยวนก็คำรามเสียงยาวทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ทั้งสามารถรวมรบกับราชันแท้จริงสามท่าน สู้อย่างทรหดมุ่งสู่ความตาย ถือว่าเป็นเกียรติชั่วชีวิตสำหรับข้า หวังเหว่ยหยวนแล้ว!”

ในขณะนี้ พวกราชันแท้จริงจินผู่สี่คนต่างมีจิตใจที่ทระนง อานุภาพราชันแท้จริงตลบอบอวลไปทั่วฟ้าดิน ด้วยท่าที

“นี่แหละลูกผู้ชาย…” มีผู้ที่รู้สึกชื่นชมอย่างยิ่ง เมื่อเห็นพวกของราชันแท้จริงจินผู่ที่มีจิตใจทระนง

ก่อนหน้านั้น พวกของราชันแท้จริงเคอะสือสามคนเสมือนดั่งใบไม้ร่วงที่ถูกลมฤดุใบไม้ร่วงกวาดลงมาอย่างนั้น และราชันแท้จริงจินผู่ก็ถูกเอาชนะไปได้อีกในพริบตาเดียว ทำให้พวกเขาไม่เหลือไว้ซึ่งชื่อเสียงของราชันแท้จริง ผู้อื่นแทบจะลืมไปแล้วว่าพวกเขาคือราชันแท้จริง

แต่ว่า ในขณะนี้พวกเขาสาบานว่าจะต่อสู้อย่างดุเดือดจนถึงที่สุด แม้ศัตรูจะกล้าแข็งกว่านี้ยังคงไม่ยอมถอยแม้เพียงก้าวเดียว ในเวลานี้ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกเคารพเลื่อมใสขึ้นมาทันที โดยเฉพาะในเวลานี้ พวกเขายังคงมีอานุภาพราชันที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร ลักษณะที่กระเซอะกระเซิงเมื่อครู่ไม่ได้หลงเหลือให้เห็นอีกแล้ว ในเวลานี้ พวกเขายืนอยู่ตรงหน้าของทุกคน ยืนอยู่ตรงหน้าศัตรู พวกเขายังคงเป็นราชันแท้จริง!

แม้ว่าการศึกครั้งนี้จะชี้เป็นชี้ตาย ในเวลานี้พวกของราชันแท้จริงจินผู่สี่คนก็ไม่ได้หันหลังวิ่งหนี ไม่ได้หวั่นเกรง และไม่ได้ร้องขอชีวิตจากศตรู พวกเขาต้องการอาศัยความเป็นความตายของตนมาปกป้องเกียรติของราชันแท้จริง ข้อนี้นับว่าเป็นที่เคารพเลื่อมใสของผู้คนโดยแท้จริง

ปัง…เสียงดังสนั่นหวั่นไหวดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในเวลานี้มังกรจรัสทองคำได้ยืนอยู่ด้านหลังของราชันแท้จริงจินผู่ ครั้นปีกแสงสว่างของมันกางออกไปนั้น เสมือนดั่งแสงแห่งเกียรติยศสูงสุดที่สาดส่องราชันแท้จริงจินผู่อย่างนั้น

โฮ่ววว…นาทีนี้ มังกรจรัสทองคำได้ส่งเสียงคำรามที่ดังก้องฟ้าดินขึ้นมา บรรดาสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างยืนอยู่ด้านหลังของมังกรจรัสทองคำเป็นระเบียบเรียบร้อย ตั้งขบวนเป็นรูปพัด กลายเป็นรูปแบบทัพของสัตว์ยักษ์

ฮือออ…เวลานี้ สัตว์ขนาดยักษ์ต่างส่งเสียงร้องขึ้นพร้อมๆ กันไม่หยุด เสียงดังก้องฟ้าดิน กลิ่นอายสัตว์ที่มองเห็นเป็นลูกๆ เหมือนคลื่นสัตว์จำนวนล้านล้านปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคนอย่างนั้น

ภายใต้กลิ่นอายสัตว์ที่น่ากลัวยิ่ง ทำให้นักศึกษาทั้งหมดต่างร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง โดยเฉพาะกลิ่นอายสัตว์ที่มาเป็นลูกๆ ดั่งคลื่นที่โหมสาดซัดอย่างนั้น ปกคลุมไปทั่วฟ้าดินในพริบตาเดียว

“ยังมีกลอุบายสุดท้ายเช่นนี้นะเนี่ย” ในเวลานี้ ทุกคนจึงนึกขึ้นมาได้ว่ามังกรจรัสทองคำสามารถควบคุมสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์ได้ทั้งหมด ถ้าหากว่าสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์ทั้งหมดตั้งเป็นขบวนรบ ก็คงมีอานุภาพไม่น้อย กำลังความสามารถเหนือกว่าพวกราชันแท้จริงจินผู่

เมื่อครู่ ขณะที่พวกของราชันแท้จริงจินผู่พ่ายแพ้การต่อสู้นั้น พวกเขาเกือบจะลืมไปแล้วว่ายังมีท่าไม้ตายสุดท้ายลักษณะเช่นนี้อยู่

เวลานี้ มองเห็นมังกรจรัสทองคำนำพาสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์ทั้งหมดตั้งเป็นรูปขบวน มองเห็นกลิ่นอายสัตว์ที่มีความดึกดำบรรพ์ยิ่งพลันปกคลุมทั่วฟ้าดิน ทำให้ภายในใจของนักศึกษาทั้งหมดจุดติดความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

“พวกของราชันแท้จริงจินผู่ร่วมมือกันสี่คน และยังมีขบวนสัตว์ยักษ์ บวกกับกลอุบายของปราชญ์อัจฉริยะหลันซู ไม่แน่นักยังสามารถเอาชนะคนโหดอันดับหนึ่งได้” มีนักศึกษาที่ถูกจุดติดความหวังขึ้นมา เอ่ยขึ้นช้าๆ

“มีความหวังจริง” ในเวลานี้ ทุกคนต่างจ้องมองดูภาพเหตุการณ์นี้ตรงหน้า ต่างอดที่จะกลั้นลมหายในเอาไว้ไม่ได้

แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้ มองเห็นราชันแท้จริงจินผู่กอดเตาสามขาวิเศษเอาไว้ใบหนึ่ง โดยที่เตาสามขาวิเศษใบนี้มีประกายดวงดาววูบวาบ บนนั้นได้แกะสลักดวงดาวเอาไว้นับไม่ถ้วน อัญมณีแต่ละเม็ดที่ถูกฝังเลี่ยมลงไป แลดูคล้ายเป็นดวงดาวแต่ละดวงอย่างนั้น

ขณะที่ราชันแท้จริงจินผู่กอดเตาสามขาวิเศษนี้นั้น เหมือนว่าเขาได้กอดท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวทั้งแผ่นฟ้าเอาไว้ เหมือนว่าเตาสามขาวิเศษดังกล่าวหลอมกลั่นมาจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแต่ละแผ่นฟ้าอย่างนั้น ขณะที่อัญมณีแต่ละเม็ดเป็นการหลอมกลั่นขึ้นมาจากดวงดาวแต่ละดวง

ปรากฏอานุภาพปฐมบรรพบุรุษที่ตลบอบอวล ขณะเตาสามขาวิเศษนี้อยู่ในมือ โดยเฉพาะขณะประกายดาววูบวาบนั้น อานุภาพปฐมบรรพบุรุษดูเหมือนจริงอย่างยิ่ง มีความเร่าร้อนอย่างยิ่ง เหมือนเปลวแสงแห่งอานุภาพปฐมบรรพบุรุษที่กำลังเต้นวูบวาบ และดันให้ท้องฟ้าแยกออก

ดังนั้น ขณะราชันแท้จริงจินผู่กอดเตาสามขาวิเศษแนบอกนั้น แลดูมีท่าทีหนักแน่นจริงจัง อานุภาพราชันตลบอบอวลไปทั่วตัว ให้ความรู้สึกท่าทีที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจล่วงเกิน

“อาวุธปฐมบรรพบุรุษ เป็นเตาสามขาวิเศษที่หลอมสร้างขึ้นด้วยมือของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเอง” มีนักศึกษาร้องเสียงดังขึ้นมา เมื่อมองเห็นเตาสามขาวิเศษที่ราชันแท้จริงจินผู่กอดไว้กับอกนั่น

แม้ว่าอานุภาพปฐมบรรพบุรุษที่แผ่ออกมาจากเตาสามขาวิเศษไม่ได้เจาะจงไปสยบผู้ใดเป็นพิเศษ แต่ว่า ได้ทำให้ทุกคนสั่นเทาทีหนึ่งขณะอานุภาพปฐมบรรพบุรุษตลบอบอวล ไม่ทราบว่าผู้คนจำนวนเท่าไรที่ก้มกราบกับพื้น คุกเข่ากราบอานุภาพปฐมบรรพบุรุษ

สมควรทราบว่า ในบรรดานักศึกษามีอยู่ไม่น้อยที่กำลังความสามารถอยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ แต่ว่า ภายใต้อานุภาพปฐมบรรพบุรุษก็มีความรู้สึกหายใจหอบไม่ทัน ลองนึกภาพดู หากปฐมบรรพบุรุษมาด้วยตนเอง จะมีสภาพเป็นเช่นใด

“ลงมือเถอะ” ท่าทีหลี่ชิเย่เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะเปชิญหน้ากับอานุภาพปฐมบรรพบุรุษ เพียงยิ้มๆ เท่านั้นเอง

ราชันแท้จริงจินผู่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง กล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นว่า “พี่ท่านทั้งสามช่วยข้าอีกแรง เปิดเตาสามขาวิเศษ!” ในเวลานี้ดูเหมือนลมปราณของราชันแท้จริงจินผู่ไม่ค่อยต่อเนื่อง

หากเป็นช่วงเวลาปรกติ เขาสามรถควบคุมเตาสามขาวิเศษได้ด้วยตนเอง แต่ว่า มาคราวนี้พ่ายแพ้ต่อหลี่ชิเย่ ถูกหลี่ชิเย่หอบเอาลมปราณทั้งหมดไป แม้ว่เขาได้ฟื้นคืนมาได้บาง ก็ไม่สามารถกลับไปอยู่ในสภาพสูงสุด ดังนั้น ในเวลานี้เขาจึงตองอาศัยการช่วยเหลือจากพวกของราชันแท้จริงเคอะสือมาช่วยเขาอีกแรง

“ตกลง…” พวกราชันแท้จริงเคอะสือสามคนร้องเสียงดังขึ้นพร้อมกัน ต่างยื่นมือไปกดอยู่ด้านหลังของราชันแท้จริงจินผู่

ตูม…ตูม…ตูม…เสียงตูมตามดังขึ้นเป็นระลอก นาทีนี้พวกของราชันแท้จริงเคอะสือทุ่มเทเต็มที่

ราชันแท้จริงงูหลามทองและราชันแท้จริงเคอะสือพวกเขาทุ่มเทเต็มที่

ราชันแท้จริงงูหลามทองและราชันแท้จริงเคอะสือนั้นกล่าวได้ว่าอานุภาพราชันไม่มีขาด ลมปราณดั่งทะเล ขณะที่เทพแท้จริงเป่าหยวนมีแสงวิเศษที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ประกายต้นกำเนิดสัจธรรมได้ปกคลุมทั่วทั้งตัวชองเขาในทันที

…………………………………………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *